29 ตุลาคม 2550 12:35 น.
ภู ภัทรชนน
เอก
เต้นรับกับโลกหล้าสรรพสิ่ง
มิหยุดนิ่งในสุขโศกคละโลกหมุน
เกินจะนับรับภาวะสมดุล
ดีอบอุ่น ร้อนอบอ้าว ร้าวอกตน
ทวิ
ตรองห้องแรกแปลกห้องสองเต้นรองรับ
เรียนรู้ปรับหรือปรกติผลิเหตุผล
ทุกท่อธารประสานทางอย่างแยบยล
เต้นไปจนจักเจ็บแก่แปรหินปูน
ติ
สูดเอาทรัพย์สินโลกวิโยคยุบ
ตุ๊บ ตุบ ตุ๊บ ตึก ตัก ฤาจักสูญ
ท่อเถื่อนเปื้อนท่อธารผ่านเกื้อกูล
เพิ่มพอกพูนสารพัดกระหวัดเวียน
จตุ
เต้นรับรู้โลกหล้าสัจยุค
หนักเบาเอาสุขทุกข์ ย่ำยุคเปลี่ยน
ชีพจรย้อนวง กงเกวียนกำเกวียน
โลกบทเรียนหลากกระแส แลร้าย-ดี
29 ตุลาคม 2550 12:06 น.
ภู ภัทรชนน
ลมสิกินไฟ ต้นไม้สิกินน้ำ
ความชั่วกินยุติธรรมอิ่มหนำหรือ
อาหารโลกทั้งสิ้นกินน้ำมือ
มนุษย์ถือช้อนส้อมพร้อมจะกิน
ดอกหญ้ากินแสงตะวันอันแย้มยิ้ม
วัวควายเคี้ยวหญ้าอิ่มริมรั้วถิ่น
รากดินเสพสุขแสนใต้แผ่นดิน
ดอกไม้ได้โชยกลิ่นทั้งดินแดน
ลมปากกลืนกลิ่นปากผู้มากพูด
อารมณ์โลกพิสูจน์ขูดถึงแก่น
ทัพพีไม่รู้รสบทแบบแปลน
เม็ดเหงื่อแสนล้านเม็ดเผด็จงาน
เลือดเนื้อในชีวิตคิดตระหนัก
โลกที่รักไยรุนแรงแย่งต่อต้าน
ลมหายใจในอากาศชาติใดปาน
โลกหมุนผ่านโลกย่อมเห็นความเป็นไป
น้ำดับไฟสัตว์น้อยใหญ่ก็เริงร่า
ดินดอกหญ้ากลับงอกงามความอาศัย
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์กี่ทิศไกล
ขออภัย ดาวดวงอื่น อย่าตื่นชน
26 ตุลาคม 2550 08:46 น.
ภู ภัทรชนน
(อินทรวิเชียรฉันท์)
จับใจก็ใจแจ่ม ภวะแจมจะแจ่มจำ
จ่อจ้องคะนองนำ ขณะนึกขนาบนอง
เนื้อในขนานแท้ พละแผ่พยับผอง
ภาพพจน์พยศพอง พิระเพิ่มเผดิมแดน
ใจโลกแฉล้มฤทธิ์ เสนาะคิดสนุกแสน
คลี่ม่านผลิเมืองแมน มนะมุ่งจรุงรมย์
รูปลักษณ์ชโลมรัด ประดิพัทธ์สวัสดิ์สม
เริงโลกโฉลกชม ชินะกล้าฉลาดแปลน
เติมเต็มตระการกิจ นยะนิดคะนึงแสน
เพิ่มพูนจรูญแดน ชิวะเด่นประเด็นดัง
รู้โลกโศลกร่าย ฉลุลายประกายขลัง
แข่งคิดเขรอะชิดชัง ชยะช่วงจะร่วงลง
กีดกันกะรูปแบบ จรแคบคะมำปลง
ยิ้มเย้ยเฉลยงง คณะงาบคระคราบโทรม
ใจแจ้งวิจักขณ์จบ ผิวะภพกระพือโหม
รูปลักษณ์ชโลมโลม ปริรอบประกอบเย็น
อินทรีย์ฉะนี้หนอ จิตะจ่อเจอะทุกข์เข็ญ
เล่ห์โลกคระลำเค็ญ ขณะครอบขนาบความ
ชั่วร้ายมิได้สร้าง ปรม้างลุโลกสาม
แค่คิด ก็เกียรติกาม กรกรองกวีวาร
หูช้าง บ อ้างเชื่อ บทเบื่อก็หักหาญ
เชิญโลกพิสูจน์นาน ภวะนั่นและวันคืน
แท้แม่ชรามาก ทวิหลาก ฤ ทนฝืน
เพลงแม่เสมือนฟืน ระอุอก อุทกแทน
25 ตุลาคม 2550 17:45 น.
ภู ภัทรชนน
สัมผัสดินแน่นด้าว ผดุงดิน
คลุกธาตุอารมณ์ริน หลอกล้อม
ขุดหลืบซอกทรัพย์สิน คลังเสพ สุขแฮ
พรึบพร่างพันธุ์โลกพร้อม เพรียกรู้แรงขยำ
สัมผัสน้ำยิ่งแล้ว ลึกลง
เหลวรอบจมเผ่าพงษ์ เพศหล้า
ถั่งโถมธาตุทานคง ควะท่วม อกนอ
กลืนสรรพสิ่งท้า ซัดท้นคาวคม
สัมผัสลมพัดร้อน เย็นฤา
ความอยากยังยึดถือ อยู่แท้
สูงพัดสู่ต่ำคือ คละโลก ลึกเนอ
บทบาทโบกบทแก้ กราดเกรี้ยวกาลสมัย
สัมผัสไฟฟ่องฟ้อน โลกลาม
ยลยิ่งยังเห็นงาม ง่าเงื้อ
แมกคิดครอบใจความ เผยอแบ่ง บานเอย
วาบหนึ่งนิดติดเชื้อ โชติร้ายนานเนา
สัมผัสเงาร่มไม้ เรือนรอง
เทียนธูปบุญคุณครอง โลกฟื้น
เรือนจิตอ่วมกลัดหนอง สงบนิ่ง
ธาตุสี่ส่ายครึกครื้น แคร่ชั้นเรียงรอ
25 ตุลาคม 2550 13:09 น.
ภู ภัทรชนน
อวตารลงมาจรุงจรัส
สารพัดพสุธาเกลือกกระแส
มโนนึกผนึกหนัวนั่นตัวแปร
พลิ้วผ่านแผ่แพร่ผลด้นทรวงใน
เทียบฐานตระการตาระยิบระยับ
โลกวาววับสลักเสลาเนื่องเนาสมัย
สร้อยร้อยรมณีย์ศิวาลัย
โยงเหย้าเย็นสายใยฉ่ำในทรวง
เห่เห่โหมประโคมคำระบำบท
ตลิ่งใจจรึงจรดบนบทสรวง
อวตารติดดินถิ่นทั้งปวง
จริตล่วงรู้รสบทบาทครอง
ว่ายแหวกลมหายใจในชีวิต
คละเคล้าโลกความคิดผิดถูกจ้อง
ลมหายใจกระจัดกระจายหลายมุมมอง
เรียงใจจองจ้องใจรับกับวันคืน
ก้อนเมฆมัฆวานตระหง่านฟ้า
พสุธามหาสมุทรสุดฝ่าฝืน
ระเหยไออันเป็นเมฆวิเวกจุดยืน
ขอบฟ้ากลืนน้ำลายสลายตัวตน