4 สิงหาคม 2549 11:28 น.

กระท่อมหอมฝน..ให้ฝัน..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html


นอนนิ่งนิ่งบนแคร่ไม้ในกระท่อมเรียบง่ายชายคาแฝก
มีความสุขสงบใจเหลือจะกล่าวบอกเล่าใคร
ได้ค้นพบความสุขสงบลำพัง 
อยู่กับความเงียบงามในยามค่ำสนธยา

เปิดวิทยุฟังรายการธรรมะ และหลับตาดื่มด่ำ..ตั้งใจฟัง
พร้อมทำใจให้ว่าง...วาง..ทุกข์มายามากมายมากมี
จากมวลมนุษย์มากหน้าที่ยากจะหนีพ้น

ได้ยินเสียงนกเขาไพรมาเกาะกิ่งไผ่พร้อมร้องขันคู 
หาคู่เคียงเสียงกังวานหวานไพเราะ

บ้านชาวสวนหลังบ้าน
ก่อไฟให้ควันลอยอ้อยอิ่ง ทิ้งทอดตัวระทวย
ม้วนเป็นสายสวยลอยลมมา 
ให้ได้บรรยากาศเป็นยิ่งนัก

สายลมเย็นมาทายทักลูบไล้ 
ให้ใจสบายๆ..ได้ผ่อนพักกายใจ


หอมนวลการะเวก ที่แทงช่อมา
ให้พันพ้อพร่างเสากระท่อม
เขียวไพลเขียวใสเขียวละออกับใบอ่อนอ่อนบอบบาง
และ..
นั่นท้องร่องสวนกับนวลใบตอง
ที่กำลังระบัดโบกราวสไบนางฟ้า
และ..
โน่นดงดอกข่า
ที่กำลังชูพวงเป็นรวงเขียวพราวให้ผึ้งเคล้าดอม
ไหนจะไผ่กอที่กำลังซัดส่ายเสียดสี ดั่งดนตรีไพร

ให้ความรู้สึกแสนยิ่งชิดใกล้กับกับธรรมชาติ 
ที่ยังพอมีพอได้สัมผัสรายรอบ

นั่น..
ดวงดอกหญ้าที่นำมาใส่โอ่งดินเผาแดงคร่ำใบใหญ่ไว้
เพื่อให้ได้บรรยากาศ
ราว...
กำลังนอนสยายผมบนลานหญ้าหวานหวานหอมหอม
กับใจดวงอรชรมิแล้งไร้...สิ้นหวัง..

น้ำตาซึม ด้วยความสุขซึ้ง 
จนหัวใจได้ยินบทเพลงหนึ่งในฝันแว่วมา...
ราวกับมี..*ภาพ ขวัญ เรียม *
กำลังขี่ควายไล่ล่องเที่ยวท่องไปในลำคลองท้องทุ่ง
ไปกับรุ่งเรียวรวงสีทอง ...

*นิยายรักอมตะ..ที่นำเสนอครรลองวิถีไทยที่ยัง
งามใสในความจงรักภักดี 
ที่แสนหนักแน่นมั่นคง...	ซื่อตรงไปตราบชั่วกาล....

...........................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html
แสนแสบ...

อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บคำดังหนามยอกแปลบ ๆ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน
ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง
อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ๆ ยังร้องสั่งกัน
สิ้นเดือนสิบสองน้ำนองแห้งคลองขอดพลัน
สิ้นความรักจากกัน เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม
แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง
นี่เป็นโลงทองของเรียม-ขวัญ เขาฝากชีพจม
แต่คลองยังช้ำเหลือไว้แต่น้ำขุ่นตม
พี่จึงช้ำจึงช้ำขื่นขม ขม ตรมเสียกว่าคลอง
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง
เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง
ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคนหมองต้องแสบแสน
				
2 สิงหาคม 2549 00:08 น.

ทิวาหวาม..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2374.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html
(แสนรัก วิมานดิน)


ฝนเปาะแปะ..เปาะแปะ..ตลอดวัน
ลีลาวสันต์ช่างแสนซึ้งเศร้าให้หนาวเหน็บในใจ
หากแสนสงบงามในท่ามทิวาหวาม..!
และ
วันนี้เลยได้ฤกษ์ยาม
ยกย้ายกระท่อมหลังคาแฝกมาฝากฝันฝากหอมบนระเบียงบน
ให้ได้ไปนอนดอมดมกลิ่นหญ้า
กลิ่นไม้ไผ่ปล้องโตที่ใช้มาทำเสาโชว์ลายข้อหยักรอย
รัดร้อยให้รัก..ให้รู้ว่าเป็นไม้ไผ่ที่อายุมิน้อยวัน..


และ..
ราวกับว่ากำลังฝันฝันฝัน.หวานหวานหวาน..
ว่า..กำลังนอน
ในทุ่งนาที่ไหนสักแห่ง ในท่ามเสียงฝนพรมพรำ
ได้ยินเรไรร่ำจิ้งหรีดร้อง
และ...
กำลังรอตะวันรอนๆสีส้มสุกผ่านกอไผ่ใบหญ้ามาทายทัก
ให้ยิ่งสงบสงัดเงียบงามในดวงใจอย่างที่สุด


หัวค่ำ จึงไปจุดเทียนหอมๆ
ให้วะวูบไหววางไว้ในตะเกียงแก้วกันลม
แล้วจึงฟังเสียงสายลมรำเพยพัดแผ่ว
แว่วบทเพลง*แสนรัก แสนหวาน*
ราวใครบางคนมาร้องพร่ำรำพันรำพึงแทนจากบึ้งใจ
มากระซิบให้แสนประทับใจดื่มด่ำใจอยู่ริมหู 



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2374.html
แสนรัก ...แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ 

จงใคร่ครวญ หัวใจ ใครเล่าใคร
ไหนกัน แสนรักมั่น
ห่วงไยเธอมากกว่าฉัน
มัวปิดบัง ฉันไย มีเรื่องใด
พูดกัน บอกกับฉัน อย่าทำเป็นเหินห่างไป
สายตาเธอ บ่งบอก เห็นใจกัน อย่าหลอก
จะรักใคร ไม่ต้องห่วงอย่าลวงฉันเลย
ถึงต้องช้ำ ใจตาย ฉันก็พร้อม ยอมตาย
เพราะเป็นเธอ อย่างไรทนได้ เสมอ
ร้อง อย่าร้องไห้เสียน้ำตา
หากจะรักเขา ก็จง ลืมฉัน
จะต้องหักใจ ปวดร้าว ทำไม
ตัดใคร สักคน มั่นใน รักเดียว

สายตาเธอ บ่งบอก เห็นใจกัน อย่าหลอก
จะรักใคร ไม่ต้องห่วงอย่าลวงฉันเลย
ถึงต้องช้ำ ใจตาย ฉันก็พร้อม ยอมตาย
เพราะเป็นเธอ อย่างไรทนได้ เสมอ
ร้อง อย่าร้องไห้เสียน้ำตา
หากจะรักเขา ก็จง ลืมฉัน
จะต้อง หักใจ ปวดร้าวทำไม
ตัดใคร สักคน มั่นใน รักเดียว... 
 



และ...
แสนรู้สึกดีเพราะดวงประทับใจนักร้องคนนี้มาก
คุณแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์..
นักร้องที่มีเสียงอ้อน ออดได้อ่อนหวาน
และ
มีเอกลักษณ์ของตัวเอง...และยังเป็นผู้มีพรสวรรค์
ประพันธ์เพลงได้อย่างไพเราะมากมาย
ที่มีความหมายได้อย่างน่าทึ่ง

อย่างเพลง*ที่สุดของหัวใจ*
ที่ดวงชอบฟังมาก



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2438.html
ที่สุดของหัวใจ แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ 

หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก
ยับเยินเสียก่อน
จะไปอ้อนวอน
ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้
เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด
ฉันยังไม่เข้าใจ
เพราะฉันใช่ไหม
หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม
แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ
ฉันโทษใครได้
เป็นกรรมของใจ
พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง
หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ
เพราะรักมากไป
เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ
อดทนไว้ก่อนนะใจเจ้าเอย ข้าวอน
จงแข็งแกร่ง แล้วทน รอให้ถึงพรุ่งนี้
พบเธอ แล้วถามเธอ อ้อนวอนให้เธอเห็นใจ

แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ
ฉันโทษใครได้
เป็นกรรมของใจ
พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง
หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ
เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ... 
...................
 



ดวงจึงมีความสุขเรียบง่าย
กับวันนี้นาทีนี้ และราวกับดวงฤดีกำลังติดปีกบิน...
โผผินไปไกล..ในหลายๆที่ ที่ที่อยากไป
ไม่ว่าโขดเขินเนินเขาลำเนาไพร
ไม่ว่าทะเล..งามแห่งใดณ..ในโลก


และ..
แปลกดี ที่ในฝันนั้น 
ดวงเห็นดวงตะวันแห่งจิตวิญญาณ
กำลังพร่างแสงนำทาง..มิร้างแรมรา

ให้หัวใจดวงอิสรา คลายหนาว
ได้พบเพียงรัศมีพร่างพราวแสนให้ไออุ่น
ที่ช่างหวานหอมละมุนเกินบอกใคร...!!
..........................




จุดตะเกียงเขียนกลอนเศร้าแกล้มวสันต์
ไร้เงาจันทร์ฝันค้างใจถึงใครหนอ
คนเคยรักหักใจเราได้ลงคอ
หลงพะนอขอพักใจไม่ไยดี!...

วิบวับวาวแสงตะเกียงริบริบหรี่
ฝากตาปีแทนใจใครคนนี้
อยากคืนหลังฝังกายใจริมฝั่งนที
อยากจะมีกระท่อมน้อยคอยรับเรา..

วิมานฝันริมนทีมีรักร้อย
งามดาวลอยสวรรค์เยือนคงไม่เหงา
นอนนับดาวพราวพร่างฟ้าคืนสุขเรา
อิจฉาเราจันทร์หลิ่วตาว่าไม่มอง..ไม่มอง..

ดอกราตรีกอเศร้าย้ำใจโศก
นี่หรือโลกคนช่างฝันวันครองหมอง
เสียงสายฝนหล่นกราวท่วงทำนอง
เรียวตาหมองอยากร้องไห้ซบอกเธอ..แล้วคนดี!



จูบแก้ม..แกล้มจันทร์!  


จันทร์ดวงเดิม จันทร์ใจดี จันทร์ดวงเดียว
จันทร์ครึ่งเสี้ยว จันทร์แกล้มเศร้า ใจสับสน
จันทร์เต็มดวง จันทร์ยิ้มหวาน ปลอบกมล
จันทร์ซุกซน จันทร์ล้อเลียน จันทร์รู้ใจ

น้ำผึ้งพระจันทร์ รอเราสอง นะยอดรัก
รอความภักดิ์ หนักแน่น ไม่หวั่นไหว
จันทร์รอเรา รักจริงจัง ไม่เปลี่ยนใจ
จันทร์เป็นใจ จูบแก้มขวัญ แกล้มจันทร์งาม 
.............................
 
 


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html
วิมานดิน  พุดพัดชา

ฝากรักเอาไว้  ฝากไปในแสงดวงดาว
ที่สองประกายวับวาว วาว อยู่บนฟากฟ้า
ให้แสงสุกใส ได้เป็นเสมือนดวงตา
คอยส่องมองเธอด้วยแววตา แห่งความภักดี

เก็บฟ้ามาสาน ถักทอด้วยรักละมุน
คอยห่มให้เธอ ได้อบอุ่นก่อนนอนคืนนี้
ให้เสียงใบไม้ ขับกล่อมเป็นเสียงดนตรี
คอยกล่อมให้เธอ ฝันดีดี ให้เธอเคลิ้มไป

เป็นวิมานอยู่บนดิน
ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล
เก็บดาวเก็บเดือนมาร้อยมาลัย
เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร
มาคล้องใจเราไว้รวมกัน

ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล
ยังอยู่กับเธอ ข้างเคียงกาย อยู่ในความฝัน
ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน
ข้ามขอบราตรีที่ยาวนาน  ให้เธอฝันดี

เป็นวิมานอยู่บนดิน
ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล
เก็บดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย
เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร
มาคล้องใจเราไว้รวมกัน

ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล
ข้ามขอบราตรี ที่ยาวนาน ให้เธอฝันดี
ให้เธอได้อบอุ่น และนอนฝันดี
ให้เธอได้อบอุ่น อยู่ในวิมาน........
..............




ฉันฟังเพลงนี้  และคิดว่าน่าจะมอบให้เธอ 
ยามลาจากไกล จากใจเราไปแสนไกลอีกหน
ทุกถ้อยคำ คือสิ่งที่ตรงกับใจเรา อย่างที่สุด 
ที่อยากให้เธอรับรู้ เข้าใจในความรักมากล้น
ที่เรารักเธอ และคิดถึงห่วงหาอาวรณ์...
ให้เธอจำเพลงนี้เอาไว้ 
และขอให้เป็นเพลงแห่งความคิดถึง 
ความทรงจำ ความห่วงหาระหว่างเรา

วิมานดิน..ฉันหวังว่า บ้านเล็กๆในดงไม้หลังนี้ 
ที่มีแต่ความรัก ความอบอุ่นให้เธอนั้น จะเป็นดั่ง
วิมานดินให้เธอ ชั่วคราว 
ยามที่เธออ่อนล้า ยามที่เธอมาผ่อนพัก มาฝังฝากกายใจที่นี่....
และ
เมื่อถึงวันนี้..วันที่เธอต้องจำลาจากไกล 
ทิ้งเราให้อาลัยอาวรณ์......
เราคงทำได้แค่กลั้นหยาดน้ำตา 
มิให้มันรินไหล โดยการมองขึ้นไปบนฟากฟ้าไกล
และขอให้แสงดาวในยามค่ำ ปลอบประโลมใจ 
และเพื่อฝัน ฝากใจไปหาเธอ....ที่อยู่แสนไกลจากเรา

เราคงต้องพยายามบอก และหลอกตัวเอง 
ให้เชื่อคำมั่นสัญญาของเธอที่ว่า..หัวใจรักของเธอยังอยู่ที่นี่
ตรงนี้ในอ้อมกอด และอ้อมใจเรา.....



เธอรู้ดีว่า เหนือคำพูด คำสัญญา คำสาบานลมๆนั้น
ความจริงทุกสิ่งนั้นมันขึ้นอยู่กับ...ใจเธอมิใช่ใคร...
เธอจะเลือกเก็บกายใจเอาไว้ที่นี่ 
หรือนำไปมอบให้ใครที่อื่นนั้น 
สิทธิอันชอบธรรมยังคงเป็นของเธอร้อยเปอร์เซนต์

และ
เราก็มีสิทธิอันชอบธรรมเฉกเช่นกัน 
ที่จะบอกเธอว่า ในใจเรานั้น
มีเธอเสมอมาและคงตลอดไปชั่วนิรันดร....

อย่าร้องไห้.....!..เหมือนมีสายฝนพรำ ในดวงใจ 

ในวันนี้ ..
วันที่เธอ...กำลังต้องจากไกล 
ไปเผชิญกับความเดียวดายอีกหน 
จากแผ่นดินเกิด และจากคนที่นี่ คนที่รักที่รอเธอมากมาย

ฉันกำลังฟังเพลงนี้ Spinning a wayไปด้วย
ขณะที่กำลังเขียนความในใจนี้เพื่อมอบให้เธอ
ฉันรู้ว่าเพลงนี้ เธอคงร้องได้และจำมันจนขึ้นใจแล้วนะ
 และฉันก็หวังว่า..เธอคงจะชอบและรักมัน


*****การหมุนของดวงดาวอันสุกสกาว แสนงาม 
ในยามค่ำคืน กับความเหงาเศร้ายามเราดายเดียว
เหมือนยืนอยู่บนภูเขาสูง ที่ขึ้นอยู่กับใจนี้ 
ที่จะมองลงไปข้างล่างให้ใจวิตกหวั่นกลัว หรือจะมองหา
ความเปลี่ยนแปลง ผันแปรจากความงามของดวงดาวที่หมุนวน
 แสนสวยงามน่าอัศจรรย์..ในยามค่ำคืน..

ค่ำคืน...
ที่กำลังสอนใจว่า 
ให้เรายอมรับความจริง 
ว่า
โลกเรานี้ไม่เคยหยุดหมุน แม้สักนาที 
ตั้งแต่เรานี้ลืมตามาดูโลก 
เหมือนจะสอนให้เรายอมรับสุขโศกความผันแปรยอกย้อน
ที่ไม่แน่นอนของโลกนี้
ที่คงเป็นธรรมชาติธรรมดาๆจนกว่าเรานั่นแหละจะหยุดเอง*****



ที่รัก..อย่าเหงาเศร้าเลยนะ 
คนดี อย่าดายเดียว 
ทุกความคิดความรู้สึกนั้นขึ้นอยู่กับใจดวงเล็กๆของเราเอง
ที่จะหยุด จะควบคุม ที่จะใฝ่จะฝันจะมองหางาม........


จงจ้องมองดวงดาว 
แล้วเห็นว่านั่นคือดวงตาของฉันที่เข้มแข็ง หนักแน่น 
เฝ้ารอ และห่วงหาเธอ
ให้รับรู้ไว้ด้วยว่า ฉันจะไม่ทอดทิ้งเธอ 
ฉันพร้อมจะเคียงข้าง เธอนั้นไปตราบจนวันตาย ขอเพียงให้เธอ
คิดว่าฉันนั้นจะยังคงเป็นสิ่งสวยงาม ภายในใจ
 ในความรู้สึกของเธอตลอดไปชั่วนิจนิรันดรนะ.........





				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด