6 ตุลาคม 2552 11:59 น.
ภัทราภา
แสงแดดส่องกระทบใบไม้ไหว
เงาวับไวทาบทามที่ใต้ต้น
ใบเหลืองร่วงปลิดขั้วดั่งวายชน
ล่องลอยหล่นบนดินทิ้งซากใบ
แม้สายฝนจะทำให้ต้องเปียก
แต่ยังเรียกความชื่นฉ่ำกลับมาได้
แม้แสงแดดทำให้ร้อนกายใจ
แต่ทำให้พืชพันธุ์ได้งอกงาม
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีค่า
แม้โรยรายังประโยชน์อย่างไพศาล
ใบไม้แห้งเป็นปุ๋ยได้งอกงาม
แต่อยากถามมนุษย์เล่าทำสิ่งใด
เราเกิดมาเพื่อเสริมสร้างหรือเสริมสิ้น
ทรัพย์ในดินสินในป่าเคยสร้างไหม
เพื่อทุกสิ่งบนโลกดำเนินไป
จงใส่ใจการกระทำเพื่อย้ำเตือน
6 ตุลาคม 2552
ภัทราภา
3 ตุลาคม 2552 10:56 น.
ภัทราภา
สายน้ำที่ไหลไปไม่หวนกลับ
ตะวันลับวันหนึ่งไม่ขึ้นสอง
จันทราแก้วลอยเด่นไม่อาจปอง
ดาวเกลื่อนนองนภาคว้าเปล่าพลัน
สิ่งที่ตามองเห็นมิอาจเอื้อม
ดั่งรางเลือนหลวงหลอกเช่นความฝัน
เย็นไอหมอกม่านขาวคล้ายเปลวควัน
ดุจไพสันต์มืดลึกผนึกทาง
ถ้าสายน้ำไหลแล้วไม่หวนกลับ
ตะวันลับวันหนึ่งขึ้นเป็นสาม
จันทราแก้วลอยเด่นอยู่ทุกยาม
ดาวเกลื่อนงามคว้าได้จะเด็ดชม
ดั่งเวลาล่วงแล้วไม่หวนกลับ
เมฆปลิวลับเปลี่ยนรูปแตกผสม
แม้ความรักไม่อาจอยู่คู่ภิรมย์
แต่จะจมจับจิตชิดนิรันดร์
ภัทราภา
3 ตุลาคม 2552