จากความซาบซึ้งใจในทุกหยาดน้ำค้างใจ ที่พรมพร่างให้แด่สองเราค่ะ .................. คุณอิม คุณอัลมิตรา เคยให้เกียรติเราทั้งคู่ เรียก พุดพัดชา กับลำน้ำน่าน กระวีกระวาดในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง แห่งผองเรามาอย่างซื่อตรงคงมั่นมายาวนานนัก ว่า.. *บุรุษแห่งสายธารและอัญมณีแห่งไพรพฤกษ์* ซึ่งพี่พุดซึ้งใจมากค่ะ เพราะ เราสองคนทำงานเกี่ยวกับการเขียน บทกวีธรรม ธรรมชาติมายาวนานนักค่ะ ลำน้ำน่าน อายุน้อยมากยังไม่ถึง30ปีด้วยซ้ำค่ะ แต่รักธรรมชาติชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย ชอบเดินทางท่องเที่ยวป่าเขาลำเนาไพร บางทีก็ออกค่ายเป็นผู้นำในด้านการพัฒนา ช่วยเหลือชุมชนและเด็กด้อยโอกาส และ.. ทำงานองค์กรระหว่างประเทศ รับผิดชอบงานต่อแผ่นดิน เดินทางหลายประเทศ ชอบท่องเที่ยว วันนี้ มิตรภาพระหว่างเรา ยังคงยิ่งใหญ่และแสนงดงามค่ะ เพราะ.. ลำน้ำน่านชื่นชมงานดิบเดิมติดดินของพี่พุด และ... นี่คือทำไมลำน้ำน่าน จึ่งแซวพี่พุดว่าเป็นกวีกระวาดสระไอ อันหมายถึงชอบเขียนบทกวี ลงท้ายด้วยสระไอค่ะ พี่พุด ต้องมาออกตัวนิ๊ดนะคะอิอิ เนื่องจากพี่พุด ทำงานด้วยรัก และ ไม่ถนัดเขียนกลอนค่ะ ชอบความเรียงพรรณนาโวหาร เลย.. ทำให้ต้องรับบทได้แค่กวีสระไอนี่ละค่ะ น้องรัก สังเกตมั้ยคะในงานพี่พุด พี่พุดมีความสามารถพิเศษ ใช้คำวนเวียน แบบจุดเทียนเวียนวน เขียนบทกวีเรียบง่ายธรรมดาๆ โดยใช้คำไม่กี่คำ เพียง.. มุ่งหวังให้สื่อซาบซึ้งถึงใจ สะเทือนไหวในอารมณ์ เพียงนั้นค่ะ และ ด้วยพื้นเพดวงจิต รักและชอบใกล้ชิดธรรมชาติ จึงวาดฝันอันละไม ให้ทุกดวงจิตดวงใจ ได้รับพลังละมุนจากหอมกรุ่น แห่งวิถีธรรม ธรรมชาติ จากความสดสะอาดงดงาม แห่งปวงดวงดอกไม้ป่า ทั้งจากนามปากกา.. *สาวบ้านนา และ แม่ดวงดอกพุดไพร* ที่พากเพียรพยายามสอดใส่สาระ ประโยชน์เท่าที่จะทำได้ค่ะ คนดี และ... นี่คือที่มาของคำว่ากระวี กระวาดสระไอ ที่พี่พุด แสนภาคภูมิใจอย่างเหลือเกินแล้วค่ะ น้องๆที่รัก..... และ... สำหรับสองเราจักขอโหวตให้ทุกดวงใจ ใสงามที่รักบทกวี ช่วยกันสานฝันปันพลี ปันดี ร้อยรจนาบทกวีสร้อยเพชรอักษรา ภาษาไทยภาษาทองให้ยังผ่องพราย หมาย... จรรโลงโลกบรรณพิภพ โลกสายดวงดอกไม้ เพียง.. ดับแล้งไร้...เร่าร้อนให้ผ่อนเพลา ก็งดงามยิ่งใหญ่นักแล้วนะคะ พุดไพร พี่สาวนา น้ำตาเอ่อซึมค่ะน้องๆสำหรับ หยาดน้ำค้างใจที่ประดุจดั่ง หยาดน้ำอมฤตสู่ดวงใจพี่พุดนะคะ และขอบคุณน้องๆนะคะ สำหรับการโหวตให้พลังใจในการทำงาน อย่างพากเพียรของพี่พุด พี่พุดซาบซึ้งใจจนเกินกล่าวค่ะ และ... พี่พุดขอฝากความในใจไว้ณ ที่แห่งนี้นะคะ แม่ดวงดอกพุดไพร พี่พุดไพร สาวบ้านนา ทำงานเขียน รจนางานที่รัก มานานนักแล้วค่ะ ในเวบร่มรักเรือนไทย เรือนทอง แห่งมิ่งมิตรผองเรา ตราบดินฟ้า(คำของคุณอิม) ด้วยความรักในงานที่รัก และมีท่านผู้อ่านมากล้น น้ำใจเมตตา ที่เข้ามาหยาดน้ำใจรัก ดั่งหยาดน้ำค้างลงพร่างพรมนวลเนื้อใจ สาวบ้านนา... ให้ยังคงมีไฟฝันอันละเมียดละมุน ที่จักยืนหยัด ทำงานที่รัก บนถนนสายฝันสายดวงดอกไม้งาม ไปอีกนานเท่านานค่ะ หากนับจำนวนตัวอักษร ก็เป็นล้านๆตัวค่ะ ที่คีย์จนนิ้วชี้ มีปัญหาเส้นเอ็น แทบคลี่ไม่ออกแล้วค่ะ และ นับจำนวนพันเรื่องเมื่อรวม จำนวนท่านผู้อ่านทั้งผ่านตา ผ่านใจ ที่คลิ๊กเข้ามายิ้มแย้มเยือน ก็คงมากมายเกินนับนึกเลยค่ะ ซึ่งนี่คือความภาคภูมิใจ ปิติเกษมใจ ความซาบซึ้งใจ ความรู้สึกแสนยิ่งใหญ่งดงาม ในชีวิตหนึ่งนี้ที่ได้ทำในสิ่งที่รัก แม้นจะน้อยค่า ดั่งธุลีหล้า ที่อยากฝากความจงรักต่อแผ่นดิน กตเวทิตาคุณต่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์อันคือสิ่ง เทิดทูนไว้เหนือดวงชีวีแห่งเราค่ะ งานพุดไพร สาวบ้านนา จึ่ง..เพียรเน้นธรรม ธรรมชาติ บวกความรักที่เรียบง่าย งดงาม อ่อนหวาน ความเสียสละ เมตตา การแบ่งปัน เพื่อสร้างสรร โลกนี้ และอัญมณีจิตให้สว่างไสว มีเพียงความรักปรารถนาดี พลีดับโลกแล้งไร้ฝากไว้ ก่อนชีวาวายจะสลายลาลับ ดับไปดั่งแสงแห่งตะวันลา ค่ะ
กวีสระไอจาก..น้ำคำ ลำน้ำน่าน.. รจนาบทกวีไหวไหวหวั่น ฝันฝันใฝ่ใฝ่ด้วยใจใส มีคนกล่าวว่าเป็นกวีสระไอ ไม่เป็นไรเราได้ทำสิ่งที่รัก ความงามบทกวีมีหลากหลาย ทั้งเรียบง่ายอลังการสาระหนัก เหมือนละครมีตัวแสดงมากมายนัก รับบทรักบทโศกโลกมายา แตกต่างพรสวรรค์พรแสวง หากคือแรงใจเพียรไขว่คว้า ฝากความงามความดีแด่พสุธา คือยอดปรารถนาเหนือยิ่งสิ่งใด นี่คือ.. ความในใจจากนักอยากจะเขียน ผู้พากเพียรคงมั่นมิหวั่นไหว นานหลายปีที่แห่งนี้ให้มิตรภาพอาบล้นใจ คือรางวัลยิ่งใหญ่ให้ปิติเกษมล้ำค่าจิตจารึก...! พลีแด่.. วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์ น้องดอกข้าว ฤกษ์ ชัยชนะ ผู้ทำให้หัวใจพี่พุดไพร แสนละมุนละม่อมพร้อมแย้มยิ้มพริ้มพรายค่ะ และ.. แด่ทุกดวงใจน้องๆที่รักยิ่ง ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองแห่งมิ่งมิตรผองเรา ที่เดินเกาะเกี่ยวกุมมือกันไป ในถนนสายฝันสายดวงดอกไม้งามค่ะ ด้วยหัวใจดั่งนกไพรอิสรา ดั่งหยาดฝนพรำ ดั่งดวงดอกไม้หลากสีสัน ประดับหล้าประดับพสุธา... ดับแล้งโลก ให้โศกสิ้น..ค่ะ...! ..................... ด้วยรักเป็นที่ยิ่ง จากใจ...จริง ของ*นักอยากจะเขียน**กระวีกระวาด* สาวบ้านนา และแม่ดวงดอกพุดไพร กวีกระวาดสระไอ.. ผู้เพียรพัฒนาให้มีจิตดวงไสวไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ค่ะ ..................
วันนี้... นักอยากจะเขียน เปลี่ยนอาชีพมาขายเพชร ขายเสร็จได้เงินมากมาย เงินที่ได้มานั้น กลับผันให้ใครหลายหลายคนมีความสุข ก็สนุกสนานบานเบิกใจดี ที่ได้เรียนรู้โลกนี้ว่ามีคนหาเช้ากินค่ำมากมาย ได้สัมผัสว่าความฝันนั้นกินไม่ได้ ต้องใช้สมองสองมือขยันขยันถึงจะได้เงินมา และสิ่งที่มากล้นค่าคือการได้ประสบการณ์ พานพบผู้คน ได้เรียนรู้...รับรู้ทั้งความทุกข์ ความสุข ความพากเพียรพยายาม การไม่ยอมแพ้ การที่ต้องแก้ปัญหาปากท้อง การที่ได้ทราบว่าชีวิตบางคนต้องเสียใจผิดหวัง เพราะพลั้งพลาดไปในอบายมุข และ.. สิ่งเหล่านี้คือกิเลสมวลมนุษย์ที่ได้นำมาสอนใจ เป็นบทเรียนใจ และ..เหนือความเหนื่อยยากลำบาก คือความภาคภูมิใจ ที่ได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ด้วยความเมตตาปรารถนาดี แม้นจะเพียงแค่เศษเสี้ยวธุลี ที่พอจักปันแบ่งโอบเอื้อได้...
ในราตรีที่เดือนครึ่งดวงลอยคว้าง อย่างอ้างว้างเดียวดายท่ามผืนฟ้าหม่น ดวงแลลอดผ่านเรียวใบไม้ริมชายคา แลเห็นแรมจันทร์ทอแสงนวลเหนือนภา ที่ยังคงให้ความรู้สึกงามแผก..งามเศร้า งามให้คนทั้งโลกหล้า ต่างพากันได้ฝากฝันฝากใจ ไม่ว่าจะในกระท่อมทับวิมานไพร ฤาในคฤหาสน์ใหญ่ ณ กลางเมือง ธรรมชาติที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะ นำมาดลฝันสร้างสรรสิ่งสุนทรีย์ ดับร้อนให้โลกนี้ผ่อนเพลา.. ฟ้าคืนนี้ดูเทาทึม อึมครึมแลสลัวเลือนลาง ในท่ามดวงดารา ที่เปรียบประดุจดั่งผองชนคนบนผืนหล้า เฉกเช่นกัน ที่ต่างพากันสร้างขวัญอัญมณีจิต ให้ดวงชีวาชีวิต ยังคง.. เปล่งแสงกระพริบระยิบระยับด้วยแรงใจ ที่มิมีวันมอดดับ ที่จักไม่ยอมแพ้ ตราบจนกว่าจะถึงวันลา ใช่..!มีแค่เพียงลมหายใจนับเวลารอ... ดวง..รู้สึกราวกับว่าโลกนี้ช่างไร้สิ้นสิ่งจีรัง กับหลากเรื่องราวที่ประดังมาแปรผันยอกย้อน มาสอนสัจจธรรม... ให้ดวงได้เห็นบ่วงกรรมย้ำวิบากวน อันแสนทุกข์ทนวิปโยคแสนโศกสะเทือนใจ ของมวลมนุษย์มากมาย ที่ดวงได้ชิดใกล้ ได้รับรู้ ได้เรียนรู้ ดวง...เห็นความไม่เที่ยงแห่งสังขาร อันเกิดได้ทุกวัยวัน ได้เห็นความเป็นนิรันดร์ แห่งคำสอนของพระพุทธองค์ ดวงได้แต่นำมาปลง ปลด และอยากปล่อยทุกข์พันธนา ทุกดวงชีวาที่รอเมตตาจากดวง อันคือสร้อยโซ่บ่วงกรรม ที่คงตามติดกันมาแต่ภพภูมิหลัง ให้ทุกดวงใจได้ดำเนินชีวิตไปอย่างอิสรา ให้ภารกิจอันหนักอึ้งบนบ่า ของดวงได้วางลง ก่อนที่.. ดวงจิตดวงจักพรากลาสู่สวรรค์นิทรารมย์..นิรันดร์... ดวงจึ่งเพียรรจนา พินัยกรรมแห่งรักนี้ เพียงเพื่อจะกระซิบฝากถึง ทุกคนดีที่ดวงแสนรักเอยแสนรักในกมล ให้ได้รับรู้รับทราบในบึ้งลึกอันล้ำล้นด้วยความ ปรารถนาดีที่มากมีความเมตตาเสียสละ หวังกรุณาจากฟ้าดิน ได้เปิดทาง ให้อัญมณีชีวิน มิสิ้นแสงนำทางใจ ก่อนได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ ฝากไว้ให้ผืนหล้ามาตุภูมิแม่ แล.. แด่ทุกผู้ที่เป็นที่รัก.... ให้ได้ตระหนักซึ้งถึงค่า แห่งหนทางอริยสัจจธรรม...! สี่แผ่นดิน คนมี ชีวิตและกายา ถือ กำเนิดเกิดมา เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน เป็นแดน ที่ให้ชีวา พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
ริมทะเลสาบสีเงินงามแถวชานเมือง ฟ้าพราวด้วยพร่างแสงกระพริบระยิบระยับ จากดาวดวงดาริกาสุกใส เดือนครึ่งดวงเอียงแก้ม แย้มยิ้มรอ.. อย่างพริ้มพราย หมายดับร้อนผ่อนปรนความทุกข์ทน ของคนบนผืนโลกนี้ สุนัขจรจัดสามสี่ตัวล้อมหน้าล้อมหลัง ใครบางคน ที่กำลังสาละวนเปิดปลากระป๋อง เพื่อให้พวกเขาอิ่มท้อง และ.. ดั่งเป็นประเพณี เมื่อมานั่งณ ที่แห่งนี้ ที่ที่มีสายน้ำรักนิรันดร์อันแสนเรียบเงียบนิ่ง ในท่ามมนต์จันทร์มนต์ใจมนต์แห่งเสน่หาราตรี ที่แลดูแสนสวยใสสงบเย็น นัยน์ตาเธอมองไปไกลในโพ้นนภา แลเห็นแสงดาวประดับฟ้าสุกไสว สายลมอ่อนอ่อนพัดมารำไรรำไร ราวกำลังดับร้อนกระซิบปลอบประโลมใจ ให้ละไมละมุนตาม ในท่ามโลกที่แล้งไร้ เธอหนาวในปรารถนานักยามนึก รำลึกถึงครอบครัวหนึ่งที่เธอแสนเมตตา เธอ... เพียงได้แต่หวังว่า.. ฟ้าดินคงพร้อมพลีจะอวยพรให้เธอ ได้ทำความดี.... แด่เพื่อนพ้องน้องพี่ผองชนบนผืนดินเดียวกันนี้ แม้น.. จักสักนิดน้อย ก็คงมากพอที่เธอยินดีที่จะทำ ขอ.. เพียงแค่ได้รินร่ำหยาดน้ำค้างคำ หยาดน้ำค้างใจ อันประดุจดั่งสายฝนบริสุทธิ์ใส เพียงเพื่อดับร้อนให้โลกผ่อนเพลา....! สาส์นจากองค์ดาไลลามะ ข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต 1. ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรัก และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอัน มหาศาลดุจกัน 2. เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน 3. จงปฏิบัติตาม 3Rs 3.1 เคารพตนเอง (Respect for self) 3.2 เคารพผู้อื่น (Respect for others) 3.3 รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions) 4. จงจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตน บางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์ 5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม 6. จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้ง ด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ 7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข 8. จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน 9. จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป 10. จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบ ก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด 11. จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมา คุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง 12. บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัว เป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต 13. เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต 14. จงแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ 15. จงสุภาพกับโลกใบนี้ 16. จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง 17. จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือความรักมิใช่ความใคร่ 18. จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ 19. จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song481.html คิดถึง จันทร์ กระจ่าง ฟ้า นภา ประดับ ด้วยดาว โลก สวย ราว เนรมิต ประมวล เมืองแมน ลม โชย กลิ่น มาลา กระจาย ดินแดน เปรืยบ มี แสง คนึง ถึง น้อง นวลจันทร์ งาม ใด หนอ จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง เจ้า งาม ต้อง ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน ถ้า หาก น้อง อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน โลก จะ เหมือน เมืองแมน แม่นแล้ว นวลเอย...