31 สิงหาคม 2550 18:28 น.
มณีจันทร์
อันบทกลอน วอนจากใจ ในความคิด
ใช่เบือนบิด จิตใจ ให้หลอกหลอน
แค่อยากมา ว่าสีสัน ใช่บั่นทอน
ให้อ่านกลอน แล้วสุขใจ ไม่ทุกข์ตาม
ผ่านเข้าไป ในบ้านไหน ให้โศกเศร้า
มีเรื่องเร้า เคล้าน้ำตา มาล้นหลาม
จึงพึงมี เจตนา ว่าบทความ
ให้ติดตาม คลายเหงา เศร้าล้นทรวง
ทำเช่นนี้ นี่หรือ คือสิ่งผิด
ก็เลยติด อยู่ที่ใจ ใคร่แหนหวง
จึงน้อยใจ ขอจากไป ไม่เห็นดวง
ยอดพุ่มพวง ดวงฤดี มณีจันทร์
คนเรา ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมอง ต่างพ่อแม่
ต่างที่ต่างทาง แต่มารวมกันในนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้ที่ปรึกษา
ได้คนปลอบใจ แล้วคุณต้องการอะไรจากในนี้
ความทุกข์ใจ ความโศรกเศร้า หรือว่าได้รอยยิ้มและมิตรภาพกลับไป
ความจริงใจที่เราใส่ไปในนี้แต่เราได้อะไรกลับมา..
ช่วยตอบที ถ้ามีใครที่รักเรา...
29 สิงหาคม 2550 19:36 น.
มณีจันทร์
ลมพัดพลิ้ว แผ่วเบา เข้าเย็นย่ำ
ฟ้ามืดคล้ำ ซ้ำปกคลุม คุ้มเวหา
ชีพจร ยังร่วงหล่น ด้นบาทา
ให้มุ่งหน้า พากายา ครารีบเดิน
ครั้นมาถึง ร้านเหล้า เจ้าเพื่อนยาก
น้ำลายพราก มือไม้สั่น พลันไม่เขิน
ล้วงกระเป๋า ตรวจสตางค์ ยังไม่เกิน
แล้วจึงเดิน หน้าเริด เชิดเข้าไป
โต๊ะตัวเดิม เพลงเบาเบา ดังเข้าหู
เพื่อนนั่งอยู่ หน้าเดิมเดิม ไม่ไปไหน
อาราเล่ ยาพารา หน้าอิ่มใจ
สั่งเหล้าไว้ ให้น้องจันทร์ พลันคอยรอ
ด้วยพบกัน อยากสังสรรค์ มันสักนิด
จึงสะกิด เรียกมา ว่าวอนขอ
ร่วมฟังเพลง บรรเลงร้อย คล้อยลูกคอ
แล้วชนแก้ว กันหน่อยหนอ พอเมามัน
ว่างานนี้ พี่ไม่ไล่ ไม่ไปแน่
ลุ้นก็แต่ ใครจะเมา จนเช้านั่น
ด้วยร้านนี้ ส่วนลดฟรี เพราะซี๊กัน
ขอเพื่อนฉัน มันหยดติ๋ง เอ๊าดริ้งค์....โชน!!!
มาเมากันให้หัวทิ่มเลย
24 สิงหาคม 2550 16:58 น.
มณีจันทร์
ในวันนั้น เราสอง ต้องลาจาก
น้ำตาพราก พร่างลงมา หลั่งเป็นสาย
น้ำฝนพร่ำ หลังริน เปียกปอนกาย
คำง่ายๆ ที่เธอพูด หยุดคบกัน
ทุกๆวัน ผ่านไป ด้วยใจเศร้า
กับเรื่องราว ที่ปวดร้าว เมื่อคราวนั้น
ไม่ว่าผ่าน มานาน นับเดือนวัน
แต่ใจฉัน ไม่ลืมมัน วันจากลา
ผ่านมานาน ใจเจ็บ กับวันจาก
แม้นานมาก หากเธอ ได้มาหา
จะได้รู้ ว่าภาพ ยังติดตา
การจากลา ในวันนั้น ยังไม่ลืม
ความอ่อนไหว ในใจ ช่างเขลาขลาด
บรรยากาศ พาไป ใจสุดฝืน
ทุกวันนี้ จำต้อง ทนกล่ำกลืน
ภาพขมขื่น มันติดอยู่ ไม่ลบเลือน
รอฟังเพลงก่อนนะคะ
17 สิงหาคม 2550 23:03 น.
มณีจันทร์
สามนงคราญ พานพา มาหาหมอ
ที่รูปหล่อ เลิศล้ำ พร่ำโหยหา
อาร่าเล่ มณีจันทร์ และพารา
อยากปรึกษา หาพี่หมอ ขอช่วยดู
ส่วนงามยิ่ง หญิงรพี หนีเที่ยว
เจ๊บินเดี่ยว ข้ามสุดเขต ประเทศหรู
ควงหนุ่มหนุ่ม ตาน้ำข้าว ขาวชมพู
ดู๊ซิดู ทำได้ไง ไม่ชวนกัน
มณีจันทร์ โอดครวญ ถึงความสวย
คุณหมอช่วย ตัดผ่า หน้าของฉัน
ให้ขี้เหร่ ซักนิดหน่อย ก็แล้วกัน
เพราะความสวย หนูนั้น มันเกินครอง
ด้วยหนุ่ม เห็นว่างาม ย่ามเกินคิด
ว่าหนูเป็น หญิงจริต ประเภทสอง
เพราะหน้าตา หนูเลิศล้ำ ย่ำไตร่ตรอง
ชายจึงได้ เพียงมอง แล้วจากไกล
รายที่สอง รองลงมา ยาแก้ปวด
ดื่มเหล้าขวด เป็นอาจิณ ถิ่นอาศัย
สีเหลืองทอง ผ่องอำพัน นั่นปะไร
ให้หลงไหล ในรสชาด มาดละมุน
ดื่มทุกวัน จากจันทร์ ยันอาทิตย์
เลยดื่มติด ทำงาน หัวไม่หมุน
ดื่มยังไง ก็ไม่เมา เอาแล้วคุณ
เลยอยากลุ้น ว่าความเมา เป็นยังไง
รายที่สาม ตามมา อาราเล่
ชอบสวนเส เฮฮา และปราศรัย
แต่เดี๋ยวนี้ เข้าบ้าน ของใครใคร
มีแต่เศร้า เสียใจ ได้น้ำตา
ความหดหู่ อยู่ในใจ ให้ห่อเหี่ยว
อยากจะเปรี้ยว สุดใจ จะไขว่คว้า
ขอรอยยิ้ม จากใจ ใช่น้ำตา
ผ้าเช็ดหน้า ไม่เอา มันเศร้าไป
นั่งรอมา นานแล้ว ไม่แคล้วเห็น
คนที่เป็น ที่เฝ้ารอ หนออยู่ไหน
ใครเป็นหมอ ช่วยขอ มาดูใจ
สามสาวไซร้ ใคร่รู้เห็น เป็นพระคุณ
16 สิงหาคม 2550 19:19 น.
มณีจันทร์
เริ่มจากวัน ที่พบ สบตากัน
ทำให้ฉัน ฝันละเมอ คร่ำครวญหา
เป็นเพียงเพราะ ได้พบ สบดวงตา
พาอุรา สั่นไหว ไปทั้งดวง
เธอจะรู้ หรือไม่ ว่าใจฉัน
อยากจะได้ เธอนั้น เป็นคู่ควง
อยากจะเก็บ เธอไว้ แนบในทรวง
ทั้งแสนหวง แสนรัก ปักอุรา
ไม่เห็นกาย ก็ขอให้ ได้ยินเสียง
ฝากสำเนียง ยามนี้ ที่ควรหา
อยากได้ยิน คำรัก หากฝากมา
ทั้งอุรา คงสุขล้ำ ยามได้ยิน
ถ้าอยากรู้ ว่าคิดถึง เธอแค่ไหน
เธอจงได้ นับสายฝน ที่หลั่งริน
ส่งคำรัก ฝากลมไป เป็นอาจินต์
หากได้ยิน โปรดจงรับ พิจารณา
อย่าให้จับได้นะจะมัดไว้แบบนี้เลย