13 พฤษภาคม 2550 11:13 น.

ในเส้นทาง..แห่งรัก..แท้..!

พุด

IMG_0375.jpgIMG_0386.jpg
แสนเอยแสนคิดถึง
ลึกซึ้งในดวงใจยามเงียบเหงา
ในเส้นทางสู่ไพรกว้างกลางลำเนา
เมื่อไร้เขาไร้ใครในวันนี้....

นั่นดงตาลหวานเหว่ว้ารอท่ารัก
นั่นเรียวกล้าทายทักฟ้าเปลี่ยนสี
โน่นวัวควายเลาะเล็มหญ้าริมนที
แหละ...
ตรงนี้ที่อกซ้าย..คล้ายฝนพรำ...

ดั่งวสันต์ปลิดโปรยยามพรากฟ้า
เหมือนร่วงลากระซิบระรินร่ำ
สอนฤดีนี่คือบทเรียนสัจจธรรม
ไม่มีวัน..สุนทรีย์ใด..ดำรง...

เสมือนเสมอความภักดิ์แห่งรักนี้
รอวันที่แปรผันอย่าลุ่มหลง
ถึงสัญญามั่นฝันเพียงใดใจซื่อตรง
ก็มิคงยืนนานกัปป์กาลเวลา..

หาก..
หัวใจใช่เพชรแท้..หนึ่งในร้อย..
ที่เฝ้าคอยอธิษฐานเพ้อละเมอหา
แค่กลีบดวงดอกไม้ร่ายมนต์รักเล่ห์มายา
เพียงเสน่หาวูบวับ..จึ่ง..ดับไป..!!




IMG_0369.jpg
ขวัญหล้า..กำลังยืนอยู่ริมทะเลสาบ
ที่รายรอบงามไปด้วยดงดอกหญ้าและ
ต้นไม้ไร้ใบ
มีเพียงกิ่งก้านเส้นสายพรายแผ่ออกมา
ราวกับต้นกัลปังหาสีดำ..

สายวสันต์หลงฤดู
กำลังรินร่ำหยาดละออง ฝอยฝอย
พร้อยพร้อยพร่างพลิ้ว ปลิดปลิวโปรยปรายลงมา
กระทบ..กับ.
แสงตะวันยามบ่ายให้ดูราวรัศมีอัญมณีเพชรรุ้ง

ลดหลั่นคือลาดเนินซ้อนสลับด้วยดงมันสำปะหลัง
และดงสัปรดพันธุ์ดี

เคียงข้างมีสวนยาง
ที่บัดนี้กำลังยืนต้นสูงไสว 
เขียวไพลเขียวพร่างอย่างมีระเบียบ
แน่นขนัด ราวทหารในกองทัพธรรมชาติ
ที่แดดทอกระจ่างสว่าง
กระทบได้เพียงปลายยอดใบละออละอ่อนเบื้องบน 
ให้พลิกพลิ้วระยิบระยับ
ราวใบไม้เงินใบไม้แก้ววะแวววับวะวูบไหว
ระบัดใบไหวไปตามแรงลม


ขวัญหล้า...ใส่หมวกสานใบสวย 
ลงไปยืนทอดร่างระทวย
รับสายลมระรวยระริน..สดฉ่ำ
และ
กับธรรมชาติรายรอบเงียบงามนิ่งงัน
ราวกับแม่ดวงดอกทองกวาว
นางเอกสาวในตำนานหนังรักอมตะ
*มนต์รักลุกทุ่ง*ก็มิปาน


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3102.html

มนต์รักลูกทุ่ง 

หอมเอยหอมดอกกระถิน
รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง
เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมเถาหญ้านาง
มองเห็นบัวสล้างลอยปริ่มริมบึง
อยากจะเด็ดมาดอมหอมหน่อย
ลองเอื้อมมือค่อยค่อย
ก็เอื้อมไม่ถึง
อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง
แปลงได้จะบินไปคลึงเคล้าเจ้า
บัวตูมบัวบาน

หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน
อวลระคนธ์หอมแก้มนงคราญ
ขลุ่ยเป่าแผ่ว
พริ้วผ่านทิวแถวต้นตาล
มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา
ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ
มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา
ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า
มนต์รักลูกทุ่งบ้านนา
หวานแว่วแผ่วดังกังวาน
โอ้เจ้าช่อนกยูง
แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง
ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ... 
 



ขวัญหล้า...แหงนเงยดูฟากฟ้ากว้าง
ที่งามกระจ่างด้วยสายแสงแดดสีทอง

เธอ..ยิ้ม...
กับ...ดวงดอกหญ้า 
กับกระท่อมหลังคาจากวิมานคนยาก
กับสายชลสายกมลแห่งรักนิรันดร์
กับสายฝนสายฝันสวรรค์หล้าตรงหน้า
กับฟ้ากว้างกระจ่างสดใส


และ..
กับโลกไพรตรงหน้า
ที่..
แสนงามเงียบเรียบง่ายสงบสุข
บริสุทธิ์สมถะในวิถีชีวีชีวิตดิบเดิมเรียบง่าย
พอเพียงเพียงพอ 


และ..
กับหัวใจดวงมิท้อ
มิยอมพ่าย หมายฝากกล้าหยัดยืน 
รู้กลืนกล้ำ รู้อดทน
ที่ณ..บัดนี้ดวงกมลภายใน
ราวกับมี..
รัศมีเพชรไสวทอแสงพร่างละออ
เป็นพลังใจ
 ให้...ยังคงก้าวเดินต่อไป....


ใน...
เส้นทางทอง เส้นทางธรรม สัจจธรรม ธรรมชาติ
อันคือ..
หลักชัยยิ่งใหญ่
แห่งความวาดหวัง กำลังใจ

พร้อมพลีเพียร..

ตราบชั่วชีวีจะหาไม่.....นะ..ยอดดวงใจ..

ที่รักแห่งรัก..ภักดิ์แสนภักดิ์ของขวัญหล้า......!

........................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html
หยาดเพชร 

เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน

แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน... 
 



V261871.jpg				
2 พฤษภาคม 2550 07:40 น.

ฤดู..ฝน..ฤดี..ขวัญ..!

พุด

musicpic1.jpg
ค่ำคืนนี้..
พระพิรุณกำลังหยาดสายพรายพลิ้วพร่างพรมผืนพสุธา..
โปรยปรายไปทั่วฟ้าทอง..ดินไทย...

หัวใจของฉันปลิดปลิว 
ลิ่วลอยไปกับสายฝนพรำ 

คิดถึงคืนค่ำภายในกระท่อมหลังคาจาก ในหุบผา 
ที่มีธารน้ำไหลเซาะบ่าลงมาจากยอดภู 

เสียงฝนผสานกับเสียงน้ำตก ไหลลอดอยู่ใต้พื้นกระท่อม 

บรรยากาศเช่นนั้น 
พาฉันพานพบกับความดื่มด่ำล้ำลึก..จนยากบรรยาย 

กลิ่นละอองเรณูของพวงพะยอมป่า 
กำจายจรุงมาในท่ามม่านฝน 

เทียนที่ฉันจุดไว้บนหัวนอนกำลังมอดดับ 

ในความมืด ในความเงียบ 
ฉันค้นพบความงามเงียบ ว่างเปล่า ในท่ามเสียงสายฝน 

ธรรมชาติได้กำลังสอนบางสิ่ง 
ให้ฉันได้ฟังเสียงหัวใจเต้น 

ลมหายใจใสเย็นที่แสนละเมียดของฉัน 
ได้พบกับความว่างเปล่าเบาสบาย.. ไร้สิ้นซึ่งพันธนาใด 
เปรียบประดุจดั่งหยาดน้ำค้างใส 
หยาดน้ำอมฤตรินร่วงมาจากราวฟ้า

ฉันได้ค้นพบโลกภายในของฉันเอง 
จากเสียงบทเพลงแห่งสายฝนภายนอกนั่น

จิตวิญญาณของฉันกำลังอยู่ตรงจุดระหว่างกลาง 
เป็นช่องว่างระหว่างรอยเชื่อมต่อ 
ให้รู้จักความพอดี .....

เสมือนดวงชีวีของเรานี้ 
ที่ต้องเรียนรู้ การผสานผสมของสรรพสิ่ง ดิน น้ำลม ไฟ 
ที่ธรรมชาติกำลังหยิบยื่นให้มา 

ฤดูกาลกำลังสอนฤดีฉันให้รู้ความจริงว่า 
ไม่ได้มีเพียงด้านเดียว 

มีร้อน มีหนาว มีฝน 
มีฝัน..ฝัน..ฝัน
ที่จะเวียนวัน..วนย้อนคืน..หวนกลับมา...

สอนสัจจะให้เราได้ซาบซึ้งว่า
โลกเรานี้หนา ใช่จะมีเพียง ด้านเดียว...!
.....................



2003-11-15__cul02.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song250.html
(กังหันสวาท)

กังหันสวาท หมุนเวียนเปลี่ยนไป
เพราะใจ ของคน
ชีวิตปวงชน มีวันปะปน
วกวน เรื่อยไป
ขี้นอยู่ในห้วง หทัย
ใจใครไม่คง แน่นอน
สั่นคลอนให้ใจ ไหวหวั่น
กังหันสวาท นิราศผ่านไกล
ไปไม่กลับคืน
ชีวิตขมขื่น หน้าชื่น อกตรม
ระทม โศกศัลย์
ผู้ใด ไม่สิ้น ผูกพัน
รันทด หทัย สิ้นดี
ย่อมมีแต่ ความ ระบม
รัก เปรียบ กังหันลม
ย่อมมี เปลี่ยนแปลง
ด้วยแรง ความชื่นชม
หากมัวหลง พะวง ต่อคำนิยม
ชมชื่น มีปรวนแปร
ชีวิตสวาท นั้นพลาดผิดไป
เพราะไม่ ไตร่ตรอง
ชีวิต ก็ต้อง เหมือนคนสิ้นใจ
ฤทัย อ่อนแอ
คนเราไม่มี แน่แท้
เอาแน่ อะไร ใจคน
ย่อมวนเวียน ไป จนตาย
รัก เปรียบ กังหันลม
ย่อมมี เปลี่ยนแปลง
ด้วยแรง ความชื่นชม
หากมัวหลง พะวง ต่อคำนิยม
ชมชื่น มีปรวนแปร
ชีวิตสวาท นั้นพลาดผิดไป
เพราะไม่ ไตร่ตรอง
ชีวิต ก็ต้อง เหมือนคนสิ้นใจ
ฤทัย อ่อนแอ
คนเราไม่มี แน่แท้
เอาแน่ อะไร ใจคน
ย่อมวนเวียน ไป จนตาย... 
 


61177598.124291_HOEUIQX46IFRI5YPX545CAB761177659.ash16.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด