แลชีวิตก็ได้เห็นซึ่งชีวิต พรหมลิขิตเพรงชะตาฟ้ากำหนด ตำนานรักตำนานฝันอันงามงด ให้จารจดตราจำซึ้งฝังใจ เสมือนเสมอเรื่องราวแห่งมนุษย์ เปรียบประดุจพรบุพเพฤาไฉน ให้มาพานพบประทับใจ ได้ครองคู่กันไปเป็นนิรันดร์ หากแท้จริงทุกสรรพสิ่งคือว่างเปล่า ไม่มีเราไม่มีเขามายาฝัน ไม่ช้านานหวานฤาตรมก็เท่านั้น เพียรสร้างสรรความดีพลีก่อนวาย ชั่วชีวีราวหลับฝันในวันหนึ่ง ถึงจะซึ้งจะเศร้าก็สลาย มอดลาลับดับดวงใจแสนเดียวดาย อย่าให้สายหมายเหนือโลกสิ้นโศกรอย...! ......................................................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html บทเพลงร้อยบุปผา...พลีแด่ทุกดวงใจในร่มรัก ขอเขียนบทกวีเรียบง่ายจากรู้สึก หากล้ำลึกจากจิตดวงใสใส ไม่เลอค่าล้ำคำหากจริงใจ จากภายในจิตวิญญาณฝากงานรจนา กี่ปีแล้วยังมั่นคงแน่แน่วในสิ่งรัก ยังคงภักดิ์ต่อชาติศาสนา ยังคงวาดฝันแต้มจินตนา ยังคงต้องมนตราในโลกบรรณพิภพ แม้นภาษายังอ่อนด้อย สักนิดน้อยหวังฝากรักมิรู้จบ เลือนโลกแล้งฝากเรื่องราวที่ได้พบ มิลาลบพลังใจสร้างฝันงาน ,มิช้านานหวังในวันคล้ายวันเกิด ได้รับพรประเสริฐจากผู้อ่าน ครบห้าพันดั่งพรขวัญใจเบิกบาน ให้..เกษมสราญสร้างสานโลกสิ้นโศกรอย... .................................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem77987.html กราบบูชาครูด้วยมาลัยใบข้าว ผลงานที่มีผู้ผ่านมาให้กำลังใจ พลังใจ ดั่งหยาดน้ำค้างรินรดทั้งหมด 4907 ท่าน หากในวันเกิด 23 กุมภาพันธ์ นี้ครบห้าพันท่าน คงชื่นใจหาใดประมาณ...ค่ะ *พุดพัดชา*และอีกนามปากกา*สาวบ้านนา* รจนางานมานานกว่า ห้าปี ณ..ร่มรักเรือนไทยเรือนธรรมเรือนทอง แห่งมิ่งมิตรผองเรา ทุกเช้าค่ำ ระรินร่ำระบายด้วยรักในสร้อยอักษรา ด้วยความสัตย์ซื่อถือมั่น และ.. จักเป็นเช่นนี้ตราบชั่วนิจนิรันดร์ หากยังมีดวงตาภายใน ดวงใจสวยใสสงบ มองโลกได้งามงดละไมละมุนเฉกเช่นนี้สืบไป เคยมีคนกล่าวว่า... ความเพียรพยายาม คือการพิสูจน์คุณค่าของคน ไม่ว่าจะพบพายุฝน สายลมแรง แสงแดดกล้า ก็จงฟันฝ่าอย่าท้อถอย คอยสร้างสิ่งที่รักที่ควร จริงๆพุดพัดชา ไม่ถนัดเขียนบทกวี และไม่ค่อยมีเวลาที่จะเททุ่มใจที่จะศึกษา เพราะมากภาระกิจในชีวิต เพียงมีความสุขใจที่ได้ทำสิ่งที่รัก ในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์ภาษาไทยมาก่อน และ.. ปลาบปลื้มใจ ในวันนี้ที่เห็นน้องๆมากมาย ได้ใช้เวลาให้มากล้นประโยชน์ ที่จักช่วยกันสรรสร้างอนุรักษ์ ภาษาไทยภาษาทองของเราเอาไว้ ให้โลกบรรณพิภพ ถนนสายดวงดอกไม้ มีความสวยใสแสนสดชื่นระรื่นรมย์สุนทรีย์ มากยิ่งขึ้น ขอเพียงทุกดวงใจ ตระหนักชัดว่า ปลายปากกานั้น *ประดุจดั่งเพชรอันจรัสรัศมีฤาคมดาบ*ก็ได้ ที่จักให้สรรสร้างฤาทำลาย ที่ขึ้นอยู่กับ *มโนคติแห่งชีวีชีวิตอันแสนนิดน้อยนี้* ที่เราจักเลือกลิขิตเอง...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html ร้อยบุปผา ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน ร้อยดอกงาม เด่นตระการ แย้มบานในดวง ใจ ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์ ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์ มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์ ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก ร้อยสำนักประชันแข่งใจ มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน ร้อยดอกงาม เด่นตระการ แย้มบานในดวง ใจ ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน .......................... แด่ดวงตาดารางามนามนักเขียน พระจันทร์สีส้มสุกดวงโตสุกปลั่ง กำลังสาดส่องทอประกายนวลละอองดั่งทองทา เมื่อแหงนเงยหน้าบนฟากฟ้าสีน้ำเงินงามเข้มดั่งกำมะหยี่ ในราตรีที่ดวงดาวราวเร้นหลีกหลบประกายกล้ามิหาญกล้าทายท้าแสงนวลใย หายเข้าไปในหน้าต่างเมฆ.. ฝากดอกไม้ไทยที่พากันเอาใจ บานละออชูช่อรอหยาดน้ำค้าง ที่คงหยาดสายพรายพร่างในยามดึก... ผ่านม่านมนต์เมฆเสกเสน่หาให้มวลมนุษย์ มองหาสวรรค์ฝันหวานหวาน ฝากผ่านถึงดวงใจ..ทุกดวงที่ยังห่วงใยเกี่ยวกระหวัดรัดรึง ให้ละเมียดละมุนด้วยความงามนั้ที่ไทยโพเอม และผ่านดวงตาดารางามนามว่านักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝันกันมิว่างเว้นในยามนิทรา.. ที่ทุกดวงตาอื่นๆนั้นพากันหลับไหล ไฉนเลย..! เราจึงมาเดินบนถนนสายเดียวกัน ในมิติฝันอันลี้ลับมหัศจรรย์ไร้กาลเวลา. .นอกจากใจนำพาให้เราได้พบและรักกัน ได้โอบเอื้อแบ่งฝันอันละเมียดใจ ในทุกอณูหนึ่งนี้กับโชคดีที่กาลเวลาได้ประทานของขวัญอันแสนเลอล้ำค่ามลังเมลืองใจ ..เกินกล่าว..แล้ว ...
ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ................................................ ................................................. ................................................. อยู่ แดน ดิน ถิ่นไหน ไม่เปลี่ยนแปลง รัก เธอไม่แล้ง จากฉัน ชุ่ม รัก ชื่นฉ่ำ ทุกวัน มั่นรัก เธอนั้น ตลอดมา ภมร ไม่ เคย พราก ดอก ไม้บาน สาย ธาร ไม่เคย พรากเหล่า มัจฉา สายลม แทรก รัก ฉันปลิว ไปมา ฝากไว้ ทั่วหล้า ตามติดเธอ ทุกแห่งไป ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน .......................................... .......................................... ทะเลสาบท่ามแสงดาวหนาวซึ้งซึ้ง ในอ้อมใจใครคนหนึ่งซึ่งหมายฝัน เป็นอ้อมภักดิ์รักแท้นิจนิรันดร์ ตราบกาลกัลป์สัจจะอธิษฐานคู่ข้ามภพ จะจำพรากจากเจ็บสุดเหน็บหนาว มหัศจรรย์เรื่องราวมิรู้จบ สุดแผ่นดินแผ่นฟ้าห้วงมหรรณพ มิอาจลบลาเลือนอนันตกาล รอพบกันที่แดนดาวทางสายรุ้ง หลอมจิตมุ่งทำความดีคอยสร้างสาน สู่แดนธรรมแดนทองตราบชั่วกาล สู่วิมานมนตราทวารวดีที่เฝ้าภักดิ์ เกินนิยามยิ่งนิยายหมายเนื้อแท้ มิยอมแพ้มิยอมพ่ายโลกประจักษ์ ลมหายใจนิดน้อยแสนสั้นนัก รู้ค่ารักรู้ซึ้งโศกโลกงามแล้ว...! ......................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song388.html ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน..... ดิอิมพอสซิเบิ้ล ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ ฉัน จะขาดเธอ รัก เธอเสมอ จิตใจ ตัดน้ำ ไม่ขาด ฉันท์ใด เยื่อใย ความรัก ไม่ขาดกัน อยู่ แดน ดิน ถิ่นไหน ไม่เปลี่ยนแปลง รัก เธอไม่แล้ง จากฉัน ชุ่ม รัก ชื่นฉ่ำ ทุกวัน มั่นรัก เธอนั้น ตลอดมา ภมร ไม่ เคย พราก ดอก ไม้บาน สาย ธาร ไม่เคย พรากเหล่า มัจฉา สายลม แทรก รัก ฉันปลิว ไปมา ฝากไว้ ทั่วหล้า ตามติดเธอ ทุกแห่งไป ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ฉัน จะจืดจาง รัก เธอไม่ร้าง จากใจ อยู่หรือ ตายดับ ลับไป รักยิ่งใหญ่ ซอนไซร้ ซึมใจเธอ ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน...
ฝนพาใจให้ฝันให้หวั่นหวาม จิตภายในเงียบงามท่ามเสียงฝน น้ำค้างเพชรพรมพร่างกลางกมล ฤดูวนรอวันใหม่ลบใจช้ำ เป็นธรรมดาสัจจธรรมธรรมชาติ สงบสอาดสอนสัจจะระรินร่ำ โลกเรานี้ใช่มีเพียงด้านมืดดำ เพียรน้อมนำสายแสงทองส่องนำใจ ตะวันรุ่งแสงรุ้งงามฟ้าหลังฝน สร้างกุศลรอวันเริ่มต้นใหม่ ปรารถนาดีพลีแด่โลกลบโศกใด ยามพรากไกลใจเจ้าสิ้นหนาวครอง ฝากกระซิบจากนวลใจละไมละม่อม รู้ถนอมรักนิรันดร์วันเราสอง พลีสร้างสรรฝันสีรุ้งอันเรืองรอง เพื่อไทยผองแด่พสุธานี้ที่แสนรัก....! พายุพัดแรงมากค่ะที่บ้านพุด พรายฝนพร่างสายจนกลายเป็นสายหมอกหนา ครอบคลุม ให้ความรู้สึกซึ้งสุขปนเศร้าล้ำค่ะ หยาดฝนจากชายคาร่วงแรงซัดสาดกระจาย ต้นไม้ทุกต้นไหวเอน แก้วแตกก้านรานกิ่งราวกำลังจะพรากลา กล้วยไกวหวีไหว อย่างกับว่าอยากรีบลงหม้อบวชชี เสียทีรู้แล้วไป จำปี จำใจสลัดใบทิ้งกราวเกลื่อนพื้น เล็บมือนางกางเล็บกรีดกราย ร่ายมนตราหาวสันต์ลีลาอย่าลาลับเลือนไกล การะเวก..ทดท้อพ้อดอกพราวพรากไม่สนใจไยดี.. ลั่นทม..ไหวระทมตามลมระบัด ใบงามชัดเขียวฝนไพล โมก..พิไรใจน้อยคอยชูดอกกระจิ๊ดจิ๋วปลิวพรมหอมพราย คล้ายเย้ยเล็กแต่เด็ดดอมก็หอมไกลได้นะดวงใจ กุหลาบ บานวันนี้สามสีแดงชมพูและขาว ตัดมาวางเคล้าบทความนี้ นาทีนี้ ที่ดอกชวนชมค่อยค่อยคลี่ดวงดอกหวานบานนับสิบแดงเด่นดอก รสสุคนธ์..รอคนไกลมาชมมาดมหอม นางแย้ม ยังมิยอมแย้มงามราวสาวอายเอียงรอเคียง คู่กับคนรู้ค่ารู้ควร เข็มขาวกอใหญ่ แทงช่อดอกออกจากกระเปาะใจ ให้หอมละมุนไปในยามค่ำ ยามที่นั่งรับสายลมเย็นริมระเบียงบน และ.. ทุกหนทุกแห่งทุกแหล่งหล้า นะนาทีนี้ หากมีพระพิรุณพรายสาย แม้นย่างกรายมา ก็ขอให้มาดับร้อนได้ฉ่ำเย็นให้เห็นซึ้งงาม ไปตามกันนะทุกดวงใจ.. ณ..เรือนไทยในเรือนไทย ดอกบัวคงไหวชูช่อรอน้ำค้างในยามดึก เดือนพรายหยาดสายหวานน้ำผึ้งจากจันทร์ใจดี รอเวลา.. ที่อรุณรุ่งจะพาแดดสีทองละอองรุ้งเรียวหลังฝนพรำ มาทอแสงเพชรพรายพร่างประดับดวงใจ ให้ใสสวยงามดั่งหยาดเพชร เพื่อ.. ประดิดประดอยคำ ..รจนาให้งามล้ำสืบทอด มรดกใจมรดกงามให้โลกอ่อนหวานเงียบงาม..เป็นนิรันดร์.. ..................... จากใจพุด ภาคซึมซึ้งกับสายฝนหล่นพร่างพราวราวรวงเพชร..ค่ะ ........................ ไข้รุมรุมสุมร่างให้เหน็บหนาว มองฟ้าราวสีน้ำเงินยามเช้านี้ โลกตรงหน้าเหว่ว้าในฤดี วันและปีผ่านลาลับกับตะวัน ใจเอ๋ยใจใครละหนอพ้อเคียงข้าง ทุกรักร้างแรมไกลให้ใจหวั่น ให้เดียวดายท่ามปลายโลกทิวาวัน ให้โศกศัลย์นับวันรอขอรักคืน จะกี่วันขวัญก็คงเป็นเช่นฉะนี้ จะกี่ปีฝันมลายทุกยามตื่น จะกี่รักก็แค่รักใช่พบชื่น จะกี่ฝืนก็แค่ไกลเกินไขว่คว้า ทุกดวงใจไกลห่างเส้นทางชีวิต คือลิขิตพรหมชะตาวาสนา สร้างเพียงบุญอธิษฐานจิตภาวนา ทั้งโลกนี้โลกหน้า..อย่าพบรัก...!!! ................................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song842.html หยาดฝนแห่งความรัก สุนทราภรณ์ ช....อยากน้ำยามใด พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย รื่นรมย์โน้มนำความชื่น ญ....ดื่มทิพย์วาริน โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน ชีพยังยั่งยืน แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล ช....น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น เธอเปรียบเช่นน้ำฝน ญ....เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น รักป้อนรักปรน รักเปี่ยมจนหลงใหล ช....ดื่มน้ำนางเดียว คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด ดื่มนวลด่ำใน ชญ....ดับร้อนดั่งไฟ ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ ช....อยากน้ำยามใด พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย รื่นรมย์โน้มนำความชื่น ญ....ดื่มทิพย์วาริน โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน ชีพยังยั่งยืน แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล ช....น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น เธอเปรียบเช่นน้ำฝน ญ....เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น รักป้อนรักปรน รักเปี่ยมจนหลงใหล ช....ดื่มน้ำนางเดียว คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด ดื่มนวลด่ำใน ชญ....ดับร้อนดั่งไฟ ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ... ..............................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3387.html อุษาวดีคลี่เบิกฟ้าอีกคราแล้ว ยินแว่วแว่วนกเขาคูส่งเสียงหวาน ดวงดอกไม้รายรอบบ้านบานตระการ ระรินธารยังพร่างไหลไม่ย้อนมา หลับตานิ่งฟังเสียงสรรพสิ่งธรรมชาติ สงบสะอาด ณ นวลใจใสซึ้งค่า อมฤตธรรมทิพย์น้ำค้างดับเหว่ว้า โลกตรงหน้าแสนงามยามย้อนไป พลัดพรากจากเจ็บเหน็บหนาว รานร้าวเศร้าหมองสะเทือนไหว ทุกข์โศกเสมอเสมือนสอนสัจจธรรมใจ รู้ปล่อยไปไม่ยึดมั่นทุกพันธนา จึ่งพร้อมพลีคลี่จิตจับรับเพียงว่าง ใจกระจ่างรู้ทันเท่าหนาวปรารถนา ให้รักแท้มลายลับกัปป์กาลเวลา ตราบดินฟ้าหวังเพียงธรรมทองเข้าครองใจ...! ..................................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3387.html หนทางสู่รัก แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ แม้หัวใจยังใฝ่สุขสม อย่าระทม ถึงรักจะไม่ แลเหลียว รักมอบไป เพียงข้างเดียว ถึงไร้เสี้ยว รักตอบแทน อันใด ใคร หากทำได้เช่นนี้ ดุจสวรรค์นั้นบ่งชี้ ทางยิ่งใหญ่ ทุกแห่งหน จรดลอย่างสดใส เพราะจิตใจกว้างไกล ใหญ่เหลือ เส้นทาง แต่รักในใจ ใครจะแลเห็น ทุกข์ยากลำเค็ญ ก็ไม่แปรเปลี่ยน เจือจาง รักลอยไปใจอ้างว้าง อย่าหลงทาง สร้างความหวัง นำไป ใคร ที่ใจหักเห เพราะทุ่มเท ให้รักไป จนล้นใจ คาดคะเน ผิดพลาดไป ผลจึงครองหมองใหม้ ไป่ชั่วนิจนิรันดร์ เมื่อฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เราบอกรักกัน ไม่มีวันจืดจาง แล้วเราไย ต้องเหินห่าง ปล่อยฉันหลงทาง เสาะหารัก หลายปี ฉัน ต้องหม่นหมาง หาหนทาง คืนกลับสู่รัก ไม่พบสักที โปรดเถิดรัก โปรดบ่งชี้ หนทางที่ ครองชีพนี้ รื่นรมย์ โปรดเถิดรัก โปรดบ่งชี้ หนทางที่ ครองชีพนี้ รื่นรมย์...