21 กุมภาพันธ์ 2547 01:49 น.

อุษาโศก!

พุด


อุษาฟ้าโศก..
โลกเลือนเลือนเหมือนภาพฝัน
หว่านหวานหวังหวานเศร้า
เคล้าม่านเมฆหมองหม่น
ราวกมลหม่นหมองของใครบางคน..


ในกมลดวง... 
ยังได้ยินเสียงระนาดแว่วแผ่วหวาน
ผ่านระริกนิ้วพลิ้วไหวระรัวระริกรับจับใจ 
ใสกระจ่าง ก้องกำจายพรายพร่างกลางใจดำดื่มลึกซึ้งตรึงตรา
ราวเกสรดอกไม้แตกช่อเสน่หาพรายพราว
ราวสายเพชรพร่างแตกดอกดวงสว่างไสวกลางใจ

ผ่านห้วงฟ้าหอมหอมมาหลอมลนละลายใจ
ให้ดวงใจดวงลอยละลิ่วปลิดปลิว
ผ่านดงดวงดอกไม้ไทยหอมหอม
ไปนอนเกลือกลิ้งกลางชานเรือนไทย ริมฝั่งคลอง
ในเรื่อง*โหมโรง*
*****


อ่านบทกวี*สี่แผ่นดิน*
หัวใจแทบสิ้นตาม*แม่พลอย*แก้วกลอยใจ
ในบทลา ที่แสนเหว่ว้าดายเดียวอ้างว้างตาม..

*วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน 
พ่อเพิ่มเดินหน้าซีดมาบอกข่าวพลอยว่า
ในหลวงสวรรคต พลอยรู้สึกตัวลอยขึ้นสู่เบื้องบน 
ความทุกข์ ทั้งหลายดูเหมือนจะหลุดพ้น 
พลอยนึกถึงคุณเปรมซึ่งดูเหมือนจะมาอยู่ใกล้
ทุกครั้งที่ความทุกข์โทมนัส

วันอาทิตย์ที่ ๙ กันยายน ๒๔๙๘
น้ำในคลองบางหลวงลงแห้งเกือบขอดคลอง 
หัวใจพลอยที่อ่อนแอลงด้วยโรคและความทุกข์ทั้งหลาย 
ทั้งปวงก็หลุดลอยไปตามน้ำ.....*


และ
ดวงขอร่วงน้ำตา..หลั่งริน
สังเวยให้ผู้ประพันธ์จริง
ยอดนักปราชญ์แห่งชาติไทย
ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช
ที่หยิบยกประวัติศาตร์ไทย*สี่แผ่นดิน*
ผ่าน*แม่พลอย*ให้ถวิลถึงอดีตกาล
ที่ผลัดเปลี่ยนเวียนผ่านหวานหวัง
มีทั้งรักทั้งชังทั้งหวานและขมขื่น 

ให้หัวใจไทยและดวงระทม
ระบมบอบช้ำตามไปกับหัวใจของแม่พลอย
แม่ยอดสร้อยยอดขวัญ
ที่แก้วกลอยใจนั้นเกิดมามีโชค
ได้เข้าไปอยู่ในรั้วในวัง


ได้รับการเคี่ยวกรำเนื้อใจดวงดี
ให้มีค่าสมคำ*กุลสตรีไทย*
ผู้มากมีน้ำใจเมตตา กรุณา
รู้ค่าคำอดทน บ่มหนักแน่น รู้กลืนกล้ำ
ไม่ว่าจะพบกับชะตากรรมใดใด

เนื้อใจดวงดี ดวงใส  
ก็กล้าหาญปานขุนเขา
ในร่างงามเสลาสล้างบอบบางอรชร
มีชีวีเปรียบประดุจ..
ดั่งบทเพลงอัญมณีใจ*หนึ่งในร้อย*



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72

พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
*****



ไม่ว่าฉากการสูญเสีย*คุณเปรม*
ฉากอั้นบุตรชายที่กลายเป็นนักโทษการเมือง
ฉาก*อ๊อด*ยอดดวงใจพรายพลัดพรากด้วยไข้ป่า
มิทันได้ร่ำลาสั่งเสีย...
แต่
ทุกฉากชีวิตใดใด
ที่พลอยแสนสะเทือนใจแสนโศกเป็นยิ่งนัก

หัวใจแสนดีแสนดีงามของพลอย
ก็ยังพอต้านรับได้ในความเสียใจนั้น

และมิทันเทียบเท่า
ความสูญสิ้นจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่
เท่ากับฉาก
*ตะวันในดวงใจไทยทั้งชาติ*
ที่แสนสะเทือนทับราวโลกแตกดับ
เดือนสิ้นแสงหมดสิ้นแรงใจ
ที่ทุกดวงใจไทยเทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
คุ้มครองดั่งฉัตรใจฉัตรไทย
มาลาลับมอดดับลงในหลายรัชสมัย



ฉาก..ที่เตือนใจไทยทุกดวงว่า
เหนือกว่าสิ่งใดในหล้าโลกนี้
คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย
ที่แสนสูงส่งล้นค่าเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
ที่ร้อยรวมความรักสามัคคี ให้ชาตินี้มีอิสระมาช้านาน...
ที่ทุกหยาดเลือดไทย
พร้อมยอมพลีใจและร่างรักปกป้องทุกหยาดหยด.เพื่อปฐพี
*****


และสำหรับ..
ลำน้ำน่าน..คนดี
ดวง..ค้อมคารวะ
ด้วยดวงใจดวงนี้
ที่คนดีนำเรื่องแสนงามละมุนละไม
มารัดร้อยเป็นดั่งสร้อยโซ่ใจ
ถักถ้อยเรียงร้อยรักอักษรา
พาหวนไห้กลับย้อน  ให้ทบทวนดู
อดีตงามอันมากค่า 

ที่กุลสตรีไทยเพียรพึงหาพึงหัน
ไปยึดตามแบบอย่าง
หากอยากงามอย่างมีคุณค่าแท้จริง
ให้เหมือนดั่งคำว่า..มือก็ไกวดาบก็แกว่ง
หัวใจก็สวยใสละมุนละเมียด..ได้พร้อมกัน
เพื่อฝ่าฟันสู้โลกหวังโลกไกล..ไม่ท้อเลย..
******



ดวงเดินออกไปรับละอองหยาดน้ำค้าง
รับหอมอวลกรุ่นกลิ่นเกสรพร่าง
ของดวงดอกไม้ไทยรายรอบวิมานดวงวิมานดิน
ที่ยังกรุ่นกลิ่นประทิ่นใจดวง
ประโลมใจดวงมานานเนา

ให้*บ้านภายใน ใจดวงงามเงียบ รับเฉียบเย็นรินร่ำฉ่ำใจ*
ให้ใจดวงนวล ดวงใส  
ยังหอมกรุ่นละมุนด้วยกลีบดวงดอกไม้
ให้หอมหวานด้วยได้น้ำใจรัก น้ำใจดี 
จากผู้ที่รู้จักดวงจริงจากโลกจริง
ที่คือสิ่งแสนแท้ มิต้องหลอนลวง
ตามแก้ใจ แก้ตัว  แก้คำคนคำใคร พิพากษา



ดวง..ถอดใจถอดจิตวิญญาณ 
วางไว้ในงานด้วยรักรจนา
และหากมาตรแม้นว่า
ฝันนั้นพลันถูกจับให้จริงได้
ก็น่าจะให้ชื่นฉ่ำใจไปเสียทั้งสิ้นทั้งปวง..
นะผู้มากห่วงใยมากห่วงใจดวงจะช้ำชอกอย่างบทกวี..
ดีกว่าการทำร้ายหมายขวัญ..สวรรค์หาย..ให้ลาเลือนลับดับใจไฟฝัน..
ให้หวั่นหวาดสะเทือนทับแทบดับดวงใจ
ดับไฟฝันรักรจนาภาษางาม
*****.


ดวง..
รจนางานมานานกว่าสองปี
และคนดี
มากมีมากมายหลายเรื่อง..
ที่มักกรายกล้ำรัก
ที่มักแฝงฝังกำลังใจให้รู้ทุกข์รู้เท่าทันรู้ฝันรู้หวัง
สร้างพลังใจ
ด้วยธรรมดาใจ ธรรมดาคน 
ธรรมชาติ ธรรมะให้ร่มรักพักพิงพึ่ง



หากงานดวงถูกฉีกริ้ว
เพียงแค่สวรรค์สวาทก็น่าอนาถใจจังค่ะ
ทั้งผู้อ่านผู้เขียน ที่เพียรสื่อ 
แต่กลับไม่ได้ใจ ไม่โดนใจไม่ละมุนใจ
ไม่ไหวทันในสิ่งที่ดวงรจนามามากมาย.
คล้ายอ่านผ่านตาผ่านใจ 
ไม่ซึมซึ้งถึงก้นบึ้งแห่งความจริงของจิตวิญญาณมนุษย์



ที่แม้นจะวิเศษพิสุทธิ์สักปานใด
หัวใจก็ยังต้องเวียนว่ายวนหนีไม่พ้นรัก

รักชาติ ศาสนา 
รักแม่พ่อ มิ่งมิตรสนิทใกล้

หากจักทำฉันท์ใดเล่า..
ที่จะใช้รักนั้นให้กลายกลับเป็นรักสรรสร้างแสนดี
เพื่อลบโลกนี้ดับโลกนี้ที่มากมีปัญหา
 
ดวงแค่เพียรบอกว่า
หากมวลมนุษย์รักไม่เป็น
ไม่รักผ่านเย็น เมตตา รักให้ทั่วหล้าทั่วโลก รินรดใจ
 
ปัญหาใดใดนั้นก็พลันย่อมเกิด
ก็จากเนื้อใจดวงที่ไม่ใสไม่งาม..

เด็กเร่ร่อน คนจรไร้บ้าน 
คนพาลข่มขืนเพศแม่ 
ให้ตามแก้ตามกรรมกันไม่ทัน
และ
จริงแท้นั้นเพราะสถาบันรัก..ขาดเข้าใจพื้นฐาน




ดวง..ฝัน
เหมือน..บทเพลงอิเมจิ้น
*****
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5660
  IMAGINE   
John Lennon : : Key C  
 IMAGINE   
John Lennon : : Key C  
 IMAGINE   
John Lennon : : Key C  
IMAGINE THERES NO HEAVEN
IT EASY IF YOU TRY
NO HELL BELOW US,
ABOVE US ONLY SKY
IMAGINE ALL THE PEOPLE
LIVING FOR TODAY AH
IMAGINE THERES NO COUNTRIES
IT ISNt HARD TO DO
NOTHING TO KILL OR DIE
FOR AND NO RELIGION TOO
IMAGINE ALL THE PEOPLE
LIVING LIFE IN PEACE
YOUYOU MAY SAY IM A DREAMER
BUT IM NOT THE ONLY ONE
I HOPE SOME DAY YOULL JOIN US
AND THE WORLD WILL BE AS ONE
IMAGINE NO POSSESSIONS
I WONDER IF YOU CAN
NO NEED FOR GREED OR HUNGER
A BROTHERHOOD OF MAN
IMAGINE ALL THE PEOPLE
SHARING ALL THE WORLD
YOUYOU MAY SAY IM A DREAMER
BUT IM NOT THE ONLY ONE
I HOPE SOME DAY YOULL JOIN US
AND THE WORLD WILL LIVE AS ONE... 




อยากให้โลกเป็นหนึ่งเดียว..
ไร้เผ่าพันธุ์ มากมายมากมีน้ำใจรักเมตตา
ที่จะเจือจุนแบ่งปัน
 ตั้งแต่ระดับชั้นครอบครัว ถึงสังคมโลกกว้าง
ให้น้ำใจรักแสนงามแสนดีคืนกลับสู่โลกลบโศกตรมลงได้



และใจดวง.
ก็เปี่ยมหวังว่า  
จะไม่ต้องแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุ.อีกต่อไป.
และเพราะดวงมิเก่งเรื่องสังคม
ดวงเพียงแค่คิดว่าหากมวลมนุษย์รู้หน้าที่
ตั้งแต่เกิดจนตายก็คงพอเพียงเพียงพอ
รู้งามเงียบรู้สมถะ รู้ให้
ชิดใกล้ใครก็มีแต่น้ำใจสวยใสเย็นฉ่ำพร่ำริน
*****


ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี มิมองใครอื่นไร้เมตตา
รู้หน้าที่ สร้างครอบครัวให้เป็นสุข
อบอุ่นกรุ่นหอมราวสวรรค์สรวงดวงดอกไม้
ให้มีพลังรักออกไปทำงานนอกบ้าน
เพื่อคืนกลับโลกและสังคม
ก็น่าจะเพียงพอพอเพียง
ไม่ให้ใจกายเบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกัน

และในโลกฝัน
ดวง..ก็หวังน้ำใจมิ่งมิตรอักษรา
มาช่วยกันร้อยรักภาษาใจด้วยน้ำใจใสงาม
ใช้ธรรมมะ ธรรมชาติแสนงาม
จิตวิญญาณรักแสนดีมาพึงพลีพึงมอบให้โลก
ดับร้อนผ่อนเย็น เป็นดั่งน้ำใสๆมิใช่ไฟ..โยน..
และ


ใจดวงดวงนี้
ที่เริ่มอ่อนล้า
ก็เหมือนดั่งดวงดอกไม้ใกล้ราโรยราร่วง
พร้อมปลิดปลิวลิ่วลอยกลางชลฉ่ำพร่ำรอรับ
 
นานนับรจนาก็มากมายร่ายมาถึงสี่ร้อยกว่าเรื่องแล้ว
จะดีจะร้าย ก็หมายฝากงาน อันทำด้วยใจรัก
ภักดิ์พลี พร้อมน้องพี่เดินเกี่ยวใจไปด้วยกัน
บนถนนสายฝันสายดอกไม้งาม..

ถึงมาตรมีหนามแหลมทิ่มแทงใจ 
ก็อดใจอดกลั้นกล้ำกลืนความเสียใจสะเทือนใจ
ในงานที่ดูไร้ค่า ในสายตาคนอ่าน..บางคน...
ดวงก็แค่คิดให้ผ่านไป ไม่เสียใจขมใจนาน
กับการไม่ให้เกียรติกัน
งานของคนช่างฝัน มิแบ่งปันใจ เกื้อเลย
ใจดวงรู้เฉย รู้วาง รู้อภัย เมตตา
เพราะว่าเราคือพี่น้องกันในถนนสายฝันสายนี้..นะ
******


และกลับมารับอุษาโศก..
ที่ดูราวโลกสะเทือนแทน..
ดวง...
เดินดายเดียว
น้ำตาซึมกลางอรุณ
กับโลกหมุนวนกับใจคน..หมุนเวียนวุ่นวายวายวุ่น
มิรู้สิ้นมิจบโศก จนกว่า โลกพสุธาจะเรียกหารับร่าง
ให้วางอัตตาและตัวตนเสียที
***

และกมลดวงดีก็บอกว่า..
*นี่แหละคือโลกและชีวิต*
ที่เราจะลิขิตให้ใครเข้าใจเราไปทั้งหมดมิได้..ดอกนะ

ดวง..จึงเลิกเหว่ว้า
รู้ทันเท่ารู้ดับร้อนผ่อนด้วยน้ำใจใสๆจากใจดวงเอง

และมิเกรงว่าคำคนคำใครจะทำร้ายใจได้นาน
หากรู้ว่าง  วางไว้และใช้ใจดวงดีบอกว่า
จงอภัยกับใจคนที่ไม่เข้าใจไม่รู้จักเราจริง
จง เก็บพลังทุกสิ่งไว้สร้างงานงาม
เก็บจิตวิญญาณไว้รวมใจสร้างพลังใจ
กับคนที่เข้าใจร่วมฝัน  ฟันฝ่าคว้าดาวดวง
ดวงดาวแห่งฝันให้พลันร่วงสู่มือยอดดวงใจดีกว่า
*****


ก่อนราตรีกาลจะดับ
เดือนดาราจะลาลับฟ้า
ดวง..
เด็ดชบาดวงดอกหวาน
ตัดเข็มขาวแตกช่อกอพร่างพราวเคล้าคลึงคลอรั้ว
เลือกเพียงกอบางช่อบางกิ่ง
 แซม
แกมใบเขียวใส สวยสดตัดฉับรับงาม
เลือกตัดกล้วยไม้หลากสีพลัน..ดั่งตัดใจ.



ด้วยตั้งใจจะประคองห่อใส่ใบตองละมุนละม่อม
ให้หอมกลิ่นค้างคานานหวานอวล
ก่อน ดวงจะข้ามเรือไปถวาย
หน้าพระพักตร์พระพุทธไสยาสน์
ที่วัดกลางเกาะเกร็ด
วัด*ปรมัยยิกาวาส*
 วัดใกล้บ้านและมีประวัติดังนี้ค่ะ



*วัดปรมัยยิกาวาส..(เภี่ยมุเกี๊ยะเติ้ง)*
เป็นวัดศูนย์กลาง ของชุมชนมอญ
 มาตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา
เดิมเรียกว่า*วัดปากอ่าว*
 มีชื่อเรีกในภาษามอญว่า (เภี่ยมุเกี๊ยะเติ้ง)
หมายถึง วัดหัวแหลม (วึ่งเป็นชื่อเดิมของเกาะเกร็ด)



วัดนี้ ยังคงมีโบราณวัตถุสมัยอยุธยาตอนปลาย 
ได้แก่ พระพุทธไสยาสน์ ธรรมมาสน์ และบุษบก

ชื่อวัด ปรมัยยิกาวาส 
มาจากพระนามของพระเจ้าบรมมไหยิกาเธอ
กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร
 ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระอัยยิกา(ยาย)
ทรงเป็นผู้รับปฎิสังขรณ์อาคารเสนาสนะต่างๆ
 ตามคำกราบทูลของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งได้เสด็จมาทอดพระกฐิน
ณ.วัดแห่งนี้ ในปีพ.ศ 2417 


*งานบุญ ประเพณีสำคัญ*
ของวัดปรมัยยิกาวาส ได้แก่
งานสงกรานต์
 มีการทำข้าวแช่ แห่หงส์  ธงตะขาบ
เล่นสะบ้า สรงน้ำพระธาตุ
 และระหว่าง 1-30  เมษายน
มีการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
และพระมหารามัญเจดีย์
นอกจากนี้
ยังมีการตักบาตรชอนธูป เนื่องในวันออกพรรษา
******


ดวงคิดว่า ดวงแสนโชคดี
ที่ดวงมีวิมานดินวิมานดวงชิดใกล้วัดงาม
กับธรรมชาติสายน้ำแสนงามล้ำค่า
คือแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่แสนฉ่ำเย็นใจทุกคราคราว
เมื่อพาใจดวงร้าวได้มาเยือน
 เหมือนเพื่อนผู้รินรดใจให้ใสงามให้ตามกัน
****


และ
ดวง..
รจนาเรื่องนี้ในโบสถ์คร่ำ
 ที่บูรณะเสร็จแล้วด้วยน้ำใจงาม
ของท่านผู้หญิงยศวดี  อัมพรไพศาล
ผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรไพศาล 
ที่ท่านนำนักเรียนมาทัศนศึกษา และเห็นความร้างไร้
ท่านได้บริจาคเงินให้บูรณะถึง5แสนบาท
และดวงก็แสนศรัทธาชื่นชม.
ในประเสริฐใจในน้ำใจงามนี้
ที่ดวงเคยได้รับเมตตา เรียกหาไปคุยด้วย..ครั้งนึงนานมา..
********

และ
ทุกครา
 หากว่าดวงอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธิ์ผู้พิสุทธิคุณ
น้ำตาปิติจากดวงตา  จากดวงใจ จากใจดวง  จะพร่างสายระริน...



ดวงก้มลงกราบ และอธิษฐานสิ้น
บอกกล่าวถึงจินต์ถึงใจดวง..
และนาทีนั้นพลัน
ดวงถวิลถึงเธอคนดี
 นาม*เทพีไพร*เหนือดวงใจดวงและใครบางคน
*เธอ*
 ผู้ทุกคราที่ผ่านคืนวันฝันร้ายระบมถมทับใจ
จากใครจากคำคนจากโลกหมุนวนภายนอก
*เธอ*เพียรเพียงหันหน้ากราบขอพรพระ
 เพื่อสร้างหวังพลังใจ
และ


ช่างราวกับเนื้อใจเราหลอมจากดินเดียวกันในเวลานี้

ดวงถึงกับนิ่งงันเงียบ
ด้วยคิดถึงคำ
*ชะตาฟ้าดิน..มิสิ้นรัก มิสิ้นรับรู้
ขอแค่ยังมีดวงตาสรรค์สักคู่หลั่งน้ำตาอวยพร
ลูกขออ้อนวอน
เพียงซึ้งถึงจิตวิญญาณ.ดวงนี้
ที่มิท้อใจจะทำดี..ต่อเพื่อนมนุษย์
ตราบชีวีและร่างร้าวนี้ยังมีลมหายใจ..!
				
18 กุมภาพันธ์ 2547 11:02 น.

ฝากฟ้าวอนชล!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=374
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=138

เขียนสดสดจากหยดหยาดหวานในดวงใจถึงดวงใจ
ไม่พักรอขอกรีดเลือดรักรจนา..ท้าใจฝัน!มิใฝ่ค้างร้างรอเก้อค่ะ
มิหมอบกระแตแพ้ใจตนตกต้นไม้ตายก่อนไต่..ค่ะ

***********
ฝากดวงใจแทนอ้อมขวัญคืนวันนี้
หวังราตรีคลี่ช่อรักบานไสว
น้ำผึ้งฝันสัญญารักมหัศจรรย์ใจ
สองดวงใจเคลียคลอร่างมิห่างกัน...

ให้โหมโรงโหมรักโหมไฟฝัน
ให้สวรรค์สวาทวาบหวามหวั่น
ให้คนดีรักน้องน้อยร้อยผูกพัน
ให้สวรรค์เป็นใจในรักจริง...

ฝากฟ้าดินสิ้นแล้วแก้วถนอม
หวังหวานหอมหลอมใจในทุกสิ่ง
ให้หัวใจไหวหวั่นรักกันจริง
ให้งามยิ่งงามภักดิ์รักนิรันดร์...

มอบโซ่ใจคล้องสายใยสายเสน่หา
พรหมสร้างมาฟ้าสร้างพบลบโลกฝัน
ให้ดวงใจพลีพร้อมหอมหอมรักเป็นนิรันดร์
ดั่งสร้อยสวรรค์โซ่สวาทมิคลาดคลา..

จะกี่ภพวอนขอจบเพียงชาตินี้
ให้คนดีคืนสู่ขวัญลบเหว่ว้า
หว่านดอกไม้สายน้ำใจหอมธารา
ให้รักข้าคืนกลับรับรอยบุญ...

ขอสั่งฟ้าฝากดินสิ้นโลกหล้า
หลั่งน้ำตาสวดขอพรวอนนำหนุน
ให้ยอดรักพร้อมพลีภักดิ์รักหอมกรุ่น
รับรอยบุญหมุนรอยแปรแพ้ใจฝันพบวันงาม...พบวันจริง..ยิ่งใหญ่รัก!ยิ่งใหญ่รอ!

********


แรงบันดาลใจจาก
บทกวีน้องน้อยผู้หญิงงาม..เงาใจพี่พุด..ค่ะ
*******

ห้ามโลกหยุดหมุนได้ค่อยห้ามรัก
ห้ามดอกไม้ภักดิ์หยุดผลิได้ค่อยห้ามฝัน
ห้ามหัวใจหยุดเต้นได้ค่อยห้ามคนรักกัน
ห้ามสวรรค์ลาได้ค่อยห้ามใจ

ห้ามรักได้คล้ายจันทร์สิ้นไร้แสง
โลกหล้าแล้งดวงดอกไม้เลิกร่ายไหว
ห้ามคงคาหยุดไหลได้ค่อยห้ามใจ
ห้ามตะวันใสหยุดส่องได้ค่อยห้ามรัก

ห้ามหัวใจทำไมหากหวานชื่น
ลืมตาตื่นมีเธอให้เพ้อภักดิ์
ห้ามทำไมใจคนหมุนวนได้ด้วยพลังรัก
ห้ามรักรักรักอยู่ไม่ได้คล้ายโลกนี้เป็นสีดำ...

ห้ามควันได้ค่อยห้ามไฟจุดไม่ติด
ห้ามชีวิต ขาดรักชื่น ทุกคืนค่ำ
ห้ามดายเดียวเหว่ว้าร้างระกำ
ห้ามโลกฝัน  ใจฝัน หยุดรักได้...หากไร้เธอ!สิ้นไร้เธอ!

********


ตื่นมาตีห้า..
นกในฝันกระพือปีกปลุกใจ
นกรายรอบวิมานไพล
วิมานดวงวิมานดินขันคูก้องร้องระงม

ลมหนาวพัดพร่างพรม
น้ำค้างห่มใบไม้ระรินเฉียบค้างคลอ

จุดเทียนหอมหอม
หลอมห้อมห้วงใจเหงางามเงียบ
หุงข้าว
แต่มิได้เคล้าไม้ฟืน..หอมปะทุ
ไม่มีน้ำข้าว...
มีแต่น้ำตาดาวน้ำตาดวง
ห่วงฟ้ารินร่ำ..ค้างคาบนเรียวหญ้า..ใบจำปี

ดวงดารายังสุกปลั่ง
เดือนยังมิดับลับลา
ฟ้าสีกำมะหยี่ยังมืดมน
พอกับกมลคนมองหมอง

ฟังบทเพลงอดีตก้อง
พรางร้องไห้เงียบเงียบคิดถึงอนาคต
กำสรดเศร้า ดายเดียว..รอรับ

โลกหมุนกลับหมุนไกลฝากทรงจำ
ตอกย้ำว่า..
ไม่เคยมีอะไรแน่นอน
จะอาวรณ์สิ่งใดไปทำไมเล่าเจ้าคนดี..ไม่ว่าวันนี้วันหน้า
จงทำเวลานาทีตรงหน้าเจ้า
ให้สมบูรณ์ที่สุดดีที่สุด..แล้วกัน..

คิดถึงลั่นทมสะพรั่งถิ่นหน้าพระลาน ..
กับวันวานยังหวานอยู่
และสองข้างทาง
เคียงทางเดินคู่...สู่วัดพระแก้ว..

ร้าวราน...
คิดถึงงามเงียบสงบเย็นในร่มใจในร่มธรรม
ดื่มด่ำพร่ำภาวนาสวดมนต์...
เพียรวอนไหว้
กลางกมลกระจ่างสว่างพ้อขอพร...

แม้นลูกร้าวรอนร้าวร่าง..อ้างว้าง..สักเพียงใด
อย่าให้หัวใจลูกหมดศรัทธา 
กล้าทำความดี
มีน้ำใจแด่เพื่อนมนุษย์ผู้ยังทุกข์ทนมากหน้า

อย่าล้า อย่าพ่าย..ถอดใจ
ด้วยความเบื่อ..วายวุ่นจนสุดทน
อยากหลีกร่างห่างไกลกมล
สังคมคนผู้วกวนเวียนว่าย
มากมายมากมี
แข่งกันดี..แย่งกันอยาก..มิหยุดคนคนคน!!!
......
ไม่ว่าบทเพลงใดบทกวีใคร
จงใช้ใจดวงใสดวงงาม
ร่างรสพจน์พร่างพรมเพียงดับเย็น..

หัวใจรู้สึกบอบช้ำ
รู้สึกแผกผิดคิดแตกต่าง
กลางสายชลวนกลางใจคร่ำ
กับกรรมเก่าของเราของเขาของใคร
ไม่มีไฟฝันใกล้ถอดใจพ่ายร่ายรจนา
เหว่ว้ากับอารมณ์เบื่อๆอยากๆนี้

ที่ยากจะอธิบายให้เข้าใจ...
สิ่งที่ซ่อนอยู่ *บ้านภายใน*..
อันแสนเงียบงามสงบสุข
อยากเพียงฝันซุกตัวเงียบ
แค่แอบมองจ้องดูธรรมดาคนธรรมชาติงาม
ธรรมดาใจสมถะ..
ไร้ทะเยอทะยานไขว่คว้า
แม้จะหวังฝันฝากงานงามง่ายร่ายรจนา..
ตราไว้ในผืนดิน
ก็มิถวิลอยากฝากชื่อ..ขอไร้ตัวตน...
****
นี่คือกมลดายเดียวดวงเดิม...ไร้ใจ
ที่ไม่แม้อยากบอกให้ใครรับรู้สู้เก็บงำ กลืนกล้ำ
เต้นไปตามบทละครลวง..โลก
โศกสะเทือนทับ..ดับ..และวาง..ว่าง
*****
ขอโทษนะคนดี.......
ที่ตื่นเช้ามา
มองเวลาผิดพลาด
มาพร่ำคำพรรณนา  นาทีใจ..จริงแท้...
ยามอุษาสางฟ้ากำลังกระจ่างใส
*****
ขอบคุณ..ในน้ำใจ...ตามโลก..
มอบโศกเพลง...เพิ่ม
เติมใจเศร้าตลอดมา..หวังว่าคงมิใช่ตลอดไปเป็นนิรันดร์!
				
16 กุมภาพันธ์ 2547 23:08 น.

โหมโรง..โหมรัก..โหมร้อง..

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=774

ดวง..รจนาเรื่องนี้....
ด้วยน้ำตาหลั่งรินถวิลรักอย่างสุดซึ้ง
คลอคะนึงไปกับบทเพลงไทยเดิม*นางครวญ* 
ที่กำลังบรรเลงโหยไห้ โหยหา 
รอท่านางใจนางในฝันสวรรค์หวานสักคน


ดวงฟัง..
*นางครวญ  นกขมิ้น ลาวดวงเดือน*
แล้วดวงใจ ราวพรายพลัดจากทรวง
ค่อยค่อยร่วงลอยละลิบ
ผ่านทิวทิพย์เมฆ สู่วิเวกหวานร้อยรัดรึง
อย่างโศกซึ้งในห้องหัวใจหวานเศร้าหนาวเหน็บ 
เสมือนดั่ง..วันวานยังหอมกรุ่น
หอมกอบกำละมุนอยู่ในหอมห้วงแห่งดวงใจรัก....


เสียงระนาดบาดใจ
เสียงหวานใสไพเราะราวแก้วกระจ่างงาม
ตามก้องมาเสนาะในใจถึงนาทีนี้...

*โหมโรง* 
ดวงดูหนังเรื่องนี้
ด้วยใจดวงดายเดียว ลำพัง
นั่งซึ้งซ่านประทับใจ น้ำตาไหลระรินพรั่ง  
ไร้อกใครซุกซบระบาย

หัวใจและร่างราวโลดแล่น
ลงไปในแผ่นฟิล์มเป็นหนึ่งเดียว

ราวลงไปนอนเกลือกกลิ้งกลางกอข้าวเขียวไพล
ที่กำลังแตกช่อไสว..ตั้งท้องรวงเรียว..รอเคียวคม
กับพระเอกนัยน์ตาโศกตรม กระชากใจ

ที่กำลังสิ้นไร้ใจแพ้ใจสิ้นท่า
นอนแหงนเงยมองฟ้า 
แลลอดผ่านกิ่งไกวไหวพลิ้วของดงมะพร้าว
ราวกับบ้านเกิดดวงที่เกาะ
ที่เกี่ยวเกาะใจดวงมานานช้า มาช้านาน



และละเมอแทบเป็นบ้าตามพระเอกไป
กับแสงเทียนพร่างในโบสถ์ร้างคร่ำ 
กับดำดื่มงามล้ำค่าใจ
กับพระพุทธรูปองค์โตที่เป็นฉากหลัง
ให้ยิ่งเศร้าซึ้งใจสุดทนในกมลงามเงียบนี้



ดวงรานร้าวเศร้าใจกับฉากนี้
ที่พระเอกศรยอมทรุดตัวลงแพ้พ่าย
เสียงระนาดของขุนอินทร์ 
ที่ตามมาหลอกหลอนเย้ยไยไพมิรู้สิ้น
ให้พ่ายใจ ให้ถอดใจ
ถึงกับยอมใส่ตรวนในมือถือไม้ระนาด
 ฝึกบรรเลง กระหน่ำย้ำแหลกใจสุดทานทน



และอีกฉากที่ดวงเททุ่มใจ 
ถอดใจเฉกกัน เข้าไปในฉากฝัน
อยากรับบทเป็นนางเอกเสียเอง
ที่ห่มสไบงาม
รัดเนินเนื้อนุ่มนวลแน่นนุ่งโจงกระเบน
กำลังเก็บละออช่อดวงดอกลั่นทม
ใต้ราวกิ่งพราวขาวละมุนไหว
แตกช่อใจแทงช่อรักกลางดวงใจพระเอก
ที่กำลังบรรเลงซอครวญเคล้า
ราวหวานตรมระทมทับทอดใจ หวนไห้ หานาง..



เป็นเหว่ว้า กระชากใจ 
ผ่านนัยน์ตาดวงนอกจอ 
ที่กำลังคิดกำลังอยากพร่างพ้อเพ้อ
ด้วยแสนคิดถึงใครบางคนแทน
ผ่านพราวดอกดวง ที่กำลังควงพลิ้ว
ปลิดปลิวปลอยลอยลงสู่สายชลเบื้องล่าง

น้ำตาดวง ร่วงแล้ว ก็ร่วงอีก
กับฉากเทิด..ผู้รู้คุณรู้ค่ารู้กตัญญูรักครู
เข้าใจจิตวิญญาณครูยิ่งชีวิต
ยอมแม้เสี่ยงชีวิต กลับไปเอาระนาดคืน



เป็นฉากตอนที่ตอกตรึงซึ้งใจจำประทับใจ
ในน้ำใจจงรักผ่านจากรุ่นพ่อสู่ลูกอีกรุ่นและ
ยังกรุ่นหอมในสำนึกเข้าใจ
ดังหลอมละลายเนื้อใจมาด้วยกันตั้งแต่ยามเยาว์



ฉาก..ศิษย์เอกยอมปลิดชีวิต ยอมตาย
เพราะมือพิการใช้การไม่ได้
ตีระนาดไม่ได้อีกต่อไป
และไม่มีพลังจะอยู่สู้โลก
โดยปราศจากมือที่จะได้ใช้บรรเลงเพลงรักระนาด
*****


มากฉากตอนสะท้อนรักเสียสละใจเพื่อไทย..
ความยิ่งใหญ่ที่สอนใจผู้รักงามเงียบสงบสมถะ
ให้ค้นพบความสุขล้ำลึก
ผ่านละคอนย้อนสอนใจตัวและใจดวงเสียจริงๆ



ดวง...นิ่งงันฝันเศร้า..ดูด้วยเหว่ว้า..
ด้วยดวงใจ..เหลียวหา..
อยากมีใครสักคนมาเคียงข้างดู 
ได้ซุกอกร่ำไห้ได้กระซิบคำหวานฝากไว้
ถึงดำดื่มจิตวิญญาณเสมือนเสมอกัน



ใครกันละหนอที่ดวงละเมอหลงเพ้อ
หลงฝัน เก้อทั้งยามหลับยามตื่นขื่นทรวงยับ
ราวเดือนดับในดวงใจ
เขา เพียงเคยฝันฝากใจในฟ้าระยับ
ให้ดวงจักมองเพียงดาวประจำเมืองเรืองรุ่งยามคะนึงหา



ที่ดูไกลตาสุกสกาว หากใกล้ใจเศร้าสุกปลั่ง...
ในห้วงหวังห้วงหาว
และไม่ว่ากี่คราคราว จะเศร้า ซึ้งสุข
 ดวงได้แลกใจแบ่งปัน ได้ฝันไกล
ให้หัวใจได้ลอยละล่องท่องลิ่วปลิวไป
ในห้วงหอมห้วงเหวรักภักดิ์พลีใจไปด้วยกัน



ราวสองใจฝันของสองเราสองดวงใจ
ได้หมุนรวมหลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว
ในกาแลกซี่ชีวี...
ที่หวานหอมล้อมรายรอบ
ด้วยดวงดาราพรายพราวราวสายเพชรพร่าง
กระจ่างจรัสเจรืองใจ 
ราวสายรุ้งแตกกระจายกลางใจ..
เป็นดั่งดวงดอกไม้..เพชรพลอย
นับร้อยพันผลิบานตระการตาตระการใจ



ดวง...รจนาเรื่องนี้
บนเตียงโบราณ  
ม่านสีขาวลายลูกไม้ห้อยชาย
ประดับประดาสี่เสาพรายพลิ้ว
เคล้าคลุกงานบทนี้เคล้าฤดีรักวิถีไทย
กับแสงตะเกียงริบริบหรี่ไหวไหววูบวูบวับ



และน่าแปลกใจนัก
ที่ข้าวของในหนังยังกับมีแฝดคู่
อยู่ในวิมานดวงวิมานดิน

ไม่ว่าโต๊ะตั่ง เตียง สำรับตะกร้า 
ชุดน้ำชาลายคราม ถ้วยชามรามไห
เชี่ยนหมาก..

เพราะดวงมีใจรักงามละเมียดนี่
ที่สะท้อนไทย
ที่แม้มีน้อยชิ้น
แต่ให้ใจไหวหวามในงามละมุนมิรู้สิ้นรู้สึก



ดวงชอบนั่งนิ่งมอง
แล้วใจดวง
ก็ราวจะติดปีกลอยล่อง
ถอยไปในนวนิยายสี่แผ่นดิน
แทบทุกคราคราวเคล้าประทับใจ

ดวงคิดขึ้นมาได้ว่า
ในหลายฉากหนังเรื่องนี้
ที่แสนดีแสนยิ่งใหญ่
ได้สอนใจให้เรารักรากเหง้าความเป็นไทใจรักอิสรา
และในขณะเดียวกัน
ก็ยอมรับความเป็นสากล 
หากเป็นสิ่งยืนยงงามในศิลป

ภาพที่ครูศรยอมรับเปียนโน
ที่ลูกชายซื้อมาและ
ครูศรผู้ชราได้พยายามปรับเปลี่ยนใจ
ทดลองผสานผสมให้เข้ากับดนตรีไทย
อย่างไพเราะเพราะพริ้งเป็นยิ่งนัก

ซึ่งแสดงถึงหัวใจที่เปิดกว้าง
 ยอมรับว่าดนตรีคือสื่อ
ที่เป็นความงามไม่มีชาติภาษา
มาขวางกั้นให้สิ้นฝันสิ้นไร้รัก
*****


ศิลป..ไม่ว่าแขนงใด
และยิ่งดนตรี
คือความพิสุทธิ์ใสดุจหยาดน้ำค้าง
หากสร้างจากใจดวงดีดวงให้
มิใช่ขายจิตวิญญาณทำเพื่อธุรกิจ

และคือความงาม 
สะท้อนจิตจากเนื้อใจใสเนื้อใจงาม
มากมีสีสัน ชีวิตชีวามีคุณค่าให้โลกยอมรับ

ขอเพียงให้ศิลปินนั้น
ได้สรรสร้างออกมาจากพลังภายใน
ที่งามงดใจ...
แม้นจะแตกต่าง ..ลีลา
อ่อนไหวอ่อนหวาน
รุนแรงทายท้าหาญกล้า
ก็ยังคงแฝงฝังความคิดจากใจดวงดี ดวงให้
ที่คิดมอบคืนกลับให้กับโลกและเพื่อนมนุษย์ 

และศิลป เป็นอิสระเดียว
ที่จะเกาะเกี่ยวก่อเกิดพลังรัก
พลังให้โลกละมุนหอมกรุ่นหยุดทำร้ายกันและกัน
และดั่งเป็นยาสมานฉันท์สมานใจแด่ทุกผู้คน
บนผืนโลกอันแสนจะกว้างใหญ่ไพศาลนี้...



ดวง...รจนาเรื่องนี้
ออกมาจากก้นบึ้งดวงใจ..ดวงนี้
ที่ดวงรู้ดีว่า...
โลกกำลังหมุนบ่าโหม
ไปตามแรงเชี่ยวกราก
ของกระแสโลกเทคโนโลยี่
ที่มากล้นวัตถุ มากมีมากมาย
คอยรอหลอมละลายให้ใจ
ผู้คนดิ้นรนและ*อยาก*เสียจน
กลายกลับแห้งผากในเนื้อใจราวไร้ใจพอกัน



ยากหยุดยั้ง
ขอเพียงใจไทยทุกดวง
รู้รักรู้หวงรากเหง้าของเรา
อย่าเสพเงาเสพงามใดทั้งดุ้น 

ให้รู้จักหมุนละมุนรับรู้ปรับใจ
ให้พอใจในสิ่งดีมีคุณมีค่าทางใจและจิตวิญญาณ
มากกว่าทางกายภายนอกที่พอกเปลือกดูงาม
และเพียรหมั่นรักษาใจให้สวยใสงาม
***


ทุกเวลา ให้รู้จักกระชากใจกลับ
อย่าลุกลนรีบรับอารยธรรมที่ไร้การกลั่นกรอง
ให้รู้จักล้างสี ที่หลงมาเปื้อนดั่งธุลีใจขยะใจ
รู้ฉลาดแยกกากใจ 
ไม่หลงตามกระแสแพร่อย่างรวดเร็ว 

และวัยรุ่น วัยรัก 
จงประจักษ์ใจมีสติคอยเตือนว่าสิ่งไหนดีเลว
ฝังรากใจให้หยั่งลึก มีสำนึกรักศักดิ์ศรี
และแสนภาคภูมิใจดวงนี้ในสิ่งที่บรรพบุรุษ
สู้รักษายอมพลีด้วยเลือดเนื้อนำมามอบให้.
ที่เรา.เรียกได้ว่าคือไท..
คือวิญญาณใจเสรีมิใช่ทาสใครเขา
ให้ฝังเพียรนึกลึกล้ำรู้คิดรู้ค่าวัฒนธรรมในเนื้อใจ



รู้พอเพียง 
รู้เลี่ยงหลบหลีกรำงับรู้ดับไฟร้อน
รู้ทันเท่ารักไม่ปล่อยใจตามโลกอารยะ
ที่ต่างจิตต่างใจต่างต่างการอบรมเพาะบ่มมายาวยืน

ให้รู้ค่าคำรักดีรักนวลสงวนตัว
อย่าชิดใกล้ให้เพลิงพิสวาทเผาไหม้ใจ
จากโลกภายนอกหากไม่ไหวทัน..

ขอจงใช้โชคดี 
ที่ได้เกิดมามีร่มธรรมดั่งฉัตรแก้วกั้นใจ
ยังมีกระแสธรรมธาร..ดับร้อนผ่อนดวงใจ
ให้สวยใสเย็นฉ่ำละไมละมุน



และไม่ว่าโลกจะหมุนไปทิศทางใด
หัวใจเราก็จะไม่หมุนเซตามหาก 
รู้ห้ามใจ รู้อะไรควรไม่ควรนะ
*********
ดวง..รจนามาแบบยาวย้าย อีกแล้วนะคะ
เพราะทุกคราปากกาและด้วยดวงใจรักภักดิ์พลี
ที่หวังดีปรารถนาดี
จะร่วมกันลากกระชากมือร่ายไปให้ร่ายไป
ราวนางมโนราห์ผู้มีศิลปในใจมีไฟฝัน
ได้ยินเสียงปี่ฆ้องกลอง กรับไม่ได้
ดั่งต้องมนตราจะออกท่าซัด..มิลาโรงมิลาใจ
*******


โหมโรง โหมใจ โหมไฟฝัน
 โหมสวรรค์งามง่ายให้รักในวิถีไทย
 วิถีใจของบรรพบุรุษเราเนานานมา

เสียงระนาดราวตามมาคลึงเคล้าเข้าห้อมโหมในห้องใจ
ให้หยุดหวั่นไหวไหวหวั่นไหวตามกังหันโลก
หยุดโศกตามกระแสนิยมบ่าไหล 
ที่ตั้งใจรับแทบไม่ทัน
ในสังคมทุนนิยมตรมตรอมใจนานวัน
 
ให้เป็นทาสผ่อนสวรรค์วัตถุลวงบ่วงคล้องใจ
มิเป็นไทแทบถึงวันสิ้นใจ..ตราบสิ้นลมหายใจสุดท้าย

ราวเกิดมาพลีเพียงชีวี
ให้วัตถุนอกกาย ใช่สุขจีรังยั่งยืน
สิ้นไร้ฝันไร้คืนวัน
มิได้พบจบลงด้วยบ้านภายในที่แสนว่างสงบสุข
*******


โหมโรง โหมใจดวง 
ให้สะเทือนไหว สะท้อนใจสะท้าน
รับดนตรีไทยคีตกวีไทย
เข้ามาสู่ดวงใจดื่มด่ำล้ำลึกมากขึ้นนะวันนี้
กับชีวีที่พลีพร้อม
รับรักงามเงียบเย็นฉ่ำร่ำกมลอยู่แล้ว
และ
ดวง..ประทับใจทุกนาที
ที่สายตาพาสายใจ
รับอรรถรสใจอรรถรสตาไปพร้อมกัน


และได้ฝันฝากงามเศร้า
ให้ใจดวงนิ่งงันจนถึงฉากสุดท้าย
*ภาพครูศร นอนป่วยใกล้สิ้นลม*
หากท่านยกมือขึ้นได้คล้ายจับไม้ระนาดบรรเลง
และราวท่านได้ยินเสียงเพลงแว่วหวาน
ท่านกระซิบว่าช่างงามงด..เสียเหลือเกิน



ในท่ามกลางหยาดน้ำตาพร่างพรู
ของผู้อันเป็นที่รักรายรอบร่าง
ที่แสนรักท่านแสนภาคภูมิใจ

และจิตวิญญาณฝันไซร้
มิมีวันมอดดับสิ้นตาม..

สายลมพัดพร่างบางเบา
ได้กลิ่นราตรีเศร้าราวร่ำไห้
ดวงดอกไม้ไทยหอมหอม
ราวพร้อมพลีน้อมดอกดวงคารวะรับ..

*********


หากสนใจรายละเอียด
เกี่ยวกับดนตรีไทยและคีตดนตรีไทยนะคะ
www.mitethai.tripod.com
www.dontrithai.com

 หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
--------------------------------------------------------------------------------
 
เป็นบุตรครูสิน ศิลปบรรเลง
 ซึ่งเป็นศิษย์ของพระประดิษฐ์ไพเราะ 
เป็นคนจังหวัด สมุทรสงคราม 
มีฝีมือในการตีระนาดที่หาตัวจับยาก 
จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง 
ครั้นได้ตีระนาด
ถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธ์ 
ก็ได้รับรางวัลมากมาย

 และได้ประทานตำแหน่งเป็น
 จางวางมหาดเล็กในพระองค์ 
คนทั่วไปจึงเรียกว่า จางวางศร 
นอกจากระนาดแล้ว 
ท่านยังสามารถบรรเลงปี่ได้ดี 
และสามารถคิดหาวิธีเป่าปี่ให้ 
เสียงสูงขึ้นกว่าเดิมได้อีก 2 เสียง 
ในด้านการแต่งเพลง 
ท่านสามารถแต่งเพลงได้เร็ว 
และมีลูกเล่นแพรวพราว 
แม้ในการประกวดการประดิษฐ์ทางรับ 
คือการนำเพลงที่ไม่เคยรู้จักมาร้องให้ 
ปี่พาทย์รับ ท่านก็สามารถนำวงรอดได้ทุกครา 

ผลงานเด่นๆ ของท่านมีมากมาย ได้แก่ 
- ประดิษฐ์วิธีบรรเลงดนตรี 
ทางกรอ ขึ้นใหม่ในเพลง
เขมรเรียบพระนครสามชั้น    
เป็นผลให้ได้รับพระราชทานเหรียญรุจิทอง ร.5 และ ร.6 
- 
ต้นตำรับเพลงทางเปลี่ยน คือ
 เพลงเดียวกันแต่บรรเลงไม่ซ้ำกันในแต่ละเที่ยว 
- พระอาจารย์สอนดนตรีแด่พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 
จนทรงมีพระปรีชาสามารถ  
พระราชนิพนธ์เพลงได้เอง 
คือเพลง คลื่นกระทบฝั่งโหมโรง  
 เขมรละออองค์เถา และ
 ราตรีประดับดาวเถา 
- คิดโน๊ตตัวเลขสำหรับเครื่องดนตรีไทย
ซึ่งได้ใช้มาจนทุกวันนี้ 
- นำเครื่องดนตรีชวาคือ อังกะลุง
 เข้ามาและได้แก้ไขจนเป็นแบบไทย 
- สอนดนตรีไทยในพระราชสำนักเมืองกัมพูชา 
และได้นำเพลงเขมรมาทำเป็น   เพลงไทยหลายเพลง 
- ตันตำรับการแต่งเพลงและบรรเลงเพลง 4 ชั้น 

ท่านเป็นคีตกวีในสมัยรัชกาลที่ 6 ถึงรัชกาลที่ 7
 ซึ่งนับว่าเป็นดวงประทีปทาง ดนตรีไทย
 ที่ใหญ่ที่สุดในยุคที่ดนตรีไทยเฟื่องฟูที่สุดด้วย



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=774
 สี่แผ่นดิน   
ละครทีวี สี่แผ่นดิน : : Key D  
คนมี ชีวิตและกายา
ถือ กำเนิดเกิดมา
เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย
ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่
กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน
เป็นแดน ที่ให้ชีวา
พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน
คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน
เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย
ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน

ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
 

				
15 กุมภาพันธ์ 2547 17:11 น.

มายา!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5967

ราตรี...เพิ่งเริ่มต้น...
ดวงยืนเคว้งคว้าง..งงงัน..
ใต้ร่มลั่นทมสล้าง
พร่างดอกดวงดกพราวไปทุกราวกิ่ง
ริมร้านเรือนไทย 
ในถนนสายฝันสายสวย..สุขุมวิท


ดวง..ดั่งต้องมนต์
หลงเสน่ห์ทั้งร้านทั้งต้นไม้พรายดอกดวงละออ
จนต้องแวะลงนั่งนิ่งพิงพักใจ
และได้คุยภาษาใจภาษาเดียวกัน
ภาษาพรรณพฤกษ์ไพรละไมละมุน
กับเจ้าของร้าน..เรือนงามงด 

.
ที่ซ่อนตัวไสว
ในดงดอกไม้หอมหอมกล่อมกลางกรุง
เป็นร้านที่หอมกรุ่นด้วยความเป็นไทย
ทั้งพรรณไม้ไทยไสวหวาน
และกลิ่นไอม่านมนตราของความเป็นเอเชีย

ช่างเป็นร้านในฝันในใจ
ที่งามง่าย ช่างชิดใกล้ธรรมชาติอะไรปานนี้
ราวเรือนไม้ของเจ้าคุณอัครเทพวรากรในทวิภพและ
จบลงด้วยงามอย่างเรือนไทย
ในดงมะพร้าวของหนังโหมโรง

ที่ให้งามถวิลละเอียดละออ
ในงานละเมียดละมุนไม้เป็นยิ่งนัก
แถมยังมีตั่งให้นั่งนิ่งพิงพัก 
ทายทักธรรมชาติรายรอบตัว
ด้วยพันธุ์กล้วยไม้ไทยชูช่อกอไสว
ในโอ่งดินเผาดิบเดิมเคียงดิน
.

นาทีนั้น
พลันไม้ไทยหอมหอมระรินร่ายมนตรา
ให้ดวงใจทุกผู้ทั้งไทยเทศที่ถวิลงาม
ได้สัมผัสดิ่มด่ำล้ำลึกรำลึกอดีต..นานเนา..
มิเฉาไปกับกาลเวลา

เจ้าของร้านให้นามบัตรมา
และสัญญาจะส่งภาพมาให้ทางเมล์
และดวงตั้งใจว่าคงได้นำมาลงประกอบ
ในเรื่องรักรจนารักเรื่องต่อไป
...

ราตรีนี้ ..
ดวงใจดวงมีนัดกับดาราดัง
และเราจะพากันเข้าไปเฉลิมฉลอง
การปิดกล้องการถ่ายทำหนังยิ่งใหญ่ระดับโลก
ที่มาถ่ายทำที่เมืองไทยนานหลายเดือน

และนาทีนี้นาทีนั้น
อยากกระซิบถึงใครบางคน
ที่เป็นชาวอุบลเมืองบัวงามนามเพราะ
ให้รับทราบด้วยความภาคภูมิใจ
ด้วยความดีใจว่า..

ผาแต้มได้รับเลือกให้เป็นหนึ่ง
ในฉากงามแห่งฝันประจัญบานอันเหี้ยมโหด
และอีกที่คือกลางป่าสระบุรีที่สมมุติว่าที่นี่คืออินเดีย
ที่เรายังพอมีช้างหลงเหลือให้ถ่ายทำ
และง่ายกว่ากันที่อากาศมิได้ร้อนตับแลบแบบที่นั่น
*******


หนังเรื่องนี้ ไม่นานคอหนังคนไทยคงได้เห็น
งานสร้างอันยิ่งใหญ่ที่ทุ่มทุนมหาศาล
นับเป็นพันพันล้านบาท
****
.

แลทันทีที่เยื้องย่างถึงหน้างาน
อันอลังการแต่แฝงความเรียบง่ายสบายๆ
แบบดาราฮอลลีวู้ดก็ปรากฎชัด
เพราะว่าอย่าคาดหวังเลย
ว่าจะได้สัมผัสกับงานปาร์ตี้ส่วนตัวนี้
และมีโอกาสได้กระทบดาราดังระดับโลก
และผู้มีชื่อเสียงในวงการหนังระดับชาติ
หากไม่มีบัตร..แสดง..

มีเจ้าหน้าที่ไทยเทศในชุดสากลดำทะมึน
ดูแลความปลอดภัยเข้มงวด
คอยตรวจตราหาอาวุธ
อย่างละเอียดละออ 
และห้ามนำกล้องถ่ายรูปเข้ามา 
หากว่าไม่ได้รับอนุญาติ
และกว่าจะผ่านเข้าไปได้..ก็มิได้ง่ายเลย
หากมิใช่ทีมงานในกองถ่ายทำ
*******


เสียงเพลงกระหึ่ม ก้องกระหน่ำใจ
ทั้งฮิพฮอพ เทคโน แรพ 
กำลังบรรเลงโดยดีเจมืออาชีพ
สลับสับกันให้จังหวะมันส์เร้าใจมิยอมขาดตอน

ทั้งโถงสองห้องสองฟากฝั่ง
มีหญิงงามละไมในชุดรัดรูปเพ้นท์ร่างอย่างนางเสือสาว
กำลังก้าวย่างเยื้องยักย้ายร่ายร่างระบำบนเวทีฝัน
ไปตามจังหวะเพลง 
มีทั้งเนิบช้า
และลีลาค่อยๆเร่งร้อนตามลำดับ
พร้อมกันกับที่จอ LCDกำลังฉายภาพฝัน
สลับรับกันไปมิหยุดพักสักนาที
********


ทุกคนดื่มไม่อั้น 
ขยับเท้าโยกไกวอย่างเมามันส์ฝันกระเด็นกระดอน
ไปตามใจอิสระเสรีสิ้นไร้สิ่งใดพันธนาการ
กับ แสงไฟพริบพร่างทุกร่าง
ราวแมลงเม่าบินเข้าเคล้ากองไฟ

จะมอดไหม้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวใครตัวมันจะประคองร่าง
ประคองใจให้ปลอดภัยได้หรือไม่ในวงจรระเริงระรื่น
อาจจะหลงลืมตัวชั่วขณะขาดสติสตังด้วยเครื่องดื่มมอมเมา
หากไม่รู้ยับยั้งชั่งใจในความเหงา
ไม่รู้จักความพอดีพอเพียง
ในทุกสถานการณ์ของชีวีชีวิต


บาร์ทั้งหมดมีสามชั้น 
มีราวบันไดให้พนักงานสาวสวยสล้างร่างบอบบางเพรียวลม
ในชุดขาวรัดรูปห้อยโหนส่งอาหารท่ามกลางแสงสี

รายรอบห้องมีเบาะสีขาวหมอนนวลนุ่ม
ให้เอนอบอุ่นราวอยู่ในฮาเร็ม
ใครเบื่อโยกย้ายช้ายขวา
ก็พากันมานั่งสบตาคุยกัน
ท่ามกลางแสงเทียบหวามไหววูบวับ
********

บาร์เครื่องดื่ม เปิดไม่อั้น มากมีไวน์ชั้นดี 
ใครจะดื่มจะดริ๊งค์มากขนาดไหนไม่มีใครว่ากัน
ในมือทุกคนจะมีแก้ว..ไม่แก้วเหล้า
ก็ขวดเบียร์เคลียคลอด้วยสาวงาม แนบชิด
โยกสนิทเลื้อยแนบร่าง
ไปตามลีลาเพลงเร้าใจ วาบหวามใจ
********


และ
นี่คือโลกราตรี ในรอบสิบปี
ที่ดวงเลือกมาสัมผัสเพื่อหวังนำมาร่ายรจนา
ฝากบทเรียนถึงทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยว่า
ในโลกเรานี้มากมีหลายโลกซ้อนทับสลับดีร้าย
ให้ฝันดีฝันร้ายอยู่ตรงที่เราจะเลือกโลกไหน
จะไปยืนตรงจุดใด
ให้เรานึกตรึกตรองดูด้วยสติด้วยตัวเอง..
.

สำหรับดวง
นะราตรีนี้
ขอแค่มีส่วนเสี้ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์
แบบหวังเอามารจนางานที่รัก
เป็นบทเรียนรักบทเรียนใจ
และเพื่อได้ทายทักรู้จักโลกอีกแง่มุมหนึ่ง
เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่ดวงยอมรับว่า
ห่างไกลในชีวิตประจำวัน
อันแสนงามเงียบเรียบง่ายไร้มนต์มายาใดใด
ที่จะมาทำให้ใจดวงนิ่งนิ่ง
ของผู้หญิงคนนี้ไหวหวั่นสั่นคลอนได้
*******...

และจริงๆกับบางสิ่งบางอย่าง
ที่ดวงได้พบภาพฉาบนัยน์ตา
พาสะเทือนอารมณ์สะเทือนใจ
ที่ใครๆคงมัวแต่สนุกจนลืมนึกจนมองผ่าน

ภาพสาวบริสุทธิ์ใสหน้าตาบ้านๆ
ยืนประจำหน้าห้องน้ำตลอดคืน
เพื่อดูแลแขกผู้พิเศษมีเงินงามมีร่างสวยรวยทรัพย์
ที่กำลังเมามันส์กับโลกฝันอันมอมเมาไม่ยั้ง
ที่ต่างมายืนใกล้ในจุดเดียวกัน

แต่..ต่างคนต่างฝันคนละเป้าหมายชีวี


และ
ภาพเธอผู้ใสซื่อนี้
ก็ตามติดมาให้ดวงสะท้อนสะท้านใจหนาวเยือก
ดวงพยายามหลับตาอย่าคิดลึกนึกล้ำมากนัก
กับโลกนี้กับชีวิตราตรีของคนกลางคืน
ที่แค่ผ่านมาชั่วคืนพานพบเพียงราตรีมิยาวยืนมิยั่งยืน
และคงมิสามารถยั้งหยุดโลกให้หมุนไปแต่ในทางใสสวย

ดวงพยายามเข้าใจและพยายามคิดว่า
นี่คือโลกมายายามราตรี
ที่ผู้คนมากมีทำงานมายาหามรุ่งหามค่ำ
สร้างโลกแห่งฝันโลกเซลลูลอยด์
ให้ตัวละครเต้นเร่าราวมีชีวิตจริง
เป็นดั่งมนต์ฝันมนต์มายาอันมหัศจรรย์ตามสรรเสกได้

หรือจะสร้างให้เหลือเชื่อเกินใจเกินจริงสิ่งที่จินตนาการ
ใช้เป็นมนต์หวานผ่านม่านมายา
มาปลอบขวัญปลอบประโลมใจมนุษย์
ได้อย่างถึงแก่นใจ 
ด้วยดวงใจด้วยการเททุ่มใจเททุ่มทำ
.

และ
เมื่องานฝันสำเร็จลงในยามนี้
ที่สนุกกันก็ถือแค่เป็นรางวัลแด่คนช่างฝัน
ด้านโลกหนังโลกภาพยนต์โลกคนทำงาน..

ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างทุกคนไปถึงเบื้องบน
ที่พอพบหน้ากันก็ต้องผวากันโอบกอดจุมพิต
ด้วยซาบซึ้งถึงคืนฝันวันยาวนาน
ที่ร่วมล้มลุกคลุกคลานคลุกคลีมีเรื่องมากมายมาก
ที่ต้องร่วมฝ่าฟัน
กว่าฝันจะสำเร็จเป็นจริงเป็นจังให้คนนั่งดู
หัวเราะร้องไห้ดั่งหลายๆเรื่อง
ที่ประเทืองประทับใจ
ที่ยิ่งใหญ่ยากจะลบลืมเลือน
ในคำค่าความเป็นเพื่อนเช่น

เดอะลอร์ด ออฟเดอะริง
ที่พาให้เศร้าสุขโศกวิโยค
สะเทือนสะท้อนสะท้านใจ
สอนใจให้มีปรัชญาใจ
ในการดำรงอยู่คู่คำมนุษยชาติ
ที่มิอาจจะดำรงได้หากสิ้นไร้
ซึ่งความรักสามัคคีคุณธรรมและความดี
*******
.

ดวงหยุดคิดไกล 
และนาทีนี้
ที่แป้นคีย์กำลังระรัวพิมพ์พร่าง
ดวงจะไม่ลงในรายละเอียดงานปาร์ตี้ทุกฉากตอน
อย่างผู้ที่ต้องให้กำลังใจและมองโลกสวยใส
ในแง่เข้าใจในแง่บวก ว่าย่อมมีทั้งด้านดีเลว
สุดแต่ใจเราใจใครจะเลือกไขว่คว้า
จนกว่าจะค้นหาธรรมชาติใจธรรมดาตนได้พบเจอเส้นทาง
ตามรอยบุญแรงกรรม ของใครของคนนั้น

และ

ด้วยมารยาท.งาม
ดวงมิอาจรจนาเสียสิ้นรู้สึก
ที่แตกช่อก่อสำนึกให้ดวงใจดวงสะเทือน
ในทุกสิ่งที่ใจนึกที่ตาเห็นแปลกแผกผิดผู้อื่น
เพราะงานนี้แม้สื่อมวลชนยังมิได้รับอนุญาติให้กรายกล้ำ
ดวงแค่เขียนผ่านและอยากบอกว่า
ดวงดอกไม้หวานไหวดวงใจพิสุทธิใสดวงดอกนี้
แสนภูมิใจที่ได้กระทบไหล่คนทำงานหนังดังระดับโลก
และเมื่อ

เข้าเมืองตาหลิ่วปลิวไปปาร์ตี้แล้วไยไฉนเล่า
เจ้าดวงดอกไม้จะไม่ใช้เวลาให้มีค่าวาดลวดลาย
เริงร่ายระบำระบายวาดลีลาลวดลายเต้นรำให้มันส์หยด
ถึงใจพระเดชพระคุณ..
จนมีคนมากระซิบบอกทีหลังว่า
มีคนจับตาและมีคนกดชัตเตอร์เก็บภาพไว้
*******


น่าเสียดายที่ทุกสายตาคนในร่มรักเรือนไทย
มิอาจเห็นได้ คงต้องใช้แค่ใจจินตนาการนะ
และหากได้เห็นอาจจะประทับใจท่าเต้นของ
ดวงผู้หญิงคนนี้ที่เกิดมาชาตินี้
แสนมั่นใจในทุกอณูของลีลาชีวิต
ทุกบทบาททุกกระบวนท่าไม่ว่าจะเศร้าสุข
รุกเร้า เร่าร้อน รานรอน   
อ่อนหวานดายเดียวเปลี่ยวเหงา
งามเงียบเรียบง่ายไร้รัก
อกหักแพ้พ่ายสิ้นไร้ใจสิ้นไร้ใครก็ตามที..

และ

น่ายินดีที่มีคนคิดถึงถามตามภาพฝัน
ทางมือถือ..ดวงใส่ชุดอะไร..งานนี้
ในค่ำคืนนี้คำคืนนั้นนะคนดี
ก็ชุดธรรมดาธรรมชาตินะซี
ก็ดีกว่าใส่เสื้อขาดก็พอแล้ว
.

เพราะดวงคือดวงค่ะ
มิหวังวาดเพียงเปลือกนอกหลอกใจหลอกใคร
สำหรับดวงจะรับบทเป็น  *สาวไฮโซช่างฝัน*
หรือรับบท*สาวนาลำเค็ญ*
ก็เต้นก็ทำไปตามบทกำกับรักรจนา
หาญกล้าทายท้าโลกจิตวิญญาณ
และโชคชะตาฟ้าดิน

หวังแค่ฝากหวานงามงด..ไว้ให้ประทับใจ
ในความเป็นนักสู้นักฝัน
นักรักรจนาผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้แปรใจรัก..
ขายจิตวิญญาณ
ยอมรานร้าวปรับตัวได้ทุกสภาพ
ทุกสถานการณ์หวานหวัง
แม้นบางครั้งจะสิ้นไร้ฝันแสนโศกสิ้นดี..

ก็จะมิมีวันถอดใจลา..นะดวงใจ


หลับตาสิคะ...
แล้วจะฝัน..แล้วจะเห็น
สาวนาแปลงร่างร้าว
กลายเป็นดาวดวงน้อย
กระทบไหล่ดาราดังเด่น..

ดั่งนกกระเต็น เต้น เต้น เต้น
ไปตามเพลง อันงดงามเร้าใจ 
ในชุดขาวเปิดไหล่สล้าง 
พร่างผมยาวสยายสลวย
สะบัดไหวไปตามแรงร้อนดนตรี
********


เชื่อหรือยังคะคนดี..ว่า...
สิ่งที่อ่านผ่านตานะนาทีนี้
เป็นเรื่องฝันหรือเรื่องจริงของผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อ..ดวง..
				
14 กุมภาพันธ์ 2547 12:38 น.

เพียง..ดอกว่างกลางใจ!

พุด



ภาพ  SAD ANGEL 
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420
(รางวัลชีวิต)

ไม่ต้องการดอกไม้ใดในใจฝัน
ปลูกนานวันหวั่นดวงใจไหวกิ่งถอน
ไม่คิดปลูกดอกไม้ใดถอนรากรอน
ดอกรักซ้อนดอกรักไหนก็ไม่เอา..

หวังที่ว่างกลางใจไม่ยึดมั่น
จะดอกรักดอกฝันรอวันเฉา
ร่วงราโรยปลิดกลีบเหลือเพียงเงา
เนื้อใจเราเพาะดอกดีเพียงนี้พอ...

อย่าหว่านกอแตกช่อรอน้ำรัก
พันธนาการภักดิ์เพียงผูกพันให้ฝันพ้อ
เพียงหว่านคำลำนำรักก็เกินพอ
บทเรียนรอขอลบว่างกลางเนื้อใจ...

ไม่ต้องการดอกไม้ใดในใจอีก
จะสักอีกกี่พันดอกบอกหวามไหว
เอาคืนกลับฉันไม่รับแล้วดวงใจ
เพาะกอใหม่ในใจอื่นรอชื่นทรวง...

ดอกคิดได้สวาทวายเหลือว่างเปล่า
ดอกหลงเงาหลงฝันหลงห่วงหวง
ในวันนี้ตายสิ้นซากกลางใจดวง
ไม่ขอทวงขอถามความหมายใจ...

เอาคืนไปดอกไม้ใดมิหมายฝัน
เหลือเพียงวันปลูกดอกว่างสว่างไสว
ดอกรักเธอแค่เก็บมาเพ้อรจนาใจ
ไม่เสียใจไม่เสียขวัญกับวันลา..กับวันลวง!

**********


บันดาลใจจากข้อความลวงตามโลก..โหล
ใจมิรับ..มิจับใจ..มิต้องการ..
ใจดวงดีดวงงาม..ว่างเกินจะรับดวงดอกไม้ใด
จะเหลือก็เพียงเนื้อใจ..ให้..ไร้รอรับ..

*********


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420
 รางวัลชีวิต   
ชัชฎาพร ลักษณาเวช : : Key B  
พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม
คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร
ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด
ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น
ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ
ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน
ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์
ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม
โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี
ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม
หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ
ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน
สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา
กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์
หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์
เวรกรรม ทุกชาติก่อน
บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย... 


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด