6 มกราคม 2547 00:43 น.
พู่กันของหูกวาง
ไม่อยากพบเจอกับความผิดหวัง
มันช่างบั่นทองกำลังให้อ่อนล้า
ความผูกพัน...ที่ไม่อาจผันคืนมา
เหลือเพียงรอยน้ำตา...ให้ไว้จดจำ
แต่วันนี้...ที่มันหวนคืนมา
ความรู้สึกที่แสนอ่อนล้า...เจ็บช้ำ
รอยรักที่เคยร้าว...ได้เข้ามาในความทรงจำ
ตอกเข้า...และตอกย้ำ...ให้ปวดใจ
คนรัก...กับความรักที่ผิดหวัง
ไม่อาจกลับคืนมาจากรักร้างที่อ่อนไหว
เศษความรู้สึกที่เคยแตก...กลับมากระแทกใจ
ให้เจ็บปวด...ร้าวไหว เกินทานทน
ขอให้ผ่านพ้นวันนี้ไปเสียที
ความรู้สึกที่อยากหลบหนี...ไปให้พ้น
รักที่ไม่อาจเข้ากันได้...กับใจคนหนึ่งคน
จึงขอให้วันนี้ผ่านพ้น...แต่โดยไว
อยากกลับมาเสียน้ำตา
ปลดเปลื้องความอ่อนล้า...ให้รักหมดความหมาย
พอกันวันนี้...รักที่มีมันไม่ปลอบใจ
กลับเป็นมีดแหลมแทงเข้าไป...เจ็บเสียดแทบขาดใจ...^^^เพราะรักเธอ^^^
6 มกราคม 2547 00:25 น.
พู่กันของหูกวาง
ดวงดาวยามค่ำคืน
ล้วนหลากร้อยลอยเลื่อนเกลื่อนท้องฟ้า
ระยิบระยับจับแสงแห่งจันทรา
ที่เด่นดวงบนนภาเพียงหนึ่งจันทร์
จันทร์เจ้าเอย...เจ้าส่องแสง
ในค่ำขึ้นน้ำค้างแรงไม่เปลี่ยนผัน
ยังคงอยู่เพียงหนึ่งเดียวทุกคืนวัน
ส่วนฉันเป็นเพียงหนึ่งในนั้น...ของหมู่ดาว
หมู่ดาวนับแสนล้าน
ต่างระยิบแข่งขันภายใต้เมฆขาว
บ้างกระพริบลิบล่องส่องสกาว
ลาดลิ่วส่องทิวยาว...ตามสายทาง
หนึ่งดวงดาวที่แอบรักพระจันทร์
เข้าใจความใฝ่ฝัน...คงแสนไกลห่าง
ส่องแสงริบหรี่...เลือนลาง
ไม่อาจแข่งกับดาวแห่งฟ้ากว้าง...อย่างสมใจ
จึงได้เพียงเฝ้าฝัน
ดาวน้อย...คอยพระจันทร์อย่างหวั่นไหว
เคลื่อนคล้อยมาเสัยที...มาใกล้-ใกล้ใจ
เพียงดาวดวงนี้อยากได้สัมผัสอุ่นไอ...ของจันทรา
ความรักจากหนึ่งในร้อยพัน
ดาวดวงนี้เข้าใจว่าพระจันทร์...คงไม่อาจเห็นค่า
ยังมีดวงดาวงดงามอีกมากมายให้อยู่ในสายตา
ไม่อาจเป็นดาวน้อยไร้ค่า...อย่างเรา
ได้แต่ร้องไห้กับท้องฟ้า
เราเองคงเป็นดาวบนนภา...ที่แสนโง่เขลา
รักนี้...ไม่อาจยินดีให้กับดาวน้อย-น้อยอย่างเรา
โดดเดี่ยวกลางเวหาหาว...เพียงลำพัง
จะกี่วันคืนที่พ้นผ่าน
หรือกี่วันวาน...ที่ดวงดาวยังหวัง
ทุกค่ำคืน...ดาวน้อยสะอื้นอยู่ในภวังค์
เป็นดวงดาวที่อ้างว้าง...ข้าง-ข้างผืนดิน
ตราบฟ้าดินจะลับลา
ตราบเวหาจะมลายสิ้น
ตราบดาวดวงนี้ยังไม่หล่นลงบนดิน
ตราบใดจันทร์ต้องการน้ำใจที่ไหลริน...ดาวน้อยพลัดถิ่น...^^^ยินดี^^^
6 มกราคม 2547 00:07 น.
พู่กันของหูกวาง
เพียงได้พบ...ความรัก...ที่หนักหน่วง
เพียงได้พบ...คำลวง...ที่หลอกหลอน
เพียงได้พบ...สบพักตร์...รักอมร
เพียงได้ซ่อน...ความนัย...ไว้ในทรวง
แสนเหน็ดเหนื่อย...แสนหนัก...จักพักผ่อน
มีเร่าร้อน...เรื่อยมา...ว่าหึงหวง
รักนี่เอง...บรรเลงมา...ว่าหลอกลวง
จึงช้ำช่วง...ชอกเจ็บ...เหน็บกายา
เพียงผ่านวัน...วันนี้...ก็ดีนัก
เพียงได้พัก...ผ่อนความรัก...ที่หนักหนา
เพียงพ้นรัก...พักนี้...ที่พบมา
เพียงเท่านี้...ก็ดีกว่า...อยู่เป็น...ก ข ค
5 มกราคม 2547 00:07 น.
พู่กันของหูกวาง
PipPins song : a tribute to faramir
Home is behind...
The world ahead...
And there are many paths to tread
Through shadow
To the edge of night...
Until the stars are all alight
Mist and shadow
Cloud and shade
All shall fade
All shallfade
*************************************************************
(บทเพลงของพิพพิน : คำสรรเสริญแด่ ฟาราเมียร์)
(จากบ้านเดินทาง...............) ได้จากบ้าน...ภูมิหลัง...ยังเดินทาง
(โลกกว้างคือจุดหมาย.........) ให้โลกกว้าง...ข้างหน้า...ว่าจุดหมาย
(เส้นทางร้อยสาย................) เส้นทางยาว...ท้าให้เรา...ต้องก้าวไป
(ท้าทายให้ลอง....................) นับร้อยสาย...แต่ละเส้น...ให้เห็นลอง
(ผ่านเงาเทาหม่น................) ผ่านพ้นเงา...เทามืด...ในคืนหม่น
(จนล่วงราตรี......................) ราตรีล้น...จนล่วงลับ...ดับแสงส่อง
(ดาวพร่างรัศมี...................) ดาวพรายพร่าง...ร่างรัศมี...มีครรลอง
(ทาบฟ้าทอประกาย.............) ทาบทิวท่อง...ส่องประกาย...ไปทั่วนภา
(หมอกทึบเงาทึม.................) เมฆหมอกเงา...ทับทึม...ครึ้มมืดมิด
(เมฆครึ้มเลือนหาย.............) เงาปกปิด...เลือนล่อง...ทั่วท้องฟ้า
(มืดหมองคลี่คลาย...............) เมื่อใดเล่า...เงาสลาย...คลายมนตรา
(อุปสรรคจักมลาย...สลายไป) อุปสรรค...จักถอยล่า...หายหน้าไป
4 มกราคม 2547 23:49 น.
พู่กันของหูกวาง
ฮู้ย...มึงปัญญาอ่อน
(ขออภัยไว่ ณ ที่นี้ ที่ต้องใช้คำโบราณ แต่ผมว่าได้อารมณ์มากกว่า ฮู้ย...เธอปัญญาอ่อน โขเลยครับ...คำอื่น ๆ ด้วยนะครับ)
ยามฉันเข้าไปหาทุกตอน...แล้วเพื่อนพูดกับฉัน
รู้ดีว่ามันไร้สาระ...มากกว่าปล่อย-ปล่อย ไปวัน-วัน
แต่แค่ต้องการให้เหมือนที่ผ่านมา
แต่เพื่อนใหม่ของฉัน
คงรู้นิสัยกัน...ว่าฉันมันไม่น่าคบหา
อารมณ์ไม่คงที่อย่างฉัน...ใครจะดึงดันเข้ามา
เดี๋ยวก็โดนฉันตะคอกว่า...จนถอยห่างไป
เพื่อนสนิทที่ฉันรัก
ก็กำลังเห็นสนิทหนักกับคนไหน-ไหน
จนฉันเอง รู้สึกน้อยใจมากมาย
จะบอกให้เพื่อนรู้ไป...เดี๋ยวก็หาว่าน่ารำคาญ
สำนึกผิดตอนนี้จะดีไหม
รู้ว่าอีกไม่กี่เดือนถัดไป...คงไม่มีผล
อยากแค่เพียงค้นหาเพื่อนที่ดีสักคน
ไว้ห่วงใยยามไร้คน...มาสนใจ
เพื่อนใหม่คงไม่ยอมรับ
คงเข็ดหลาบกับน้ำเสียงที่มอบให้
...*กูไม่เอาแล้วไอ้บ้านี่*...เลยคิดจะไม่คบต่อไป
ปล่อยให้ฉันงมงาย...กับความเงียบงัน
เขี่ยให้คนโน้น...ปัดให้คนนี้
...*เนี่ย...มึงไปถามคนนั้นสิ*...ที่เพื่อนบอกกับฉัน
มันหมายความว่าไง...ที่เพื่อนไม่อยากคุยกัน
หรือเบื่อที่ต้องทนรำคาญ...เพราะฉันนิสัยไม่ดี
ในยามที่ล้มลุกคลุกคลาน
อยากให้เพื่อนช่วยโอบดุ้มกันบ้างได้ไหม
รู้อย่างดี...ว่าเห็นแก่ตัวเกินไป
แต่อยากให้ดพื่อนอภัยได้ไหม...ช่วยมาพูดกัน
จงอย่าคิดว่าตลอดเวลา
ฉันคือเจ้าหนี้ที่เพื่อนต้องหามาชดใช้ฉัน
รู้บ้างไหม...ฉันไม่เคยคิดทวงคืนสักวัน
แม้ว่าบางคั้งจะหุนหัน...เวลาให้ไป
เพราะมีบางทีที่ฉันลำบาก
แต่รู้ว่าเพื่อนลำบากกว่า...จึงหาเอาไว้ให้
แต่ได้แค่นั้น...ฉันเลยไม่พอใจ
เพราะที่แล้วมาเพือนก็ไม่เคยทำให้ต้องกลุ้มใจสักวัน
หากหนี้สินทั้งหมด
จะช่วยปลดความเหินห่างของเพื่อนกับฉัน
อยู่กับแบบไร้บุญคุณซึ่งกันและกัน
ถ้าเป็นอย่างนั้น...จะยกหนี้ให้หมดเลย
อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาาาา...
ก็อย่างว่านิสัยเพื่อนฉัน
อย่าคิดนะว่าจะเจ๊ากัน
พูดเล่นต่างหากเพราะมัน...มากเกินไป
เพื่อนฉันที่มีตลอดหลายปี
คงมีเพื่อนที่แสนดี...คือเพื่อนเท่านั้น
อาจจะมีบ้างที่มีใครรู้สึกผูกพันกัน
แต่เพื่อนคือคนที่ทำให้ฉัน...ได้รู้จักใคร-ใคร
คิดนิด-นิด ว่าจะกลับมาสนิทกับเพื่อน
แต่สิ่งหนึ่งที่คอยเตือนอยู่เสมอ
อารมณ์รุนแรงของฉัน...ไม่ต้องการให้ใครพบเจอ
เป็นตัวของตัวเองอย่างที่เพื่อนเกลอ...เคยแนะนำ
อ่านจบแล้วมีอะไรจะบอกไหม
รู้ว่าน้ำเน่าเกินไปสำหรับความเป็นเพื่อน
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันลบเลือน
คือความทรงจำที่ย้ำเตือน...^^^*-*ว่าฉันก็เคยมีเพื่อนที่ดี*-*^^^...