9 ตุลาคม 2549 21:10 น.

ก็..แค่นั้น..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2126.html
แค่เสียใจไม่พอ 


วันนี้ฟ้าหมอง 
ด้วย..หม่นเมฆเทาทึมทั้งวัน

ดวงนอนดูดวงดอกข่า นอกรั้ว นอกชายคา
กระท่อม..*หอมฝนให้ฝัน*

ริมลำประโดง
บ้านเพื่อนบ้านชาวสวน 
ที่มีอาณาเขตราวสวนสวรรค์..หลายไร่
ค่าที่ยังมีผลหมากรากไม้นานาพรรณ..
ต่างพากันขึ้นชันชูชันแตกกอออกดอกออกผล
มากมายให้แสนดูดีว่า..ดินยังอุดม...

ลั่นทมสีขาวกำลังบานพราวแข่งกัน
หากทว่าในวันนี้ ใจดวงฝัน ฝัน
กลับเห็นงามเศร้านิ่งงันนั้นแสนงามเงียบ
และ..
ในท่ามหยาดฝนพรำที่พร่างจนพวงดวงดอกเศร้า
ค่อยๆอ้อยสร้อยพล้อยพลิ้วปลิวคว้าง
พัดร่วงพราย ด้วยพายุฝนลมแรง



ใจดวงว่างเปล่า...ว่างเสียจนน่าใจหาย
ทั้ง..ๆทุกเช้าสาย เคยคลี่ยิ้มรับกับปวงดวงดอกไม้
รายรอบวิมานดิน ทุกสรรพสิ่ง
ได้อย่างแสนสดชื่นระรื่นรมย์

ใจดวงใส ดวงงาม ค้นพบ
นิยาม ความล้ำลึกแห่งจิตคนคนคน
ได้อย่างนึกไม่ถึง อย่างรับไม่ทัน
ให้..คว้าง..ฝัน
ปลิวปลิด ไปกับความไม่เที่ยง แห่งธรรมดา
แห่งลีลาชีวิตกระนั้น
ลิขิตพรหม ลิขิตสวรรค์ที่มาสอนสัจจะธรรม
ให้เราพลันได้ถึงซึ่งความไม่ประมาท
ที่..
ถึงมาตรแม้น นาทีนี้อาจจะแสนสุข
หากทุกนาทีข้างหน้า ใช่ว่าจะคงที่คงทน
เสมอไป ช่างหามีสิ่งใดจีรังยั่งยืนฤาก็หาไม่..
.............


ดวง...
พาร่างเดียวดาย ออกมาเดินดายเดียวสัมผัสสายฝน
ลมแรง ที่แสนทำให้รู้สึกเยียบเย็น 

ฟ้าครวญคร่ำร่ำไห้...
ราวนางฟ้าพลอยพลีน้ำตาร่วมรับรู้ชะตากรรม.....!



ฟ้าโพล้เพล้ใจเหว่ว้าน้ำตาเอ่อ
หลงละเมอมายาฝันวันสับสน
แท้ที่จริงแค่ทางผ่านรานกมล
ให้ทุกข์ทนถมทับดับดวงใจ

เจ้าแชมพูเพื่อนยากคว้าแนบอก
น้ำตาตกเปียกหมอนรอนรอนไหว
คือวิบากกรรมจำชดใช้นะดวงใจ
ต่อนี้ไปลั่นดาลรักสลักตรึง

ไม่มีวันไม่มีทางอ้างว้างนัก
ไม่มีภักดิ์ไม่หลงเชื่อใครฝากซึ้ง
ถอดใจวางปลายโลกร้างสิ้นคะนึง
ชีวิตหนึ่งต้องคำสาปสวาทวาย

หันหลังลาวันนี้ก็ดีแล้ว
ใจดวงแก้วแหลกยับดับสลาย
ฝังจมดินสิ้นพิสวาทตราบวันตาย
พลีใจกายตายทั้งเป็นเซ่นสังเวย....!!!

..................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2126.html
แค่เสียใจไม่พอ 

วันที่เธอเดินไปจากฉัน
อาจเป็นเหมือนวันแห่งความช้ำใจ
แต่ที่ทำให้ใจต้องช้ำ เกินไป
คือวันนี้ ที่เธอกลับมา
คำเสียใจที่มีให้ฉัน นั่นมันยิ่งทำให้มีน้ำตา
ตัวฉันเองเหมือนคนที่ไร้ราคา
จะมีค่าแค่คำว่าเสียใจ
บอกฉันซ้ำซ้ำ ว่าเธอเสียใจ
แต่ไยวันนั้น ไม่คิดบ้าง
เมื่อเธอแปรผัน เมื่อรักจืดจาง
ฉันจะช้ำใจอย่างไร
เอ่ยซักคำที่ดีกว่านี้ สักคำที่ดีกว่าคำเสียใจ
คำที่ทำให้เราจบสิ้น กันไป
จากวันนี้ จนตายก็พอ

บอกฉันซ้ำซ้ำ ว่าเธอเสียใจ
แต่ไยวันนั้นไม่คิดบ้าง
เมื่อเธอแปรผัน เมื่อรักจืดจาง
ฉันจะช้ำใจอย่างไร
เอ่ยซักคำที่ดีกว่านี้ สักคำที่ดีกว่าคำเสียใจ
คำที่ทำให้เราจบสิ้น กันไป
จากวันนี้ จนตาย ก็พอ
คำที่ทำให้เราจบสิ้น กันไป
จากวันนี้ จนตาย ก็พอ... 
........................


พระเอกขี่ม้าขาวพร้อมจากจร!  


ฟ้ามืด..แต่พรายพราวด้วยดาวพราย
ลมดายเดียวพัดเปลี่ยวเหงา
เดินทอดน่องแหงนมองจันทร์คอยตามเรา
เหมือนเป็นเงา..พริบพราวเฝ้าปลอบใจ..

เอนร่างนอนนับดาวกลางทุ่งหญ้า
หอมละออดอกไม้ป่าจนหวามไหว
พสุธา..ที่ข้ารักเคยพักใจ
ยามนี้ไกลอยู่ไหนหนา..ฟ้าตอบที..

ฟ้ากว้างเมินหนีหน้าคนว้าเหว่
อย่าหลงเล่ห์คำลวงให้คิดหนี
ฟ้ารู้เห็น..ยอดดวงใจ..ไม่ไยดี
เสียเวลาที่เพ้อฝันให้หวั่นใจ...

บอกกับฟ้า..อย่าตอกย้ำให้ซ้ำเจ็บ
ใจหนาวเหน็บพอแล้วกับหวั่นไหว
แค่สร้างพระเอกในฝันไว้ปลอบใจ
รู้บ้างไหม?
เขียนด้วยใจจบด้วยเศร้า..ให้พระเอกขี่ม้าขาว..พร้อมจากจร! 



				
8 ตุลาคม 2549 10:29 น.

เรือบุญ..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4423.html


ค่อยค่อยพายเรือดอกไม้ธรรมสู่ฝั่งฝัน
ตามตะวันแสงนิพพานแสนไสว
เรือดอกไม้เบาสบายกุศลใจ
แล่นปลิวไปกับตะวันลาฟ้าสีทอง

แม้นเดียวดายอ้างว้างกลางทะเลโลกย์
วิดกิเลสโศกกิเลสสุขทุกข์หม่นหมอง
ไม่มีเขาไม่มีใครคอยประคอง
เรือกุศลลอยล่องท่องสู่แคว้น ณ..แดนฟ้า

เพียรพายพาแลเห็นฝั่งอยู่ลิบลิบ
ท่ามฟ้าขลิบเงาทองยามอุษา
ทีละน้อยทีละน้อยด้วยแรงบุญหนุนนำพา
ฝ่าพายุกล้าลมแรงราวแกล้งใจ

สะพานรุ้งสู่โลกทิพย์จักเปิดรอ
ผู้ไม่ท้อผู้ไม่พ่ายไร้หวั่นไหว
เรือดอกไม้ธรรมดอกไม้ทองเทียบท่าใจ
เรือมนุษย์ยิ่งใหญ่ข้ามมหานทีสีทันดร..จะมีสักกี่ลำ...!
................




พุดพัดชา กำลังรจนา
*ดาวเหนือแห่งชีวิต.*

และ..
อาจจะเป็นงานจากลิขิตฟ้าชะตาพรหม
จากจิตภายในระหว่างตัวละครโลกโศกสุข
อันแสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้
ที่บุพกรรมนำชักพามาให้ได้พบกัน
ก่อให้เกิด..
ปาฏิหารย์รักมหัศจรรย์ฝันยิ่งใหญ่
จน..
ยากยิ่งเกินกว่า...
ที่ผู้ใดจะหยั่งเห็นแลตัดสินได้ว่า

*นี่คือเรื่องจริงหรืออิงนิยาย*

หรือเพียง..
เรื่องจริง ที่ถ่ายทอดมาได้เพียงเศษเสี้ยวอันน้อยนิด
ทั้งๆ งามนิรมิตเกินกว่า..*จักหาคำใดมาบรรยาย*

พุดพัดชา.... อาจจะรจนาเรื่องนี้ไม่จบ
จนตราบถึงวันตะวันแห่งชีวิตจำต้องพรากลาไปเสียก่อน
หาก...
เพราะทุกครั้งที่จับปลายปากกา 
หยาดน้ำตาแห่งความปิติเกษมโสมนัส
ก็จักละหลั่งริน...
จน..
ต้องหยุดนั่งนิ่งๆ ...ทิ้งปากกา
แล้ว..หลับตา
รำลึกนึกถึงทุกฉากตอนแห่งความทรงจำ 
อันแสนงดงามตราตรึง
ที่..
เปรียบประดุจดั่ง...
สายน้ำไหลไป... ไหลไป..ไม่หวนกลับ..
หาก..
ทว่าทำไม ....ไม่เลือนลาลับ...
 กลับ...งดงามสว่างวับอยู่ในดวงใจเป็นนิรันดร์.....
................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4423.html
เรือใบบนสายรุ้ง..ใหม่ เจริญปุระ 

ฉันรู้ว่าเธออยู่ไหน
รู้ว่าเธออยู่ไกล
รู้ว่าเธอจะรอ อยู่ตรงปลายสายรุ้ง
ฉันต้องข้ามไป
ด้วยเรือใบสักลำ กับพลังของฉัน
และด้วยลมแห่งรัก กับวิญญาณของฉัน
แม้ว่าเธอจะไกลสักเพียงใด
ฉันก็จะไป ไปหากัน
เรือใบบนสายรุ้ง
จงนำความรักไป
มีคนที่รักฉัน
เขาจะคอยอยู่
คอยฉันด้วยหัวใจ
ประกายแห่งสายรุ้ง
นำทางให้ฉันที
ไปเจอความรักแท้ ที่ตรงปลายทาง
เจอใจที่ดีดี

แม้จะมีแต่ฉัน
อยู่บนความเวิ้งว้าง
แม้จะไปอีกไกล
แต่ไม่เคยอ้างว้าง
เพราะว่ามีจุดหมายอยู่ในใจ
ไม่ท้อไม่ลังเล ไม่หลงทาง
เรือใบบนสายรุ้ง
จงนำความรักไป
มีคนที่รักฉัน
เขาจะคอยอยู่
คอยฉันด้วยหัวใจ
ประกายแห่งสายรุ้ง
นำทางให้ฉันที
ไปเจอความรักแท้ ที่ตรงปลายทาง
เจอคนที่แสนดี
ดวงตะวันยังทอ สายรุ้งเรืองรอง
วางบนละอองสายฝน
เรือจะลอยลำไป
ในท้องฟ้าเบื้องบน
ค้นหารักที่แท้จริง
จะไม่มีวันใด ที่สายรุ้งเลือนลาง
ในการเดินทางครั้งนี้
ลมแห่งรักรุนแรง
อยู่ทุกวินาที
รู้ ว่าฉันจะมีเธอ

ฉันรู้ว่าเธออยู่ไหน
รู้ว่าเธออยู่ไกล
รู้ว่าเธอจะรอ อยู่ตรงปลายสายรุ้ง
ฉันต้องข้ามไป
แหละฉันจะเจอเธอ... 
 

				
7 ตุลาคม 2549 00:13 น.

สายธารแห่งสวรรค์สรวง..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4125.html


ดึกดื่น....
จันทร์เพ็ญดายเดียวพูนดวง...

ในนิ่งงัน ฝันงามเงียบ
ดวงหลับตาแลเห็น แม่น้ำสีน้ำเงินเข้ม
*สายธารแห่งสวรรค์สรวง*

มีร่างหนึ่งในชุดขาวราวนางฟ้า
เรือนผม..
ประดับประดาด้วยดวงดาวดารารายระยิบระยับ
กำลังท่องสายน้ำแสนสวยใสไหลฉ่ำเย็น..

จน..เห็นกรวดทราย สะท้อนวะวาววับ
รับ...
สายแสงจันทราราวเพชรพลอย...พราวพราย
ในท่ามฟ้ามืด

จันทร์ค่อยๆผันดวงลอยคว้างเหนือขุนเขา
แจ่ม กระจ่าง พร่างแสง....ไปทั่วท้องทุ่งนา
จับ..
ระย้ารวงข้าวกล้าสุกปลั่ง...ดั่งมณีดวงทอง...แห่งผืนดิน..!
....................
 
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song973.html
 เงาลำธาร..!     

เอนร่างลงตรงริมลำธารหวาน
แดดลอดผ่านเรียวไผ่ไหวลู่
น้ำค้างพร่างยอดหญ้าไหวพรู
ซู่ซู่ไผ่ไหวไกวกิ่งรับ...

สายน้ำฉ่ำฉ่ำระริกระริน
สายถวิลหวนไปไม่คืนกลับ
ใบไม้ควะคว้างซ้อนทับ
เปิดใจรับสองดวงใจในวันนี้..

ช้อนนัยน์ตาดูดอกไม้ชายตลิ่ง
จับใจนิ่งทิ้งทุกข์สุขแทนที่
ยิ้มหวานหวานกระซิบริมหูนะคนดี
จูบเรียวแก้มนี้เคียงกันฝันครองใจ...

โลกสงบเงียบงามตามใจฝัน
ไร้ใครหยันเย้ยเยาะให้หวั่นไหว
มีดอกไม้ สายธาร เสียงนกไพร
มีเพียงใจซึ้งใจในผูกพัน..

กุมมือมั่นกันแนบแน่นเท่าแรงรัก
หยุดใจพักหลับตาตามหาขวัญ
เงาลำธารหวานดอกไม้ร่ายมนต์จันทร์
จิตวิญญาณละมุนฝันหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว!

 



หลับตาฝันไกลไปพร้อมกันนะคนดี ทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทย...

อ้าว..หนึ่ง..สอง สาม...!

ภาพลำธารสายหวาน...
ที่ทอดตัวคดเคี้ยวเป็นโตรกธาร ซอนเซาะ ไปตาม โขดแก่งหิน
ระรินระริกไหล...เอื่อยเอื่อย...ช้าช้า......

ห่มด้วยผืนฟ้าสดกระจ่างใสสีเงินเข้ม  เต็มฟ้าคราม...

มวลหมู่นกไพร ..โผผิน
ผีเสื้อ ภมร บินว่อนดอมดมเกสรหวาน  หอมอวลของมวลหมู่บุบผชาติ..

ราวป่า..กำลังสะพรั่ง สีสดส้มแสดแรงร้อน ดวงดอกโดดเด่น  
แดงเหลืองละออช่อชั้นชมพูพราว 
ราวกับถูกสาดสีด้วยฝีแปรงเอกของจิตรกรชื่อก้องว่า..ธรรมชาติไพร...

ริมเงาไม้ เงาสายธาร ใต้ต้นหวานหวานชมพูพันทิพย์ บนหินงาม ..
ดอกสักร่วงพราวราวสายฝนสีทอง  
ปลิดปลิวโปรยละล่องละลิ่วปลิวควะคว้าง...ควะ คว้าง

มาห่มร่างงามของหญิงสาว สวยเก๋ 
นอนสยายผมราวภาพนางใจในฝัน...ฝันดี
เคียงกันนี้มี...
ชายหนุ่มผิวคล้ำ ร่างเพรียว กระชับ 
ผิวสีทองแดง..ด้วยแดดโลมไล้ร่าง...

กุมมือกันแนบแน่น ...
เท่าแรงรักแรงใจในจิตวิญญาณ
ที่กำลังหลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว
เกี่ยวก้อยกันฝันไกลไปในโลกเงียบงามเงียบงัน!

กับดวงตาสวรรค์ ที่กำลังแย้มยิ้มยินดี  เอื้อขวัญโปรยพร..! 
 


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4125.html
กว๊านพะเยา 

โอ้ธารสวรรค์ กว๊านพะเยา
ธารรักเราครวญคร่ำ ลมโชย
พริ้วฉ่ำ ในวังน้ำวน
พร่างพรมมนต์รักมา
ดูราวสายชล ธารสวยตระการ
อยู่ในนิทรา แว่วเพลงรัก
ของปักษา ร้องอำลาคืนรัง
โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย

โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย... 
 


				
4 ตุลาคม 2549 23:57 น.

จูบไม่หวาน..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4558.html




เขียนกลอนเศร้า แกล้มวิวซ้ำ นอกหน้าต่าง
ใจอ้างว้าง กลอนบทนี้ ก็เลยเหงา 
หอมการะเวก ลีลาวดี มาบางเบา 
เสียงนกเขา ร้องขันคู หาคู่เคียง 

มองเรียวฟ้าหม่นหม่นหลังฝนตก 
มองเห็นนก จับจำปี สิ้นไร้เสียง 
มองตัวเรา เอ๊ะ! ทำไมใจเอียงเอียง 
แม้จะเถียงกับหัวใจไม่อ่อนแอ

เพราะวิวซ้ำหรือใจช้ำกันแน่คือสาเหตุ 
ใจเทวษดายเดียวย้ำรอยแผล
บอกใจช้ำ ย้ำซ้ำซาก อย่าท้อแท้
ไม่ยอมแพ้ให้แก่โศกโลกย์ลงทัณฑ์..
................


คืนนี้ รายรอบวิมานดินเงียบ แสนเงียบ
เงียบเสียจนได้ยินเสียงใบไม้ร่วงหล่น...
อากาศร้อนอบอ้าว
รอเวลาพราววสันต์พรายสายลีลาลงมา

ฟ้ากระจ่าง ท่ามจันทราลอยดวง..
มะลิซ้อนหอมอ่อนๆบนโต๊ะเขียนหนังสือตรงหน้า


รัศมีจันทรา กำลังสาดสายแสงแสนหวานปานน้ำผึ้งรวง
ดวงดารากำลังร่ายระบำเริงร่า ไปกับเวทีม่านฟ้าสีกำมะหยี่
ลีลาวดี หอมจรุง  พอกับสายรุ้งในดวงใจที่กำลังทอสายใยรักคิดถึง
 

ดวงนอนนิ่งนิ่งอ่านบทกวีของ*เรียวกัน*

*ในทิศทั้งสิบของพุทธเกษตร
มียานเพียงหนึ่งเดียวท่านั้น
เมื่อเราหยั่งเห็นอย่างกระจ่างชัด
ย่อมไม่มีความแตกต่างในคำสอนทุกอย่าง

มีอะไรที่ต้องสูญเสียหรือ
มีอะไรที่ต้องได้รับหรือ
แม้นว่าเราได้บางสิ่งมา
สิ่งนั้นก็มีอยู่ที่นั่นแล้วตั้งแต่เริ่มแรก

แม้นว่าเราสูญเสียบางสิ่งไป
สิ่งนั้นก็คงซ่อนเร้นอยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง*
.......................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4558.html

 จูบ พี่หวานน้อย ไปหน่อย
พี่ บุญน้อย น้องคอยไม่ได้
จาง ร้างไกลเหมือนคนใจดำ
โอ้ ดวง ใจ รัก ง่าย ถ่าย เท
พอเซแล้วเจ้าก็ซ้ำ
สุด เจ็บ จำ ถึง ยาม ยาก จน
เกลียดคนจูบ ซ้ำ รอย
จูบ เขาหวานซึ้ง ครึ่งแก้ม
แม่ เดือนแรมน้องเอียงแก้มคอย
ลืม แล้วรอยรักแรกแหลกล้ม
ก่อน จาก มา น้อง ควร ฆ่า ทิ้ง
จ่อยิงเสียให้สิ้นลม
หรือ ดาบ คม เงื้อ ฟัน ให้ จม
ยังดีกว่าหนี หน้า

จูบ พี่นี้มันคงกร่อย
เจ้า ไม่คอยพี่ ก็ไม่ว่า
ลืม สัญญาของชาย ชาวดิน
พี่ จน เงิน น้อง เมิน หลบ หนี
คนมีเขาก็ ไปกิน
น้อง จาก ถิ่น เห็น ดิน ยาก จน
เกลียดคนที่ จูบ หวาน...

				
30 กันยายน 2549 19:38 น.

ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก โ ศ ก ..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4658.html
(คิดถึงพี่ไหม..)


อาทิตย์..ดวงอุทัยแสนหวานแย้มบานมาทายทัก..
มวลหมู่ดวงดอกไม้รายรอบวิมานดินและ..ดวง
ในยามอรุณรุ่งวันนี้....

วันที่..
ฟ้าสีฟ้าสดกระจ่าง 
เมฆสวยใส..ลอยพร่างพรายคล้ายสายไหมนวลนุ่ม


ดวง...หยิบผ้าถุงผืนงามมานุ่ง
ผ้าถุงที่ดวงได้รับเป็นของขวัญ 
ของกำนัลจากดวงใจจากใครบางคน
ที่มอบให้พร้อมปิ่นปักผมพร้อมลูกปัดเงินวะวาววับ..


ยามที่..
เขาต้องต้อนรับแขกระดับชาติ
พาไปดูงานที่เชียงใหม่ ดินแดนล้านนาไท
ที่แสนสวยสงบร่มเย็นเป็นสุขมาอย่างช้านาน
แดนดิน..
ที่ก่อให้เกิดตำนานรักแสนหวานปานน้ำผึ้ง
คลอคลึงเสียงสะล้อซอซึงมากมาย 
และ..
ดวงเคยใช้เป็นฉากรจนา
ในหลายเรื่องราว...
อย่างเช่น


*เรื่อง..
คุณ..ผม..จักรยาน..ร้านกาแฟ..
แล้วไย..ดวงดอกกาสะลองต้องร้องไห้!

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem67471.html*


และ..
พร้อมผ้าลายดวงดอกพิกุลดิ้นทองที่มีช้างพลาย
ตรงปลายชายให้เห็นความงามอลังการ
และ
ดวงได้แขวนไว้ที่เตียงสี่เสาโบราณ นานมาจนถึงวันนี้


พร้อมกับที่..
ดวงหยิบเลือกตุ้มหูทองระย้าระยับ
ที่แทรกประดับด้วยโกเมนแดงเด่น
ที่..
ดวงเพิ่งซื้อจากเนปาลมาสวมใส่ ที่แสนให้อารมณ์ลึกเร้น
ราวกับ..
จิตจักได้ถอยหลังกลับกลายเป็น สาวโบราณย้อนยุค


ดวง...ได้กลิ่นดวงดอกลั่นทม 
หลากสีสรร พรรณราย
หอมพรายพรมมากับสายลมชื่น..ในยามเช้า

นกเขาไพร ในใจดวง
ยังคงเฝ้ามาเกาะกิ่งจำปีพลีเสียงเสนาะไพเราะร้องขับขาน 
แม้น..
วันคืนจะผ่านล่วงลาเลย...มานานแสนแสนนาน


เสียงโทร..ดังขึ้น พร้อมเสียงใครคนหนึ่ง
นุ่มๆซึ้งๆตรึงให้ดวงคลี่ยิ้มหวานๆได้อย่างบานเบิกใจ
เขา...
เริ่มด้วยบทเพลง*คิดถึงพี่หน่อย*
ราวยิ่งย้อนรอยให้ใจดวงนวลดวงนี้ยิ่งแสนเต็มตื้นตันใจ


น้ำตาแห่งความรักปิติเกษม 
กำลังพร่างสายระรินไหล อยู่ ณ..ภายใน..กลางใจ 
อย่างยากที่ผู้ใดจะแลเห็น
ไปกับ...
*บทเพลงแห่งความทรงจำระหว่างเรา*
ที่ผ่านคืนวันพันผูกรัดร้อยทั้งเศร้าสร้อยสุขทุกข์คลุกเคล้า
ราวปีแรกพบ..เพิ่งมาเยือน.....
.......................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4658.html
คิดถึงพี่ไหม 

คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจพี่
ห่างกัน อย่างนี้
น้องคิดถึงพี่ บ้างไหม
อย่าลืม อย่าลืม อย่าลืมสัจจา สัญญาที่ให้
ว่าตัวห่างไกลหัวใจชิดกัน 
คิดถึง พี่ก่อนน้องนอนก็ได้
เมื่อยาม หลับไหล
น้องเจ้าจะได้ นอนฝัน
ข้างขึ้นเมื่อใดแก้วใจโปรดมอง
แสงของนวลจันทร์
เราสบตากัน ในแสงเรื่อเรือง
คืนไหน ข้างแรม ฟ้าแซมดารา
น้องจงมองหา ดาวประจำเมือง
ทุกคืนเราจ้องดูเดือนดาว
ทุกคราวเราฝันเห็นกันเนืองเนืองถึง
สุดมุมเมือง ไม่ไกล
คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจเจ้า
พี่ตรม พี่เหงา
เพราะคิดถึงเจ้า เชื่อไหม
ฝากใจกับจันทร์ ฝากฝันกับดาว
ทุกคราวก็ได้ เราต่างสุขใจเมื่อคิดถึงกัน... 
 

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด