14 กันยายน 2547 18:28 น.
พู่กันของหูกวาง
ตั๊ก..ยังพอจะจำอะไรเกี่ยวกับข้าได้บ้างมั๊ย ข้าไม่รู้หรอกนะ ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเอ็งบ้าง เรื่องราวต่าง ๆ ตอนนี้ ไม่ใช่ข้ากับเอ็งที่ได้ร่วมเผชิญด้วยกัน ข้ารู้สึกหวั่น ๆ ที่เอ็งต้องห่างข้าไป ไม่ใช่ว่าเอ็งจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้หรอก แต่มันเป็นความเป็นเพื่อน..ที่มันยังคั่งค้างอยู่กับช่องว่างของเวลาที่ทำยังไง มันก็ยังไม่กลายเป็นอตีตซักที..ข้านึกอยู่เสมอ ว่าเอ็งยังอยู่บ้าน ข้ายังคงโทรหาเอ็งบ่อย ๆ เผื่อว่าวันไหนเอ็งจะอยู่...มันเป็นความเพ้อเจ้อของคนคนนึงแหละที่รู้ตัวเองดีว่าทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้ มันทำให้ข้าสบายใจนะ เวลาที่ข้าโทรไป เหมือนกับว่าอีกวินาทีนั้น เอ็งจะต้องมารับ..ความรู้สึกที่หัวใจข้าหายห่างไปนาน
เอ็งก็เหอะ ตั๊ก เรื่องของข้ากับเอ็ง สุดท้ายก็เป็นได้แค่คนรู้จัก เพื่อนซี้ที่เอ็งเคยพูดถึง มันค่อย ๆ เลือนไปจากความคิดข้าแล้วหละ ข้าไม่เคยที่จะคิดหาความหมายของคำคำนี้เลย เพราะถึงยังไงข้าก็อาจจะไม่มีวันได้ตอบแทนความหมายนี้..มันคงลึกซึ้งเกินกว่าข้าจะเป็นคนค้นหาเพียงคนเดียว..เวลาที่มันเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ คงยิ่งทำให้เอ็งทิ้งความหลังลงเรื่อย ๆ บางสิ่งบางอย่างที่ข้าจดจำมาตลอดช่วงเวลาที่เราไม่เจอกัน ข้าคงไม่กล้าที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นถ้อยคำ เพราะข้าเอง คงไม่มีวันได้รับสิ่งนั้นตลอดชีวิต..ใช่ตลอดชีวิต ทั้งเอ็งและก็ข้า ก็โต ๆ กันมากแล้วนะ จะให้กลับไปเป็นกันเหมือนเดิมน่ะคงไม่ได้หรอก..แค่เราจะพอมีเวลาพบกันยังไม่มีเลย..ก็เลยไม่มีประโยชน์อะไรที่ข้าจะไปทวงถามสัญญาเหล่านั้น..ปล่อยให้เป็นความทรงจำที่ดีของข้าดีกว่า..
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะ..และก็ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกับข้า..
ขอบคุณที่รักข้า..ข้าก็รักเอ็ง
ขอบคุณเวลาที่ทำให้เอ็งกับข้าได้พบกันและจากกัน มันทำให้ข้าโตขึ้นมาก
ขอบคุณองค์การโทรศัพท์ที่ทำให้เราได้โทรคุยกัน
ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่เอ็งที่ทำให้เอ็งเกิดมา
ขอบคุณวินมอไซค์ ถนนหนทาง ที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย
ขอบคุณตัวหนังสือที่เอ็งเคยเขียนให้ข้า
ขอบคุณศูนย์ฝึก รด. ที่ทำให้รู้ว่าข้าขาดเพื่อนอย่างเอ็งไม่ได้
ขอบคุณกระโปรงของเอ็งด้วย มันเลอะมากเลยนะ
ขอบคุณท้องฟ้าที่ทำให้มีกลางวันกลางคืน
ขอบคุณความเหงา..มันทำให้ข้ารักเอ็งมากขึ้นทีเดียว
ขอบคุณทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นเรื่องร่าวระหว่างเอ็งกับข้า
และสุดท้าย
ขอบคุณรอยจูบนั้นด้วย..มันทำให้ชีวิตข้ารู้สึกอบอุ่นตราบทุกวันนี้..
และหวังว่าคงได้เจอเอ็งอีกนะ ตั๊ก..ต้องได้เจอกันแน่นอน..
13 กันยายน 2547 18:28 น.
พู่กันของหูกวาง
เคยมีคนบอกฉันว่า...คนที่ชอบมองพระจันทร์ เป็นคนขี้เหงา ...ฉันคนนึงด้วยมั๊ง ที่มีความรู้สึกเช่นนั้น..บางวันรู้สึกเหนื่อย ๆ ได้แหงนมองดูพระจันทร์ แสงสีนวลนั้น เหมือนกับจะบอกอะไรฉันสักอย่าง...ฉันพยายามหาความหมายของพระจันทร์...ใคร ๆ อาจหาว่าฉันเพ้อ ฉันไม่เต็ม ...ฉันรู้ตัวดี เพราะเหตุผลที่ฉันจำเป็นต้องหลุดจากวงจรชีวิตของคนบางคน มันทำให้ฉันเหงา...เหงาจนบอกเล่ากับใครไม่ได้ ดูเหมือนมันจะเป็นความรู้สึกที่ทุกคนก็เคยได้รับ...
มันเป็นความรัก...
ใช่...ความรัก หลายคนหาคำตอบให้กับความเหินห่างในความรักไม่ได้..ฉันเองก็ตอบไม่ได้..ฉันจึงมองพระจันทร์ ...มันคงกำลังบอกฉันว่า...
มันก็มีความรัก..แต่เป็นความรักที่หมายถึงการให้ ดูดวงดาวบนท้องฟ้าสิ มันมากกว่าจำนวนคนที่ฉันรักเป็นพัน ๆ เท่า มันถามฉันว่าเคยให้ความรักคนทุกคน เหมือนกับที่มันให้ความรักแก่ดาวทุกดวงหรือเปล่า...สิ่งที่เปลี่ยนไม่ใช่เขา หรือเธอ แต่มันเป็นเวลา...บางคืนมีเพียงพระจันทร์ดวงเดียว ...มันเหงาเหมือนกับคนเรานี่ล่ะ..แต่แสงพระจันทร์ก็ยังคงส่องเหมือนเดิม แม้ไม่มีดาวดวงใดเคียงข้าง
คงไม่ใช่เพราะ ไม่มีใครรักมัน มันเป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นต่างหาก ดวงดาวหายไปจากท้องฟ้า ใช่ว่าจะหายไปตลอดกาล..เช่นเดียวกับตัวฉันเอง...
วันที่ฉันเองรู้สึกว่าฉันไม่มีใคร วันที่ฉันรู้สึกว่าตัวฉันเหงา...มันเป็นเพียงเวลาช่วงนึงเท่านั้น ...ใช่ว่ามันจะต้องเหงาอย่างนี้ไปตลอด...
คนที่ฉันรักเอง ตอนนี้ เขาก็คงมีความรัก ไม่น้อยไปกว่าฉัน เพียงแต่ว่ารักนั้น ฉันไม่ใช่เป็นคนที่ได้รับ...ฉันควรมอบให้เขาไปทั้งใจใช่ไหมพระจันทร์..ฉันไม่ควรหึงหวงเวลาที่มันผ่านไปแล้วใช่ไหม...
สุดท้ายนี้..พระจันทร์คงจะบอกให้ฉันยอมรับกับความเป็นไปของความรู้สึก..สิ่งที่เปลี่ยนไป มันต้องมีสักอย่างที่ดีกับตัวเรา ...ฉันจะรอถึงวันนั้น..จะรอ
ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นพระจันทร์แล้ว มันคงหายลับไปในก้อนเมฆเพื่อร้องไห้ เพราะคืนนั้นไม่มีดาวสักดวง...ใจดีจังนะพระจันทร์ดวงนี้..เก็บความรุ้สึกดีจริง ๆ ฉันจะไม่อ่อนแอเหมือนเธอหรอก เพราะว่าฉันร้องไห้มาแล้ว..และตอนนี้ฉันก็กำลังจะไปนอน ตื่นมาวันพรุ่งนี้ จะไม่มีใครนอกจากฉัน จะไม่มีความรู้สึกใดนอกจากความสุข..
สุขที่เกิดมาเคยได้รัก...และเคยถูกรัก... แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วกระมัง..
คิดถึงนะ..คงสบายดี