9 กรกฎาคม 2549 20:28 น.

กับคำถามที่สิ้นไร้คำตอบ..

พุด


ฉันกลับมานอนซุกตัวนิ่งๆในเตียงโบราณแล้ว หลับตา
นอนรอดูจันทร์กระจ่างฟ้าขับราตรีมืดหมองหม่น
และ...
ฟังบทเพลงฝนเพลงฝันด้วยอารมณ์อันแสนอ่อนหวานละไมละมุน
 ด้วยคิดถึงใครบางคนที่รักอย่างสุดซึ้งเต็มห้องใจ... ....

น้ำตาแห่งงามโศกสะเทือนค่อยซึมไหลลงสู่เรียวตา
มีเพียงฟ้าดินเท่านั้นเฝ้ารับรู้ปลอบประโลม



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song481.html

จันทร์ กระจ่าง ฟ้า
นภา ประดับ ด้วยดาว
โลก สวย ราว
เนรมิต ประมวล เมืองแมน
ลม โชย กลิ่น
มาลา กระจาย ดินแดน
เปรืยบ มี แสง
คนึง ถึง น้อง นวลจันทร์

งาม ใด หนอ
จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง
เจ้า งาม ต้อง
ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน
ถ้า หาก น้อง
อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน
โลก จะ เหมือน
เมืองแมน แม่นแล้ว
นวลเอย...
....................




ในท่ามแสงเทียนทองที่ฉันจุดทอขึ้นกำลังวะวับแวม
สะท้อนแข่งกับแสงเพชรพร่างเต็มนัยน์ตารานโศก
ฉันสะอึกสะอื้น กับหมอนจนชื้นเปียกโชกด้วยหยาดน้ำตา.......
...................


ฟ้ายังดูฉ่ำฝน....
หนาวกมล หนาวร่าง จนต้องหยิบผ้ามาคลุมไหล่
ค่อยๆไหวพาร่างลุกขึ้นเปิดประตูกระจกบานกว้าง
เดินไปรับสายฝนพรำ
ในเงามืด..เห็นลั่นทมชมพู ชูช่อพราว
 เผยอแย้มรอหยาดน้ำฝนหยดน้ำค้าง
พร่าพราย แตะแต้ม..



ผู้หญิงใจอ้างว้าง..คนนี้ ค่อยๆดอมดม เด็ดดอกดวงเบามือ..
มาทัดหู เคลียแก้ม ให้กลิ่นหวานเศร้าอวลละไมไปถึงเส้นผมงาม..
หยาดน้ำใสในเรียวตา แตะแต้มแกล้มกลิ่นลั่นทม ด้วยเหว่ว้า
คิดถึงคนไกล ดวงใจแห่งรักนิรันดร์..



แนวไพรรายรอบ..ดูทะมึนมืดดำ
ตัดกับราตรีที่จันทร์แจ่มพูนดวง
เฝ้ารอ ปรากฏการณ์ ดาวล้อมเดือน
ที่จะมาเยือนแย้มราตรี
ที่งามล้ำค่า 
ที่ธรรมชาติกำลังจะหยิบยื่นให้มาประทับใจ..มิรู้เลือนลืม


เบื้องบนท้องนภา..พยับหมอก 
พร่างพรายเป็นฉากชั้น เมฆริ้วราย
ขับดวงดาว ทอแสงหม่นมัว ประดับราตรี..


ปล่อยใจฝัน........นิ่งงันเงียบ..
ดูเวทีธรรมชาติ รายรอบฉากงามงด 
ที่เคยมีเสียงดนตรีกราว กราว
ยามฝนพรำ ทุกค่ำคืน
ใบไม้ระบัดไหว อวลหอมกรุ่นล้ำลึก
จากดอกไม้ไทยนานาพรรณ
โชยกลิ่นฝันให้ขจรขจาย แทรกซึม หวานล้ำลึก 
ละเมียดละมุน สู่หัวใจดวงน้อยน้อย นิ่มนวล...


หลับตาดำดิ่ง สู่ภวังค์ว่างเปล่าดายเดียว 
ฟังเสียงดนตรีจากธรรมชาติ เรียกพลัง กล่อมขวัญ 
ขัดเกลา อ่อนโยน อ่อนหวาน กลมกลืน ประสานแทรกเป็นหนึ่งเดียว
ในใจดวงนี้ ที่รู้ค่างาม..



แล้ว...บางคำถาม
จาก...เมล์ใครบางคน..
ที่คงสุดทนเศร้าสะเทือนใจ
ในนิยายรักของฉันทุกเรื่องราวที่รจนา 

ที่มีผู้ถามมาว่า เหตุใดไยเล่า
งานถึงชอบจบเศร้า
ราวโลกนี้มีเพียงการพบพรากจากลา...
หาสุขไม่พบเจอ....เพียงนั้น..



ในวันนี้...คำถามนี้ก็ยัง..คาใจ...
แล้ว..
ฉันจะเขียนนิยายรักนิยายฝันเรื่องใหม่ๆ
ให้จบลงณ..ที่ใดกันเล่า..
เพื่อมิให้นางเอกต้องพบเพียงรานร้าว
เฝ้าช้ำตรมทุกข์ระทม...จนเกินไป..



และ...
กับคำถาม..นี้..ที่..คงสิ้นไร้คำตอบจากสวรรค์...
ตราบจนกระทั่ง
ถึงวันลมหายใจสุดท้ายแห่งสองเรา
ทั้งนางเอก...และผู้รจนา...

				
5 กรกฎาคม 2549 21:42 น.

ผู้หญิงหัวใจดวงดอกไม้ผู้ชายชาติไพรทรนง....!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
(คู่กรรม)


เสือ..กำลังขับรถกลับบ้าน
หลังจากทำหน้าที่อันแสนเกริกเกียรติงดงาม
จบสิ้นลง บนเวทีในวันนี้..
ที่..
เขาถูกเชิญให้ไปเป็นวิทยากร
ที่จะสร้างสายสัมพันธ์*ธารปัญญา*
ให้..
พลังมวลชนหลากหลายสาขาอาชีพ
ได้เรียนรู้วิธีสมานฉันท์สามัคคี
ให้รู้พลีแบ่งปันแด่ผองชนคนที่ยากไร้เสียยิ่งกว่า
คนที่ใช่ว่า..
จะสิ้นไร้*ค่าคน*หากเพียงเพราะเกิดมาจนฤาพิการเพียงนั้น

ในวันที่..
ฟ้าเป็นสีชมพูอมส้มดูแสนอบอุ่นอ่อนโยนอ่อนหวาน
และ..
คือเส้นทางสายสวรรค์หล้าที่ยิ่งกว่าฟ้าประทาน
ให้ยิ่งแสนงดงามทอดตัวคดโค้งไปตามแนวเนินไศล
ขนาบข้าง ไปด้วยสวนยางพารา
ที่กำลังเขียวไพลรับหยาดละออละอองฝนพรำ..


ในยามที่
แสงสีทองของดวงสุริยาใกล้ค่ำย่ำสนธยา
กำลังแหวกม่านเมฆหม่นฉายส่อง
ต้องตกกระทบท้องทุ่งนา
จนเกิด...
ประกายกระจ่างจ้าจรัสจรุง
ดั่งเรียวรุ้งสะท้อนทาบอาบรวงเรียวระย้า
ให้ข้าวกล้าสุกปลั่ง 
พร่างพรายฉาย..ฉานดั่งฉาบไล้ด้วยทองทา..


เรียวแดดรอนงามระยิบตา..ผจงลีลา คลี่กระจายหวาน
หว่านสายแสงทิพย์สู่หมอกเมฆหม่น 
จนแตกแฉกพรายพร่างสว่างนวลราวทะเลเมฆ..
ให้วิเวกใจให้ไหวครวญหวนหาปานประหนึ่งแดนสวรรค์สรวง...

ดวงดอกแดดหยอกเย้า เคล้าคลึงคลอ
พันพาดกิ่งไม้ไพรพนาทุกราวกิ่ง
ที่นะบัดนี้พรายพราวราวเกล็ดแก้วแวววะวาววับ
จับนัยน์ตาราวเพชรพร่างสล้างทุกก้านกอ
ให้งามอะคร้าวราวสไบสีดาผืนงาม
ยามปักด้วยดวงดอกแก้วกุดั่น....



เสือ..
เปิดบทเพลงฝันบรรเลงคลอเคล้าทุกคราคราวที่ขับรถ
เป็นเพื่อนใจ..ในเงียบงามของวงThe CASCADES
*rhythm of The rain*และ*The last leaf*


ใจดวงรอนเศร้า พลันอยากหยุดรถข้างทาง
เมื่อนัยน์ตาอ้างว้าง
เหลือบแลเห็น..*ดอกบัวขาวพราวเต็มบึงกว้าง*
*บัวบูชา*
ดอกไม้แห่งศรัทธารักศรัทธาขวัญของผู้อันเป็นที่รักแห่งใจ

กำลัง..
โผล่พ้นน้ำสล้างแทงช่อละออตา
ราวรอทายท้าละอองละเอียดของสายฝนพรำที่กำลังจะร่วงโรยริน
ที่กำลังจะหว่านโปรยปลิดปลิว..ลิ่วลอยควะคว้าง..ลงมาจากฟากฟ้า


เสือ..หวนรำลึกจำได้ถึง..
สนธยาหนึ่ง..ในซึ้งทรงจำอันหวานหอม
ยามที่เสือค่อยๆประคองรถฝ่าสายฝนลมแรง
จากในเมืองเพื่อกลับกระท่อมพุดไพรเฉกเช่นวันนี้
หากทว่า..
ในคืนนั้น..หัวใจเสือกลับหอมอุ่น
มิอ้างว้าง ไร้ร้างใครจนเหน็บหนาวร้าวใจอย่างในค่ำคืนนี้..


เพราะคืนนั้น
เสือ มี*เธอ* แม่ยอดขวัญยอดดวงใจ
นอนซุกตัวหลับไหลบนเบาะนุ่มเคียงข้าง..
ในเส้นทางยาวไกล
ที่..
หัวใจเสือดวงนี้อยากให้..ทอดไปไม่รู้จักจบ..


*เธอ* คนดีของเสือ..
ลูกผู้ชายชาติไพร หัวใจทรนง 
ผู้..
ที่ไม่เคยก้มหัวให้ใครฤาให้สิ่งใดอย่างเด็ดขาด
หาก..
มาตรแม้นสิ่งนั้น 
ไม่อยู่ในครรลองครองธรรมแห่งความถูกต้อง
เพราะ..
กว่าดวงชีวาชีวีเขาจักผ่านมาถึงทุกวันนี้...ได้
ทุกนาทีทองแห่งอดีตเป็นเฉกเช่นดั่งบทเรียนมากมีค่า
ที่เพียรพาสอนให้เขา
เป็นดั่งผู้มีปัญญารู้รักษาผดุงความสถิตยุติธรรม..
ให้เขาได้เข้าถึง..
คำงามล้ำ..คำว่า*แก่นแท้ของชีวิต*อย่างสิ้นสงสัย


เขาผู้เคยแนบสนิทชิดใกล้อย่างโชกโชน
มากับบางสิ่งที่เป็นอบายมุข
ที่ท้าทายให้เขาอยากกรายใกล้ได้สัมผัส
คล้ายดั่ง...
เด็กหนุ่มผู้อยากริรักทดลองไม่ว่าเหล้ายาหรือว่ากามารมณ์


หากทว่า..
เด็กหนุ่มอย่างเขาผู้เคยเป็น*เด็กวัด*มาก่อน
ผู้มีจิตภายในดวงอ่อนโยนดวงใสใสด้วยคุณธรรม
ที่ถูกอบร่ำเคี่ยวกรำพร่ำบ่มมาอย่างซึมลึกอย่างมิรู้สึกตัว
หาได้ติดฤาลุ่มหลงก็หาไม่
แม้น..
จำต้องเห็นและได้คลุกเคล้าในทุกหนาวร้อน
แห่งมายาละครคนละครโลกย์
จนซึ้งโศกมากกว่าสุข ทุกข์แสนทุกข์
และเพราะเรียนรู้ที่จักหยุดตัวเอง
ด้วย...
พลังบารมีบุญที่บางทีอาจจะยังพอมีอยู่บ้าง
มิให้พบทางอ้างว้างอย่างไร้จุดหมาย
ให้..
เลิกระกำระทมจ่อมจมอยู่เพียงกับความชั่วร้าย
ที่ใช่สุขจริงแท้แน่นอนตราบชั่วนิจนิรันดร


และ...
เขา..ผู้รับรู้อยู่ในเบื้องลึกหัวอกหัวใจว่า
ฟ้าดินเป็นใจประทานพร
ให้เขามี..
ดวงวิญญาณดั่งถูกฟ้าสรรสวรรค์สาป
ให้มารับบทลูกผู้ชายชาติไพรหัวใจทรนงคงมั่น
ให้ได้ทำหน้าที่ทำความดีสร้างกุศลอันแสนยิ่งใหญ่
เสียสละแก่ผู้ยากไร้พิการ
สอนพัฒนาการให้คนด้อยโอกาสเหล่านั้น
ได้เข้าใจในสิทธิแห่งตนจนมีความมั่นใจว่ามีหลักประกัน
พาให้..พลันพบวิถีชีวีที่ดีขึ้นดีขึ้น
ให้..
เกิดการเรียนรู้คู่ความเป็นคนที่ไร้ชนชั้น
รู้ภาคภูมิในวิถีธรรมวิถีไทย
ให้คนในชุมชนชายขอบรอบนอก
ได้มีสุขภาพอนามัยแบบพึ่งพาพึ่งพิงตนเอง...


เขา..
ผู้เคยคิดเผยเฉลยใจว่าคนเรานั้นเมื่อเกิดมา 
ต้องมีเติบโต และชราไปตามสังขาร 
ก็มิควรจะเลยผ่านได้พิจารณาจุดยืนแห่งชีพชนม์ตน
อย่าเอาแต่มัวมนมืดบอดมองข้ามมันไป
อย่าง...น่าเสียดายวันเวลา..ที่มิ..อาจย้อนหวนทวนคืน


และ..
สำหรับเขา
ผู้มีอุดมการณ์มีจุดยืนตั้งมั่น
คือ การทำให้คนอื่นสบายใจ มีความสุข 
และ
นั่นคือความสุขที่อยู่ลึก ๆ จริง ๆ 
ดั่งคำ
ความสุขที่แท้จริงคือการทำให้คนอื่นเป็นสุข 


และ...
ตลอดเวลาแห่งทุกนาทีลมหายใจแห่งชีวิตของเขา
เขาก็จักเลือกมีเธอเป็นเพียงเงาใจไปตราบชั่วกาล
ผู้หญิง..
หัวใจแสนหวาน
เปรียบประมาณดั่งดอกรักดอกบานไม่รู้โรย
ที่พร่างไสวบานกลางใจเสือ..มานานนับ..ลึกซึ้งถึงวันนี้
ก็หลายปีเข้าให้แล้ว ...


หัวใจ..เสือ..ที่หนาวเยือกนึกย้อน..
ด้วยหัวใจดวงรอนรอนอ่อนอ่อนไหวไหว
ที่เสือเองยังสงสัยแทนตัวเอง
เหตุใด ไยมิหยุดเต้น 
แตกดับกับการนับวันนับคืนรอ..รอและรอ


ใจดวงที่เต้นเร่าด้วยแรงรัก แรงคิดถึงคะนึงหา
ใจดวงที่เสือรู้ว่า..
ราวมี*สองเนื้อใจในหนึ่งดวงหนึ่งเดียว*
ที่ผสานผสมกลมกลืนทั้งรื่นรมย์และทุกข์ร้าวเศร้าใจ
ใจดวงที่มีทั้งกร้าวแกร่งแข็งแรงมั่นคงตรงมั่น
หนักแน่นซื่อสัตย์ในรักดั่งเหล็กเพชรดั่งภูผาทายท้าใจ
มิ..
กวัดแกว่งไหวไกวไปตามแรงกิเลส..
แรงโลกย์!ที่รายล้อมคอยหลอมละลาย


ใจดวงที่..
ยังมีเนื้อใจด้านอ่อนไหวสวยใสพิสุทธิ์
ประดุจหยาดน้ำค้าง
ที่..
ยอมพร่างยอมพลียอมเจ็บปวดรวดร้าวใจ
กับการเฝ้าคอยค่าคำรัก
เมื่อ.
.ตระหนัก..ชัดว่า
*เธอ*คนดีที่เป็นเทพีแห่งใจเทพีแห่งฝัน
*อันเป็นดวงใจ*ยังมิยอมตัดสินใจรับรักมั่น
มี..
เพียงคำ..ห่วงหาอาทรมาออดอ้อนวอนเว้า
เฝ้าเพียงห่วงใย
ยามที่เขาต้องเดินทางไกลไปตามที่ต่างๆ
อย่างน่ากลัวอันตราย


*เธอ*
ผู้มีงามดวงใจพอกัน
ผู้ฝันถวิลสร้าง
*ทุกสิ่งด้วยพลังสมองสองมือนุ่มนวลราวหัตถาครองพิภพ*
ผู้ยังมิลบลืม ยังยึดซื่อถือมั่นค่าคำค่าคน..
*คือการให้มิรู้สิ้นรู้จบ*
มิ..
หลงใหลไปกับโลกอารยะ
ที่กำลังติดลบกำลัง บ่าโหม..เข้ามาทุกกระแส
ให้ใจแปรไปตามวัตถุ..อย่างลืมหูลืมตามิขึ้น


*เธอ*
ผู้ยังหอมกรุ่นงามร่ำ ด้วยน้ำคำน้ำใจ
อย่างหญิงโบราณ..หากแต่มีสมองตระการ
*ดั่งดวงดอกไม้แห่งปัญญา*บานสะพรั่งพรึบ
อย่างนึกไม่ถึงน่าตะลึงหลง..ในความคิด..


*เธอ*
ผู้มีภมรหมายรายล้อมอยากยอมสยบ
หมายชิมรสหวานแปลกแผกผิดพิเศษพิสุทธิ์
ที่หลงเหลือน้อยในโลกยุคโลกาภิวัฒน์นี้..
*เธอ*คนดี 
ที่รู้รักประคองร่าง
ให้หอมพร่างราวหยาดละออละอองน้ำค้าง
ราวรวงหยาดเพชรพร่างกลางหาวห้วงกลางห้วงหาว
และ.........


*เธอ*
คือลูกผู้หญิง*คนดี*ที่ชายชาติเสือคนนี้ยอมศิโรราบ
ยอมมอบร่างรักทรนงสยบในอ้อมอกอ้อมใจ
ไปตราบชั่วกาล..ถวายจิตวิญญาณให้อย่างพลีภักดิ์
เป็น..
ดั่งรักนิรันดร์..
เพื่อสรรสร้างโลก..คู่เคียงใจไปด้วยกัน..ชั่วกัลป์กัป์ป


และ..
ในวันนี้นะวันนี้
หัวใจดวงดีของเสือ กำลังไหวสะเทือน
เมื่อมีคนส่งสัญญาณเตือนภัย
ให้*เสือ*เลิกหมายมั่นทำความดี
เลิก..
เป็นที่คนชอบขวางทางปืนของใครต่อใครเสียที
เลิก..
ทำความดีพลีภักดิ์ต่อแผ่นดินถิ่นเกิด
หากไปขัดผลประโยชน์ของผู้ที่คิดว่า
ตัวเองคือผู้ยิ่งใหญ่โดยไม่รู้สึกตัว


และ..
เมื่อเสือมองเห็นมหันตภัยที่ซ่อนอยู่ในเงามืดสลัว
เขาจึงแสนเป็นห่วงเป็นใย
แม่ยอดดวงใจนางในฝันของเขาเสียนี่กระไร

เขาห่วง*เธอ*ผู้มีจิตดวงใสแสนหวาน
กลัวกังวลอาจจะต้องมาพ้องพานภัยภยันตราย
โดยไม่รู้ตัว


หัวใจ..เสือ..
จึงกำลังพะว้าพะวัง
กับ
ทุกคืนค่ำ..
ที่จะหลับตา..ด้วยฝันฝันฝัน..ร้าย
เสือ.
คิดถึง..เธอ..ในวิมานดินหลังน้อย
บ้านในดงดวงดอกไม้หอมหอม
ดวงดอกแก้วพร่างพราวขาวนวลริมหน้าต่าง
กับผ้าม่านรายรอบเตียงโบราณปลิวไสว
กับ...
เสียงนกไพรละเมอครวญ
กับ...
หวนไห้กลิ่นการะเวกทวนลมพิไรร่ำในยามค่ำ...
กับ...
แสงเทียนวับแวม หวามไหว
กับ...
มาลัยมะลิสดหอมกรุ่นเคียงหมอน
ให้หอมในนิทรา พาหลับหลับฝันดี..


เสือ..
คิดถึง
ดวงดอกจำปีริมชายคา
คิดถึงวงหน้างามหวานละมุน
คิดถึงดวงตาซึ้งเศร้า ทว่าเร้าใจรัก
คิดถึงริมฝีปากนวลนุ่มช่างเจรจานัก
และ..
คิดถึง..คิดถึง..และคิดถึง..


และ..
สิ่งสุดท้าย 
ที่แสนมหัศจรรย์รัก 
ที่แสนประทับใจในความทรงจำทุกคราครั้งหวังคืนหลัง
ยามใจพะวง มิวายหลงมิลางเลือนพรายพราก
หากหวนหาให้ตอกย้ำจำจด
คือ..
ภาพอันงามงด
ในวันที่ได้ปลูก*ต้นไม้แห่งรัก ต้นพุดซ้อน*
ไม้เสี่ยงทายไว้เสี่ยงใจ ในหมายมั่นคำสัญญา
*หากดวงใจรักยังมิราโรยร่วง..
ขอ..
ให้ดวงดอกพุดละออละอ่อน
ที่หอมงามจักบานไสวคู่วิมานใจวิมานดิน
ให้บานอวดดอกหวานสะพรั่ง
คลี่ดวงดอก รอรับรัก คืนกลับมา..
...............
....................



เสือ..หยุดฝัน..หยุดคิด
พร้อมกับเสียงเพลงบรรเลง*The last leaf..!*
พลัน..!
หยุดสนิท..ตาม
และ....
ชั่วพริบตาแห่งงามฝัน..
อันลอยละล่อง..ในคลอครองดวงวิญญาญ์..เสือ
ที่..
ทั้งร่างและดวงใจรักหวังสถิตพัก
ในบ้านแห่งรักภักดิ์พลีในโพ้นฟ้าไกล
บ้านดวงดอกไม้หอมหอม..
กับใครบางคน
ที่เสือเฝ้ารออย่างแสนรัก มาแสนนาน
และ..
กับ
โลกจริงตรงหน้าที่เสือกำลังพาหัวใจดวงเหว่ว้า
ใกล้จะถึงกระท่อมพุดไพร..
เรือนหอแห่งใจรักภักดิ์พลี
ที่มีเพียงความหวังรอ..เข้าทุกทีแล้ว


หากทว่า..!
หัวใจ..เสือชะงักแทบหยุดเต้น
เมื่อเหลือบเห็นร่างหลายร่าง
ในชุดพลาง...ถลันลงมาจากเนินดินข้างหน้า
และ..
ก่อน..ที่จะพากันกรูลงมา
สาดกระสุนกราวกระหน่ำอย่างหูดับตับไหม้...!!!
ราวฟ้าจะถล่มทลาย!.....ทุกทิศทาง...!!!!!


สัญชาตญาณจากจิตภายในดวงใสบริสุทธิ์แสนดีแสนงาม
พยายามบอกกับเสือว่า...!
จง..
อย่ากลัว..
แม้นจะหมายถึงนาที..สุดท้าย...!!!!!
ที่จะต้องพรายพลัดพรากจากผู้เป็นที่รักแห่งชีวิตแล้ว..!!!!
ให้..ใจดวงแก้ว.....
อย่าได้ร้าวแหลกสลายกระจายด้วยปลายปืนคมศาตราวุธ
จาก..
ผู้มีจิตมืดดำ..มิบริสุทธิ์..ไร้สิ้นเมตตาธรรม
คล้าย..
พร้อม..*พลีเพียงรวมพลังจิต...*
ก่อทิพย์นิรมิตกายที่กำลังใกล้จะตายดับลับลา
ให้สงัดสงบให้ไปถึงไปพบฝั่งฝัน...แดนสวรรค์นิรพาน
ดั่ง..
เคยฝึกวิปัสสนาธรรมกรรมฐาน..ยึดมั่น..
*คำตายก่อนตาย*นานมา
อย่าง..
*ผู้มีสติรู้สึกตัวทั่วพร้อมภาวนา*
อย่างยอมรับทุกข์..ได้..ทุกผัสสะ
มาตรแม้น..
ว่าจักโหดร้ายหมายปลิดขวัญสักปานใดก็ตามที..




และ...
ก่อนสติ.....จะพลันดับวูบ..ลง..
เสือ..แย้มยิ้มอิ่มเอมใจ..
กับ
ภาพงามในฝัน ยอดดวงใจแห่งจิตวิญญาณภักดิ์พลี
ที่พลัน..
ปรากฏ..กระจ่างพร่างพราวกลางเรียวรุ้งเรียวหมอก

เธอ..แม่ยอดดวงใจแม่ดวงดอกไม้ไหวหวาน
ปานประดุจน้ำผึ้งของลูกผู้ชายชาติไพรชาติเสือทรนง
ยังคงยิ้มซึ้ง หวานเศร้าละมุน
ราวปลอบประโลมใจดวงร้าวดวงเศร้าของเสือ..

เธอ..พึมพำ..พึมพำคำว่าพุทโธ พุทโธ 
ดังราวเสียงระฆังแก้ว
หากไยเล่า..
ช่างแสนสร้อยเศร้าสุดโศกราวโลกพลอยวิปโยคสะทือน
และ..
เสมือนแว่วกระหึ่มมาจากฟากฟ้าไกล..แสนไกล...

และ..
นั่น..
ในมือของ*เธอ*มีงามพราวของดวงดอกพุด 
ดอกไม้แห่งสัญญาใจสัญญารัก.
ยื่นส่งมาให้เสือ...อย่างช้าช้า...ช้าช้า...
ให้เสือ..
ใช้มือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดเลือดหยดน้ำตา
ที่กำลังประดังมาจากร่างราน
ที่ถูกสังหารผลาญพล่าด้วยแรงรอยกระสุน...

ค่อย..ค่อย..ไขว่คว้า..ไขว่คว้า...


และ....
ก่อน..ที่..เสือจะหลับตา
ปล่อยร่างและใจดวงเหว่ว้า...ให้ปลิดปลิว...ลิ่วลอย
ไปกับสายลมในยามค่ำ..
และ
กับฟ้าที่กำลังร่ำไห้...ครางครวญ..อย่างน่าเวทนา..!!!!!!!

............................
................................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
 
ช....ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง
แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ
ญ....เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ
แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ
ช....เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น
ญ....สุขเพียงชั่ววัน แต่ช้ำทวีคูณ
ช....ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร
ญ....สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล
ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช....ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญ....ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม

ญ....อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช....ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม... 
 



				
4 กรกฎาคม 2549 18:21 น.

ความในใจของผู้หญิงชื่อดวง...!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
(คู่กรรม)


 ที่รัก....  
ระหว่างเรา..
จะให้เริ่มต้นตรงไหนดี ในวันนี้?.....  
วันที่ดวง..อยากจะขอโทษคุณเหลือเกิน 
ที่เขียนความในใจนี้ช้าไป..นิดเดียวเอง.. 

เพราะมันน่าจะเป็นเรื่องราว
ที่ควรจะเป็นของขวัญจากใจดวง..ถึงคุณ..
ถึงความในใจมากมายที่อยากถ่ายทอดให้คุณรับรู้...   

เดือนนี้..อากาศร้อนมาก..  
แต่คุณรู้ไหม..ใจของดวงที่ดายเดียว 
กลับหนาวเยือกในทุกยามที่คิดถึงคุณ  

ในทุกคืนค่ำ 
ที่เงยแหงนแลเห็นงามของจันทร์ครึ่งดวง..
ที่ลอยคว้างกลางฟ้า  และหม่นมัวด้วยเมฆน้อยเทาทึมบดบัง..
กับดาราพริบพรายพราวฟ้ากว้าง..  

และตาดวงฝาดไปหรือเปล่าละหนอ..  
ที่ราวเห็นทางช้างเผือกพาดผ่าน ไปตามใจดวง
ที่รานร้าวด้วยหวั่นไหวสะเทือน  
กับความคิดถึงคุณ   เป็นที่สุดแล้ว...   


คุณก็รู้ ...
ไม่ว่าคืนวัน จะผันผ่านนานเนิ่น 
ฤดูกาล..กี่ร้อนกี่หนาว กี่เศร้าสุข
ที่โลกหมุนวนมาให้ดวงผ่านพบ ทายทัก 
ดวงก็มิเคยหยุดพักแพ้พ่าย ท้อแท้ต่ออุปสรรค  
ด้วยดวงใจรัก คิดว่ายังมีคุณเคียงข้างเป็นกำลังใจ
ทั้งในโลกฝันและโลกจริง 

ที่รานรุกซุกเศร้าหมองหม่นมานานวัน...  
ร่างร้าวและรานร้าวในใจดวงยังมีคุณ..
คอยเป็นฝันละมุนให้หวามใจปลอบประโลม 
ให้อบอุ่นเสมอมา..ในทุกยามที่เหลียวหาไปไม่มีใคร.......   


แต่..คนดี..ทุกฝันทุกหวังทุกจริง..
ทุกพลังใจ..มันตายแตกดับ..
แหลกสลายด้วยช้ำตรม ไปกับคืน..
ที่สายฝนพรมพรำร่ำไห้ราวฟ้ารั่ว..
ของเวลาสามทุ่ม..คืนวันที่11 

ทันที่ที่ทีวีทุกช่องถ่ายทอด 
และทันที่ที่มีคนโทรมา จากเกาะ 
บอกดวงว่า คุณกลับบ้านเกาะของเรา..
ไปกับเที่ยวบินTG..261..   


ที่รัก...
แล้วระหว่างเราจะเริ่มตรงไหนดี..?  

คุณโทรมาหาดวง  ก่อนหน้าจะเดินทางไกล.....กลับบ้าน..  
ถามถึงใครบางคนที่ดวงแสนรักที่อยู่ไกลถึงอเมริกา  
คุณได้แต่ฝากความห่วงใย..
และย้ำว่าดีใจที่ดวงมีความสุข  

คุณบอกดวงว่า....ขอแค่ให้รู้ว่าชีวิตดวงมีความสุขเท่านั้นพอ.. 
 ถึงจะตายก็ไม่ว่า ไม่ห่วงชีวิตเลย...  
 ดวงยังหัวเราะ..เริงร่า 
ล้อคุณว่าจะรีบลาจากดวงไปไหนกัน  
เรายังมีเรื่องราวมากมาย ที่จะเล่าสู่กันฟัง 
แบ่งปันเติมใจให้กันและกัน...อีกนาน....... 

ดวงถามคุณ..โทรมาจากไหน?..  
เพราะบางทีคุณโทรมาจากแดนดินสุดหล้าฟ้าไกล
มา..ขอแค่ฝากฝันฝากใจ  
โทรมาขอกำลังใจจากดวง 
ไม่ว่าในยามที่คิดถึงหรือท้อแท้แพ้พ่ายเรื่องราวใดใด..  

คุณ..บอกจากสนามบิน..
กำลังจะขึ้นเครื่องกลับบ้าน..เกาะของเรา..
แดนดินแห่งความฝันที่แสนสุขในโลกจริง.. 

ดวงตัดพ้อน้อยใจคุณ..  
ทำไมนะ..ใกล้แค่นี้เอง..
ทำไมไม่แวะมาทายทักดวง..   

ใกล้แค่เอื้อมเสียจริงๆ.......


คุณบอกธุระยุ่ง คิวยาวเหยียด มาเช็คสุขภาพ  
ไม่อยากบอกให้ดวงกังวล..
และ..คุณสัญญา.............  

เราอาจจะพบกัน..ถ้ามีเวลา...   
คุณสัญญากับดวงใช่ไหม?......  
แล้วทำไม?....เล่า....
คุณเดินทางไกลนัก..ไกล......

จนดวงตามไปทวงสัญญาไม่ถึง...  



ดวงบอกคุณว่า 
ดวงอยากโอบคุณไว้ในวงแขนยามนี้ 
ยามที่คุณไม่สบาย  
ด้วยอ้อมกอดมิตรภาพ
ที่ยาวยืนมั่นคงระหว่างเราสอง จากใจดวงบริสุทธิ์....  
ที่ผูกพันกันมาตั้งแต่ยามเยาว์..
มิเคยห่างหายทอดทิ้งกัน    ไม่ว่าในยามดีหรือยามร้าย..   

ระหว่างเรา....  ทำไม..นะ 
ดวงถึงบอกคุณสั้นนิดเดียวเอง ..ในวันนั้น ถึงความในใจ...  
เพราะอะไร......


เพราะดวง..คิดว่ามันไม่จำเป็นไง..  
เวลาหลายสิบปี..ระหว่างเรา..
มันย่อมบอกอะไรในตัวมันเองอยู่แล้ว  
โดยที่.. ดวง..มิพักต้องอธิบาย...  
ดวง..ได้แต่ย้ำแล้วย้ำอีก..ดูแลตัวเองดีดีนะ...  
จนกว่าจะถึงวันที่เราจะพบกันอีก..
ให้คุณรอดวง..อยู่ที่นั่น..  
เกาะสวรรค์ของเรา..ผืนดินเกิดของเรา...
ที่เราแสนรัก และอยากฝากใจฝากร่างไว้..เป็นนิรันดร์...   


ดวงเคยบอกคุณ..มีคุณคนเดียวในทุกปีใหม่..
ที่มิเคยจะลืมเลือน  ส่งการ์ดอวยพร
และช่อดอกไม้แห่งความรัก  
ความคิดถึงพันผูกด้วยริบบิ้นรัก  
ถักทอร้อยรัดใจเราสองมากับกลีบดอกไม้ละมุน..
ส่งซึ้งเศร้าสุขซ่อน  
มาให้ใจดวงอ่อนหวานอ่อนไหว 
ด้วยความซาบซึ้งเสมอมา...     



และไม่ว่าคุณจะอยู่นะส่วนไหนบนผืนโลกนี้...  
คุณจะย้ำบอกดวงทุกปี..
หัวใจรักคุณอยู่ที่นี่อยู่กับดวง....   

คุณเย้าว่า..ปีนี้จะไม่ให้แล้ว...
เสียงคุณล้อเลียนราวอยากให้ดวงตัดพ้อ..  ขอให้เหมือนเดิม...   

แต่....ดวงกลับบอกคุณว่า..ไม่จำเป็นเลยจริงๆนะ  

ระหว่างเรา...ไม่ต้องอาศัยการ์ด
เพราะว่ามันมีอะไรมากมาย..  
เป็นสายใยเชื่อมใจเราไว้...ใจกับใจไง...ละ.... 



ได้ยินไหม......   

ที่รัก...
ย้อนคืนวันกลับได้ไหม..

ดวงจะกระซิบบอกคุณใหม่นะว่า..  
ดวง..อยากได้การ์ดจากคุณทุกปี
ตราบนานแสนจนเราแก่เฒ่าทั้งคู่เลยดีไหม? 


ที่รัก..คุณหนาวมั้ย 
บนโน้นบนฟากฝั่งฝันที่แสนงดงาม... 

ดวงมีอะไรมากมายที่จะมอบให้คุณ มากกว่าเสื้อหนาว 
มากเรื่องราว  งดงามภายในใจดวงที่มากมี..

ดวงมีอ้อมแขนที่อบอุ่น ที่จะโอบคุณในอ้อมใจ อ้อมขวัญ..  
ที่อยากคืนกลับให้คุณ..เลิกรานร้าวตลอดเวลายาวนาน 

ที่คุณเฝ้าพร่ำขอและรอคอย..
เพื่อเติมเต็ม
ให้โลกที่ว่างเปล่า ดายเดียวของคุณ มิช้ำตรม..อีกต่อไป..  

ที่รัก..
ดวงคิดว่า..
ดวงยังมีคุณที่คอยเข้าใจปลอบประโลมเสมอมา  
เมื่อดวงเจอฝนฟ้าและพายุร้ายแห่งชีวิต..   
น่าเสียดายนะ..
ยามที่คุณเจอพายุจริงในนาทีสุดท้ายของชีวิต..........  

ดวงกลับช่วยอะไรคุณ..ไม่ได้เลย..   


ระหว่างเรา..ไม่เคยมีคำถาม..
คุณยอมรับความเป็นดวง..
ผู้หญิงช่างฝัน ช่างหวั่นไหว  ได้เสมอ..
และไม่เคยแม้แต่จะทำให้...ดวงเสียใจ
ด้วยคำถาม..ตามคำเขาว่า   

ระหว่างเรา.......มันมีอะไรมากกว่า..
คำพิพากษาของคน 
ที่มักจะโหดร้ายต่อผู้อื่นเสมอ  
มักจ้องจับผิด..โดยใช้ความไม่รู้แจ้งของตัวเองตัดสินผู้อื่น..
เพียงเพื่อสะใจแค่นั้น  
และคนประเภทนั้นก็ป่วยการที่..
ดวงจะเสียเวลาอธิบายตัวเอง....  
ในเมื่อ..เขามีเครื่องหมายคอยจะกาผิดชีวิตของคนอื่นอยู่แล้วนี่นา...   


ที่รัก..แล้วจะไม่ให้ ดวงชื่นใจ ศรัทธา 
ในความเป็นคุณได้อย่างไร?  
เมื่อคุณ..เปรียบดัง..แสงสว่าง..
ที่ทำให้ดวงไม่หมดหวังกับชีวิตและผู้คนจนเกินไป..   

คุณรู้จักดวงเสมอ..รู้จักทุกๆด้านของชีวิตดวง..  
คุณชอบล้อดวงว่า..

นักอยากจะเขียน นักฝันเพ้อ..
ที่ชอบเที่ยวละเมอสร้างพระเอก  มาทำงานที่รัก..
จนใครๆเข้าใจผิดไปตามๆกัน 

ทั้งที่โลกจริงนั้น ดวงมีชีวิตงามงดหมดจดซะไม่มี   
คุณบอกรอเวลา..รอดูงานของดวงวางอวดบนแผง..สักวัน.

และรอให้ดวงนั้น  รจนาเรื่องรักสักเรื่อง
พลีพร้อมบรรณาการให้แก่รักแท้
ที่แสนดีแสนคงมั่น หนักแน่นดังแผ่นผา 
ที่นับวันจะหาได้แสนยากยิ่งในโลกชุลมุนวุ่นรักใบนี้..  


 คนดี..วันนี้ นาทีนี้ 
ดวงยังไม่ได้พิมพ์สักเล่ม 
ทั้งๆที่งานดวงมากมายหลายร้อยเรื่อง...  

คนดี..ดวงเสียใจ....  และเสียใจ........   
ระหว่างเรา..ดวงเคยหวังว่าจะเขียนบันทึกสักเล่ม.. 

 และจะขอให้คุณ..ตั้งชื่อเรื่องให้..
จะตั้งยังไงดี..ในวันนี้เมื่อไม่มีคุณ 
 และมันมากมีแต่เรื่องราวรานร้าวเศร้าโศกสะเทือนใจ..มากมายนัก...   

ทำไมนะ......ดวงมักคิดอะไรช้าเสมอ...
ไม่เหมือนคุณเลย..  
ที่อยากทำสิ่งดีดี..และแสดงน้ำใจกับใคร 
คุณก็ทำโดยไม่รู้จัก เหน็ดเหนื่อยกับทุกผู้คน...ตลอดเวลา........   


ดวงรู้..วันนี้..คุณเหนื่อยแล้วใช่ไหม..
คุณอยากพักแล้วใช่ไหม...  

คุณถึงทิ้งดวงไป..
เลือก..ลาจากดวง..ด้วยเสียงที่มีความสุข 
 และทิ้งรอยทรงจำฝังใจให้ดวงระทม
ในทุกยามกับ..คำสุดท้าย...ที่ย้ำ..  
ไม่มีวัน..ที่คุณจะเลิกรักดวง...ตราบจนวันตาย! 

โอ้ละหนอฟ้าดิน.
ทำไม..  ถึงลงทัณฑ์ดวง..ให้สาสมเจ็บช้ำถึงปานนี้...  

 ดวง..เสียใจ......เสียใจ...เสียใจ...ที่สุด  
ที่ฉุดรั้งคุณไว้ไม่ได้..
พยายามอ้อนวอนให้คุณ..
ยกเลิกเที่ยวบินเพื่อขอพบคุณ..  
ขอโอกาสพบคุณสักครั้ง.. 



คุณปลอบดวงว่า....อย่ากลัวเลย....  
ระหว่างเราสองนั้น..
แม้จะมิได้พบกันในโลกจริงทุกคืนวัน  

แต่ในโลกฝัน..โลกในใจที่มีแต่รักจริงแท้..
ไม่มีวันคืนไหนที่คุณจะไม่คิดถึง  
และจะผันแปร..จนตราบถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิต..   

ดวง..ไม่สะกิดใจเลย........  
ไม่เคยคิดแม้กระทั่งคำลา..สั่งเสีย..สุดท้าย 
ที่คุณบอกว่าอยากกลับบ้าน..เกาะ..  

ใช่..คุณต้องกลับบ้าน..วิมานและผืนดินแห่งรักมั่น..
ที่คุณจะฝากฝังร่างและใจไปตราบจนชั่วชีวิต....   

ดวง..เคยบอกคุณว่า..
ดวงดีใจกับคุณทุกครั้งที่คุณได้กลับบ้าน...เกาะของเรา..  
เพราะดวง..อิจฉาคุณ..

คุณโชคดีที่มีภูเขาเป็นกำแพงบ้าน 
มีทะเล หาดทราย สายลม  แสงแดดเป็นเพื่อน..
มีจันทร์เจ้าสีทองสุกปลั่ง ทายทักในคืนเพ็ญ..กลางโค้งอ่าวหน้าบ้าน  
ที่สวยงามราวสรรค์ลอยเลื่อนมาเยือน..หล้า..  

มีความรักมากมายจากญาติพี่น้อง 
และมากมิตรผู้รอคอยและรอการกลับของคุณ.....


ที่รัก.........  
แต่วันนี้..เวลานี้..ดวงไม่รู้สึกอย่างนั้น  
การกลับบ้านครั้งสุดท้ายของคุณ มันโหดร้าย 
ทำลายใจดวงให้ยับเยินเกินทน...  

ที่รัก..  

คุณรู้ไหม..เค้าพาคุณ..ให้กลับถึง..บ้านเกาะของเรา.. 
 คุณจะได้อยู่ที่นั่นนิรันดร.
เป็นตำนานกล่าวขาน 
ร่วมกับความสวยสดงดงามของธรรมชาติบ้านเรา...  


ตำนานมันคงมีอยู่ว่า...  
มีสุภาพบุรุษลูกผู้ชายน้ำใจงาม 
เกิดมากับความบริสุทธิ์ของที่นี่ 
และพร้อมพลีที่จะเป็น..ผู้ให้..  

วันนี้..
คุณ..คงได้พักผ่อนอย่างแท้จริง..
กับดวงใจรักที่รอคอยอย่างมิท้อแท้ยอมแพ้พ่าย  
และมิมอดหวัง ตราบจนถึงลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต..   

ที่รัก..เสียงคลื่น..จะเห่กล่อม..ให้คุณหลับสบาย..  
ดวงดาวบนฟ้ากว้าง..จะนำทางคุณ..สู่ทางช้างเผือก.. 
 เหมือนความเชื่อว่า..........  
คุณจะได้ไปสถิต...ณ..ดินแดนแห่งความสุขนิรันดร์......  

หลับให้สบายนะ..ที่รัก....ตราบนี้ไป.........! 

.................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
คู่กรรม ...สุทธิพงศ์ วัฒนจัง 
ช...ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง
แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ
ญ...เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ
แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ
ช...เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น
ญ...สุขเพียงชั่ววัน แต่ช้ำทวีคูณ
ช...ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร
ญ...สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล
ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช...ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม

ญ....อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช...ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช...วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม... 
 




				
2 กรกฎาคม 2549 17:27 น.

RAINING IN MY HEART

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5719.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5741.html


ฝนกำลังพร่างพรมพลิ้วพราย
คล้ายดั่งธารสายจากแดนสรวง 
ร่วงหยาดเย็นมาพลีเป็นขวัญหล้าขวัญไพร
เป็นขวัญไสวของชาวนาผู้ยาก
ผู้ฝากปากท้องไว้กับครรลองแห่งสายวสันต์
อันปรารถนาเพียงแค่ความพอดีพอดิน
พอได้ทำนาทำกิน มิให้สิ้นรอยไถแปร...

ไพลเปิดหน้าต่าง
พลางเอนร่างนอนนิ่งนิ่งทิ้งตาสร้อย
ดูพร้อยแพรวระรินระรินมิสิ้นสายสวย
ของหยาดน้ำค้างแก้วน้ำค้างฝัน
อันแสนแววประภัสส์..

ดูหยดน้ำตานางฟ้า
ที่ดั่งอัจกลับพลีพร่างลงมาสู่พสุธาไทยพสุธาทอง
ให้ผองเราได้พบเอิบอิ่มยิ้มฝัน
ได้..
ฟังเสียงอันแสนพรรณรายแห่งพราวละอองฝนฉ่ำเย็น
ที่กำลังสาดกระเซ็นกระทบเรียวใบไม้
และมาหอมห่มให้ร่างราน

ไพล...นอนเป็นไข้มาหลายวันแล้วแทบทุกเย็น
หากใจดวงใสดวงให้ดวงสิ้นไร้รักใด
กลับมิเคยทุกข์เข็ญยอมอ่อนแอแพ้พ่าย
คล้ายดั่งขอเพียงรักษาลมหายใจนี้
เพื่อพลีแด่ผู้เป็นที่รัก... รอ

ไพล..ไม่ได้อยากร้องไห้นะคนดี
หากทำไมนาทีนี้
จึงดั่งมี..
เสียงสายฝนพรำแสนสายหนักหน่วงในดวงใจ..
กันเล่า เจ้ายอดดวงหฤทัย กระไรเลย...


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5719.html
RHYTHM OF THE RAIN The Cascades 
Listen to the rhythm 
Of the falling rain
Telling me just what a fool
I've been
I wish that it would go,
And let me cry in vain,
And let me be alone again
The only girl I care about
Has gone away
Looking for a brand new start
But little does she know
That when she left that day
Along with her she took
My heart
Rain please tell me now
Does that seem fair
For her to steal my heart away
When she don't care
I can't love another when
My heart's somewhere far away
The only girl I care about
Has gone away
Looking for a brand new start
But little does she know
That when she left that day,
Along with herShe took my heart
  
Rain won't you tell her
That I love her so
Please ask the Sun to set
Her heart a glow
Rain in her heart
And let the love we knew
Start to grow
Listen to the rhythm 
Of the falling rain
Telling me just what a full
I've been
I wish that it would go,
And let me cry in vain,
And let me be alone again
Oh, listen to the falling rain
Pitter Patter Pitter
Patter,Oh, Oh, Oh,
Listen, Listen,
To the falling rain
Pitter Patter Pitter
Patter,Oh, Oh, Oh,
Listen, Listen,
To the falling rain
Pitter Patter Patter
 
 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5741.html
RAINING IN MY HEART 
Leo Sayer 
The sun is out,
the sky is blue
There's not a cloud
to spoil the view
But it's raining,
raining in my heart
The weatherman says fine today
He doesn't know
that you've gone away
And it's raining
raining in my heart
Oh, misery, misery
Oh what's gonna become of me,
I tell myself
my blues won't show
But I know that soon
all my tears would flow
Come a-raining,
raining in my heart
  
And it's raining
raining in my heart
Oh, misery, misery
Oh what's gonna become
of me,
The sun is out,
the sky is blue
There's not a cloud
to spoil the view
But it's raining,
raining in my heart
raining in my heart
raining in my heart
raining in my heart... 
 

				
1 กรกฎาคม 2549 08:14 น.

หนามชีวิต..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song971.html
(หนามชีวิต)


เช้านี้พระอาทิตย์ยังขึ้นในทางทิศตะวันออก
พระจันทร์ก็ยังคงค้างฟ้าทางทิศตะวันตะวันตก
น้ำค้างยังหยดเย็นตามเรียวไม้ใบหญ้า
ฟ้ายังคงค่อยๆทอสีแสนสวยจรัส
สายลมยังคงพัดระรวยระริน
นกยังคงกางปีกผกโผผินบินถลาล้อเล่นลม
ดอกไม้ยังหวานหอมห่มไปทั่วทั้งราวไพรราวป่า
สายธารายังคง..ค่อยค่อย..ไหลละล่อง..ละล่อง
ห้วยหนองคลองบึงยังคงมีเสียงกบเขียดร้องเพลง
บทเพลงไพรยังคงเพรียกหา
หยาดน้ำตาใครบางคนยังซึมซึ้ง
ราวฝากรอยตรมตรึงใจตามเตือนติด
ให้คิดว่าแค่มายาฝันมายาใจ
รู้..
ไม่..หมองไหม้
ไม่..รานร้าว
ไม่เศร้าใจใด
ไม่..ให้ความสำคัญ
เสมือน*หลับฝันแค่ชั่วคืน*
ตื่นมาก็..ว่างเปล่า..ในทุกข์ทุกสรรพสิ่ง
ไม่มี..สิ่งใด ..ใคร คน 
ในกมลสงบพบเพียงเงียบงาม

มองฟ้าสีครามดอกแก้วพร่างพรมพื้นหญ้า
มองนภากำลังแปรสี
มองโลกนี้ด้วยดวงตาเห็นธรรม ธรรมชาติ
มองฟ้าพิลาสลำพัง
หวัง...
*บ่งหนามชีวิต*

อยู่อย่างสถิต...สถาวร
อย่างอ้างว้างดายเดียวในทางสายเปลี่ยว
*อย่างผู้รู้สึกตน*
อย่าง...*คนเหนือโลกย์* 
อย่างสิ้นโศกสุข..ทุกข์ใดใด
ตราบ...ชั่วกาลกัป์ปกัลป์..ชั่วนิจนิรันดร....




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song971.html
หนามชีวิต ...อรวรรณ เย็นพูนสุข 

เกิดมาขื่นขม ระทม อุรา
ตรมน้ำตา ตรมน้ำตา
ตรมน้ำตา โศกาทุกวัน
จะสุขอย่างไร
จะสุขอย่างไร กันนั่น
สุขเพียง ใฝ่ฝัน หรือไร
เปรียบดังชีวิต นั้นมีขวากหนาม
ทรมาน ทรกรรม
ทรกรรม ฉันจนช้ำใจ
กว่าเราจะตาย
กว่าเราจะตาย มิรู้เมื่อไหร่
โอ้ไฉน ชีวิตคอยเป็นนายเรา
มีแต่น้ำตา มาปลอบหัวใจ
ให้คลาย ความช้ำทุกค่ำ เช้า
เหมือนหนาม ชีวิต กรีดใจเป็นเป้า
ให้เราอับเฉา ระทม
หวั่นไหวว่า ขวากหนาม
ชีวิตเอย ควรภิเปรย
ความรักเอย
ความรักเอย มิเคยภิรมย์
สุขเพียง ชั่วคืน ชื่นเพียง
ชั่วคราวร้าวราน เหลือข่ม
โศก ตรม แทบล้ม
ประดาตาย เอย

หวั่นไหวว่า ขวากหนาม
ชีวิตเอย ควรภิเปรย
ความรักเอย
ความรักเอย มิเคยภิรมย์
สุขเพียง ชั่วคืน ชื่นเพียง
ชั่วคราวร้าวราน เหลือข่ม
โศก ตรม แทบล้ม
ประดาตาย เอย... 
 


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด