31 มีนาคม 2552 18:14 น.

ที่ทะเล

ภัทราภา

สายลมโบกสะบัดซัดหาฝั่ง
เกลียวคลื่นยังม้วนตัวหาหาดใส
ภูเขาเขียวปริ่มทะเลแลเห็นไกล
เริงฤทัยคลายอารมณ์สมฤดี

ล้มตัวนอนบนหาดสะอาดขาว
ปล่อยเรื่องราวความทุกข์เป็นสุขขี
มองหมู่เมฆเมคานภามี
ทะเลสีมรกรตจรดตา

ถึงยามเย็นอาทิตย์แนบแอบทิวเขา
มวลหมู่ดาวเตรียมประดับประทับฟ้า
เดือนลอยเด่นมองเห็นเต็มนภา
สะท้อนมาในทะเลแลภาพลวง				
31 มีนาคม 2552 18:07 น.

ทุกวัน(ที่รอคอย)

ภัทราภา

ทั้งสองตามืดบอดดำสนิท
โลกมืดมิดจิตหดหู่รู้ไฉน
อยู่โดดเดียวเดียวดายไม่มีใคร
ลูกหลานไม่ดูแลเพราะแม่จน

แม่ไม่มีสินทรัพย์ที่จะให้
แม่ไม่ใช่เศรษฐีรวยเหลือล้น
แม่เป็นเพียงชาวนาคนจนจน
ลูกทุกคนจึงไม่แลแต่แม่คอย

แม่ไม่หวังที่จะอยู่อย่างเศรษฐี
แค่ขอมีลูกสักคนให้อาศัย
แม่ไม่หวังจะอยู่บ้านสิวิไร
แค่ขอให้ลูกสักคนทนเลี้ยงดู

แต่ตอนนี้ไม่มีแม้ป้องลมเป่า
พายุเข้าฝนสาดมาไม่อาจหนี
ตามืดบอดเงินติดตัวก็ไม่มี
ทุกวันนี้อยู่อย่างไรใครเห็นกัน

ลูกบอกว่าไปหางานที่กรุงเทพ
อยู่สุขเสพแสงสีที่ไฉน
ลืมกลับมาหาแม่แก้วขวัญใจ
ไม่มีเงินไม่เป็นไรให้กลับมา

จนบัดนี้หญิงชราคนแก่แก่
นั่งชะแง้คอยลูกกลับมาหา
นั่งรอคอยวันที่ลูกจะกลับมา
แต่ตอนนี้เจ้าลูกยาอยู่ที่ใด				
29 มีนาคม 2552 13:31 น.

ลมหนาว

ภัทราภา

ยามลมหนาวโบกพัด       ใจพี่
                                     ร้างราตรีนึกถึง              ถวิลหา
                           หนาวแสนหนาวหนาวเหน็บ     เจ็บอุรา
                            ฝากลมหนาวพัดพา                 ใจข้าไปont>				
29 มีนาคม 2552 12:39 น.

มนต์ขลัง บ้านนา

ภัทราภา

สุริยนต์ส่องแสงแรงจากฟ้า
แผ่นภาขจรจ้ารัศมี
หมู่วิหกบินผกผินรื่นฤดี
คงไม่มีที่ใดเปรียบเทียบบ้านเรา

อยู่ท้องนาทาบฟ้าถึงทิวทุ่ง
หอมกลิ่นฟุ้งไอดินถิ่นฟางข้าว
เหลืองอร่ามท้องนาพาสกาว
เห็นรวงยาวดั่งเพชรเจ็ดมณี

ยามอาทิตย์อัสดงก็หลงแสง
ท้องทุ่งแดงดั่งทิบทิมประจิมสี
ดาวระยับเดือนประดับดั่งมณี
แต่งแต้มสีบุษราพาน่าชม

ไม่ต้องมีแสงนีออนสว่างนัก
ไม่ต้องมีเครื่องจักรพัดลมเป่า
แสงสลัวตะเกียงรั้วส่องเรียงราว
เพียงสายลมพัดเบาเบาเราชื่นใจ				
28 มีนาคม 2552 23:03 น.

ใครลิขิต

ภัทราภา

ชีวิตนี้ใครเล่าเป็นผู้ลิขิต
ยากจะคิดจะแก้ข้อสงสัย
คนข้างบนหรือเราเขาหรือใคร
ที่ทำให้ชีวิตผิดแปลกกัน

ไม่สมหวังในรักก็หนักจิตร
คล้ำควรคิดผู้ลิขิตบนฟ้านั่น
ทำไมหนอต้องเป็นเราเพียงเท่านั้น
เหตุใดกันเธอและฉันยากเข้าใจ

บ้างก็อ้างโชคชะตาฟ้าลิขิต
แต่ไม่คิดย้อนดูเพราะไฉน
บ้างก็อ้างที่เป็นอยู่นี่เพราะใคร
ถ้าไม่ใช่พรมลิขิตชีวิตตน

หากมัวคิดเช่นนี้ไยดีเล่า
หากมัวเอาพรมลิขิตสถิตไว้
ต้องตัดสินชีวิตด้วยจิตใจ
จิตของใครถ้าไม่ใช่จิตของเรา

อยากจะทำสิ่งใดไยรออยู่
อยากจะคู่กับใครไยรอเล่า
อยากจะเป็นอะไรใจของเรา
เพียงอย่าเอาพรมลิขิตสถิตน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภัทราภา
Lovings  ภัทราภา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภัทราภา
Lovings  ภัทราภา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภัทราภา
Lovings  ภัทราภา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภัทราภา