29 พฤษภาคม 2546 21:15 น.
ฟองอากาศ
หลั่งน้ำตาจากหทัยในคืนฝัน
ทั้งคืนวันไม่มีข้าไม่มีเจ้า
น้ำตาหลั่งจากฤทัยมิบรรเทา
ในคืนเศร้าหทัยสลดมีเพียงน้ำในใจ
ในค่ำคืนมีเพียงข้ากับดวงจันทร์
ในคืนฝันมีเพียงข้านอนร่ำไห้
ทุกคืนวันมีเพียงข้าน้ำตาใจ
นอนร่ำไรโหยหากับพระจันทร์
คืนจันทร์ข้าขอเพียงคำหวาน
ใจร้าวรานโปรดเถิดโปรดช่วยฉัน
น้ำตาใจหลั่งไหลโรมรัน
โปรดเถิดจันทร์ข้าไม่ขอสิ่งใดอื่นแล
ชลหทัยสืบสายสัมพันธ์ต่อ
ดวงใจท้อมีเพียงธารเป็นกระแส
ดวงใจข้าเหน็ดเหนื่อยยอบแยบแย่
ร่ำหาเพียงรักแท้ที่รอคอย
ข้ายังรอข้ายังเฝ้าจับจ่อ
แม้ใจท้อหลั่งน้ำตามิยอมถอย
ข้ายังรอลมรักแม้นต้องเศร้าสร้อย
ดวงใจคอยเพียงลมรักอีกสักครา......
ท่านจะให้จะให้ข้าอีกได้ไหม
ท่านดวงใจโปรดเถิดช่วยข้าหนา
ผิดไปแล้วข้าเคยเฉยเชือนชา
ลมรักที่มอบมาข้าเห็นค่าปักในใจ.......
26 พฤษภาคม 2546 22:55 น.
ฟองอากาศ
เฝ้าหยัดยืนเห็นเด่นเป็นสง่า
รอคอยฟ้าฝนใสลมพัดหวิว
รอคอยคนที่นั่งต้านลมลิ่ว
ใจโหยหิวคิดถึงคนึงพลัน
ยังคงหยัดยั่งยืนฝืนลมหวน
ใจเรรวนของเจ้าที่หุนหัน
ดวงใจข้าคอยเฝ้าอยู่ทุกวัน
หลับจนฝันตื่นยังคิดยังมิคลาย
ข้ายังรอคำรักอีกสักหน
ข้าอับจนรักเจ้าเสียใจหาย
ดวงใจข้ามอบให้มิเสื่อมคลาย
ชีวาวายยังยอมเพราะรักเหลือเกิน.........
4 พฤษภาคม 2546 22:31 น.
ฟองอากาศ
นั่งคิดวิจิตรตรองตรึก
นั่งนึกอ่านเขียนไฉน
ใจเราถึงไม่สุขใจ
ไฉนเกิดมาไร้คู่ครอง
เห็นนกวิหคเวหา
บินลัดฟ้าเป็นคู่อยู่สอง
บินเล่นเป็นคู่ประลอง
เล่นกันเป็นสองสุขใจ
มองฟ้าลงดินศิลาหิน
แลมดข้างนิลสดใส
เดินกันเล่นกันคู่ใจ
หามของใส่ไหล่ไปพลัน
เหม่อมองต้นไม้ใบเขียว
เห็นเรียวตัวริ้วล่ำสัน
แมลงปอโบยบินเล่นกัน
เป็นสองสุขสันต์อิ่มใจ
แม้หินที่ไม่มีชีวิต
ฟ้ายังลิขิตเป็นสองให้
หินตาหินยายคู่ใจ
อยู่สองสวยใสสัมพันธ์
แม้จันทร์กับดาวคู่ฟ้า
คู่นภาอยู่สองสวยสันต์
อยู่คู่นภานิรันด์
ส่วนฉันโดนกลั่นแกล้งหรือกระไร
ตัวฉันเป็นเพียงประภากร
จรัสแสงศรสดใส
ทั้งตัวทั้งกายทั้งใจ
จรัสแสงใสอยู่เพียงลำพัง...................
3 พฤษภาคม 2546 23:15 น.
ฟองอากาศ
อยากจะรู้ตอนนี้เธออยู่ไหน
อยู่กับใครเธอคิดจะทำไรอยู่
อยากได้เธอเพียงเคียงข้างคอยคู่
เพียงอยากอยู่คู่เธอเพียงลำพัง
แปลกใจจริงวันนี้ไร้เธออยู่
คอยเคียงคู่เคียงข้างสรรค์สัง
ต้องนั่งอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง
ห้องคุมขังหัวใจไว้ให้เธอ
รอเพียงเธอมีแต่เธอในความคิด
ฝังในจิตไม่คิดห่างไม่เคยเผลอ
มีแต่เธอคิดแต่เธอคอยบำเรอ
คิดฝันเธออยากได้เธอมาอยู่เคียง
นั่งลำพังจดจ้องนอกหน้าต่าง
มองเห็นฟ้าว่างเปล่าไร้ดาวเรียง
แม้ได้ดาวก็ยังดีมาเทียบเคียง
ขอแค่เพียงดวงดารามาแนบใจ
ยังต้องเศร้าคอยจิตคิดโหยหา
เพราะดาราคืนนี้หมดไปหาย
แม้ดาราหวังเพียงดาวมาคู่กาย
ยังต้องตายหายไปไม่มีดาว
จิตใจเศร้าไร้คนหนึ่งที่คิดถึง
คอยคะนึงตรึงจิตคิดถึงเขา
ใจเราเศร้าตรึงจิตอนิจจังเรา
แม้ดวงดาวหรือเขาก็จากลา.........................
2 พฤษภาคม 2546 23:33 น.
ฟองอากาศ
น่าโศกเศร้าสมเพชแลสงสัย
เป็นเพราะอะไรผู้คนเมื่อเข้าหา
เมื่อเข้ามาถามไถ่ลั่นวาจา
เป็นต้องสรรหาคำพูดจักษ์ตนดี
น่าสมเพชหมั่นไส้ไม่เข้าใจ
ว่าทำไมจึงอวดท่าทำเสียดสี
กดผู้อื่นทับผู้อื่นแต่ตนดี
ทำอย่างนี้มันสุขมากนักหรือไง
ผู้ที่รู้มักไม่พูดตั้งมาดเงียบ
เก็บเงียบเชียบว่าตนเก่งไม่สงสัย
ผู้ที่พูดมักไม่รู้การกลไก
พูดพล่ามไปประจักษ์แท้เห็นตัวจริง
ผู้พูดมากวางมาดตั้งมาดสูง
แผ่ปีกยูงทำว่าเก่งราศีสิงห์
ทำว่าตัวเก่งกว่าใครแต่ที่จริง
ไอ้มาดสิงห์เผยธาติแท้เบาปัญญา............................