8 มกราคม 2550 00:08 น.
ฟ้ายิ้ม
วันใดเธอมีสุข
วันนั้นฉันแอบยิ้มเล็กๆอยู่ตรงนี้
วันใดเธอทุกข์
ฉันห่วงใยเสมอ
วันใดเธอแพ้
ฉันพร้อมจะยืนข้างเธอ
วันใดเธอมีปัญหา
ฉันอยากรีบหาทางแก้ไขช่วย
วันใดเธอเหงา
ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนกันตรงนั้น
วันนั้นเธอยังยิ้มให้ฉัน
วันนั้นเธอยังมีแววตาส่องประกายมาให้ฉัน
วันนั้นเธอยังใช้น้ำเสียงแสนนุ่มนวล
แต่...ทำไม
วันนี้.....เมื่อมีผู้คนมากมายรายล้อมเธอ
อะไรก็ช่างแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เธอไม่เคยหันมาที่มุมมืดๆตรงนี้
หน้าที่ทุกอย่างที่เคยทำในวันนั้น
วันนี้มีคนพร้อมเสนอทำได้ดี
เมื่อฉันทำมันกลับกลายเป็น
ความวุ่นวายจุ้นจ้านในชีวิตของเธอ
เมื่อวันที่เธอไม่มีใคร
ฉันได้ยืนอยู่ตรงที่โล่ง ณ ตรงจุดนั้น
แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง
เพราะวันนี้ผุ้คนมากมายยื้อแย่งเข้ามายืนบนที่แห่งนี้
มันจึงไม่มีที่ว่างสำหรับฉัน
และฉันก็พร้อมที่จะไป
ไปเพราะไร้ที่ว่างให้ยืนอยู่อีกต่อไป
แต่โปรดจำไว้เสมอ
หากวันใดที่แห่งนั้นร้างผู้คนและบุบสลาย
ฉันพร้อมเสมอ พร้อมที่จะกลับมาดูแลซ่อมแซม
และทำให้ที่ร้างไม่ว่างเปล่า
12 พฤษภาคม 2548 22:08 น.
ฟ้ายิ้ม
สิ่งใดใคร่รู้มาแสนนานนัก
อยากประจักอยากเห็นเป็นเย็นเช้า
แต่สิ่งนั้นพลันซ่อนเป็นพรางพราว
เมื่อไรเล่าจักสาวไปได้ถึงความจริง
...........................................
ปริศนาที่คาอยู่ในอก
ยามใดผู้ไหนยกให้ขึ้นได้
ยากสุดยากมากสุดมากได้เรียงราย
ถึงทำทายก็มิแน่ว่าแท้จริง
............................................
สิ่งหนึ่งต้องพบต้องเห็นเป็นต้องจาก
ฉันว่ายากสุดทนจะด้นไข
จนปัญญาจะแก้ปริศนานัย
คงต้องปล่อยไปให้เดินเหินตามทาง
???????????????????????????????
7 พฤษภาคม 2548 23:29 น.
ฟ้ายิ้ม
ชีวิตคนเราต้องดำเนินไปเรื่อย
แม้นแสนเหนื่อยจะหยุดพักหน่อย
แต่ก็กลัวเพราะอนาคตยังรอคอย
ต้องรีบร้อยท้อยถกตักตวงเดิน
......................................
คนทุกคนมีเวลาใช่แยกต่าง
แม้จะห่างชนชั้นสักเพียงไหน
แล้วแต่ว่าเราจะใช้มันคุ้มสักเพียงใด
แล้วแต่ใครจะเลือกทางเพื่อย่างเดิน
......................................
เพราะหนทางชีวิตมันยาวไกล
จะจบลงที่ใดใครไม่เห็น
เราไม่อาจจัดพรุ่งได้จะเจน
เรามิคงเป็นเช่นนี้ตลอดกาล
.....................................
ถึงจุดหนึ่งบนทางนี้พูด ฉันเหนื่อย
อยากบอกว่าเชยชาเมื่อยล้านัก
หลายหนทางชวนชักให้เบี่ยงข้างทาง
หลายอำพรางคอยดักซุ่มมิวางวาย
...........................................
ถึงอย่างไรต้องต่อสู้เพื่อฝั่งฝัน
ฝ่าฟันมันให้ถึงซึ่งจุดหมาย
อย่าได้ปล่อยให้มันได้ทลาย
เราต้องว่ายแล้วสุขสายจะรออยู่
...........................................
28 มีนาคม 2548 21:20 น.
ฟ้ายิ้ม
ดอกไม้มายมีรสกลิ่นสี
ซึ่งอยู่ในโลกีล้วนหลากหลาย
สุดอันจักตรองดูแล้วแพร่งพราย
อาจมิคลายผ่อนเห็นเป็นสำคัญ
....................................
ชนิดหนึ่งอาจมีรสกลิ่นหอม
เมื่อได้ดอมดมดาลแล้วสุขสันต์
แต่ตัวดอกนั้นอาจมิพลัน
ได้ประชันสีสันอันพรานตา
........................................
เฉกเช่นดอกนี้หาผู้เปรียบได้น้อย
ข้างในร้อยสร้อยสดงดงามภา
ถึงภายนอกออกอาจมิทองทา
แต่กานดาเจ้าเอยน่าเชยชื่น
....................................
ดอกอย่างสองเมื่อมองต้องเสน่ห์
ช่างมีเล่ห์ฉูดฉาดดาษระดื่น
มองมองแล้วก็สวยรวยระรื่น
แต่อย่างอื่นก็ไร้ซึ่งหอมหวาน
...................................
เปรยดอกนี้มีมากในสังคม
ผู้นิยมแต่นอกในชอกช้ำ
มีเพียงสีไร้กลิ่นรสระกำ
ว่าจะทำงานใดไร้ศรัทธา
....................................
คิดดูเถอดหมู่มวลกฤษณา
เจ้าจักพาตัวเจ้าเป็นดังไร
จะสดสีไร้รสรือครบใด
เพื่อให้ใจเจ้าสู่ดอกสมบูรณ์
..............................................
22 มีนาคม 2548 22:10 น.
ฟ้ายิ้ม
วันนี้มองออกโลกนอกยังสดใส
ช่างปะไรผืนดินนี้ฟ้าคงงาม
แผ่นน้ำยังสีคราม
เหลืองอร่ามสอดแสงสุริยง
แม้นบางคนยังอยู่ในวงวน
แม้นบางตนคงเมินค่าใจ
แต่เราต้องก้าวไป
ด้วยหทัยไร้ราคี ที่หม่นหมอง
แล้วจงได้หันกลับมามอง
คำอื่นควรค่าครองต่อรักษา
เมื่อนี้ชื่นอุราหวนชีวา
เบิกฟ้ายิ้มรับสุขจะบาน