ดารารายพรายแสงในดวงใจ ลอยไสวส่องสว่างนำทางฝัน ประดับใจงามเกินใดมหัศจรรย์ ราวสวรรค์แย้มเยือนในเรือนรัก ในนิมิตประดุจทิพย์วิมาน บัวบานเต็มบึงซึ้งสลัก ผลิช่อหอมพรายมาทายทัก จากกอภักดิ์หลากสีมณีพรรณราย กระท่อมไพรในร่มไม้ริมธารทอง เรือลอยล่องท่องมหานทีสาย วะวิบวับสะท้อนรับดอกแดดพราย ในเวิ้งว่ายเรียวรุ้งแสงตะวัน เอนหลังฟังสายน้ำระริกไหล ท่ามพงไพรพนานิทราฝัน เทพีไพรหว่านหวานน้ำผึ้งจันทร์ ประโลมขวัญปลุกชีพชื่นลืมคืนแรม....! .................................
บทกวีจะดีงามหรือไม่วัดที่ใจสิที่รัก ให้ทายทักโลกหล้าฝากอ่อนหวาน ปลายปากกาใช่อาวุธมาประจาน อยากประหัตประหารไปลงเวบการเมือง ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองดั่งผองมิตร มาแนบชิดสนิทใกล้ระบายเรื่อง มารัดร้อยสร้อยขวัญมลังเมลือง เสียเวลาเปล่าเปลืองมุ่งร้ายใด ใจมิหมองน้องพี่ร่วมแผ่นดิน ร่วมชีวินร่มรัตน์ฉัตรไสว คุ้มขวัญเกล้าเลิกรานร้าวนะดวงใจ เจ้ารู้ไหมเราโชคดีที่เกิดมา ใต้ขวัญหล้าพสุธางามสงบ ได้พานพบเสรีที่ปรารถนา ได้พบรักในร่มรัตนโกสินทร์กษัตรา ได้รู้ค่าชีพหนึ่งนี้ที่มีกัน กุมมือมั่นสมานฉันท์สามัคคี ก่อนชีพนี้จักสิ้นแสงแห่งสายฝัน กราบผืนดินแม่มาตุภูมิเอื้อโอบปัน เป็นนิรันดร์จำไว้ก่อนสายเกิน...! ..................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3685.html รัตนโกสินทร์ รัตนโกสินทร์ คือแผ่นดิน ที่หล่อหลอม หัวใจ ร้อยความรัก รวมผู้คน มากมาย อาศัย อยู่ร่วมชายคา เชื้อชาติไหน ก็พี่น้อง ล้วนพวกพ้อง ข้องเกี่ยวนาน เนิ่นมา ทุกชีวิตมีสุขใจ ใต้ฟ้า ใต้บารมี จักรีวงศ์ และเมื่อความรัก ของเราเกิดขึ้น จากดวงใจสองดวง ที่ซื่อตรง บนแผ่นดิน แห่งความรัก ด้วยศรัทธาที่มั่นคง รักย่อมยืนยง ตลอดไป ขอแค่มี เธอกับฉัน และมีรัก ที่ผูกพันหัวใจ ก็สุขแล้วบนแผ่นดิน กว้างไกล แห่งรัตนโกสินทร์ และเมื่อความรัก ของเราเกิดขึ้น จากดวงใจสองดวง ที่ซื่อตรง บนแผ่นดิน แห่งความรัก ด้วยศรัทธาที่มั่นคง รักย่อมยืนยง ตลอดไป ขอแค่มี เธอกับฉัน และมีรัก ที่ผูกพันหัวใจ ก็สุขแล้วบนแผ่นดิน กว้างไกล แห่งรัตนโกสินทร์... ......................................................................... บนแผ่นดิน..รัก..รัตนโกสินทร์..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3685.html บทเพลงรัตนโกสินทร์ แสงเดือนคืนเพ็ญพูนดวงกระจ่างฟ้า แลกำลังพร่างสายทอแสงแสนหวาน.. หว่านลงมาอาบหล้า ไล้ร่างนวล ที่กอดตระกองประคองเคียง ด้วยร่างสุภาพบุรุษผิวสีทองแดงบนเตียงนุ่ม ด้วยเครื่องนอนหมอนม่านมุ้งสีขาว... ละอองละออหยาดน้ำค้างกำลังระรินระริน กลมกลิ้งลงมาราวเพชรพราว สู่ใบบัวกลางบึงกว้าง... อย่างมิร้างแรมรัก ในทุกราตรี..ริมเรือนไทย ริมหมอน.. มาลัยมะลิลา..มาลาสร้อยที่ร้อยรัด ถักทอด้วยดวงดอกรักเป็นพวงภักดิ์อุบะ ระย้าย้อยพร้อยพรรณราย ด้วยดวงดอกกระดังงา จนแปรกลายเป็นหอมอวล มาให้นวลอารมณ์ดายเดียวล้ำลึก ในยามดึกน้ำค้างพรม ที่.. ลมก็ยังระบัดพัดโบก มาอย่างแผ่วเบา..ปลอบประโลม... เธอ...จึงค่อยๆลืมตาอย่างช้าช้า พร้อมนัยน์ตารานโศกหวานเศร้า เมื่อยามกระทบเข้ากับ แสงสะท้อนจากนวลจันทรา และมวลหมู่ดวงดารา ที่กำลัง.. กระพริบระยิบระยับราวกับปรายโปรยด้วย เพชรจรัสจนเกิดประกายรัศมี สีรุ้งพุ่งพรายฉายฉาน จาก.. ดารารายเรียงดวงนับพัน ในว่ายเวิ้งฝันอนันตกาลกาแลคซี่ ดอกไม้ไทยหวานตระลบมา ในราตรี ที่ยังได้ยินเสียง ดุเหว่าแว่วแผ่วครวญหวนไห้ เรไรร่ำ อวลอากาศยังสดฉ่ำหากแสนเยียบเย็น บทเพลงแห่งภักดิ์ ถูกขับขานด้วยพลังจากน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึก ฝากความรู้สึกซาบซึ้งตรึงตรา สลักค่ามาจากดวงจิตภักดี ที่.. พร้อมพลีมอบให้ *แด่ หญิงเดียว..หนึ่งในดวงใจ* ที่เขาเทิดทูนศรัทธาบูชา จริงใจ มากค่าเกินกว่าปรารถนาใด.. ปานประหนึ่งคือ *ปาฏิหารย์รักมหัศจรรย์ฝัน อันแสนยิ่งใหญ่ จากเทพไท้แห่งสวรรค์สรรส่งลงมากำนัล ให้เขานั้นได้พบ แล้วเคียงคู่ครอบครอง เป็นเจ้าของไปตราบชั่วนิจนิรันดร http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3685.html รัตนโกสินทร์ รัตนโกสินทร์ คือแผ่นดิน ที่หล่อหลอม หัวใจ ร้อยความรัก รวมผู้คน มากมาย อาศัย อยู่ร่วมชายคา เชื้อชาติไหน ก็พี่น้อง ล้วนพวกพ้อง ข้องเกี่ยวนาน เนิ่นมา ทุกชีวิตมีสุขใจ ใต้ฟ้า ใต้บารมี จักรีวงศ์ และเมื่อความรัก ของเราเกิดขึ้น จากดวงใจสองดวง ที่ซื่อตรง บนแผ่นดิน แห่งความรัก ด้วยศรัทธาที่มั่นคง รักย่อมยืนยง ตลอดไป ขอแค่มี เธอกับฉัน และมีรัก ที่ผูกพันหัวใจ ก็สุขแล้วบนแผ่นดิน กว้างไกล แห่งรัตนโกสินทร์ และเมื่อความรัก ของเราเกิดขึ้น จากดวงใจสองดวง ที่ซื่อตรง บนแผ่นดิน แห่งความรัก ด้วยศรัทธาที่มั่นคง รักย่อมยืนยง ตลอดไป ขอแค่มี เธอกับฉัน และมีรัก ที่ผูกพันหัวใจ ก็สุขแล้วบนแผ่นดิน กว้างไกล แห่งรัตนโกสินทร์... เธอ..จึงลืมตาตื่นมาอย่างช้าๆ ราวแสงแห่งนวลจันทรา คอยไล้ลูบ..ปลุก ให้ลุกขึ้นเหลือบแลไปยัง.. เขา..คนดี.. *สุภาพบุรุษชายชาตรีผิวสีทองแดง* กำลังหลับสนิทในนิทรา.. อย่างแสนสุขเสมอใจ ใน... ท่ามแสงเทียนทอกระทบจนเกิดเงา ให้ใบหน้าดูงามสงบ ราวรูปสลักนักรบโบราณ ที่ผ่านการกรำศึกมาอย่างโชกโชน... เขา...กลับคืนเรือนมา หลังรอนแรมราวนกไพรพเนจร มาให้เธอกอดตระกองในอ้อมตักอ้อมใจ ให้ดวงดอกไม้ไทย รายรอบเรือนรักปลอบประโลม พร้อมพลีให้เขาเองเฝ้าดอมดมพรมจูบ ทุกนวลตารางนิ้ว แห่งร่างงามของนางในดวงใจ อย่างทะนุถนอม... หอม หอม หอม อย่างมิรู้เบื่อ.. พลางเพื่อรำพึงรำพันกระซิบสั่ง ดั่งคำมั่นสัญญา... ว่า *ตราบจนชั่วฟ้าดินสลาย มีเพียงความตายเท่านั้น จะมาพรากจากสองดวงจิต ที่ดั่ง.. *หลอมรวมชีวิตเป็นหนึ่งเดียวตราบชั่วกาล* และ.. ทุกคำมั่น.. มิใช่เฉกเช่นดั่งคำหวานอันดาดดื่น หากคือคำอธิษฐานสัจจวาจา ที่ล้ำเลอค่าเกินกว่าผู้ใดจะล่วงรู้ นอกจาก.. ฟ้าดินอินทร์พรหม เท่านั้น ที่.. คงพร้อมอวยชัยแลรับรู้ ในพลังแห่งรักอันยิ่งใหญ่งดงามนี้ ที่เกินกว่าจะมีสิ่งใดจะขวางกั้น นอกจากสวรรค์จักร่วมสรรส่งให้กำลังใจ.. พร้อมอวยชัยเมตตาประทานพร ให้เขา.. *สุภาพบุรุษชายชาติอาชาไนย ลูกผู้ชายชาติไทยหัวใจกล้าแกร่งเหี้ยมหาญ ที่ยอมหมายพลีร่างจิตดวงชีวิตแลวิญญาณ เพื่อ.. ปกบ้านป้องเมือง ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ยอมตาย.. อย่างหาญกล้าในหน้าที่.... ที่จักพลีแม้นหยาดเลือดหยดสุดท้าย เพื่อทาแผ่นดิน..รักษาแผ่นดิน มิให้โบยบินสิ้นอิสรา ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของชาติใด ที่คิดไม่ซื่อ หวังยื่นมือเข้ามายึดถือครอบครอง เขา..กระซิบ บอกเล่า ให้เธอคนดี ที่เขาพลีใจได้พลอยร่วมรับรู้ ถึงชะตากรรมบ้านเมือง ที่กำลังเกิดการแตกแยกสามัคคี มีเพียงหวังอยากได้อำนาจ มากอบโกยกินชาติ อย่างแสนชาญฉลาด..อย่างแยบยล จนเสียหายนับหมื่นล้าน เสมือน*โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ* ที่คนไทยภูมิใจได้ไม่นานก็ต้องอัปยศ และ... พลอยให้โลกทั้งโลก ร่วมรานโศกสลดใจ ไปกับความน่าอดสูนี้ ที่คนไทยไม่เคยตระหนักชัด ว่า... ได้สร้างความวิบัติ ให้แก่ชาติบ้านเมือง อย่างมิน่าให้อภัย ด้วย การทำลายความเชื่อถือให้หมดสิ้นไป จากสังคมชาวโลกนานาอารยะ ที่อยากจะมาร่วมค้าขายลงทุน เมื่อ.. ชาติไทยเรานี้ มีเพียงกรุ่นกลิ่นแห่งความคอรัปชั่น กันไปทุกหัวระแหง แถมบ้านเมืองยังไม่สงบด้วยรบกันเอง บรรเลงกันในแผ่นดิน ที่ให้ข้าวให้น้ำมานานเนิ่นจนเกินนับ จนเกิน.. จักคิดแบ่งแยกด้วยคำว่าชาติศาสนาใด นอกจาก..เพียง มีหน้าที่สำนึกถึง พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน ที่ได้ฝากชีวินมาตราบจนถึงรุ่นลูกหลาน... และ.. หวังนานเนาจนถึงรุ่นเหลนโหลนในภายหน้า ใช่หันมาฆ่าแกงกันเอง บรรเลงเพลงกรรม ใส่ผู้บริสุทธิ์ แล้ว... หวังฤาว่าจะหยุดโลกให้เลิกแล้งไร้ร้อนระอุ ปะทุด้วยควันปืนและไฟสงครามได้ นอกจาก.. ต้องสังเวย ชดใช้บาปกรรม..ตายตกตามตามกันไป อย่างน่าวิปโยคโศกสะเทือนใจจนสุดทน เขา...กลับมาบอกเล่า ส่งข่าว... ให้เธอได้ตระหนักชัด ถึงความวิบัติจากการทำลาย ด้วยเงื้อมมือมวลมนุษย์ ที่.. แสนโหดร้ายหมายเพียงฆ่าฟัน ห้ำหั่น แบ่งแยกอย่างไร้มนุษยธรรม คงจะยังโศกาจาบัลย์ไม่พอ..จากภัยธรรมชาติ คงจะยังซาบซึ้งไม่พอถึงบทเรียนทุกข์เทวษ ที่ไร้แท้เที่ยง... กับความแปรเปลี่ยนที่โลกยากจะเลี่ยงหลบ นอกจาก.. รอพบจุดจบพรากจากกันไปทีละมากๆ กวาดล้างให้สิ้นซากแห่งความมืดดำ ให้อธรรม หมดสิ้นไป จาก.. ผืนดินทอง แผ่นดินไท แผ่นดินรัตนธรรม แผ่นดินพุทธภูมิ ที่มี.. องค์พระบรมศาสดาเป็นดั่งฉัตรเพชรกางกั้น มีองค์ในหลวงเป็นพระประมุขแก้ว.. แสนงามล้ำ เป็นที่พึ่งทางใจ.. ไปตราบชั่วลมหายใจแสนสั้น..จักสิ้น.... เขา..จึงกลับมา..คืนเรือนให้เธอรับขวัญ และ.. ปันแบ่งความรักภักดี ที่จักพลีให้แก่กันและกัน อย่าง...ผู้รู้เท่าทันความเป็นชีวิต ที่จักมีมรณานุสติสถิต..รอ..เป็นเที่ยงแท้ และ..อย่างแน่นอน ยากหนีพ้น เขากอดเธอแนบแน่นเท่าแรงรัก ด้วยอ้อมแขนชายชาตินักรบ ที่หวัง.. จักสยบให้โลกร่มเย็นเป็นสุขเงียบงาม ในท่ามวิถีไทยแบบชาวพุทธ ผู้รักความสมถะพอเพียง ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร..ศรัทธา ใต้ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ที่ยังคงมี..เรียวรวงไสว ข้าวกล้าที่สุกปลั่งระย้าย้อย คอยหล่อเลี้ยงให้ทุกชีวีในแผ่นดินทองนี้ ได้มีกินอิ่มท้อง ได้คิดปองหมายมาด สร้างสรรทำความดี ก่อน.. ชีวีจะสิ้นในท่ามตะวันโศกโลกแสนงามสงบนี้... ............... และ... กับราตรีนี้.. ที่โลก ยังคงหมุนไป..หมุนไป..อย่างไม่หยุดยั้ง ในท่ามราตรีเพ็ญที่ยังแสนงาม ในท่ามแสงจันทรา ดวงดาราราย พรายแสงกระพริบวะวิบวับวะวาววาม ในท่ามแสงเทียนทองทอดทอ เบื้องหน้า พระพักตร์พระพุทธในโบสถ์คร่ำทุกหนแห่ง ท่ามกลิ่นระร่ำรินของดวงดอกไม้ไทย ท่ามกลาง.. ความหวานไหวของเงาแมกไม้ในสายน้ำนิรันดร์ เขาและเธอ.. ขอเพียง...ได้เคียงครองคู่กัน อยู่กับคู่ขวัญแม่ยอดรักยอดดวงหฤทัย และ... จักมิยอมพ่ายเลิกอธิษฐานใจ เพียรทำความดี พลีให้โลกนี้ก่อนชีวีวาย ฝากไว้..ให้กับ..*แผ่นดินแห่งรักนี้* ที่ชื่อ. รัตนโกสินทร์ อัน.. หมายถึงแผ่นดินแม่.... แผ่นดินเกิด.... แผ่นดินที่ล้ำเลอเลิศ ที่ทำให้เธอและเขาได้หยัดยืนอย่างทรนง คงมั่นมาอย่างแสนสุขช้านาน ได้รู้ซึ้งถึงค่าคำว่า *รักแท้นิรันดร์เป็นเฉกเช่นฉันท์ใด* แค่นั้น..ก็ แสนยิ่งใหญ่ เกินค่ากว่าสิ่งใด..ในชาติหนึ่งนี้..ชีวิตหนึ่งนี้...แล้ว!!!!! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3740.html เพื่อรักเธอ ฟ้า เกิดมาเพื่อดาว เมฆบางและเบา ล่องลอยคู่สายลม เหมือน สร้างมาเพื่อชื่น ชม ซึ่งกันและกัน คู่กันเรื่อยมา ขาว ก็มีสีดำ ทะเลสีคราม เกิดมาเพื่อฝูงปลา หลาย สิ่งดูสวยงามจับตา นั่นเป็นเพราะว่า เกิดมาคู่กัน และฉัน เกิดมาเพื่อเธอ เพื่อมีความรัก ให้เธอ เท่านั้น สิ่งที่เธอสุขใจ หากเป็นสิ่งที่ฉัน ทำได้ ย่อมทำให้เธอ ฟ้า เกิดมาคู่ดาว ยังเพียงชั่วคราว ค่ำคืนจึงพบเจอ แต่ฉัน เกิดมาเพื่อเธอ เพื่อจะรักเธอ ตลอดเวลา และฉัน เกิดมาเพื่อเธอ เพื่อมีความรัก ให้เธอ เท่านั้น สิ่งที่เธอสุขใจ หากเป็นสิ่งที่ฉัน ทำได้ ย่อมทำให้เธอ ฟ้า เกิดมาคู่ดาว ยังเพียงชั่วคราว ค่ำคืนจึงพบเจอ แต่ฉัน เกิดมาเพื่อเธอ เพื่อจะรักเธอ ตลอดเวลา...
กระซิบกับปรอยฝนที่หล่นร่วง กับพราวดวงดอกไม้ในคืนหวาน ราตรีนี้หัวใจขวัญเบ่งบาน เหมือนสายธารแห่งรักถักทอใจ สวัสดีดวงใจในความฝัน ทุกคืนวันเคียงใกล้ใช่หรือไม่ สะพานฝันวันของเราวิมานไพร ดอกหญ้าไสวในสายลมห่มทายทัก หอมแก้มเธอซ้ำซ้ำแทนคิดถึง ฝากตราตรึงซึ้งใจให้ประจักษ์ แทนขอบคุณมากมายนะที่รัก แทนจิตภักดิ์ดวงนี้พลีเพื่อเธอ บทกวีจากดวงใจอรชรแสนอ่อนหวาน ลบโลกรานเลือนแล้งสนองเสนอ อาจมิใช่บทกวีที่เลิศเลอ สำหรับเธอคงล้ำค่ากว่าสิ่งใด..! ..................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2889.html ทาสรัก พี่รู้สึกตัวเมื่อสายเสียแล้ว ปักใจแน่แน่ว รักแต่เธอหลงแต่เธอ ตกเป็นทาสสวาท จนพร่ำเพ้อ ลุ่มหลงแต่เธอผู้เดียว รักเดียว จะคิดหักใจให้ลืมเคยรัก ลืมใจเคยภักดิ์ไม่รักเธอ เลิกรัก เทียว ตัดใจรักไม่ขาด ประหลาดจริงเจียว ไยรักยึดเหนี่ยว รักจริงเจียว รักจริงใจ ถ้าพี่รู้ว่าเธอนั้นมีเจ้าของ จะไม่ปองซ้ำสองเป็นรองใคร พี่มารู้โฉมตรู นั้นมีคู่ใจ แล้วยังมาหลอกพี่ใย ให้หลงไหลละเมอ พี่รู้สึกตัว ก็สุดจะฝืน ถอนใจไม่ขึ้น รักแต่เธอ หลงแค่เธอ ตกเป็นทาสสวาทใต้เบื้องบาทเธอ ลุ่มหลงรักเก้อ เพราะรักเธอถึง ระทม ถ้าพี่รู้ว่าเธอนั้นมีเจ้าของ จะไม่ปองซ้ำสองเป็นรองใคร พี่มารู้โฉมตรู นั้นมีคู่ใจ แล้วยังมาหลอกพี่ใย ให้หลงไหลละเมอ พี่รู้สึกตัว ก็สุดจะฝืน ถอนใจไม่ขึ้น รักแต่เธอ หลงแต่เธอ ตกเป็นทาสสวาทใต้เบื้องบาทเธอ ลุ่มหลงรักเก้อ เพราะรักเธอถึง ระทม...
พิเศษพิสุทธิ์ แด่.. น้องอนงนางค์ และ น้องปรางทิพย์..ในสายใจของพี่พุดไพร ............................ ทิวาหวามรับขวัญเริ่มวันใหม่ ประโลมใจให้งามไปตามฝัน ฝึกลมหายใจอยู่กับปัจจุบัน อัศจรรย์พบว่างกระจ่างใจ ไม่ปวดร้าวเศร้าหมองครรลองโลกย์ ที่หมุนโศกหมุนเศร้าหนาวแค่ไหน รู้ประคองจิตงดงามท่ามเป็นไป ไม่หวั่นไหวอดีตลับมิกลับคืน เพราะคืนวันล่วงลาหาไม่แล้ว ราวดอกแก้วร่วงพราวลงพรายพื้น ชีพชนม์สั้นฝันมายาใช่ยาวยืน เพียงหยิบยื่นไมตรีมีเมตตา รักคือสิ่งงดงามท่ามโลกแล้ง ประดุจแสงอาทิตย์ส่องสู่หล้า เสมือนจันทร์ดวงงามบนนภา ให้ไขว่คว้าสร้างสรรดีพลีแด่ชน...! ................................ พุดพัดชา...มีความสุขทุกวัน ไม่ได้บอกดอกนะว่า.. ในเวิ้งวันนั้นจะไม่พบทุกข์ หาก.. ซึ้งกำซาบใจดีว่า โลกนี้หมุนไปเป็นธรรมดาเช่นนั้นเอง มีสุขย่อมมีทุกข์ จึ่งยอมรับได้ ในทุกอารมณ์ผัสสะ ที่มากระทบ ไม่ว่ารานร้าวเศร้าหมองฤาสุขล้นปรี่ ใจดวงนี้มีเพียงประคับประคอง ให้รู้ทันเท่าหนาวโลกย์อย่างเข้าใจ คนดี... ชีวิตนี้คือนวนิยายคล้ายเช่นนั้น ชีพประดุจดั่งฝันมิเสแสร้ง บางบทมิใช่รับอยากแสดง พรหมมิได้แกล้ง สวรรค์มิได้ปิดจิตดวงเดิม ...! ชีวิตนี้...จึ่งคิดดีคิดให้ไมตรีรัก หยาดน้ำค้างภักดิ์หยาดน้ำค้างใจ หากจะกระซิบบอกภักดิ์รักบางใคร นั่นหมายถึง... ความเข้าใจ อยากให้ทุกดวงใจ แลโลกโศกสุข..นี้ อย่างเห็นอกเห็นใจ อภัยเมตตาอย่างไร้คำพิพากษากันและกัน จง... โอบเอื้อฝันปันดีพลีให้ เพราะ.. เมื่อสิ้นไร้ร่างแลลมหายใจ .. จักไม่ได้กล่าวคำว่า.. *เสียใจ..เพราะสายเกิน...!!* http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html หยาดเพชร เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า ร่วง มา จากฟ้า หรือไร หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้ หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์ มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่ หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส แม้นอยู่ใน ความ มืด มน แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์ มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่ หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส แม้นอยู่ใน ความ มืด มน...
เช้าชื่นตื่นมาด้วยเสียงฝน พร่างหยาดหล่นบนใบไม้ใกล้หน้าต่าง หอมจำปีคลี่กลีบหวานในเรื่อราง จิตกระจ่างรับอรุณละมุนละไม เสียงนกเขาตัวเดิมยังขันคู คงไร้คู่ครวญหาว่าอยู่ไหน อยากกระซิบบอกไปว่าอยู่ในใจ เจ้าจะร่ำไปไยใจรักจริง วิมานดินวันนี้มีความรัก มาทายทักมวลแมกไม้สรรพสิ่ง รายรอบเรือนเงียบงามในความนิ่ง เห็นก้านกิ่งดวงดอกแก้วในแวววัน ยิ้มหวานหวานรับขวัญลืมรานโศก วิบากโลกลาเลือนเสมือนฝัน ทำสิ่งดีพลีให้เธอเอื้อโอบปัน สร้างสวรรค์ ณ กลางใจไยต้องรอ...! ........................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3216.html สวรรค์ปิด โอ้ยอดรักอย่าจากพี่ไป โปรดอภัยที่ร้ายเธอก่อน หากความรักอยู่นิรันดร ห่วงอาวรณ์รักเธอไม่คลาย สุดที่รักโปรดหวลคืนมา โปรดคืนมาสร้างชีวิตใหม่ เรื่องที่แล้วโปรดคิดอภัย อย่าห่างไกลคิดไปจากจร เธอจากไปแสนไกลห่าง สุดอ้างว้างและเดียวดาย โอ้สวรรค์นั้นคงหน่าย ชีวิตวายเมื่อเราจากกัน เธอจากไปแสนไกลห่าง สุดอ้างว้างและเดียวดาย โอ้สวรรค์นั้นคงหน่าย ชีวิตวายเมื่อเราจากกัน ดนตรี เธอจากไปแสนไกลห่าง สุดอ้างว้างและเดียวดาย โอ้สวรรค์นั้นคงหน่าย ชีวิตวายเมื่อเราจากกัน เธอจากไปแสนไกลห่าง สุดอ้างว้างและเดียวดาย โอ้สวรรค์นั้นคงหน่าย ชีวิตวายเมื่อเราจากกัน...