15 ตุลาคม 2548 08:48 น.

อดีตฝนอดีตฝัน..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song129.html
http://www.oldsonghome.com/music/listen.php?song_id=1712
(หยาดน้ำฝน หยดน้ำตา..สุกี้ยากี้)
...................


ฟ้าร้องครืนครางมาจากเวิ้งฟ้าไกล
ที่..กำลังมืดหม่นมัวสลัวด้วยแรงพายุและลมบน
ที่กำลังค่อยๆพรายพรม*น้ำตาฝน*มาพลายพลิ้ว
และ...
คงหยาดไปทั่ว ทั้งทิวทิพย์ทุ่งทอง...แล้วณ..บัดนี้

ดวง..ไม่สบาย..
เลยนอนนิ่งนิ่งดูสายฝนพรำ
ที่กำลังพร่างสู่แมกไม้
ให้หยดคล้ายน้ำค้างแก้วแวววะวับ



จาก..
ริมหน้าต่างเหนือเตียงโบราณ
ที่มี..
เพียงม่านใบไม้ลายดอกแก้วขวางกั้น
ให้พบฝันงาม
ในทุกยามแห่งลีลาวสันต์
ให้พบฝันแสนสุขซึ้งตรึงใจเสียไม่มี



ดวง..
มีความสุขกับสายฝน
ที่ราวกับจะมาพลีปน
ต่อ..
สายฝันสายสวรรค์ให้ผุดพร่างขึ้นณ..กลางใจ

ใน*สวรรค์ไพร กับเสียงฝนพรำ *
ที่มาย้อนย้ำให้รำลึก
นึกไปถึง
* วิมานไพร..วิมานดิน*ในยามที่เคยใช้ชีวิต
ที่บ้านบนเนินเขา..ในต่างบ้านต่างเมืองมานานปี




เมืองที่...
ซ่อนตัวในแมกไม้ระย้าระย้อย
ห้อยใบดกไปทั่ว
และ..
มีอากาศสลัวสลับชวนให้แสนโรแมนติก
ด้วยสายฝนพรำเกือบตลอดทั้งปี

และ...
ที่แสนดีนักตรงที่ดวง
ได้เดินฝ่าเส้นทางสายฝนสายฝัน
เส้นทางสายเล็กๆละหลั่นลัดลดเลี้ยว 
ผ่านละเมาะไม้มากมาย
ที่กำลังกรายกิ่งไกวไหวระบัด
เพื่อเดินกลับบ้าน จากตลาดที่อยู่ไม่ไกล..



อันแสนอวลอบหอมร่ำไปด้วยกลิ่นขนมปัง
กับ..
อวลหวานสะพรั่งไปด้วยพันธุ์ไม้ดอก
และ..
ผลไม้สดฉ่ำจากเมืองไกล
เช่นพรุน พลัม แอปเปิ๊ล ท้อ..สาลี่
ที่ดวง.นี้.จะชอบซื้อ
และ..
ยังมีเกาลัดลูกโตๆที่คั่วใหม่ๆร้อนๆ
ให้หอมตรลบน่ารับประทานเป็นยิ่งนัก




ดวง..ชอบเออออใช้ภาษาถิ่นแบบงูๆปลาๆ
ทายทักแม่ค้าดอกไม้เจ้าประจำ
แล้วก็ยิ้มขำตัวเอง ที่เค้าพยายามฟังจนเข้าใจ



ดวง..
แสนสุขเสมอใจเมื่อย้อนนึกรำลึกไปถึง
*ภาพเพื่อนคนญี่ปุ่น*ที่ชื่อเคียวโกะ
ที่ชอบเล่นแมนโดลินให้ดวงฟัง

แล้วก็พากัน...
ร้องเพลงสุกี้ยากี้ที่คือเพลงญี่ปุ่นเพลงเดียว
ที่ดวงพอจะดำน้ำได้
แล้วพากันประสานเสียงดัง
พร้อมเสียงหัวเราะอันแสนเบิกบาน
ราวโลกนี้..
ตระการด้วยดวงดอกไม้ไร้พรมแดน
มีเพียงแน่นแฟ้นแห่งคำคำว่ามิ่งมิตรสนิทใจ



.
และ...
ทุกคราที่หัวใจได้ยินบทเพลงอมตะนี้
กลับมากรายใกล้
มาก้องกังวาน...ให้น้ำตาเอ่อซึม..ยามย้อนรำลึกนึกถึง
เพื่อนคนดีทุกคราครั้งไป..

เพื่อน..
ที่มีมารยาทงาม..รักสงบเงียบใช้ชีวีเรียบง่าย
รักดนตรี สมถะและรักธรรมชาติพอกันกับดวง
และ..
ชอบชวนให้ดวง..
ไปแสดงฝืมือทำกับข้าวไทยให้รับประทาน..
*เธอกระซิบ..บอกอาหารไทยอร่อยที่สุดในโลก*




บางครั้ง..
เราจะชวนกันไปลอยคอในสระว่ายน้ำส่วนตัว
แล้ว
นอนมองฟ้านิ่งนิ่งแล้วพากันหัวเราะ
เมื่อเราพูดภาษาอังกฤษแบบ..
*เข้าใจกันดีเฉพาะระหว่างคนสองคน*




ดวง..ย้อนนึกถึงสังคม
ที่ดวงเคยใช้ชีวิตในอีกวิถีหนึ่ง
แล้ว..
ก็เพิ่งมาซึ้งใจว่า
ดวง..นี่หนา 
ได้ผ่านมาทุกลีลาชีวิตแบบไม่เสียชาติเกิด
เพราะ..
ดวงผู้หญิงที่เกิดมากับแสงตะเกียงรำไร
กับเสียงฝนหล่นบนหลังคา
กับชีวาชีวิตที่ได้ชิดใกล้เคียงดิน
กับรอยถวิลแห่งทุกเงางามอดีต
ที่คือสัจจะจริง
ไร้สิ่งมายาสิ้นวัตถุใด..ที่ดูรกรุงรังใจรุงรังตา



และ
รายรอบชีวีดวงนั้น
ยามวัยเยาว์..
ยังมีกระท่อมไพรกระท่อมหลังคาจาก
ให้คนจนยากบางคนได้พักอาศัย
หากทำไม...
ดูเขาแสนมีความสุขใจเสียจังในความไม่มี
ที่ได้นอนนิ่งฟังเสียงแห่งทุกสรรพสิ่ง..



ที่คือเสียง
แห่งงามจริงงามจิต..
มาพลีสอนให้รู้จักรสชาติชีวิตธรรมดาๆ
ให้รู้ค่า ความพอดีพอเพียง
ให้แสนมีชีวีสมถะ
สนิทสถิตเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ


และ...
ในทุกลีลาวสันต์
ดวง...ยังจดจำได้
ดวงชอบเล่นน้ำฝนจนคางสั่น
จนไข้ขึ้น เพราะดวงเด็กช่างฝัน
จะทนฝันทนฝนได้อย่างไรกันเล่า..ที่จะไม่โผเข้าใส่




และ....
มาวันนี้น่าแปลกดี 
ที่จิตวิญญาณการชอบเดินท่ามสายฝนพรำ
ยังตามย้ำมาคอยเตือนในทุกครา
ให้อยากพาตัวโผผวาออกไปยามฝนพร่าง
ที่..
กำลังสาดสายพรายพรม ให้ห่มหอมในห้วงใจ..




และ..
เมื่อวาน
ยามค่ำก็ได้สมหวังสมปรารถนาดั่งใจ
เมื่อ..
เพื่อนคนที่ขับรถมารับดวงไปเต้นทุกวันพร้อมกัน
เกิดสตาร์ทรถไม่ติด
เพราะรีโมทค้าง 
ทำให้ดวง
ต้องเสียสละเดินอ้างว้างตากฝนพร่างออกไป
เพื่อไปตามช่างมาให้เพื่อน..



กว่าจะ..
เดินฝ่าสายฝนลมแรงราวแสร้งให้ดวงสาสมใจ
กับความละไมละมุน 
ให้สายฝนมิการุณย์
หากฝากสุนทรีย์หนาว...
ด้วยหยาดน้ำพราวให้เย็นเยียบไปทั้งตัว
และ
นี่คือที่มาแห่งความไม่สบายราวจับไข้เล็กๆ
แต่..
ไม่เป็นไรนะ ยังไกลหัวใจ..




เพราะ
เคยไหม..
ที่ยามเราไม่สบายแล้วได้นอนตัวรุมรุม
เราจะรู้สึกดีกับชีวีที่ได้ชิดใกล้สัจจธรรมอันแสนล้ำค่า
คือความเจ็บ คือความ ระบม 
ที่ต้องนอนซุกตัวในที่นอนระทม
และได้....
สัมผัสชิดใกล้ 
ความรู้สึกดายเดียวเปลี่ยวร้างแสนอ้างว้างใจลำพัง



เป็นความรู้สึกดื่มด่ำ 
ยิ่งกับยามนี้...
ที่มี..
*น้ำตาฝนน้ำตาฟ้า*..พากันพลีสิ้น
ให้..
ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน ที่มีทั้งรักชัง 
ได้พบหวังหวานฤารานเศร้า..คลุกเคล้ากันไป
สุดแต่ใจใครจะไขว่คว้า..



และรู้ว่า...
แท้ที่จริง 

ทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า..
ไม่ว่าฤดูกาลหรือฤดีระกำ
ก็จักผันผ่านแปรไป ..ไม่ ..มิยั่งมิยืน 
มิฝืนยึดมั่นถือมั่น
ฝันรักได้นานกันสักเท่าไรเลย...
...........................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song129.htm
lหยาดน้ำฝน หยดน้ำตา .....ดาวใจ ไพจิตร 

หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
หลั่งความขื่นขมที่ถมอยู่ใน ใจตน
หยาดย้อยจากปรางสวรรค์เบื้องบน
สู่กลางแก้มดินในฐานถิ่นคน
นั้นคือหยาดฝน ฉ่ำใจ
สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นา แนวเนิน
ป่าดอนโขดเขินคลองขลุงทุ่งหนอง นองไป
หล่อเลี้ยงพืชพันธ์ มีผลดอกใบ
โลกเคยหลับไหล พลันฝืนตื่นใจ
สวยงามสดใส จริงเอย
ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา
พลันน้ำตานางฟ้าระเหย
เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย
ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน
หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน
แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล
ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน
ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ

ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา
พลันน้ำตานางฟ้าระเหย
เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย
ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน
หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน
แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล
ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน
ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ...
				
14 ตุลาคม 2548 09:00 น.

หยาดน้ำทิพย์น้ำทอง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
(ร้อยบุปผา..หนึ่งในร้อย)

.................



นอนนิ่งนิ่งมองสายฝนหล่นพร่างกลางใบไม้
ส่องประกายคล้ายสายเพชรเก็จแก้วใส
หยาดฝนพราวราวกระทบกลางกลีบใจ
นั่นนกไพรไกวเปลอ้อนตอนอรุณ

เห็นใบตองทองอ่อนราวสไบนางฟ้า
เห็นลีลาวสันต์ฝันไกลทุกอุทัยโลกหมุน
เห็นยอดไผ่ไหวรับแดดพร่างละมุน
เห็นควันไฟกรุ่นจากกระท่อมชาวสวนล้วนแสนรัก

เห็นการะเวกพร่างพ้อจากกอเศร้า
เห็นจำปีเฝ้าเตือนใจไหวหวามนัก
เห็นโมกกอค้อมคลอดินถวิลภักดิ์
เห็นลมทักยอดไม้ใกล้ชายคา

เห็นหัวใจตัวเองบรรเลงบทเพลงเศร้า
เห็นเรื่องราวหนหลังฝังห่วงหา
เห็นวันนี้ชีวีแสนสั้นเต็มประดา
เห็นเวลาของโลกโศกสะเทือนใจ

ให้ลืมเรื่องราวร้าวรานเมื่อกาลก่อน
แล้วหันย้อนมองดูใจให้สวยใส
โลกอดีตเมื่อวานให้ผ่านไป
เริ่มต้นใหม่ยังไม่สาย..ให้เมตตา...

ทุกชีวีนิดน้อยต่างพลาดผิด
ตามลิขิตกรรมเก่าวาสนา
ให้อภัยด้วยน้ำใจแห่งเมตตา
และหันมาเป็นมิ่งมิตรน้องพี่..มอบดีกัน

โลกความจริงสรรพสิ่งกำลังโศก
วิปโยคเกินกว่าเรื่องรักพักสับสน
ลืมมายาฝันยิ้มรับตะวันเกื้อกมล
หยาดสายชลสายธรรมนำทางใจ

เป็นน้ำทิพย์น้ำทองจากหอมห้วง
จากใจดวงอัญมณีไพรแสนไสว
รักกันนะรักกันให้น้ำใจ
จงอภัยจงรู้ค่ามรณารอ

เป็นคำวอนจากใจดวงอ่อนหวาน
ดวงโบราณดวงสงบมาร้องขอ
สร้างสรรงามเป็นนิยามโลกเฝ้ารอ
หวังคำพ้อถึงทุกดวงใจ....ทุกเรือนใจในร่มรัก....

...................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html

ร้อยบุปผา..สุนารีราชสีมา

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน

มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง

มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์

มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน 
....................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
(หนึ่งในร้อย)

พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...






Url http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=287
(นัดพบ)
*********



ปริม..
กำลังนอนคลี่ยิ้มหวานหวานบนเรือนจำปี
เรือนรักเรือนใจ...
เรือนที่ปริมชอบมานอนอิ่มขวัญ..ลำพัง
ใต้ร่มไม้สายใจใต้ใบบัง
ใต้เขียวไพลเขียวพร่าง
เขียวสอ้านสะอาดพิลาสพิไล



เขียวที่สอดผสานกัน
ราวร่มพฤกษ์คันใหญ่
มาต่อสายใจมาเติมใยรัก
มาเติมไฟฝันนักรักรจนา 
มาฝากฟ้าฝากดิน ดูดาว
มาเหน็บหนาวดายเดียว
และ
มาชิดใกล้ธรรม ธรรมชาติ
มาฝากร่างให้เอนอิงพิงพัก




มากระซิบรักกับ
อ้อมกอดดวงดอกจำปี
อ้อมฝันที่เลื้อยพันมาเกาะเกี่ยว
ราวอ้อมแขนแน่นเหนียว
ปลุกปลอบใจให้มีพลัง...



กับทุกเช้าที่เฝ้าดู...
ตะวันดวงกลม

ในยามเช้า ที่เฝ้าเพ่งพินิจ 
ด้วยรักแสงตะวันจัดจ้า
และจะชอบทำทุกครา 
ยามบอบช้ำจากโลกและชีวิต 
ราวแสงมหัศจรรย์สามารถปลุกชีวิต 
ให้มีชีวาท้าทายโลกอีกสักหน สักครั้ง.... 



ทุกนาทีที่ตะวันเยือน แย้ม 
ค่อยๆโผล่พ้นทิวสน เบื้องหน้า 
ผ่านดงไม้ ขึ้นมาอย่างช้าช้า 
เคลียเคล้ากับแสงฟ้าสวยใส สดชื่น 
อ่อนหวานสว่างไสว..

ดวงตะวันสีส้มเปลือกบาง อ่อนอุ่น 
ดวงกลมสวยงามเจิดจรัส 
รัศมีจ้าจับตาเป็นยิ่งนัก.. 



พลังตะวัน กำลังรินไหล เข้าสู่ใจดวงกลม ดวงบอบช้ำ 
ดวงช่างฝันนี้ที่พยายาม มองฟ้าท้าตะวัน ปลุกไฟฝัน 
ปลุกหัวใจให้อย่าท้อ รอรับฝัน วันแสนดีให้คืนกลับ 

หยาดน้ำค้าง ละออ ตกต้องค้างงาม
ตามดอกใบ สวยใส บริสุทธิ์ 
เกิดประกายวับแวม 
ราวหยาดเพชรพราว รอระเหยหาย........ 



มวลหมู่นกกา เริ่มถลาบิน ออกจากรวงรัง
ทำหน้าที่ หาอาหาร ว่อนวน ..เคียงข้าง... 
เป็นฉากละคร..ของสัตว์โลกทุกชีวิตทุกปากท้อง..
ประจำวันซ้ำๆซากๆ
เพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด ปลอดภัย 



ได้มีใจดวงทั้งดีและร้ายมาหมุนวน
ตามโลกที่หมุนเวียน.ไปวันวันมิสิ้นสุด. 
ดอกเข็มขาว เริ่มแทงช่อ ออกจากกระเปาะเขียว 
เป็นพวงขาวระย้าเต็มต้น เต็มตื้นหัวใจดวงนี้ ที่ชอบเฝ้าดู.



.ตั้งใจคืนนี้จะน้อมนำไปบูชาพระ
และภาวนาขอให้มีสติปัญญาบริสุทธิ์แหลมคม
พ้นบ่วงกรรม ตามติดมาให้ชดใช้...... 

ขอให้มีสมองสองมือนี้ 
ได้เขียนสิ่งดีดี อันเป็นที่รัก 
ไว้พักใจ ยามดายเดียว ไปตราบนานเท่านาน 
ในจิตวิญญาณที่ยากที่ผู้ใด
จะเข้าใจและหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งจิตใสงามนี้...
ที่บานสะพรั่งดั่งดวงดอกไม้ในราวไพร
บานท้าตะวันฉาย 



แม้บางครั้งจะโรยราร่วงหล่นปนเปื้อนดิน 
ก็จะผลิฝันหวานหวาน บานกลับมาใหม่ มิมีวันมอดสิ้น... 

ตะวันดวงกลม..หมุนวน ไม่เคยท้อแท้ มิรอรา 
รู้หน้าที่ เพื่อธำรงอยู่ ยังประโยชน์ให้มวลมนุษย์ 
ฉันท์ใดก็เฉกนั้น 



ขอให้ดวงใจ ดวงฝัน จงอิ่มเต็ม 
ด้วยความฝันสล้างสวยงาม 
ด้วยงามแห่งปัญญา สมบูรณ์ 
หมุนพาใจตนก้าวข้ามผ่านพ้น
เรื่องหมองหม่นทดลองใจให้ฝ่าฟัน 
เรื่องธรรมดาๆโลกที่มี โศกมากกว่าสุข
มาคลุกเคล้าให้เปรียบเทียบสอนใจ..



ในทุกโมงยาม..มิแน่มินอน.. 
ให้แสงตะวัน แรงกล้า 
นำพามนุษย์ทุกดวงใจ 
ทำหน้าที่งดงาม สู่เส้นทางชีวิตยาวไกลข้างหน้า 
รู้จักลืมตามองโลกให้เป็นเห็นงาม.
.และแบ่งปัน..ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ในวันนี้และวันหน้านะดวงใจ 
***************



เช้าหวังเช้าหวานก่อนอุษาสาง
ที่จะมีนกมากมายมาร้องเพลงธรรมชาติให้ฟัง
มี*นกเขาขันเสียงใสราวระฆังแก้ว*
แว่วหวานวิเวกมาปลุกราวนาฬิกาปลุก..ดั่ง*นกตะวัน*
ค่าที่มาพร้อมกันกับสายแสงแรก
สีทองอันอ่อนอุ่นโอบเอื้อ
ที่..
ปริมขอเรียกชื่อเพื่อรำลึกนึกถึงพี่ชายผู้แสนดี
ผู้ที่รักนกราวชีวิตจิตวิญญาณ
พอกันกับเจ้าของเรือนหอมหวานหอมงามแห่งนี้



และ
นกตัวนี้จะมาร้องขันคูคู่วิมานไพรวิมานดินทุกวันค่ะ 
ราวดงดอกดวงจำปีล้ำค่าเตือนสอนใจ
ให้มั่นคงให้ตรงมั่นราวนกตะวันรักท้องฟ้า
ราวปลารักน้ำ ไฉนฉะนั้นเลย..



และ
ทุกเช้าที่เจ้าของเรือนรักหนักแน่นใจ
จะมิเคยลืมที่จะส่งจูบส่งใจข้ามขอบฟ้า
มหาสมุทร ผืนแผ่นดิน ทุ่งนา ป่าเขาลำเนาไพรแมกไม้
สายชลระรินไหลให้กระซิบรักถึงทุกดวงใจ
ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองแห่งผองเรา



ปริม..
ขอส่งกมลอันปรารถนาดี
ประดุจดังดอกไม้แรกแย้มในยามดึก 
ที่ค่อยค่อยคลี่แย้มเกสร
ออกรับผลึกเพชรเกล็ดแก้วหยาดละออละอองน้ำค้าง
ที่พรายพร่างพฤกษ์ ราวกันจะดื่มกินได้

ให้สายแสงแดดสีทองส่องผ่านมา
ในยามอุษาสางอุษาแก้ว
ยามฟ้าผ่องแผ้วรำไรรำไรราวรัศมีรุ้ง
กระจายพรายแพร้วเพริศเฉิดฉาย
พร่างพรรณรายทุกถิ่นที่



ฝาก
กมลดวงดีดวงหวานหอม
ราวหยาดน้ำผึ้งฝันพระจันทร์หวานในยามราตรี

หวังให้น้องพี่ 
ที่มีหัวใจดวงทองผ่องผุดพิสุทธิ์ละมุน
ได้มีใจดวงงามหอมกรุ่น
ได้รจนาภาษารักภาษากวีภาษาดีดีงามๆ
ฝากพลีบรรณาการแด่โลก ดับร้อนผ่อนเพลา

ให้เย็นฉ่ำราวน้ำคำคือน้ำค้าง
รินนะกลางใจ..ไม่มีวันแห้งเหือดหาย
วอนให้ใช้ปลายปากกา
ราวมาจากปัญญาจิตมิมุ่งคิดร้ายผู้ใด
มีใจดวงเที่ยงธรรม 
มีฝันมีรักมีร่มธรรม
อันคือเครื่องคุ้มกันภัยกันใจไปตราบชั่วกาล
มีเมตตา 




และหวังว่า
ทุกดวงใจจะพบงามทองในหอมห้วงแห่งดวงใจ
มีงามแท้งามธรรมงามขวัญอันแสนยิ่งใหญ่
มาประดับใจประดับหล้าประดับนภากวี
ที่ยังมีที่ว่างอนันต์



รอผู้กล้าผู้ฝันใฝ่
พาดวงใจราวรวงดาว
มาเรียงพราวเฉิดฉายแสงพร่างสุกใสสว่าง
มานำทางใจแด่ผองชนนะคะ

ขอให้เป็นเฉกเช่นดวงดอกไม้หวานตระการ
จะบานประดับหล้าอยู่นะที่ไหน



ในราวป่า..ในราวไพร ..ในราวเมือง 
ขอแค่ให้สร้างประเทืองประทับใจ
ด้วยหยาดน้ำใจที่ใสเย็นดั่งหยาดฝนหยาดน้ำค้าง
เข้าใจ
และคอยเมตตาเคียงข้างเสมอไป
ในทุกผุ้คนที่ยังค้นหาตัวเองไม่พบเจอ
ยังลอยเก้อกลางทะเลโลกย์ทะเลโศกสุข

ใช้กุญแจจิตกุญแจธรรมกุญแจธรรมชาติ
กุญแจวาดหวังดีมีน้ำใจรักอันใสฉ่ำเย็น



มา
เปิดบานประตูหัวใจ
ค่อยๆช่วยเก็บกวาดห้องห้วงใจให้สะอาด
หยิบขยะวัตถุมากมีมากมาย
ค่อยๆกวาดให้ออกไปไม่รกรัดรึงรุงรัง



อันจะพาให้จิตเดิมใสนั้น
ถูกห่อหุ้มด้วยกิเลสใจ
แห่งความอยากได้ใคร่มีจนเคยชิน
มิรู้สิ้นรู้จบตามกระแสโลกย์
ที่
สอนให้ยึดมั่นถือมั่น
ว่าความสุขนั้นมาจากภายนอกหลอกไปวันวัน
จนใจกายนั้นหนักดั่งศิลา
เพราะต้องพาให้ค้นหามาเติมเต็ม
เค้นเฟ้นหาจนพาเครียดเฉียดตายจึงได้สำนึกระสึกรู้
ว่าแม้นแต่ตัวกูมิใช่ของกู..



ให้มีสติมีสมาธิมีปัญญา
อย่าให้ใจมา
คอยปิดบังจิต
และคอยเป็นนาย
มิให้จิตเดิมที่งามใสได้คลี่ฉายแสงเบาสบาย
ว่างพรายไร้ร้างพร่างคล้ายแก้วประภัสสร
ได้ส่องประกายกล้า
พาให้มืดมัวในใจมลายหายวับ
ดับทุกทุกข์ได้..ก่อนสายเกิน..
และนาทีนี้นะคนดี ดวงใจ



ปริม...
ขอมอบดอกไม้จริงดอกไม้จิต ดอกไม้ชีวิต
รักธรรม ธรรมชาติ มาวางฝากไว้ในอ้อมตัก อ้อมใจ
แด่มิ่งมิตรสนิทเนา



จงเปิดใจรับเอาดอกไม้เพชรพร่าง
ที่จะพรายพร่าง
ดั่งแสงแก้ววะวาววับดับทุกสรรพสิ่ง
จากขุมทรัพย์ภายในอนันตกาล 
ที่จะบานรอ ผู้รู้ ผู้มีศีลสะอาด
เพียงเพียรพร้อมน้อมพลีภาวนา 



และค้นหาดอกไม้จิตนิมิตจริงแท้ที่งามแน่นอน
กว่า...ทุกดวงดอกรักดอกทุกข์ใด ในโลกหล้าค่ะ
ขออวยพร
ให้ทุกดวงใจใสทอง
ประคองตนพาพ้นน้ำ
ดั่งดอกบัวบานรับแสงอรุณธรรมนะคะทุกคนดี.. สวัสดี

************



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html

นัดพบ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี : : Key A 

ถ้าเราจะนัดพบ กัน
เมื่อตะวันลับไม้
ฉันไม่หลอกจะบอกให้ อย่าเอ็ดไป สิจงฟัง
ฟัง สิฟัง สัก นิด
แล้วอย่าคิดว่าฉันสอน ว่าฉันสั่ง
ฟังสิฟัง ฟังกันเล่นเพลินเพลิน
แต่มันสุขเหลือเกิน ไม่เชื่อเชิญ ลองจำ
ถ้าเราจะนัดพบ กัน
เมื่อตะวัน พลบค่ำ
ธรรมชาติชุ่มฉ่ำ ฉ่ำชื้น ชื่น ใจ
ใต้ ร่มไม้ใบบางบาง แสงสว่างรำไรรำไร
ไม่ต้องระวังไม่ต้องระไว
จะอายทำไมกับพระจันทร์
ถ้าเราจะนัด พบ กัน
ควรให้จันทร์ เห็น ใจ
ลมอ่อนอ่อนพัด ผ่าน
ชูกิ่งก้านช่อใบ
บ้างก็แกว่งบ้างก็ไกว
บ้างเขยื้อนสะเทือนไหว
สะบัดใบไปตามลม
ผสมน้ำค้าง พร่าง พรม
เรไรจิ้งหรีดหวีดผสม
ต่างคลอต่างคล้อต่างล่ออารมณ์ เรา
ให้ชมให้ชื่น ใจ
นี่แหละถิ่นนัดพบ
แต่เราไม่พบกับใคร
เพียงแต่พบกับธรรมชาติ
แล้วเราก็อาจจะสุขใจ
ไม่ต้องไปพบ กับใคร ที่ไหน
เพลินใจ เพลิน ตา...
				
11 ตุลาคม 2548 23:07 น.

ดวงบุหลันกับฝันงาม..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1873.html
(โลกแห่งความฝัน)
............


ดวง..
นอนนิ่งนิ่งบนระเบียงบน
ดู..จันทร์ครึ่งดวง หวานเจ่ม กำลังแย้มหน้ามาทายทัก

หลังจากดูรายการ*500วันกับ1500ไมล์*จนจบ
ด้วยหยาดน้ำตา...ของ..
ลูกผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่ขอ..ฝากพลีซึ้ง
ถึง...
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายหนึ่งในนวลกมลงาม
*ที่ชื่อคุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม*
ที่...
หลอมละลายให้
ดวงใจแสนหวานแสนซึ้งเศร้าด้วยศรัทธาแลแสนรัก
มานานวัน..
นับตั้งแต่ได้ตามติดข่าวมา...



ที่*เขา*
ได้กล่าวคำแสนซึ้งค่าแสนน่าภาคภูมิใจ
จากหัวใจลูกผู้ชาย..*ชาติเสือหัวใจสิงห์*
ที่แกร่งกล้า..เกินคนเกินใคร..
ที่..
รักคุณแม่อย่างสุดหัวใจ
และ..
ได้กล่าวคำแสนโศกสะเทือนไว้อย่างเหลือแสน
จนยากที่จะกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้
เมื่อเขาพายมาเป็นล้านๆพายได้จนครบหกเดือน



จนถึงจุดสุดท้ายแห่งชายฝั่งตะวันตก
ที่จังหวัดสตูล..ติดกับเขตน่านน้ำมาเลเซีย
ก่อนที่จะ..
เริ่มต้นพายใหม่..ทางฝั่งอ่าวไทยไข่มุกตะวันออก

สุภาพบุรุษลูกผู้ชายคนเก่งหัวใจแกร่ง
ก็ได้พลีหยาดน้ำตา..จากใจ
ได้กล่าวคำขอบคุณ..
ต่อฟ้าดิน...
ต่อทะเลและทุกสรรพสิ่ง
ทั้งพายุดินน้ำลมไฟ
มวลหมู่ดาว พราวพระจันทร์ 
แสงฉายฉันท์แห่งพระอาทิตย์



และ..
ทุกมวลชีวิตผองชนคนไทยริมฝั่งฝันอันดามัน
ที่ได้คอยช่วยเหลือเป็นขวัญกำลังใจ
ให้เขาพายพาเรือคยัค..วันแล้ววันเล่า
ผ่านความเหนื่อยยากลำบากแสนสาหัส

ที่เข้าใจและให้พลังใจ
ให้เขาฝ่าฟันทำฝันให้กลายเป็นจริงได้
ด้วยความสำนึกล้ำลึกแห่งพลังรักกตัญญูผู้มีพระคุณ..
จนพ้นผ่านทะเลแห่งความฝันได้สำเร็จ...
..............



และ
ในท่ามราตรี..
ที่ดวงบุหลันลอยคว้าง
อย่างแสนเศร้า..ในเงาเฆม
ให้เสกฝัน..ฝากงามจิต
ให้....
น้ำตาซึมนิดนิด
กับใจดวงน้อยน้อยที่แสนบอบบาง
ที่แสนอ้างว้างใจ..อย่างสุดทน..



ดวงนอนดูจันทร์ในกมล
พร้อมกับคิดถึงพระเอกในงานดวงจับใจ
*พระเอก.*
ที่ดวงฝากซึ้งฝากฝันไว้มากมาย
ในหลายราวเรื่องรักรจนา
ทั้งในนามสาวนาและแม่ดวงดอกพุดไพร

ที่มักจะรัก
วิถีชีวิตอันแสนเรียบง่าย
ได้ชิดใกล้สนิทแนบแอบอิงพึ่งพิงธรรมชาติ
และดวงมักกระซิบฝากไว้จากใจดวงนวลเอาไว้ว่า...



*กระท่อมสวรรค์ในฝันนั้นจะไม่ทาสี
ไม่มีผนังกั้นสายตาจากเขียวไพร
*เขียว*
ในรวงเรียวของทุ่งข้าวแลละลิบสุดตา
ที่จะได้นอนเหว่ว้านับดาวในยามดึกอย่างหนาวใจ
หากไม่หนาวกาย..
เพราะ
ดวงมักรจนา
ให้นางเอกพระเอกชาวดินชาวไพร
ที่ยังมีหัวใจใสใสพิสุทธิ์
ได้เคลียเคล้า
ได้ฝากรักอันแสนภักดีในอ้อมกอดกันและกัน...




เรื่องในฝัน..
พระเอกจะได้ยินเสียง..
อันแสนออดอ้อนอ่อนหวานของนางเอกขับขานบทกวี
ในยามค่ำคืน
ก่อนจะนิทราฝันไปด้วยกัน
อย่างแสนฉ่ำชื่น ชื่นฉ่ำใจ
ราว..
กับมีหยาดน้ำค้างไพรน้ำผึ้งจันทร์
มาหว่านสายหวาน
มาพรายพร่างลงนะกลางใจ



และ...
กับในนาทีนี้..
ดวงอยากกระซิบบอกทุกคนดีในดวงใจว่า...
แม้น..
ในยามตะวันอ่อนอุ่นเริ่มทอแสง
ด้วยดวงรัศมีแสง..อันแสนจรัสจรุงราวรุ้งพราว



ดวงก็จะรจนาให้นางเอก
ได้พ้อพลอดพระเอกในยามอุษาฟ้าสาง
กับเสียงดุเหว่าครางเรไรครวญ
และ..
ได้ชวนกันฝ่าดงหมอก
ที่กำลังหยอกรวงเรียวในเส้นทางสายข้าว
เพื่อชวนกันไปวัดในวันพระวันบุญ
อย่างพุทธศาสนิกชนที่ดี
ที่คือวิถีทุ่งวิถีทองวิถีไทย
ที่ทุกนางเอกดวง
มักได้รับบทอันแสนเงียบงามสว่างสงบใจที่ควรจักเป็น..



และ
กับ..บทกวีนี้..
ในยามเช้า
ที่นางเอกจะเฝ้าฝากคำรัญจวนใจ
ที่แสนงามล้วนในถ้วนทุกคำ
อันแสนล้ำใจนักในทุกยามนึกนะทุกคนดี...




*นิราศจักรวาลของคุณชัยพร ศรีโบราณ*

บทที่16..

ฉันลืมตาตื่นนอนตอนแดดอุ่น
รอบตัวคุ้นเคยกับสรรพสิ่ง
ฟูกที่นอนหมอนอุ่นละมุนอิง
สงบนิ่งหน้าต่างโน้นทางเทียว

นี่โลกเดิมยังคงดำรงหรือ
เสียงกระพือปีกผับขยับเหลียว
เหล่าวิหคเหินหาวอยู่กราวเกรียว
ใบไม้เขียวรับอรุณสุนทรีย์

หยาดน้ำค้างฉอเลาะเกาะใบหญ้า
นาฬิกาเข็มเวียนเปลี่ยนดิถี
เหลือคณาเรณูและธุลี
สถิตที่บริสุทธิ์อุทยาน

หมู่แมลงร่อนบินถิ่นทุ่งป่า
เมฆลีลาลมอ้อนดูอ่อนหวาน
มัศยาใหญ่น้อยลอยลำธาร
ดอกไม้บานประทับใจแม้ไกลตา

หรือเพียงฉันโชคดีที่พอตื่น
โลกก็ยื่นความรักประจักษ์ค่า
แต่เสียงเพลงเศร้าสร้อยแว่วแผ่วมา
จากขอบฟ้า-หรือรั่วจากหัวใจ

หรือภาพที่ดีงามเพียงความฝัน
กลบความจริงเพื่อฉันพลันเฉไฉ
ยังมีมุมมืดแฝงอยู่แห่งใด
เพลงของใครยังเศร้าร้าวทำนอง

ดวงตะวันดวงเดิมเริ่มหน้าที่
บรรจงคลี่ผืนนภาลบฝ้าหมอง
ราตรีผ่านลานหญ้าก็เรืองรอง
อวลละอองล่องละมุนอาบอุ่นไอ

ดูเล็กเล็กลอยล่องละอองคู่
นั่นเรณูธุลีที่ฝันใฝ่
ฉันชะงักพักคิดสะกิดใจ
นี่โลกใหม่หรือเก่าที่เรายล..

......................



และ...
คนดี...
กับราตรีนี้ กับเดือนดารากับฟ้ากว้าง
กับพร่างหอมแห่งมวลมาลีที่กำลังแย้มพราย
ดวงขอพลีจบ...
ด้วยบทเพลงอันแสนมากล้นความหมาย
แด่เรานะดวงใจ..ใช่ไหมเล่าคนดี..

..............





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1873.html
โลกแห่งความฝัน ใหม่ เจริญปุระ

เมื่อชีวิต ยังรักที่จะฝัน
และบอกกับใจ ทุกวันที่ผ่านมา
ด้วยปีกแห่งฝัน จะโบยบินไปถึงฟ้า
หวังจะไปให้ถึงในซักวัน
กว่าชีวิต จะพ้นไปอีกวัน
อีกกี่ความฝัน ที่ฉันจะไขว่คว้า
อีกกี่คำถาม ที่รอคอย การค้นหา
แล้วถึงรู้ว่ามัน ไม่มีจริง
โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง

โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง...
				
10 ตุลาคม 2548 19:59 น.

ด้วยจงรักเพราะภักดี..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song85.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html
(จงรัก..เสียแรงรักใคร่)
................



เด็ดการะเวกวางให้ดอมในอ้อมรัก
พลีดอกภักดิ์มาทักถามถึงความหลัง
ฝากจำปีมาเตือนจิตลืมหรือยัง
ฝากสะพรั่งพุดซ้อนมาอ้อนใจ

ฝากดาวเดือนเกลื่อนฟ้าระย้าระยับ
ว่าเคยนับเคยนึกถึงกันไหม
ว่าเราเคยมีกันและยามหนาวใจ
ว่ามีใครแอบซึ้งซึ้งคิดถึงเธอ

ฝากเพลงเก่าเพลงก่อนเคยอ้อนหา
ฝากลีลาวสันต์พรำพรมแทนคำเพ้อ
ฝากลมหอมแทนอ้อมกอดเคลียเคล้าเธอ
ฝากใจเก้อเผลอหน่อยเดียวคิดถึงนัก

หลับฝันดี
มีใครหนอพะนอในอ้อมกอด
อย่าลืมพลอดลืมพร่ำคำฝากภักดิ์
แลกรสหวานปานน้ำผึ้งนะที่รัก
ให้โลกประจักษ์ก่อนสิ้นชาติสวาทวาย...!!!!!
...............





แม่ดวงดอกพุดไพรฟังเพลง
*จงรัก..*ค่ะ
เลยรจนาแบบภาษารักรัก.
ให้ทุกดวงใจ...ได้พบไสวพร่างสว่างเย็น
ด้วยความ
*จงรัก*ภักดี...มิให้ลาลบเลือนลืมค่ะ

ราตรีนี้ ..
เพิ่งเริ่มต้น...สำหรับคนนอนดึกคึกเขียนนะคะ
และ
สำหรับ..
คนชอบแชทให้ไฟรักสปาร์คๆค่ะ(แปลว่าไรไม่รุเหมือนกัน)




ไพล..
หนาวใจนิดหน่อย
เลยถอยจิตไปฟังเพลงไพเราะ
และ...อ่านบทร้อยเรียงในอดีตค่ะ
ที่..
กรีดหยาดเลือดรักรจนา..ไว้มากหลายเลยค่ะ
และ...
พาให้คิดถึงเรื่องราวย้อนรอยถอยวน..ไป..

ในวังวนแห่งเงางาม..
ในท่ามท่วมท้น..
ด้วยพลังเย็นแห่งปิติเกษม
ในเรียวแสงจากเรี่ยวแรงแห่งรัก..จากรวงรังแห่งรัก

ที่ล้วนพลีภักดิ์ให้ทุกน้องพี่..
ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองทุกคนดี..
ขอฝากขวัญ..ฝัน
ฝากหวังหวาน หวานหวัง..มานานปี

อย่าง..
ที่ชีวียังมีเพียงความปรารถนาดี
ที่รจนายาวหลาย*ให้*..ด้วยรัก
และ..
จนจักกลายเป็นจางจืดจืดจาง...แล้วค่ะ
ให้ใจ...
ดวงอ้างว้าง
อยากร้างแรมลาร่มรักเข้าทุกทีๆแล้วละค่ะ



และนับ....
ตั้งแต่ไฟยังพร่าง..
ยามเริ่มเข้ามา...แรกรัก 
ได้รู้จักร่มใจเรือนใจแห่งมิ่งมิตรน้องพี่
ที่สถิตงามมานานปีนานเนาพอกัน
ได้ร่วมกันฝากฝันฝากใจ

ที่ได้เกาะเกี่ยวเดินเคียงไหล่
กุมมือกันไปในท่ามสวนขวัญสวรรค์ดวงดอกไม้งาม



ท่ามทุกราตรีทิวาวัน ณ..ที่แห่งนี้
ที่ได้อาศัย...ร่มเงาพักพิงอิงอุ่นจนกรุ่นร้อน 
ให้....
หัวใจดวงหวานสะออน ดวงอรชร
ได้ทำสิ่งที่รักค่ะ....

และ...
ได้พักใจ..อย่างแสนเงียบสงบงาม
ในท่ามโลกภายใน

ที่ใจดวงนี้...
มิเคยปรารถนาความวายวุ่นใด
จึงรักสงบ เพียรยอมสยบนิ่งกับทุกสรรพสิ่งค่ะ...



และ...
กับราตรีนี้...
ที่ฟ้าไร้ดาว..
กับคืนจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า
ทอฟ้าให้แสนเหน็บหนาวในดวงใจ
ที่..
ได้อ่านข่าว..ดูข่าว...เกี่ยวกับมหันตภัยโลก
ทุกราวเรื่อง..

ไม่ว่าที่จีน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินเดีย
ที่ราวกับมาสอนบทเรียนแห่งการสูญเสีย
ให้นึกสะท้อนย้อนรอย..สอนสัจจะใจสัจจะจริง..
ให้กับมากมนุษย์ผู้ประมาท



ที่ยังมัววิ่งวนอยู่ริมฝั่ง..รับวิบากกรรมมากมีมากมาย
ที่ยังคิดทำลายชาติ
ที่..
ยังมิคิดทำดีพลีเพื่อผองชน..
นอกจากกมล..ยังหลงเวียนวน
ยังทำร้ายให้ร้าวรานใจกันและกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด..




ว่า..ทุกสิ่ง..นั้น..
ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้
จง..
เลิกทำร้ายใคร
มีเพียง..
ให้ได้ใช้ทุกลมหายใจเข้าออกอันแสนดีมากมีค่า

ใช้เวลา..กับครอบครัวและกับทุกผู้เป็นที่รัก
ปานประหนึ่ง..โลกนี้..
กำลังใกล้จะมอดสลายกลายเป็นเถ้าธุลีแล้วค่ะ...



เรา..ควร
เพียงเพียรยื่นน้ำใจไมตรี
มากมีเมตตาอภัยปันแบ่งให้
ด้วย..
ดวงใจไม่แล้งไร้ ดั่งบัวแล้งน้ำ
เพียรฝากน้ำใจใสงาม
และ..
ไม่พิพากษาผู้ใด
ไม่ทำลายโลก..

หัดเพียงมอง..ดูชีวีตัวเอง
หัดเป็นกลาง 
หัดรู้วางว่างให้น้ำใจใสงามกระจ่างแจ่ม

คอยเอื้ออุ่นโอบงามเผื่อแผ่แด่ทุกมิ่งมิตร
อย่างสนิทแท้..
อย่างพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย..ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นนะคะ



และ
จงเพียรใช้ดวงจิต
*เนรมิตพลังทิพยเกษม*
ให้ดวงใจเราเองอิ่มเอมปรีดา
และ...
เพียรสร้างสรรโลกหล้าแบบไร้ที่รักมักที่ชัง



จึ่ง..
มาขอพลีและฝากความหวัง
ด้วยดวงใจ...
พร้อม
ฝากกับบทเพลงนี้นะคะ

และ...
กับเรื่องที่แสนดีที่แสนรักที่เคยรจนานานมา
*หากตราบใดสายนทียังรี่ไหลค่ะ

หวังว่า..คงแทน
*จงรัก*ด้วยภักดีแด่ทุกชีวีดั่งพี่และน้องได้บ้างค่ะ
.............



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem62834.html
(หากตราบใดสายนทียังรี่ไหล..)

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html
จงรัก ...ศรีไศล สุชาติวุฒิ 


โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม 
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน 
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก 
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม

อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม.
				
8 ตุลาคม 2548 15:58 น.

เมื่อเธอทำให้ฉันอยากเป็น..แม่ชี..ชั่วชีวิต..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4603.html
(หัวใจถวายวัด)
............


เปรียบชีวีบางทีคล้ายอากาศ
อย่าหวังวาดขอสิ่งใดดั่งใจหวัง
มีหน้าที่อย่างเดียวคือนิ่งฟัง
อย่าคาดหวังสิ่งใดไม่ต้องร้อง..

อยู่นิ่งนิ่งทิ้งถอดใจเหมือนแม่ชี
อยู่ให้ดีอยู่ให้ได้อย่าหม่นหมอง
แค่กระโถนไว้ระบายตัวสำรอง
ตามครรลองคนเหนือโศกโลกบูชา

ทำชีวีให้ดีสิพิเศษ
รู้ขอบเขตแค่เอ่ยพร่ำคำหวานหู
คอยรับฟังเพียงอย่างเดียวนะโฉมตรู
ให้รู้อยู่รู้ทนบ่นทำไม

แล้ว..ถามจริงใครกันเล่าเฝ้าคาดหวัง
ให้เซซังไร้หวังใดเกินทนไหว
ให้นิ่งไว้ทนไว้เพียงเข้าใจ
ไม่เสียใจไม่ร้องไห้อย่าทายท้า

นี่ละหรือ..คือมิ่งมิตรสนิทฝันคอยปันแบ่ง
หรือแค่แกล้งให้ทนฝ่ายเดียวอย่าเหลียวหา
แม้น้ำใจไยดีเคยมีมา
ให้เวลาเหลือน้อยบัวคอยน้ำ

ลากันทีไม่มีแล้วซึ่งความหวัง
พิพากษาสั่งให้กลายชีหนีชีช้ำ
ลาวันนี้ลาดีกว่าหนีระกำ
เมื่อเธอทำให้ฉันอยากเป็น..เช่นแม่ชี..ชั่วชีวิต...!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4603.html

หัวใจถวายวัด ...พุ่มพวง ดวงจันทร์ 

หลวงพ่อ เจ้าขา
ช่วยแผ่เมตตาลูกหน่อยได้ไหม
ลูกนี้อาภัพอับโชคหรือไร
มีรักครั้งใด หัวใจเหมือนไฟร้อนรน
หลายคน ที่พบ
พอเขาได้ซบต้องหนีหลบล่องหน
ขว้างทิ้งดังเศษดินข้างถนน
น้ำตาร่วงหล่น หาคนรักแท้ไม่มี
เข้าวัด ทุกวัน
ใส่บาตรทำทานบนบานขอให้โชค ดี
แต่ผียังตามหลอนหลอกย่ำยี
วันหยุดพักไม่มี บวชชีดีไหม
หลวงพ่อ เจ้าขา
ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ
สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย
จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย

หลวงพ่อ เจ้าขา
ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ
สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย
จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย...
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด