12 สิงหาคม 2546 23:15 น.
พุด
ไพลเขียนเรื่องนี้..ที่เรือนจำปี
ท่ามกลางใบเขียวขจีสดสะอ้าน ที่ห้อยย้อยลงมาระบัดไหวไกวก้านกิ่ง
ตามแรงลม..และห่มให้หัวใจดวงร้าวนี้ สดชื่นขึ้น
นกขันคู..จับอยู่ตรง..ชิงช้าแก้ว..แพรวพวงดวงดอกดก
กล้วยไม้สามสี ขาว ม่วง เหลืองไพล และ....
โฮย่า ดอกแดงดอกดาวซ้อนอ้อนหอมจรุง
แขวนริมชายคา...
กังหันระบัดลม เหมือนใจคนหมุนวนระบัดลิ้น
ลวงหลอนหลอกล่อให้หลงลมหลงเล่ห์เสน่หา..
กองหนังสือ..ที่อ่านคา มากองรอท่า..ประโลมใจ..
มองออกไปไยฟ้าไกล วันนี้เป็นสีน้ำเงิน โลกดั่งสีน้ำเงิน..อีกครั้ง อีกครา..
เปิดซีดีเพลงฟังนี้ ที่ไพเราะมาก...
เพลงฝน... the rhythm of the falling rain
The Cascades
* Listen to the rhythm of the falling rain
Telling me just what a fool I ve been
I wish that it would go and let me cry in rain
And let me be alone again
** The only girl I care about has gone away
Looking for a brand new start
But little does she know
That when she left that day
Along with her she took my heart
Rain please tell me now does that seem fair
For her to steal my heart away
When she don t care
I can t love another when my heart s
Somewhere far away (Repeat **)
Rain won t you tell her that I love her so
please ask the sun to set her heart a glow
Rain in her heart
And let the love we knew start to grow (Repeat*)
Oh, listen to the falling rain
Pitter-patter, pitter-patter, oh, oh, oh
Listen, listen to the falling rain
.........
ตามมาด้วยบทเพลง.
The Last Leaf
ใบไม้ใบสุดท้าย
The Cascades
The last leaf clings to the bough
Just one leaf thats all there is now
And m y last hope lives with the lonely leaf, lonely leaf
With the last leaf that clings to the bough
Last summer beneath this tree
My love said shed come back to me
Before the leaves of autumn
Touch the ground, touch the ground
My love promised shed be homeward bound
Then one by one the leaves began to fall
And now that winters come to call
The last leaf clings to the bough
Just one leaf, thats all there is now
Will my last hope fall with that lonely leaf
Lonely leaf, with the last leaf, the last leaf, with the last leaf
That clings to the bough..bough..bough..
..............
เสียงประทัดแว่วมา..ส่งสัญญาณว่าเป็นสารทจีน
คิดถึงขนมเข่งที่ทำจากข้าวเหนียวดำ หวานมันส์อร่อยล้ำอร่อยลิ้นฝีมือแม่..
คิดถึง..เกาะอีกแล้ว แว่วเสียงคลื่นมาเซาะซอนซอกเศร้าในอกร้าวครางครืน..
ลุกไปหยิบหอย..มาแนบหู.ฟังพรูคลื่นพอแทนคะนึง..
ตั้งใจจัดเรือนจำปี ให้เหมาะที่จะออกมานอนนับดาวพราวพร่าง
เพราะกลัวแต่ว่างูจะมารัดร่างตอนหลับไหล..
อยากมานอนเหงาเงียบกับเงาดาวเคล้าเงาใจ
ไปกับสายฝนพรำฉ่ำรินในหัวใจที่ตกต้องตลอดเวลา..
และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด..พร่าง..ห่างไห้หวนหา..
มองพระจันทร์สีน้ำเงินแสนสวยเศร้ามาหลายราตรีเลยล่วงแล้ว
แถมเร้นหลบในเงาเมฆ..เทาทึมครึ้มในหัวอกหัวใจ..
ลมพัดตึง..คลึงยอดตองแตกรายริ้ว..
กล้วยแกว่งไกวไหวหวี ลูกนิ๊ดน้อยห้อยราวเล็บมือนาง
กางฟ้อนกวักไกวเรียกดวงใจใครให้คืนกลับมา..
การะเวก ยังเสกดอกหวานเศร้าพราวทุกก้านกอ ล้อใจเจ้าของ..
เข็มขาวพราวช่อชูชัน..แข่งกันแทงดอกขาวพร่างกลางปุ่มปมเขียวใส
พุดซ้อนอ้อนใจใคร กันละหนอ .....
พากันละอออรชรอวดดอกหวานพราวขาวนวลยวนเย้าน่าเสน่หา
ฤาว่ารอลบระทมแกล้มกอราตรี..ที่งามเศร้าเกินบรรยาย
นอน..นิ่ง..หลับตา ซุกกายใจ..ไม่คิดอะไร ไม่ว่าเศร้าสุขทุกข์ร้อนอ่อนแอแพ้พ่าย
หยุดคิด หยุดฝัน หยุดวัน หยุดคืน หยุดขื่นหยุดขม
มีแค่ลมหายใจบางเบา กับเงาน้ำตารื้นหลั่งริน เหนือการควบคุม...
เพียง...นั้น..ตามใจฝันเฝ้ารอ
ฟังเสียงงามเงียบของดนตรีธรรมชาติธรรมดาๆ..จากใจดวงดีที่นิ่งงันเงียบงาม
โอ้ปีศาจวสันต์ ไยไม่มาย้อนยอกหลอกหลอนกระหน่ำตี..
ให้หัวอกหัวใจดวงนี้แดดิ้นไปเลยเล่า..เอย..
ใจ..เอ๋ย..กลัวไปไย..ในอารมณ์เจ็บนี้ที่ได้รับมาจนชาชิน..
ปล่อยให้พายุใจกระหน่ำซ้ำซัดมาให้สิ้นให้พอ จะไม่ขอทรุดตัวลงวอนไหว้
ไม่ว่าร้ายหรือดีสำหรับใจลูกนี้พร้อมเผชิญเพลงกรรม..
ให้หนำใจ..ให้หมดไปในชาตินี้..เพียงชาติเดียว....
อย่าได้ตามมาข้องเกี่ยวทุกภพทุกชาติต่อไปอีกเลย!แล้ว!
ลืมฉันเสียเถิดที่รัก
ลืมใจภักดิ์รักกันเลิกหวั่นไหว
ลืมความฝันพันผูกรัดร้อยใจ
ลืมอะไรอะไรให้สิ้นซากสวาทวาย
ลืมสายไยใจจริงทิ้งสายฝัน
ลืมสวรรค์ลอยเลื่อนเลือนลับหาย
ลืมความหลังฝังฝากทั้งใจกาย
ลืมสายสวาทเสน่หาอ้อนอาลัย
ลืมว่าเคยรู้จักกันในชาตินี้
ลืมชีวิตชีวาน่าหลงใหล
ลืมความหลังเคยฝากฝันไกลแสนไกล
ลืมหัวใจไม่รักดีที่เจ็บจำ
ลืมลืมลืมคือสิ่งที่ดีที่สุด
ลืมและหยุดหัวใจใฝ่หาช้ำ
ลืมความรักตรอมตรมลืมระกำ
ลืมซ้ำซ้ำ..ท่องคำว่า..ลืมลืม..และลืม..ให้ขึ้นใจ!
12 สิงหาคม 2546 11:17 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4375
หาเพลงคืนเขาไปไม่เจอค่ะ
ฟังเพลงคืนรังแทนนะคะ
และสัญญานะคะคนดีทุกดวงใจพุดพัดชาจะเขียนเกี่ยวกับ
บทเพลงคืนรัง..สักครั้งครา..ไม่นานเกินรอค่ะ
.............
คืนเขาไป......
คนที่คบกันมา สบตาก็รู้แล้ว
เธอไม่เหลือวี่แวว อย่างคนเคยรักกัน
เมื่อคนบางคน ที่ทิ้งเธอไปในครั้งนั้น
เขา จะกลับเข้ามา จะหมดเวลาของเรา
คนคนนี้ ยังมีอะไรให้เรียกร้อง
คนที่แพ้ไม่ควรต่อรองให้ยืดยาว
แววตาที่ฟ้องว่าเธอยังรักเขา
บาดลงไปกรีดลงไปถึงหัวใจ
*เปล่าเลย ไม่โทษเธอ เปล่าเลย ไม่แค้นใคร
ถึงเสียเธอ ถึงเสียใจ แต่ก็ทำได้แค่นี้...*
**คืนเขา เมื่อเธอไม่ใช่ของเรา คืนเขาไป
ยอมแพ้ แล้วไปให้ไกลเสียดีกว่า อยู่กับคนที่ไร้ใจ
อยู่ไปมันก็ไร้ค่า เจ้าของเขาเดินกลับมา
ถึงเวลาไป(คนรักของเธอกลับมา ฉันก็ควรไป)
คนที่ทิ้งเธอไป แต่เธอก็ยังรักเขา
คนคนนี้ไม่เคยจะเอาชนะใจ
เจ็บปวดก็คงต้องทนรับ วันที่โชคร้าย
คืนเธอไป ให้กับเจ้าของที่แท้จริง..(ซ้ำ **)......
ปราง......ได้ยินเพลงนี้ที่ไร หัวใจดวงร้าว ราวถูกเชือด
ทั้งๆที่นานหลายปีแล้ว..ที่ ปราง... คืนเขาไป..ให้กับบางคน....
ระหว่างเรา....ไม่มีคำลา..ไม่มีคำว่าเสียใจ..ปล่อยให้ทุกเรื่องราว
มันค้างคา อยู่ภายในซอกแห่งความทรงจำ อันงดงามหวานหอม
ตกตะกอน..หวานปนขมขื่น...ที่..ไม่อยากกวนขึ้นมา..เพื่อหาคำตอบ
ใจหนอใจ... มันรานร้าว ไม่มีชิ้นดี เหมือนดั่งคนที่มีแผลเป็น
ที่ตอกย้ำสำนึก ให้รู้ว่า..อดีตที่ผ่านมานั้น..แค่ให้จำจดเป็นบทเรียน...
แต่..ไม่มีวัน จะลบเลือน ละลายหายไป..ให้ใจกลับมาเป็นใจดวงดีดังเดิม.....
ปราง......เรียนรู้ว่า.....
โลกนี้...ไม่มีใคร..สมหวัง ไปทุกสิ่ง..และผิดหวังไปทุกอย่าง...
โลกสรรสร้าง..ความพอเหมาะ พอดี มาให้เรานี้ได้รู้จักรัก และเรียนรู้
เพียงแต่เรา อย่าอ่อนแอ ยอมแพ้พ่าย.......
วันนี้....เราแทบเป็นแทบตาย กับใครบางคน ที่เรา....เทใจ..ให้เขาหมด....
และในวันหน้า....
ฟ้าดินก็อาจะจะเมตตา ส่งใครบางคนมา...เทใจให้เราหมด....ราวแลกกัน...
ถ้าผิดหวัง....เสียใจ...จงเร่งสร้างกรรมดี...เชื่อซีว่า....
ผลพวงของชีวิตนี้ ถูกลิขิตมา จาก กรรมหรือการกระทำ เป็นเครื่องนำทาง.....
ชาตินี้....ตัดอกตัดใจเสียเถอะ....อย่ามัวหลงทาง..กับความอ้างว้าง มืดมน
กับคนที่เรารักและฝันใฝ่นั้น..ถ้ามันมิใช่ของๆเรา........
ปราง...รู้เพียงว่า...เวลาที่อกหักนั้น โลกกลายเป็นสีน้ำเงิน.....มันขมขื่น
ไม่ชื่นบาน แสนหวานเหมือนอย่างเคย.....
แต่เชื่อเถิดนะ...เราจะไม่ตาย....เรายังต้องหายใจอยู่......
จำไว้...ไม่มีใครตาย เพราะขาดใครไม่ได้.....แต่เราจะตาย ถ้ายอมแพ้พ่าย ไม่กิน ไม่นอน คิดร้ายทำลายชีวิตเราเสียเอง........
บทเรียนของ..ปราง อยากนำมาบอกกล่าว เล่าสอนใจ ใครต่อใครหลายๆคนที่กำลัง..ช้ำใจ..ว่า
ฟ้า...จะไม่ทอดทิ้ง...คนดี...ถ้าเราทำสิ่งดีๆที่งดงาม เชื่อเถิดว่า ไม่ช้านาน ดอกไม้จะบาน ในใจเราอีกหน
ฟ้าจะปรานี....ส่ง..ใครบางคน มาเป็นคู่ขวัญ มีฉัน มีเธอ...ให้มีเรา..เคียงคู่กันตราบวันตาย
และบทเรียนร้าย บทเรียนรัก ก็จงเก็บไว้ให้ตกตะกอน...แค่ไว้สอนใจ..แก่ผู้มาทีหลัง
ที่ความหวังพังภินฑ์ ลอยล่อง.ไปกับสายลมผ่าน...นะคนดี...
คืนรัง
หงา คาราวาน : : Key Dm
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
จากขอบฟ้า ที่ไกลแสนไกล
จากโคนรุ้ง ที่เนินไศล
จากใบไม้ หลากสีสัน
ฉันเหนื่อย ฉันเพลีย ฉันหวัง
ฝากชีวิต ให้เธอเก็บไว้
ฝากดวงใจ ให้นอนแนบรัง
ฝากดวงตา และความมุ่งหวัง
อย่าชิงชัง ฉันเลยยอดรัก
นานมาแล้ว เราจากกัน
โอ้คืนวัน นั้นแสนหน่วงหนัก
ดั่งทุ่งแล้ง ที่ไรเพิงพัก
ดั่งภูสูง สูงสุดสอย
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
ดั่งชีวา ที่เคยล่องลอย
มาบัดนี้ ที่เราเฝ้าคอย
เจ้านกน้อย โผคืนสู่รัง
นานมาแล้ว เราจากกัน
โอ้คืนวัน นั้นแสนหน่วงหนัก
ดั่งทุ่งแล้งที่ ไรเพิงพัก
ดั่งภูสูง สูงสุดสอย
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
ดั่งชีวา ที่เคยล่องลอย
มาบัดนี้ ที่เราเฝ้าคอย
เจ้านกน้อย โผคืนสู่รัง
ฉันเหนื่อย ฉันเพลีย ฉันหวัง...
12 สิงหาคม 2546 09:19 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=75
เพชรคู่รัก คู่โลก
โลกคือ ดาวดวงหนึ่ง ในจักรวาล
เต็มไปด้วย ธรรมชาติสวยงาม....นานา
มนุษย์ เกิดมาท่ามกลางมวลหมู่ความงาม ของสรรพสิ่ง รอบข้าง.....
ภูเขา แมกไม้ สายน้ำ มวลหมู่สัตว์ น้อยใหญ่ ทั้งบนบก ในน้ำ ในอากาศ
เมื่อมีมนุษย์ ก็ย่อมมีความรักคู่โลก...เพราะความรัก...คือสิ่งสวยงามเช่นกัน
ที่จะจรรโลงให้โลกนี้ดำรงอยู่ สืบไป....
ความรักคือสิ่งสูงค่า สูงสุด คู่โลก คู่มนุษย์ มานานนับชั่วกัปป์กัลป์
เพราะความรัก โลกนี้จึงดูราวกับมี พลังขับเคลื่อน ให้หมุนไป หมุนไป ไม่มีวันหยุด
ไม่ว่ามนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือ ต่ำต้อยไร้ค่าเพียงใด ....แต่....
ทุกผู้ ก็อยากมีความรัก แสวงหาความรัก และสุดท้ายอยากพบกับความสุขสมหวังในรัก
เพื่อให้ได้มาซึ่ง...กำลังใจ..ที่จะต่อสู้ ให้ชีวิตนี้ที่เกิดมา อบอุ่นเป็นสุข...และ..
มีเป้าหมาย ที่จะทำทุกสิ่งที่ดีงาม เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อสังคมของโลกมนุษย์เรา
เมื่อมีความรัก.....เราทุกคนต้องการสื่อแสดงให้เห็น...ถึงความรักที่สูงล้น มากค่า.....
ดังนั้น.........เพชร.....ซึ่งเป็นดังยอดอัญมณี จึงได้ถูกเลือกมา เป็นตัวแทนแห่งใจแห่งรัก
อันมากค่า สูงส่งพอกัน
เพชร...คือ สิ่งสวยงาม กร้าวแกร่ง แฝงไว้ด้วยความหมาย เหลี่ยมมุมของเพชรดีที่ถูกเจียรนัย
เปรียบประดุจดัง.....ชีวิตของมนุษย์นี้หนา....ที่มีหลายมุม หลายด้าน ที่จะต้องพบเจอ....ปัญหาอุปสรรค ที่จะต้องใช้สติปัญญาหาทางเจียรนัย สุดแต่ใจจะไขว่คว้า หันหา สู่แสงสวย
แสงธรรม แสงทอง ให้ส่องสะท้อนเกิดประกายงาม แห่งชีวิตให้เจิดจรัส
ดั่ง....เพชรน้ำงาม บริสุทธิ์ใส พอกัน.....
ชีวิตที่มีคุณค่า....จึงเปรียบดังเพชรดี ที่ถูกเจียรนัยแล้ว....
เมื่อเราเกิดมา เราทุกคนอยากเป็น เพชรในใจของใครสักคน เพชรที่ถูกเลือกมา..
ประดับกาย ประดับใจ ให้งามพร้อม สุขสดใส ไปตราบชั่วนิจนิรันดร์....
เมื่อมีรัก.....ก็ต้องมีหวัง.....มีพลัง....และอยากเลือกสรรสิ่งสวยงามตาม ฝัน อันบรรเจิด
เพื่อแสดงถึง ความรักที่บริสุทธิ์ใจ ใสสะอาดดังน้ำงามของเพชรแท้ที่บริสุทธิ์ใสพอกัน
เพื่อพลี ให้คนดีที่เรารัก ได้ประจักษ์แจ้งใจ..ในรักนั้น.........
มนุษย์ ที่รู้ซึ้งถึงค่าของคำว่า รัก และเพชร จึงเลือก เพชรเป็นเครื่องหมายของ ความรัก การเสียสละ
การเริ่มต้น ความอดทน ความยั่งยืน ของชีวิตคู่ มานานนับเนื่องหลายร้อยปีแล้ว และ...
เพชรจะคงอยู่คู่กับรักจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย......................
เพชรคู่โลก คู่รัก ภักดีมั่น(หมั้น)
เพชรคู่ขวัญ คู่หวัง มิรู้สิ้น
เพชรแทนรัก มั่นคง คู่ฟ้าดิน
เพชรคือสิน มัดจำใจ ในรักเอย.......
รักที่เลือกไม่ได้ ..........
ฉันเกิดมาแล้วก็เหมือนกับคน ทั้งหล้า
มีปรารถนา และมีหัวใจ
ฉันก็เหมือนหญิง ทั่วไป
หมายมอบกายและดวงใจ ให้คนที่ฉัน ใฝ่ปอง
ฉันไม่ได้รักผู้ชายคนนี้ สักหน่อย
แม้แต่สักน้อย ไม่เคยเหลียวมอง
ฉันต้องให้เขาเคียงครอง
ทั้งที่ไม่รักไม่ปอง
เหมือนอยู่กรงทอง แต่นองน้ำตา
โอ้ รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสน ทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธามิได้ ดังใจ
หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรักไปได้
แม้ชีพสลาย จะรักแต่เธอ
โอ้ รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสน ทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธา มิได้ ดังใจ
หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรัก ไปได้
แม้ชีพสลาย จะรัก แต่เธอ...
12 สิงหาคม 2546 09:17 น.
พุด
ภาพขององค์พระประมุขและพระบรมราชินีนาถ
ที่เปรียบประดุจ เพชรน้ำงามที่ประดับใจ
ประดับไทยทั้งชาตินั้น ตราตรึง
อยู่ในใจเนิ่นนาน ...
พระเสโทที่ทุ่มเท
คือหยดน้ำเพชร งามบริสุทธิ์ใสเกินเพชรใดจะเทียมทัน
หยดน้ำเพชรที่หยดพร่างลงกลางใจแก่พสกไทยผู้ทุกข์ทนยาก
ในแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองนี้ที่เกิดมา
และเพชรใดไหนเล่า จะเทียบเท่าและยิ่งใหญ่
เท่ากับรักนี้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงมอบให้
แก่ไทยทั้งชาติด้วยหยาดน้ำพระทัยที่ใสเย็นฉ่ำ
งามล้ำสูงค่าเกินรักใดในหล้าโลก พระแม่ขวัญมิ่งเมืองเปรียบประดุจดัง
เพชร......หรือ...... อัญมณี..........
อัญมณีของชีวิต.....คือ จิต คือใจ คือวิญญาณ.....
อัญมณี ของตัวตนของเรา ที่เราต้องแสวงหา
อบรม ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เพียงนั้นถึงจะได้มา
ประดับกาย และดวงใจ ให้งามเลิศล้ำ คงทน
ไม่มีวันที่ผู้ใดจะมาขโมยไปจากใจเราได้ ไม่ต้องห่วงหา
พาใจให้วิตกกังวลว่าจะสูญหาย ไร้ร่องรอย
แม้วันหนึ่งกายจำต้องลาลับกลับสู่ผืนดิน..
แม้เพชรน้ำงามที่ห่วงหาพาใจอาวรณ์ ร้อนรน
เราก็ยังมิอาจนำพาไปในภพหน้า.......
นอกเสียจากเพชรน้ำงามในใจดวงนี้ที่จะตามติดจิตวิญญาณ..
.ไปทุกภพทุกชาติ......
เพชรน้ำงาม...ดังน้ำใจที่ใสเย็นเช่นหยาดฝน...
ดั่งน้ำค้าง...บริสุทธิ์ใส..ชื่นฉ่ำ......
พร่ำรินให้แก่ทุกดวงใจที่ยากไร้......
ยังประโยชน์มากมายให้แก่เพื่อนร่วมโลก..........
ดังน้ำพระทัยใสเย็น...ของสมเด็จย่า...
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้สพระบรมราชินีนาถ
ตัวอย่างเพชรเลอล้ำค่าของคนไทยทั้งแผ่นดิน
น้ำพระทัยงามยิ่งกว่าหยาดเพชร
งามดังน้ำจากหยาดฟ้า ที่หยาดมาจากสวรรค์...
เพื่อดับร้อนผ่อนเข็ญ ให้โลกนี้ร่มเย็นเป็นสุข..
เบาทุกข์ยาก...จากพสกนิกร........
หยาดพระเสโท..ทรงทุ่มเท คือหยดน้ำแห่งชีวิต
ที่ทรงอุทิศเพื่อเป็นแบบอย่าง ให้มีผู้เจริญรอยตาม
ตามถิ่นทุรกันดาร...ไกลแสน.....
เพื่อแผ่นดินธรรม..แผ่นดินทอง....ของเรานี้หนา......
เวลาเป็นของมีค่า....พระราชดำรัสงามราวย้ำใจ..
ให้เร่งใฝ่ประกอบดี ประกอบงาม ประดับใจมิไหลหลง
ไปตามโลกนี้ที่ยั่วยวน ชวนขาดสติ........เพียงภายนอก......
เพชรแสนดี คือการมีเวลาสร้างงามให้ก่อเกิดแก่ใจในตน
และต่อทุกผู้ เพื่อสืบสานปณิธาณ......
ดังรากแก้วที่ต้องหยั่งรากฝังลึก
ผนึกแน่นเติบใหญ่เป็นพันธุ์ไม้ให้ร่มเงารื่น
แก่นกกาได้อาศัย....ยังชีพ
ชีวิต....ที่เพียงกายสวยงาม....
ไว้ประดับเพียงเพชรพร่าง นั้นเปรียบดังชีวิตนี้ที่ยิ่งธุลีไร้ค่า.......
อยากเกิดมา เป็นดั่งอัญมณี ที่มีค่าทั้งนอกใน ไม่ยากเลย....
ใจนะใจ...ของเรา....เลือกเอง..ลิขิตเอง...
ประดับใจ ด้วยเพชรแห่งคุณงามความดี
ที่เกิดมาดั่งผู้ให้ ไร้ร้องขอ รู้พอเพียง.......
ดับร้อน ดับโลก ด้วยเย็นจากใจที่ใสงามราวหยาดรุ้ง
เพื่อดำรงโลกให้สวยด้วยใจของผู้เสียสละ.....
แบ่งปัน......แก่เพื่อนร่วมโลก ร่วมแผ่นดิน....
ดังบทเพลงนี้ที่ขอมอบให้.........
แก่คนดีที่มีใจงามราวเพชรแท้ ที่มีเพียงหนึ่งในร้อย ในพัน ในล้าน..........
พราวแพรวอันดวงแก้วแวววาม
สดสีงามหลายหลากมากนามนิยม
นิลกาฬ มุกดา บุษราคัมคม
น่าชมว่างามเหมาะสมดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้งพึงเป็นยอดมณี
รุ่งโรจน์สดสี เพชรดีมี... หนึ่ง...ในร้อยดวง
ความดีคนเรานี่ดีใด ดีน้ำใจ ที่ให้แก่คนทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บทรวงหน่วงใจ ต้องรู้ทน
รู้กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่นชอบตอบผล ร้อยคน มี....หนึ่ง...เท่านั้นเอย
12 สิงหาคม 2546 09:14 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=133
ฉันเป็นไข้คล้ายข้างในมันเหน็บหนาว
ลุกไอราวหัวใจจะหยุดเต้น
เมื่อวานนี้มีอาการเตือนแต่เย็น
ไข้ที่เป็นรุมรุมสุมมานาน..
เดินเซซังหาน้ำสักหนึ่งหยด
เพื่อจะลดความร้อนพอผันผ่าน
น้ำที่ดื่มชื่นใจราวน้ำอมฤตก็มิปาน
หวานกว่าหวานปานน้ำค้างกลางทะเลทราย..
ลืมตาตื่นไข้ยังรุมสุมร่างอยู่
ให้นึกรู้ดื่มในฝันพลันใจหาย
อาการทรุดทั้งใจร่างยิ่งกลับกลาย
ลอยคว้างคล้ายไร้น้ำหนักอยากพักใจ..
นอนนิ่งนิ่งทิ้งทุกสิ่งเวิ้งว่างเปล่า
ใจดวงเหงาริบริบหรี่มิทานไหว
คนอยู่หลังคงร่ำไห้แทบขาดใจ
เฝ้าเสียใจไม่ดูแลเกินแก้กาล...
โลกหนอโลกไยยื่นโศกยื่นไข้ให้ร่างรับ
ใจแหลกยับยังยื่นมีดสับประหาร
เซ่นสังเวยเป็นผุยผงลงคลุกดินสาดวงมาลย์
ทิ้งคำหวาน..เย้ยก่อนตายคล้ายน้ำกรดรดกลางทรวงว่าเข้าใจ!ว่าเสียใจ!