22 ตุลาคม 2552 20:40 น.
ภัทราภา
พราวพวงครามล่ามเลื้อย เกลือยกอง
เหมือนดั่งเชยเคยครอง คู่เค้น
จรดแจ่มจวนจอง ปองป่าว โฉมเอย
ยัง บ่ เคยเผยเร้น ว่างเว้นหทัย
เห็นใบเขียวเดียวคู่ ชูชม
เป็นพุ่มไพรพรายพรม ห่มหล้า
ดูดอกเด่นดวงสม ชมแน่ พวงเอย
อีกชื่นเคยระย้า ยั่วแย้มยวนเยาว์
พวงครามงามเด่นหน้า เหมันต์
เย็นกลุ่มหมอกไอควัน ครุ่นนคลุ้ง
ดูดอกเด่นดังดาว พราวชื่น รื่นแฮ
ยามค่ำแลเรืองเช้า ช่อเจ้ายังสวย
๏งามพรวงคราม
๏เห็นพวงครามหวามจิตมิคิดขื่น
ดูดอกดื่นชื่นบานสราญไหว
เป็นเทือยแถวทิวเถาพะเนาไพร
ระโยงใยใบเดี่ยวเขียวพนา
๏เห็นพวงครามยามบานสราญจิต
จนต้องพิศเพลินพวงดวงพฤกษา
ด้วยเพราะเจ้างามจริตติดนัยน์ตา
สุมาลาใดเล่าจะเท่าทัน
๏สีม่วงครามยามดอกเจ้าออกผลิ
ยากจะติต่อแต้มหรือแซมสรรค์
ดูดอกดวงพลวงวับวิลาวัณย์
บานพร้อมพลันเพริดแพร้วละแนวไพร
๏ดูพลวงครามงามเด่นเป็นสง่า
สุริยาพาแสงแรงสดใส
ยามหนาวเยือนเลือนหมอกดอกละไม
เย็นอุ่นไอพลวงครามยามเหมันต์
ลักษณะทั่วไป
ต้น
พวงครามเป็นไม้เลื้อยที่มีเถาใหญ่แข็งแรง เนื้อแข็ง ลำต้นและกิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนก็มีขนแต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไปเปลือกของต้นหรือเถาเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน เถาพวงครามสามารถเลื้อยคลุมต้นไม้อื่นไปได้ไกลมากกว่า 20 ฟุต
ใบ
พวงครามเป็นไม้ใบเดี่ยว ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกันตามข้อต้น ลักษณะใบเป็นรูปรี ใบมนกว้างปลายใบแหลม โคนใบก็แหลมเช่นกัน ผิวใบสากระคายมือ ใบมีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร
ดอก
ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีม่วงคราม ลักษณะดอกเป็นกลีบมี 5 กลีบ คล้ายรูปดาว 5 แฉก กลีบรูปขอบขนาน ด้านบนของกลีบจะมีขน โคนกลีบดอกเชื่อมต่อกันเป็นหลอดภายในดอกมีเกสรตัวอยู่ 4 อัน พวงครามมักจะออกดอกและบานพร้อมกันเต็มช่อ ดอกค่อนข้างดก และจะบานทนนานได้หลายวันมาก
ฤดูกาลออกดอก
พวงครามเป็นไม้ที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว
ภัทราภา
๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๒
18 ตุลาคม 2552 20:49 น.
ภัทราภา
๏พวงชมพูดูเจ้าไม่เศร้าจิต
เกาะเลาะลิดรอนแรมดอกแย้มสม
เหมือนดั่งม่านเมียงมองลองร่องลม
แทรกผสมโรมเร้าดอกเคล้ากัน
๏พวงชมพูใบเดี่ยวเขียวสลับ
สอดซ้อนทับลับเรียงเคียงสุขสันต์
แผ่นใบแบแลคลื่นหยอกกลืนกัน
เป็นเถาวัลย์พันแผ่แลน่าชม
๏พวงชมพูออกดอกเป็นชอกช่อ
รวมกลุ่มกอคลอซอกแซมดอกสม
สีชมพูดูแต้มแรมภิรมณ์
ชูช่อชมโฉมเจ้าเร้าวิญญา
๏พวงชมพูดูดอกหลอกไฉน
คล้ายหัวใจใครบินถวิลหา
เป็นม่านห้อยสร้อยแสงแปลงลงมา
เดือนมีนา - เมษาคราน่าชม๛
ต้น
พวงชมพูเป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เถาเลื้อยที่มีเถาขนาดเล็ก มีมือเกาะสำหรับเกาะพันต้นไม้
หรือกิ่งอื่นเพื่อการทรงตัว และสามารถเลื้อยพันสิ่งต่าง ๆ ไปได้ไกลประมาณ 40 ฟุต ลำ ต้น หรือ เถาจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ใบ
พวงชมพูเป็นไม้ใบเดี่ยว ดอกออกสลับกันไปตามข้อต้น ลักษณะใบเป็นรูปไข่ หรือมนรี ค่อนข้างจะเป็นทรงสามเหลี่ยม ปลายใบแหลม โคนใบมน เว้าเป็นรูปหัวใจ ขอบใบจักมนไม่แหลมแผ่นใบเป็นคลื่นไม่เรียบ ใบมีความยาว ประมาณ 7 เซนติเมตร
ดอก
พวงชมพูออกดอกเป็นช่อรวมกันเป็นกลุ่มตามซอกใบ ง่ามกิ่งและปลายยอด ส่วนปลายยอดสุด
จะเป็นมือเกาะ ดอกสีชมพูสดใสในกลุ่ม ดอกจะประกอบด้วยช่อดอก เรียงดอกสลับทางติดกันอยู่
อย่างหนาแน่น ลักษณะรูปร่างของดอกมีทรงคล้ายผอบรูปหัวใจ ดอกมีขนาดเล็ก คือ สักประมาณ
1 เซนติเมตร ดอกพวงชมพู มีกลีบเลี้ยง และกลีบดอกที่คล้ายกัน ดอกกลุ่มหนึ่ง ๆ ของพวงชมพู อาจจะชูเป็นช่อตั้ง หรืออาจจะห้อยเป็นพวงระย้าลงก็ได้ ช่อดอกจะมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตรพวงชมพูเป็นไม้ที่ออกดอกตลอดปี แต่มักจะมีดอกดกมากในฤดูแล้ง คือในระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี
ภัทราภา
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๒
15 ตุลาคม 2552 20:40 น.
ภัทราภา
๏ทรมานแทรกผ่านความรู้สึก
จิตสำนึกตกผลึกเป็นปึกผอง
โอ้ความรักจักเห็นเช่นเรืองรอง
แรงครอบครองครวญคร่ำขย่ำใจ
๏แทบกะอักเลือดอกสะทกจิต
หรือความผิดเผลอเลอเก้อไฉน
สุดความรักมักมากกว่าใดใด
ก็ลบไร้ลบล้างอำพลางจริง
๏ฉันยังคอยคอยใจให้หันกลับ
เพียงเธอรับเรื่องราวคราวทุกสิ่ง
ฉันไม่อาจบิดเบือนเลือนความจริง
สลัดทิ้งใจเธอละเมอคอย
๏ขอเศษซากสงสารซมซานนิด
จดลิขิตเส้นตายไม่วายขอ
ถึงท้อใจเจียนจบประสบรอ
ก็ยังพอต่อลมให้ข่มใจ
๏เพิ่งรู้ร้าวคราวพิษความคิดถึง
เจ็บจวนจึงใจแจ้งถูกแทงไหน
จะขอคอยครวญคิดสนิทใน
อโณทัยถอยดับมิลับรอ
๏ทรมานแทรกผ่านความรู้สึก
จิตสำนึกตราตรึกไม่สึกหรอ
เพราะรักเกินกลืนกล้ำจึงย้ำรอ
เพียงแต่ขอเศษรักประจักษ์ใจ๛
ภัทราภา
15 ตุลาคม 2552
13 ตุลาคม 2552 19:22 น.
ภัทราภา
๏ไม่เคยลิ้มรสรักประจักษ์จิต
พอลองนิดครวญคิดจับจิตหวาน
นี่หรือรสความรักประจักษ์นาน
นี่หรือรสซาบซ่านสราญใจ
๏นี่หรือรสเร่งเร้าเคล้าลุ่มหลง
นี่หรือรสดำรงคงหวั่นไหว
นี่หรือรสปรนเปรอละเมอใจ
นี่หรือรสย้ำให้หทัยจำ
๏ใครไม่เคยมีรักมิจักรู้
คงมองดูความรักมักน่าขำ
คงไม่เคยหวานซึ้งถึงน้ำคำ
คงไม่เคยเพลี่ยงพล้ำถลำใจ
๏เมื่อรสรักที่หวานวันวานจืด
ใจเย็นชืดดั่งเฉือนเลือดเลือนไหล
เหลือเพียงตัวห่อหุ้มกุมหัวใจ
ลิ้มรสในความตรมขมไม่เบา
๏ถึงว่ารักนั้นหวานปานไฉน
อย่าลุ่มหลงเริงไปจะใจเฉา
ขมยิ่งกว่าบอระเพ็ดเข็ดอกเรา
เหลือเพียงเงาชีวากายาเลือน
๏ไม่เคยลิ้มรสรักประจักษ์จิต
พอลองลิ้มสักนิดจับจิตเฉือน
ใช้ความขมจมรักประจักษ์เตือน
อย่าลางเลือนรักนี้มีฤทธิ์แรง๛
ภัทราภา
13 ตุลาคม 2552
6 ตุลาคม 2552 11:59 น.
ภัทราภา
แสงแดดส่องกระทบใบไม้ไหว
เงาวับไวทาบทามที่ใต้ต้น
ใบเหลืองร่วงปลิดขั้วดั่งวายชน
ล่องลอยหล่นบนดินทิ้งซากใบ
แม้สายฝนจะทำให้ต้องเปียก
แต่ยังเรียกความชื่นฉ่ำกลับมาได้
แม้แสงแดดทำให้ร้อนกายใจ
แต่ทำให้พืชพันธุ์ได้งอกงาม
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีค่า
แม้โรยรายังประโยชน์อย่างไพศาล
ใบไม้แห้งเป็นปุ๋ยได้งอกงาม
แต่อยากถามมนุษย์เล่าทำสิ่งใด
เราเกิดมาเพื่อเสริมสร้างหรือเสริมสิ้น
ทรัพย์ในดินสินในป่าเคยสร้างไหม
เพื่อทุกสิ่งบนโลกดำเนินไป
จงใส่ใจการกระทำเพื่อย้ำเตือน
6 ตุลาคม 2552
ภัทราภา