1 ธันวาคม 2546 13:26 น.
พุด
.
ยามอุษาสาง ทั่วนภางค์เรื่อเรืองสวยส้มอมชมพูหวาน
ลมหนาวพรูพร่างพัดใบจำปีริมหน้าต่างเขียวใสไหวระยับ..รับแรงลมพลิ้ว
ใบแก้วปลิดปลิวร่วงกราวกระจาย
ไพล..นอนนิ่งนิ่ง ..ดูดาวที่ยังพราวสุกใสเต็มอ้อมฟ้า.
ราตรี..เงียบสนิท
มีเพียงเสียงจากดนตรีธรรมชาติชีวิต..
เสียงใบไม้ปลิดปลิวและเสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บ ..ระงมรับอรุณ
หัวใจไพล..ดวงน้อยน้อยนิดนิด
ปลิดปลิวลอยละล่องท่องฝันไกล ราวตามนกไพรพเนจรรอนแรม
ไปสู่ป่าใหญ่ในหุบห้วยกลางไพรพฤกษ์พงพะงัน..
วันที่ไพล..ค่อยค่อยเดินไต่สันเขา
ลัดเลาะซอนเซาะซอกแทรกผ่านกิ่งหนามเรียวไผ่
ก้อนหินระเกะระกะน้อยใหญ่
แหวกดงดอกหญ้าไสวไปสู่ลำห้วยงาม
นาม*สระมโนราห์*..
สัมผัสพรำถึงฉ่ำเย็นของสายน้ำ
ที่พร่างละอองฟองฝอยซ่านกระเซ็น มะปะทะประพรมตัว
ไพล..นอนนิ่งเงียบ บนหินงามริมธารน้ำรักระริน
ฟังเสียงน้ำกระทบโขดหิน
เสียงนกไพรกระพือปีกโผผินบินสู่ฟ้ากว้าง
ในงามใจนาทีนั้น ฝันเห็น *นางมโนราห์*มาร่ายลีลาซัดส่าย
วงแขนทอดอ่อนร่ายรำกรีดกรายสะบัดท่าผาหลา..
ให้ดวงใจนี้แย้มรับงามละมุน..
******
มโนราห์..มโนรี...ลำน้ำน่าน
ปีกหางหงส์ทรงศักดิ์ระยับไหว
บินร่อนไล่กินรีรี่ลงสระ
รำกรีดกรายสะบัดท่าผาหลา
ทำนองเพลงมโนราห์มโนรี
งามอ้อนช้อยลอยชายกลายกลับ
กลองโพนรับสอดสร้อยมาลาศรี
โค้งวงแขนแพนปีกเหล่านารี
เป็นศักดิ์ศรีวัฒนธรรมล้ำวิไล
รำแม่บทแบบโนราท่าสิบสอง
ปี่พาทย์กลองเจื้อยแจ้วแนวสมัย
ศรีมาลาเสด็จมาบันดาลใจ
โนราไพรร่อนเร้าเย้ากินนร
มนต์เสน่ห์แฝงฝังดั่งเครื่องทรง
เทริดสูงส่งทรงคุณค่าครูบาสอน
ลูกปัดลายพรายพร้อยร้อยอรชร
สืบเพลงกลอนมโนราห์คุณค่าคน....
******
สำนึก..นั้นพลันรู้สึกล้ำลึกดำดิ่งดื่มด่ำ
ราวอยู่ในท่ามกลางสวนสวรรค์
อุทยานดอกไม้ วิ่งไล่จับผีเสื้อ
เริงร่าราวนกน้อย..กลางเรียวแดดสีทองอ่อนอุ่น
ทอทอดลอดละออหวานผ่านม่านหมอกเมฆ
ราวสายไหมสีรุ้ง..รุ่งรางราวอรุโณทัยพร่างใสกลางใจสวย..ล้ำ
นาทีฝัน..พลันกระจ่างใจ..
มีบางสิ่งไหลระรินสู่ห้องหัวใจให้ค้นพบความหมายแห่งชีวิต
อันซ่อนซุกสุขเศร้างามเงียบลึกซึ้ง
ในก้นบึ้งดวงใจดอกเยาว์นี้
ที่ตัวเองรู้ความแปลกแยกแผกผิดช่างคิดช่างฝันมาแต่น้อย
ช่างอ้อยสร้อย ร้อยร้าวเศร้าเหงาดายเดียว..เดียวดาย
ไร้ร้าง อ้างว้าง แม้อยู่ในท่ามกลางผู้คนนับร้อยพัน..ในชีวี
เหลือบแลเห็น..ดอกชบาไพรสีส้มจัดจ้า
หยัดยืนชูดอกสะพรั่งเคียงป่าข้างลำธารสายหวานระริน
ไพล..ถวิลรู้ทันที ชีพชีวีตัวเอง ดั่ง*แม่ดอกชบาไพร..*
ที่อยากขอบานไสวตระการตาตราตรึงใจผู้พบเห็น
ในท่ามกลางไพรพฤกษ์..
หารู้ไม่ว่า..ในเวลาไม่นานนัก
พระพรหมและโชคชะตารักรวมกันหักเหหันห่าง
ให้แม่ดอกชบาไพร อ้างว้าง กลางกรุงกรงเมืองไกล
ให้หัวใจไหวคะนึงครวญ ราวหลงไพร
สู่โลกจริง ที่โลกใจไม่เคยปรารถนาสักนิดสักน้อยสักหน่อยหนึ่ง..
******
ฝากไว้ให้เหลือเพียงความทรงจำแสนงาม
ยามรำลึกนึกย้อนไปยามเยาว์
ยามดรุณราวทุกอุทัยโลกหมุน
ทุกวสันต์ลา ลีลา....
ถึง..ใบไม้ในราวป่า..
ที่พลันลาร่วงควงพลิ้วปลิวคว้างพร่างพรมห่มราวไพร..
ดวงดอกไม้ไพรตระการใจตระการตาตระการป่า..ที่คลี่กลีบกระจาย
รอรับลมร้อนแล้งแบบไม่กลัวเปลืองสี..สัน..
คูน..ดอกพราวราวสายฝนสีทอง..
ทองกวาว ควะคว้าง หางนกยูงแสดแดงสะพรั่งพรึบ
ตะแบก..ม่วงเศร้าเคล้าโศกหวานละมุน
เป็นสีสัน อันสดใสแตะแต้มไพรพนา
ให้งามหยาดหล้าราวฉากสวนสวรรค์..
หัวใจไพลฝันไกล..
ไปถึงกล้วยไม้ไพร ที่คงชูช่อละอออ่อนคา คาคบไม้นานาพรรณ
น้ำผึ้งป่า..ที่แฝงฝังรวงรอพรานไพรเอาไฟมาลน..
นำเกสรหวานปานดอกไม้หอมหอม
ไปดูดดื่มหวานแบบไม่ปรานี..ปราศรัยกระไรเลย..นะคน..นะใจ..
ไพล..
เคยแหงนเงยเห็น..ยางใหญ่สูง
ที่จ้องไปต้องหยีตา ยามแดดทอทอดลอดเงาไม้ลงมา
เยือนหล้าจากฟ้าสู่ดิน
เห็น
ลูกยางพัดคว้างร่วงลอยลิ่วราวเครื่องร่อนเครื่องบินงามจับใจจับตา..
***
นาทีนึกนี้
*น้ำตาแม่ดอกชบาไพร* พลันร่วงริน
พร่างสายถวิลโหยไห้ ร้างไร้กลางกรงเมือง..
***
น่าเวทนานัก
ที่คนแสนรักเอยแสนรักในกมล กระแทกกระทั้น..
แบบไม่ยั้งไม่เข้าใจไม่ให้กำลังใจไม่พอ..
ยังว่าเข้าให้นั่น *ได้แต่ฝันนั่งเทียนเขียนเอาเขียนเอา*อยู่กลางกรุง..
**
เถอะนะ คนดี ..ในดวงใจในฝัน
ขอกระซิบริมแก้มเรียวฝันสักคำ
ขอเมตตาเห็นใจนะ..นะคะว่า
*แม่ดอกชบาไพร*คนนี้
ขอแค่ฝากฝันฝากใจในวัยเยาว์ในทรงจำงามล้ำ เลอค่า
หากแม้นว่า...เส้นทางใจไฟผัน
จะร้าวระกำย่ำยับสับสนวกวน เวียน
ที่เพียรพามิพ้นวงกรรม
ให้พบทุกรอยย่ำรอยใจใครจะมาฝากแผลใจ
ให้ดายเดียวเปลี่ยวเหงาสักเพียงไหนก็ตามที..
*แม่ดอกชบาไพร*คนนี้ก็แสนปิติภาคภูมิใจ ทุกครั้งครา
ที่เกิดมามีดวงตาที่สามได้สัมผัสงามและดวงใจ
ได้ไหวหวามรับละมุนหอมกรุ่นกลิ่นของธรรมชาติธรรมดาๆ
ให้ยังมีน้ำตาซึมซึ้ง ดื่มด่ำได้ กับโลกอันสับสนวายวุ่น
แปรเปลี่ยนเวียนผันไปตามครรลองของคำอนิจจังไม่เที่ยง...
ที่ทุกชีวี..ทุกคนหนีไม่พ้น เกิดมาต้อง พานพบ พราก จากเจ็บ
ทดท้อ แพ้พ่าย ไร้ร้าง น้ำตา..
หรือว่าโชคดีมีโชค..
มีแต่สุข ไร้โศก ตลอดปีตลอดชาติ..ตามกุศลสร้าง..
****
สำหรับ *แม่ดอกชบาไพร*
ขอแค่ยังมีดวงใจชอบ ดูใบไม้ร่วงพราว
ในหนาวฤดูฤดี..จะสุขชีวีมากท่ามกลางแสงแดดอ่อนอุ่น
โลกยังคงหวานละมุน ..
แม้นกำลังเปลี่ยนสีโศกเป็นโลกสีน้ำตาลก็ตามที..
และ..
*แม่ดอกชบาไพร*ช่างฝัน
จะยังคง ขอเพียง แค่ฝากฝันฝากใจในทรงจำ
ขอเป็นสีสันจัดจ้าประดับใจทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยไปชั่วกาล..
นาน..จนกว่า.
.
*แม่ดอกชบาไพรจะร่วงลา...
ลงเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นพสุธา อย่างสมภาคภูมิ..
*******