4 มิถุนายน 2553 18:16 น.
ภิรวดี
เดินตากฝนตัวเปียกปอนนอนเป็นไข้
ทั้งจามไอคัดจมูกถูกหวัดเล่น
ฝนตกหนักลมพัดมาอากาศเย็น
ไม่อยากเป็นเช่นคนไข้ไร้เรี่ยวแรง
หากวันนี้มีเธออยู่คู่เคียงใกล้
คอยห่วงใยดูแลใจให้เข้มแข็ง
อาการป่วยด้วยฤทธิ์ฝนจนอ่อนแรง
คงเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสุขไร้ทุกข์ตรม
แต่วันนี้ไม่มีเงาเขาเสียแล้ว
สายลมแผ่วแว่วมาพาขื่นขม
ฉันต้องอยู่ดูแลตนทนระทม
เมื่อไรลมจะเลือนล้างเศร้าจางไป
3 มิถุนายน 2553 14:39 น.
ภิรวดี
วันเวลาผันผ่านไปได้เรียนรู้
เคยต่อสู้ความลำบากตั้งมากหลาย
ทำงานหนักเหนื่อยทั้งใจทั้งแรงกาย
สิ่งท้าทายหลายเรื่องราวก้าวผ่านมา
ความเข้มแข็งแกร่งกล้าเมื่อคราก่อน
ถูกบั่นทอนแล้วหรือไรใยอ่อนล้า
อ่อนกำลังทั้งกายใจไม่โสภา
อยากหลับตาแล้วหลับใหลไปชั่วกาล
แต่ความจริงสิ่งนี้หนีไม่พ้น
แม้ทุกข์หม่นต้องทนสู้สู่ปลายฝัน
เมื่อเวลาเดินเวียนเลื่อนเปลี่ยนวัน
ทุกข์คงผันแปรเป็นสุขปลุกแรงคืน
3 มิถุนายน 2553 12:09 น.
ภิรวดี
ทุกทุกวันตื่นลืมตาชีวาสุข
มีปนทุกข์เศร้าบ้างอ้างว้างหน่อย
ทุกทุกวันเหมือนฉันเหงาเฝ้ารอคอย
บ้างเลื่อนลอยถึงใครที่ไร้ตน
อาจเป็นเพราะความว่างเปล่าจึงเหงาจิต
ทำให้คิดเรื่องไร้มูลวุ่นสับสน
หากมีใครคนพิเศษสักหนึ่งคน
ใจหมองหม่นคงกลับรื่นชื่นชีวา
ถึงวันนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
จึงนั่งเขียนนั่งเวียนเศร้าเป็นภาษา
กลั่นเป็นกลอนแม้ไม่เพราะเสนาะอุรา
แต่เขียนมาจากบึ้งลึกรู้สึกจริง