31 กรกฎาคม 2552 09:22 น.
ภูวเชวง
บทกวีรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี พ.ศ.2552 เกิดการเปลี่ยนแปลงแห่งการเป็นไป
ภูมิภาวะยุคสะท้านกาลสมัย
ผืนไผททุกข์ทับถมบ่มฝักฝ่าย
ความเจ็บปวดสะท้อนนามทั้งความตาย
ชนะ-พ่าย ใช่จุดหมายในแผ่นดิน
คือบทเรียนบทโลกโศกสะท้อน
คือบทย้อนยังลูกหลานทั่วฐานถิ่น
ลมหายใจเดียวกันอันชาชิน
ทั่วทั้งสิ้น กินอยู่ได้ก็คล้ายกัน
เจ็บจึงรู้จดจำ กรำวิกฤติ
แผ่นดินคือชีวิต สิทธิ์สร้างสรรค์
อุทกธารน้ำตา หลั่งมาครัน
ท่วมชีวัน หลากชีวิตจิตวิญญาณ
หยุดยุคหยาบ อาบพลัง ตั้งสติ
ร่วมดำริรักแผ่นดินทั้งถิ่นฐาน
หลอมรวมสีให้บริสุทธิ์หยุดก่อการ
หยุดต่อต้านกันและกันอันเป็นไป
ข้อเท็จจริง ต้องเป็นจริงยิ่งตรงตั้ง
แปรความชังเป็นความรักหลักสมัย
ปลดความทุกข์เอาความสุขปลุกจิตใจ
แหวกความชั่วที่ว่ายไหว ในพสุธา
เปลี่ยนอาวุธเป็นดอกไม้ให้โลกหอม
เสียงโห่ไล่เป็นเพลงกล่อมพร้อมรักษา
มือที่ตบเคารพสิทธิ์จิตวิญญาณ์
ตีนที่ตบไม่ตั้งท่า จะตบตี
เรือนกระจกฟ้าเปิดช่องต้องแสงใส
เรือนจิตใจกระจ่างสร้างศักดิ์ศรี
แดดแจร่ม ดินจรัส ปฐพี
ม่านเมฆคลี่ฟ้างามความสุขครอง
ต้นกล้ากาลสมัย ได้ยืนหยัด
เปรื่องประวัติวิวัฒน์ใหม่ให้ผุดผ่อง
แตกหน่อขึ้นต่อยอดตลอดครรลอง
ฟ้าสีทองส่องภาพลักษณ์หลักมั่นคง
ปฏิวัติ เผด็จการ มารอย่าเกิด
ร่วมกันเปิดประชาธิปไตยในประสงค์
ตอกหลักหมุด ยุติธรรม มุ่งดำรง
บริสุทธิ์สูงส่งจรรโลงทาง
ประชาชนคือผืนฟ้า ตาสับปะรด
ผู้กำหนด ความถูกต้อง ส่องสว่าง
ประชาชนเปรียบแกนโลก อยู่ตรงกลาง
รู้ความกว้าง ความกลม นิยมใด
แก้วหูแห่งแผ่นดิน ยินถึงฟ้า
ทุกหย่อมหญ้ายังชูยอดกอดแสงใส
แผ่นดินแห่งเสรีภาพตราบเป็นไป
เกิดสิ่งใหม่ ได้ประจักษ์ รักษ์แผ่นดิน
คือบทเรียน บทโลก โศกสะท้อน
คือบทย้อนจิตวิญญาณทั่วฐานถิ่น
เจ็บจึงรู้จดจำ อยู่ย้ำยิน
เราไม่สิ้นประวัติศาสตร์ชาติสังคม
ภูวดล ภูภัทรโยธิน ผู้ประพันธ์ (รางวัลชมเชย)
E-mail : pphoovadol@yahoo.com
28 กรกฎาคม 2552 13:15 น.
ภูวเชวง
เกลือผสมเข้าผสานการพอเหมาะ
สูตรจำเพาะซากชีวาปลาในไห
หมักเป็นปีเป็นตำรับกับเป็นไป
เปิดคราใดได้เป็นต่อนสะท้อนเวลา
รุ่นสู่รุ่นลูกหลานเหลนไม่เร้นลับ
ใจจึงจับจรรโลงใจให้รักษา
เป็นปลาร้า ปลาแดก ถึงแปลกตา
เป็นคุณค่าไหชีวิตสิทธิ์ทำกิน
ปรุงน้ำพริก น้ำแกง แต่งรสชาติ
ครัวไม่ขาดความเป็นของคู่ท้องถิ่น
ไปเยี่ยมกรุงมุ่งโลกกว้างยังบ่ายบิน
ไม่เคยสิ้นเสียงสับต่อนสะท้อนไกล
ต่างนิยม ส้มตำ ขยำครก
ต่างยอยกแซ่บอีหลีวิถีสมัย
ต่างชนชั้นก็เชื่อมชั้นขั้นบันได
ต่างจิตใจก็เชื่อมใจผูกไมตรี
มาผูกเกลอผูกเสี่ยวมาเกี่ยวก้อย
ลิ้มอร่อยร้อยเป็นแรงแห่งศักดิ์ศรี
ไหชีวิตปั้นชีวิตสิทธิ์เสรี
มาวันนี้จึ่งรู้จำคือกรรมกร
ทุกตรอกทุกซอกซอยทุกรอยครก
ต่างมาตกวิบากขยักขย้อน
หอมสิห่อนหายหอมตรอมใจจร
ทุกข์สะท้อนเส้นทางต่างอกตรม
ต่ำยิ่งต่ำติดดินกินอยู่ต่ำ
ตำยิ่งตำให้ทุกข์แตกแหวกทุกข์บ่ม
เม็ดเหงื่อตกใส่ครกตำจำคำคม
เถิดประชานิยม สมใจปอง
มือสากสาก ล้วงไหให้รสเลิศ
กลับบ้านเกิดนาก็แล้งน้ำแห้งหนอง
ตำน้ำตาใส่ส้มตำจำทุกข์ครอง
เคาะไหให้เสียงก้อง ร้องแผ่นดิน
ไหชีวิต หมื่นแสนคือแก่นสาร
จิตวิญญาณแห่งของแท้แก่ทรัพย์สิน
คำผู้แทนแค่มายาพายลยิน
เล่ห์ร้อยลิ้น ฤาจักสู้ กูทำเอง
ภูวดล ภูภัทรโยธิน ผู้ประพันธ์
E-mail : pphoovadol@yahoo.com
14 กรกฎาคม 2552 08:44 น.
ภูวเชวง
ฉัพพรรณรังสีแสนวิเศษ
ฉายฉานบรมเหตุทั้งเขตขัณฑ์
นพเคราะห์ครอบครองส่องแสงครัน
สร้างชีวันสู่ชีวิตผลิตชีวา
ศูนย์สังเคราะห์เพาะบ่มบรมสุข
อุ่นชื่นยืนหยัดยุคปลุกแสงกล้า
อาบใบเอมอิ่มใบพลิ้วไหวพา
เกิดสาขาก้านกิ่งโลกโบกลมบน
ปรุงดินแก่ แปรดินอ่อนป้อนสภาพ
ฉลุวาบวันเวลาประดาผล
ฉัตรแฉล้มแต้มเติมยอดกอดใบมน
สการกลตระการกิจสัมฤทธิ์ฌาณ
ล้านล้านปีถึงปัจจุบันอันแจ้งจบ
ล้านล้านภพเพชรรัตน์ชัดฉายฉาน
อุณหภูมิ มหภาคคัคนานต์
ก่อเกิดการพลวัตแรงหยัดยืน
บุญใหญ่หลวงปวงโลกหล้าสืบปรากฏ
บำเพ็ญพรตภิญโญภาพตราบวันตื่น
รังสฤษฏ์ ฤทธิไกร ไว้กลมกลืน
เพิ่มพันธุ์ชื่นหมื่นพันช่วงทั้งปวงปรุง
ณ กาลอนาคต ปรากฏใกล้
สัตว์โลกฝุ่นหมกไข้ ไม่รักษ์มุ่ง
แพร่พิษพสุธา เปล่าผดุง
เรือนกระจกสะทกทุ้งร้อนพุ่งแรง
รังสิโยภาสฉาดฟ้าวิปริต
หมายชีวิตโลกหล้าปะทะแสง
โลกธาตุไวรัสวุ่นฟุ้งฝุ่นแดง
ทุกหนแห่งศิโรราบรับผลกรรม
(ทุกหนแห่งสวมหน้ากากวิบากกรรม)
ภูวเชวง ประเลงภูมิ
13 กรกฎาคม 2552 17:50 น.
ภูวเชวง
ลึกลงในอกโลกย์โยกบทบาท
ตฤณชาติน้อยใหญ่ได้ค้อมหัว
แผ่นผิวพสุธาจะเกรงกลัว
ตรึงดี-ชั่วตราไว้ในกำมือ
เมฆท้องเสียถ่ายฤดูสู่พิภพ
เขตคามน้อมคำนบระบบถือ
แมลงปอป่ายฟ้าปีกกระพือ
กระซิบสื่อตั้งศูนย์ถ่วงล่วงผ่านไป
หอมนำอิ่มอำนาจอากาศหอม
สภาพสิ่งแวดล้อมพร้อมสมัย
กำราบโลกย์ขวากหนามความพอใจ
สั่งแผ่นดินดิ้นไหวไกวกฤษฎา
ปิดปากถ้ำธรณีที่ส่อรู้
เปิดประตูแต่งสีสันเสพหรรษา
บีบบังคับต่อมคิดมวลวิชชา
แปลงปัญญายืนหยัดข้างถ่วงถ่างติง
เต้นไปตามความชอบกอปรพันธะ
หลอมภาระให้หมอบราบสาบเสือสิงห์
ปล่อยกระหังหอบทุนงบหนุนชิง
ข่ายขั้วเกลือกกลั้ววิ่ง ยึดสิ่งพึง
ต่างฝ่ายร่ายอัปยศป้ายมดเท็จ
ทางเผด็จการใดรุกไปถึง
ใดเด่นกระชากรั้งสั่งฉุดดึง
ประโยชน์คลึงใบหูรู้เก็บกิน
หลอกนกปล่อยขี้นกตกแผ่นฟ้า
หลอกฝูงปลาทวนแม่กระแสสินธุ์
หลอกสูดลมหายใจให้โลกย์ยิน
หลอกแผ่นดินเคลื่อนไหวได้รู้ทาง
หน่วงหนักในอกหล้าพลาลักษณ์
ใจโลกย์แสนโศกหนักใดจักสว่าง
แหวกมืดทมิฬมารการอำพราง
ตาเบิกกว้างสว่างรอบแค่ขอบตา
ภูวเชวง ประเลงภูมิ