29 มิถุนายน 2551 18:49 น.

ขอลามายารัก

ฟา

     ถ้าเธอเป็นคนเมืองมายา
บทตีสองหน้าคงผ่านฉลุย
หลอกแม้คนรักเห็นเป็นเจ้าทุย
พลิกลิ้นร่อนคุยแลกรักใครใคร

     ที่เงียบไม่ใช่ว่าโง่
อยากดูว่าเธอจะอดโซความรักสักแค่ไหน
จะพอ จะหยุดล่าได้เมื่อไร
ถ้ากระหายเรื่อยไปรักฉันเท่าไหร่คงไม่พอ

     งั้นก็คงต้องส่งบัตรเชิญ
ให้กรุณาเดินจากออกไปเถอะสุดหล่อ
รักดีดีของผู้หญิงพันธุ์นี้คงไม่รอ
เป็นหัวตอของตายให้ชายน่าระอา

     ฉันไม่ใช่นางเอกละครน้ำเน่า
ที่โง่เง่าหูเบากับคนบ้า
เชิญไปเหอะไปให้ไกลลูกตา
คำรักไร้ค่าไม่ปรารถนาจะได้มี

     แค่มีปากใช้ลิ้นลากปลิ้นปล้อน
เที่ยวออดอ้อนให้หญิงอยู่คงที่
แต่ตัวเองมากรักไม่ภักดี
จะหยุดใจกับฉันนี่ก็จบกัน				
20 มิถุนายน 2551 19:22 น.

เวิ้งว้างบนทางเปลี่ยว

ฟา

     เมื่อตั้งจิตแน่วแน่จะเดินหน้า
สู่สิ่งสุดปรารถนาในภพนี้
แต่ละก้าวย่างเดินความวุ่นมี
เวลาอีกกี่ปีจะพ้นไป

     ยิ่งเยี่ยงเท้าสาวไปในทางเปล่า
มีแต่เราตัวเราหรือไฉน
โอ้มิ่งมิตรมากมายใครต่อใคร
หามีไม่สัญจรไปร่วมเส้นทาง

     ยิ่งเดินมาเรื่อยเรื่อยเมื่อลึกเข้า
รอบกายมีเพียงเงาที่เคียงข้าง
ใจหนอใจจะโทษจิตคิดครวญคราง
ช่างเวิ้งว่างเหลือกระไรเปลี่ยวใจจริง

     มีเพียงแสงแห่งธรรมคอยค้ำจิต
ในครั้งคิดทอดใจกับหลายสิ่ง
ฝ่ากระแสแห่งวิกฤติมาได้จริง
ก่อนจะถูกกิเลสสิงจนซูบเซียว

     มาบัดนี้ก้าวไกลทางสายใหม่
แต่ไฉนมองไปนั้นแสนเปลี่ยว
ราวกับว่าโลกเหลือเราเพียงคนเดียว
ช่างโดดเดี่ยวหวาดหวั่นระแวงใจ

      หลายครั้งคราจิตอ่อนมีคลอนคลืน
ต้องคอยฝืนรั้งกันเกือบไม่ไหว
มันหนักหน่วงเหลือคณาแทบปราชัย
ต้องต่อสู้กันไปจนสุดแรง


     แม้ต้องก้าวต่อไปบนทางเปลี่ยว
จะแลเหลียวทางไหนก็ว่างเปล่า
ไม่ย่อย่นท้อแล้วหนอใจเรา
จะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวไม่เป็นไร

     ขอมีเพียงพระธรรมคำสั่งสอน
ทั้งตื่นนอนก่อนหลับเวลาไหน
ระลึกตนรู้สติทั่วกายไป
จะทุกข์เข็ญเช่นไรให้เห็นกัน

     เพื่อขอพ้นพ้นเหตุแห่งกองทุกข์
จะมากสุขไม่มีเลยคงไม่หวั่น
ขอเพียงดับดับทุกข์ลงทุกวัน
กี่ทางเปลี่ยวก็ไม่หวั่นจะก้าวเดิน				
25 พฤษภาคม 2551 16:53 น.

มายา-ปรารถนา

ฟา

     จะกี่ร้อยโรครุมกระหน่ำกาย
อย่าได้หมายสะเทือนใจได้เพียงนิด
แต่หนึ่งโรคใจ  ร้ายเกินปิด
ดังยาพิษฉีดเข้าเหลือจะทน

     ถึงเจ็บป่วยร่างกายกี่พันครั้ง
น้ำตาหลั่งสลบไปสักกี่หน
ไม่อนาทรร้อนใจไม่ยินยล
เพียงมีคนรักจริงแค่หนึ่งคน

     ถ้าไม่รักไม่แท้หรือแค่คิด
ว่ามอบนิดเศษรักมาสักหน
พอเถอะค่ะเจ็บกายแค่วายชนม์
แต่ใจเจ็บนี่สุดทนความทรมา

     ยังอยู่ได้อยู่ได้ยังดีอยู่
ตั้งแต่คุณยังไม่รู้ไม่ห่วงหา
ถึงเจ็บเจียนทารุณหลายเวลา
หาแทรกสั่นในอุราได้สักที

     แต่มีคุณคนดีที่มอบรัก
จะจริงหนักหรือลวงก็เหลือที่
ยากจะเดาเหลือคณาเมื่อพาที
เพราะคุณช่างแสนดีราวเทพา

     แต่ไม่นานกาลหวานก็พาลหมด
ความดีลดความรักไม่รักษา
ใจที่ไม่เคยป่วยกับทรมา
อนิจจารักไม่จริงทุกสิ่งลวง

     ทุกวันนี้กายป่วยด้วยโรคเก่า
ใจนั้นเล่าก็ร้าวและแหนหวง
อย่าเข้ามาอีกเลยคนเลลวง
ที่ทำให้ทั้งทรวงนั้นแหลกราน

....สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง......
.....ร่างกายก็เช่นกัน......
......มีความป่วยเป็นธรรมดา....
ขอบคุณ.....ที่เคยมอบปรารถนาที่แสนดี
......แม้ว่าจะไม่มีความมั่นคงแน่นอน....
......ขอบคุณที่สิ่งนั้นนำมาซึ่งความทรมา....
อย่างน้อย....ก็คือแรงดันอย่างแรง
......ให้ทั้งร่างกายและใจที่บอบช้ำ ได้หันหาสิ่งที่ประเสริฐที่สุด.....
				
25 พฤษภาคม 2551 16:25 น.

จดหมายที่ไม่เคยได้รับ

ฟา

     เวลาผ่านเนิ่นนานสักเท่าไหร่
เหตุไฉนหาได้เห็นสักอักษร
หรือเพียงลมจากปากแล้วลาจร
เอ่ยไว้ให้คนฟังซ่อนรักเดียวดาย  

     ด้วยแรงรักแรงหวังจึงพลั้งจิต
ปล่อยใจให้ใกล้ชิดพิสมัย
ปรารถนาดีที่มอบพร้อมความนัย
เป็นเพียงคำลวงหรือไรที่เอ่ยมา

     หากจะเป็นเช่นนี้มาเสมอ
ไม่ว่าเจอกับใครก็ห่วงหา
แต่ไม่เคยสักคนจักตรึงตรา
ตรึงหัวใจมากปรารถนาคุณได้พอ
................................................

     จะกี่กาลผ่านพ้นยังรออยู่
จดหมายรักสีชมพูที่สดใส
ณ ปัจจุบันวันนี้หรือเมื่อไร
จะได้เปิดอ่านนัยถ้อยจรดมา

     คำสัญญาของผู้ใหญ่ใจแสนอุ่น
เคยการุณทุกคืนค่ำที่ร่ำหา
มาป่านนี้หมดแล้วหรือพี่ยา
ความเมตตาอาลัยที่เคยมี

      แม้ถ้อยคำเขียนส่งที่เคยบอก
ให้เป็นกำลังใจยังหลอกถึงเพียงนี้
ไม่มีจริงสินะใยไมตรี
โอ้ ชีวีชีวิตเราช่างเขลาจริง


... ความแน่นอนในหัวใจชายปากหวาน คือลมเพียงพัดผ่าน
......หากเอามาเป็นจริงเป็นจังเพราะความไม่ประสา คงเหลือเพียงความปวดปร่าอยู่ในใจ
........ไม่มีแล้วความอบอุ่น 
.........ไม่มีแล้วความปรารถนาแห่งใจที่งดงาม
..........ที่คงไว้ให้จดจำเป็นเพียงมายาลวง ที่หวานแสบทรวง
..........หากไร้แล้วซึ่งความใยดีกับน้ำคำตนเองแล้ว ใจคนรอคงร้าวราน
..........หัวใจสำหรับ "รัก" นั้นบอบบางเช่น "ดวงแก้ว" เมื่อร้าวแล้วก็ไม่ยินดีในรักใดๆ อีก
.........วันเวลาที่เหลือ ขอมีหัวใจอันไร้ซึ้งร่องรอยใด เพื่อก้าวเดินไปในทางสายเปลี่ยว ที่ไร้ทั้งรัก และชัง

.........ลาก่อนลมรักลวง.....
.........ลาก่อนความรัก......

ปลายทุ่ง ตะวันรอน และหัวใจร้าวราน
				
11 เมษายน 2551 16:51 น.

รักร้อน ร้างลา(มาต่อแล้วค่ะ)

ฟา

   เริ่มแรกรักเล้าอารมณ์เกินข่มจิต
ต้องใกล้ชิดมิห่างไปทางไหน
ช่างร้อนรนกระวนกระวายใจ
ยามมีใครเมียงมองคนของเรา

     ไม่อยากให้แม้ใครที่ใกล้เฉียด
จะมาเบียดชายตาแลมาเหมา
ว่าเขาคิดไม่ซื่อคนรักเรา
ไม่ยอมเขาไม่ยอมจนนิดเดียว

     เมื่อแรกเริ่มเดิมทีไม่มีรัก
ไม่เคยจักร้อนรนไม่ฉุนเฉียว
พอมีรักเพียงหนึ่งคนแค่หนึ่งเดียว
กลายกลับไปได้เชียวหนอหัวใจ<

     ยามเราอยู่ของเราไร้เหงาจิต
แต่เมื่อเขาใกล้ชิดจนหวั่นไหว
กลับรู้สึกอยากพบหน้าอยู่ร่ำไป
ช่างกระไรร้อนได้ไม่เว้นวัน

     รอเวลาที่ได้พบและอยู่ใกล้
ทั้งตื่นเต้นดีใจกับไหวหวั่น
แค่เพียงมองสบตากันและกัน
กายก็พลันร้อนวูบเหมือนต้องไฟ

     แต่เมื่อพ้นเวลาของรักร้อน
สิ่งใดใดก็ผ่อนความอ่อนไหว
เหลือเพียงความนิ่งสนิทของหัวใจ
เหตุไฉนจึงกลายกลับดับแสนเร็ว

     เหมือนกับเป็นกองไฟบนกองฟาง
เมื่อเชื่อไฟร้างไกลมืดดังเหว
ยากยิ่งนักจะพัดโหมให้เกิดเปลว
เหมือนตอนติดไฟเร็วซะเหลือใจ

     นี่แหละหนอความรักในกาลนี้
ยิ่งร้อนแรงเท่าไรนี่ยิ่งร้าวไหว
เมื่อเริ่มแรงรักเร็วราวเปลวไฟ
ก็ผลาญเชื้อเพื่อดับไปตามเวลา

     จะครั้งหน้าหรือว่าอีกคราไหน
เจ้าหัวใจแสนอ่อนไหวจงดูท่า
หากรักเริ่มร้อนลุ่มคือมายา
ให้ยั้งใจเย็นว่าจงลาไฟ

     หากจะเริ่มรักแรกสักครั้งหนึ่ง
ค่อยค่อยรักแบบซาบซึ้งดีกว่าไหม
เพาะบ่มรักแรกเริ่มอย่างเข้าใจ
เมื่อรักเติบโตไปจักมั่นคง/font>				
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
  ฟา
ไม่มีข้อความส่งถึงฟา