เราสบตาซึ้งซึ้งวันฟ้าเศร้า ฝนร่วงพราวหนาวนวลใจจนไหวหวั่น ฟ้าเป็นใจหากไยไม่มีวัน เหมือนอาทิตย์กับจันทร์ผันโคจร และคงเป็นเช่นฉะนี้ฤดีขวัญ คงเงียบงันงดงามสัจจสอน อย่าหลงรักภักดิ์ใครเฝ้าอ้อนวอน อย่าออดอ้อนฟ้าดินสิ้นเมตตา ให้คืนฝันวันฝนพ้นผันผ่าน สิ้นร้าวรานสิ้นหมองไหม้ไร้เสน่หา มีดวงใจใสงามท่ามเหว่ว้า ล้างมายาสิ้นภพชาติพิสวาทลวง เหลือดวงใจใสว่างกระจ่างจรัส โชติรัศมิ์ดั่งเดือนเพ็ญสวรรค์สรวง ไร้ตัวตนยึดมั่นเจ้าขวัญดวง เพชรพร่างทรวงดุจโรจน์รัตน์..วัฏฏ์นิรันดร์..!
พรากพะงันงามอีกคราครั้ง ทรุดตัวนั่งทอดตาดูฟ้าสี เมฆนวลพราวราวสายไหมนะคนดี นั่นดูซีนางนวลบินทวนลม หยาดน้ำตาซึมซึ้งพึ่งประจักษ์ ตามรอยรักรอยขวัญจันทร์คลี่ห่ม ตะวันตกดินสิ้นภักดิ์รักเคยตรม ลานลั่นทมบนผาถ้ำย้ำรอยใจ ไม่มีคำพูดใดไหนเทียมเทียบ มาเปรยเปรียบประทับสะเทือนไหว ระหว่างเราตาสบตาซึ้งถึงใจ เจ็บเพียงไหนระทมเหว่ว้าเกินค่าคำ พินัยกรรมแห่งรักจักปรากฏ แสนงามงดยิ่งใหญ่ใครเหยียบย่ำ โอบกอดเธอในอ้อมภักดิ์รักตราจำ ทุกคืนค่ำระร่ำรินรจนา ทุกอักษราฝากคำอธิษฐานจิต ทิพย์ลิขิตพร่างระบายให้สะสา โลกความจริงใครไหนเล่าจักเมตตา แค่มายาวิบากภพ..ลบด้วยลืม..!
พระพิรุณพรายสายในคืนหม่น เสียงสายฝนกระซิบระรินร่ำ วสันต์สอนบทเรียนสัจจธรรม ฟ้ามืดดำรู้รักษ์ใจไม่มืดตาม ดั่งอัญมณีเพชรพร่างณ..กลางจิต เพรงชีวิตลิขิตฟ้าฝ่าขวากหนาม ถึงทุกข์ทนเพียงใดใจยังงาม ในโมงยามแห่งวิบากภพลบด้วยบุญ มายาภาพโศกสุขสิ้นบันทึก เพียงรู้สึกตามไปตราบโลกหมุน แสงอาทิตย์สาดส่องรับอรุณ ใจละมุนอุ่นโอบเอื้อเพื่อแบ่งปัน ฝันให้ไกลไปให้ถึงซึ่งแดนฟ้า โศกเหว่ว้าไร้ตัวตนมายาฝัน สิ้นภพชาติสิ้นสวาทเสน่หารู้เท่าทัน คือจิตขวัญหวังจบพบพระนิพพาน...
วันที่ฟ้าใสแดดสวยส่องทอกระทบ ทะเลสาบผืนเรียบจนกลายเป็นสีเงินงาม ใบไม้ริมทางพร่างแสงพราว ราวใบไม้ทิพย์ใบไม้แก้วแวววะวับ ยามไหวโอนโบกระบัดรับสายลมแรกแห่งอรุณ ในเส้นทางสายสู่ชนบท.. สวรรค์วนาวิมานมนตราทวารวดี ที่จะพลิกผันรอยไถแปรกลายเป็น ทุ่งทองทานตะวัน ที่ณ..บัดนี้ เมล็ดพันธุ์ได้ถูกหว่านพลีรอพร้อมผลิอยู่ในพื้นพสุธาแล้ว เพียงแค่.. รอท่าหยาดพระพิรุณโปรยสายปรายละอองลงมาเพียงนั้น ให้ดินได้ชุ่มชื่นฉ่ำแลทุกเมล็ดฝันทุกพืชพันธุ์แห่งรัก ได้จักชูช่อละออบานไสวอย่างงามงด อีกไม่นาน....นับเนื่องจากนี้..! ผม...ขับรถอย่างช้าช้า ไปตามเส้นทางนาข้าว เส้นทาง ที่อ้างว้างหากให้ความรู้สึกปล่อยวาง กระจ่างแจ่ม ณ บ้านภายใน ในหอมห้วงหัวใจผมอย่างที่สุดแล้ว ผม..ทอดตาช้าช้า ดูท้องนาหลังการเก็บเกี่ยว ดูดวงดอกไม้ที่ สิ้นไร้ดอก ปลิดปลิวร่วงโรยบอกสัจจธรรม ที่กำลังรอบานหวานรับฤดูร้อน... ให้โอบเอื้ออรชรอ้อนออดใหม่ ในฤดูกาลหน้า..ที่กำลังใกล้จะมาถึง.. และ.. ในคลองตาก็แลเห็นแผ่นป้ายงาม คำแสนสิริมงคลสวัสดิ์ความว่า โครงการแปลงนาสาธิตในพระราชดำริ เพื่อวิถีไท วิถีทอง วิถีทุ่ง ให้มุ่งรู้รักการเกษตร รู้รักษ์ความพอดี มีชีวีแบบเศรษฐกิจพอเพียง น้ำตาผมคลอเบ้า อย่างเข้าใจ อย่างสำนึกในหยาดน้ำพระทัย แห่งพระเมตตามหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ของพระพ่อหลวงที่พลีให้ แด่พสกปวงชนชาวไท ชาวนา แล..ด้วยบุญญาบารมีแห่งพระขวัญฟ้า พลัน.. ราวกับว่าฟ้าในดวงใจผมที่เคยเทาทึมมืดมน ก็เลิกหมองหม่น..ณ..บัดนั้น.. หัวใจดั่งดวงธุลีหล้าข้าแห่งแผ่นดินไทนี้ ที่มีชีวีหยัดยืนอย่างทรนงคงอิสรา มาได้จนเติบใหญ่ ไฉน...จักยอมพ่ายเพียร ไม่ยอมเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ธ..ผู้ทรงยอมทนทุกข์ยาก สละหยาดพระเสโทุกหยดรินรดวาดวน สอนสัจจะกมลให้คนไทยทุกคน.. รู้รักสามัคคี รู้จักความพอดี พอเพียง เลี่ยงกระแสโลกกิเลสวัตถุ รู้สร้างงาน สร้างงาม และ.. รู้นิยามค่าคน..ให้พ้นโพยภัย ในแดนดินถิ่นไทยด้ามขวานทองนี้ไป ตราบชั่วนิจนิรันดร..! ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html บ้านเรา บ้าน เรา แสน สุขใจ แม้จะอยู่ ที่ไหน ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้า คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์ รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง พริ้วแดดส่อง สดใส งามจับใจ มิใช่ฝัน ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น หอมทุกวัน ระบือ ไกล บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้ จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ ขอวานหน่อยได้ไหม ลอยล่องไป ยังบ้านเขา จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย...
เพราะหัวใจใสงามดั่งดวงแก้ว จึงพราวแพรวในท่ามพายุฝัน เมฆหมอกใดฤาจะลบงามนิรันดร์ คงแค่ผันพัดผ่านมาทายท้าใจ ไม่เสียใจไม่ไหม้หมองครองโศกราน ไม่สิ้นหวานไม่สิ้นหวังกับสิ่งไหน ใจเหนือโลกย์พ้นพันธนาวิปโยคใด ไม่หวั่นไหวไม่ยึดสุขทุกข์ปล่อยวาง ประคองจิตลมหายใจชีวิตอันแสนสั้น สร้างสัจจะขวัญลบเลือนโลกอ้างว้าง หอมใดเล่าเท่าหอมบุญจิตกระจ่าง ในท่ามกลางกระแสโลกโศกมายา ดั่งบัวบานตระการรับแสงธรรมทอง กุศลส่องนำทางใจเมตตาฟ้า อธิษฐานวอนไหว้เทพเทวา ทั้งชาตินี้ชาติหน้าเกิดมามี..อัญมณีใจ..! (สิ้นไร้รักพันธนาใด ใครครอบครอง) http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html หนึ่งในร้อย พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...