20 กุมภาพันธ์ 2550 12:15 น.
พุด
อรุณหวานแจ่ม..ด้วยตะวัน..ดวงจรัส
ดวง..
รู้สึกดื่มด่ำ..ล้ำลึกกับอารมณ์สงบสงัดแสนเงียบงาม
ในยามเช้าเช่นนี้
มานานปีมานานวันมานานนับอนันต์กับกาลเวลา
กับทุกความอนัตตาความไม่เที่ยงแท้ในทุกสรรพสิ่ง
ในโลกแห่งความจริงแท้ นี้
ที่เวียนวนหนีไม่พ้นรักทุกข์โศกโรคภัยพันธนา
สำหรับดวง..
ปีที่ล่วงเลยผันผ่านมา
ช่างงดงามจนเกินกว่าจักหาค่าคำใดมาอธิบาย
เป็น*ปีทอง*อันแสนสุขพรายรายล้อมรอบตัว
พ้นผ่านม่านหมอกเมฆหม่นสลัว
ตำนานแห่งชีวิต ความรัก
ที่เกินผู้ใดจะคาดถึง
ให้หลากชีวิตชีวีผู้ที่ชิดใกล้
ได้ร่วมซาบซึ้งน้ำตาซึม
ตรึงใจ..ไปกับ
*มหัศจรรย์ฝันปาฏิหารย์รักอันแสนยิ่งใหญ่ *
ที่คือ...
ความหาญกล้า
รู้กลืนกล้ำ..รู้อดทน
ให้..
งามล้ำล้นเกินกว่านวนิยายเรื่องใด
ที่ดวงเฝ้าเพียรฝันใฝ่พลีรจนา
ชีวิตดวง ที่ผ่านเลย
ทั้งงามเศร้า งามสุข งามในทุกลีลาอารมณ์
ไม่ว่าในท่ามตรอมตรม ในท่ามทะเลน้ำตา
ในท่ามความเหว่ว้าราวหลงโลกเพียงลำพัง
ในท่ามเงากรรมวิบากที่ตามติดมา
ดูราวกับว่าคือบัญชาจากสวรรคเบื้องบน
ให้พรหมชะตาแลฟ้าลิขิตนั้นแสนสุดพิศวง
ที่ณ..วันนี้ ในวันนี้
ดวงได้แต่อยากกล่าวคำขอบคุณ
ทุกรสชาติชีวิต
ทุกข์ความรัก
ทุกความชังหวังหวาน
ทุกความสุขรานแสนโศกสะเทือน
ทุกผองเพื่อน..ทุกคนดีที่ดวงได้พานพบ
ไม่ว่าจักจบด้วยความรู้สึกใด
หากก็ทำให้ดวงใจดวงได้เรียนรู้
ราวคือครูสอนสัจจธรรม
ขอบคุณทุกน้ำคำ น้ำใจ
ทุกการกระทำที่เสียสละยิ่งใหญ่จากใครใคร
พึงมอบให้
ให้ดวงได้รู้ค่าคน....
ค่าแห่งน้ำค้างกลางกมลละมัย
ค่างามจิตแสนสิริไสวเกษม
ที่จักหล่อเลี้ยง..
ให้..
*อัญมณีไพร*งามดวงใจใครเล่ารู้นี้..
ยังคงมีพลังสรรสร้าง
แผ้วถางทางทองทางธรรม
โอบไหล่กันฉันท์มิ่งมิตรน้องพี่
อย่างที่..
หวัง...จักปองฝันปันแบ่งเอื้ออุ่นอ้อมตักอ้อมใจ
เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน
ในเส้นทางสายฝันสายบรรณพิภพสายดวงดอกไม้งาม
ตราบ....ลมหายใจแสนสั้นจักสิ้น..นะทุกคนดี..!
..............................
ไม่เกี่ยว ไม่เก่าไปกับกาลเวลา..นะดวงใจ
นานมาแล้ว....หลายปี
ที่มีโอกาส ฉลองวันเกิดริมทะเล
กับ..
คนรัก และรู้ใจ เพียงสองคน สองดวงใจ แต่ไม่เดียวดาย....
กับเสียงคลื่น ราวดนตรี
กับราตรีที่มีดวงดาวนับพันอวยพร
กับพลิ้วแผ่วของลมทะเลบางเบา
กับสองเราในอ้อมอกอุ่น หวานละมุนมิรู้สิ้น..
กับดินฟ้า ที่รู้เห็นเป็นพยานรัก
แม้ผ่านมานานนัก แต่ยังฝังใจจำ...ถึงวันนี้...
คนดี...เตรียมกระทงน้อย
ลอยแสงเทียนงาม วับวามไหว ไปในทะเลกว้าง
เสี่ยงทาย ให้เราสอง ครองรักกัน....ยืนยาว......
เรา..เป่าเทียนพร้อมกัน
เทียนดับพลัน จูบดื่มด่ำก็ตามมา นิ่งนาน หวานล้ำ
จนใจฉัน ลอยละล่องราวฟองเมฆ.......สู่สวรรค์....
เรานอนนับดาวพราวฟ้า ใต้ผ้าห่มผืนเดียว
กลิ่นหอมจากกาย ไร้สิ่งใดขวางกั้น
จนใจฉันเกินทานทน
ปนเป ด้วยแรงรัก แรงฤทธิ์พิษสวาท
พาใจและร่างเรา หลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียว หนึ่งเดียว
เนิ่นนาน หวานหอม.....
วันเกิดปีใดไหนเล่า จะสุขเท่าปีนั้น
ที่ฉันมีเธอ และฉลองฝันวันหวาน แสนหวานกับเธอ
กับพระจันทร์คืนเพ็ญเด่นดวงที่ทะเลงาม
เสียงเพลงอวยพรใด ไหนเล่า จะหวานเท่า
คำออดอ้อน วอนขอรัก จนอ่อนใจ
ยอมทอดใจ ระทวยกาย ไปกับเธอ....
ความอบอุ่น จากงานใดไหนเล่า
จะยิ่งใหญ่เทียบเท่า ความโอบเอื้อ
จากอกอุ่นแข็งแรง ยามเธอโอบกอด....
วันเกิด ปีแล้ว ปีเล่า ใจฉันไม่เคยเศร้า
เมื่อใจดวงร้าวคิดถึงคืนนั้น นานมาที่หวานหอม
หลอมรวมให้ใจเราสองนี้
ยิ่งเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยว ไม่เก่าไปกับกาลเวลา..นะดวงใจ....
...........................
.............................
เป็นจินตนาการเขียนเพื่อประกวดนะคะ ยังไม่เคยแสดงเองค่ะ
หาพระเอกโรแมนติกแบบนั้นไม่พบเจอเลยค่ะ
คำขอบคุณ.ตราบวัน..ฝันมิสิ้น....
เริ่มต้นด้วยวันที่แสนดี..ราตรีที่แสนงามนี้.......
เหนือความสุข...เหนือความทุกข์....เหนือสิ่งใดใด.......
ไพล......
อยากกล่าวคำ...ขอบพระคุณ......
ขอบพระคุณ.......
ชาติไทยเรานี้....แสนดีนักหนา...
ให้ผืนดินเรามา...ก่อเกิดเป็นคน......
ให้จิตวิญญาณ..ไม่ยอมสับสน..
ให้เราเป็นคน..คิดดี..ทำดี.....
ไพล...คิดได้เป็นกลอนเลยนะคะ.....
ไพลขอบพระคุณ..และสวดมนต์ให้แผ่นดินไทย..
ให้คนไทยทุกคนคิดดี..พูดดี..ทำดี..ต่อกัน
.เป็นทรัพยากรมีค่าของแผ่นดินนี้.....
เพราะเรามีทรัพยากรแวดล้อม แสนอุดมสมบูรณ์....
เหลือเพียงตัวเราที่ควรทำชีวิตเราให้เป็นทรัพยากร
มนุษย์ผู้มีค่ายิ่งต่อตนเอง..ต่อครอบครัว..
และในที่สุดจะส่งผลไปถึงประเทศชาติอันเป็นสังคม
ส่วนรวม...
วิงวอนด้วยใจนะคะ..
จงเป็นน้ำใสหยดเล็กๆ..
ที่รวมกันมากๆเข้า..เป็นธารน้ำใส...
ไหลเย็นคอยพิทักษ์รักษ์โลกเรา..
ให้ร่มเย็นเป็นสุข....สืบไป.....
ขอบพระคุณ.............
ศาสนา.....
ที่ไพลยึดเป็นลำธารสายงาม
ไว้ดื่มกินทางจิตวิญญาณ..
รู้จักเลือก...รู้จักเชื่อ...
ในทางที่ถูกต้อง...ในทางที่ดีงาม.
โดยการไปวัด
ที่ไม่เน้นการสร้าง ถาวรวัตถุใหญ่โตเกินจำเป็น..
แต่เน้นสอนจิตวิญญาณให้ตื่น...ให้เบิกบาน.....
โดยการน้อมรับฟังธรรมตามโอกาส...
หาหนังสือธรรมะ มาอ่านเพื่อฝึกจิต...........
ให้เกิดสติ มีปัญญา และหวังจะไปให้ถึงสมาธิให้ได้......
ทาน..ทำอย่าให้ขาด...ศีล ยึดมั่น
สมาธิ.....คือยอดดวงใจอยากไขว่คว้า...
แต่มิใช่จะได้มา..แม้เพียงคิดในวันเดียว.
เฉกเช่น
การปีนป่ายภูเขาสูง...ต้องอดทน ฝ่าฟัน
ฝึกความถึงพร้อมในด้านจิตวิญญาณ...
ละความ เห็นแก่ตัว..แก่ได้..ก่อนจะนำทางเราทุกผู้
ให้ข้ามพ้นผ่านโลกแห่งกิเลสความเวียนว่าย......
มิรู้จบสิ้น.....
เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม..............
เหนือทุกสิ่งในใจพสกนิกรไทย...
คือสำนึกในหยาดน้ำพระทัยของยอดพระมหากษัตริย์ไทย....
ที่เราคนไทยทุกคนโชคดีนัก
ที่ได้เกิดมาในร่มรัชสมัยของพระองค์
ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อแผ่นดินไทย..เพื่อคนไทย ..
แล้วไฉนเลยเราคนไทยไม่ทำตัว.. ให้ดีงาม
ให้สมกับที่เกิดมาในแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองผืนนี้เล่า......
ขอบพระคุณ............
ในชีวิตนี้...
คือบุพการีที่ได้ให้ชีวิตลูกมาเป็นตัวตน..
ลูกขอก้มลงกราบจูบแทบเท้าแม่..พ่อ.....ผู้แก่ชรา..
เอากตัญญูกตเวทิตา..
คำสัญญาแทนมาลัยดอกไม้งาม..วางแทบเท้า..
ตราบเท่าที่ลูกยังมีลมหายใจ....
ลูกจะไม่ทอดทิ้ง...จะดูแลจนตราบ ชีวีนี้จะสิ้น....
และลูกภูมิใจนักที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่.พ่อ
มีบุญนักที่ได้ใจดวงพิเศษดวงนี้
มากอบเกื้อให้ได้ชื่นชมโลกงาม
ได้สรรสร้างฝากดี
เผื่อแผ่น้ำใจแบ่งปันแด่เพื่อนมนุย์......
ขอบพระคุณ...........
ญาติมิตรมากหน้า..ที่ล้วนทำให้ชีวิตอบอุ่นเป็นสุข
คอยเคียงข้างช่วยเหลือไม่ว่ายามใด ของชีวิต......
ขอบคุณ........
เพื่อนรัก....ทุกทุกคน..ที่รักด้วยบริสุทธิ์ใจ...
เป็นกำลังใจ...แลกทุกข์..สุข...
เป็นดั่ง... กัลยาณมิตร
ผู้มิเคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจใดใด......
เราให้สิ่งดี เราก็ควรได้รับสิ่งดีๆมิใช่หรือ
เพื่อนผู้ใดที่คอยคิดร้าย..มุ่งทำลาย..
มิใช่เพื่อน..เป็นเพียงผู้ผ่านมาให้เราทดลองประลองจิต
เพื่อเรียนรู้ อดทน มีเมตตา และอภัย....
นี่คือการฝึกจิตให้มีโพธิจิต...
ให้ใจเราอยาก...ช่วยเหลือ...สงเคราะห์ แก่คนทุกผู้
ที่ยังด้อยกว่าเราทั้งด้านจิตวิญญาณและวัตถุ.....
โดยไม่เลือกที่รัก..มักที่ชัง
ขอบคุณ.............
คนดีทุกคนของชีวิตที่ได้ชิดใกล้
เหมือนพลังแสงอาทิตย์ยามกลางวัน..........
เหมือนแสงจันทร์ยามค่ำคืน.....
ขอบคุณ...........
ทุกค่าคำล้ำรสบทกวีที่แสนงาม
ที่ทำให้ทุกยามสัมผัสได้ละมุนละเมียดใจค่ะ
ขอบคุณ..ปีกฟ้า...
สุภาพบุรุษน้ำใจงามผู้ขอแค่อยู่เบื้องหลัง
ผู้ให้เวทีฝันสรรสร้างงานงามรจนา
แด่บรรดาทุกดวงใจ ที่มีหัวใจอันพร้อมพลีพิลาสพิไล
เพียรฝากใจฝากฝันไว้ในโลกบรรณพิภพนี้
เพื่อลบหมองหม่น ทนทุกข์
ระบายสุข เศร้า ดายเดียว สับสน
ยามเหลียวไปไม่พบใครสักคน..เคียง!
ในโลกอารยะหรืออาละวาดอลวนอลเวงนี้
ที่หมุนไปมิรู้จบมิรู้สิ้น..
ตราบยังมีดินน้ำลมไฟ
ให้หัวใจดวงละเมียดละมุนก่อเกื้อกอร์ปกัน
ที่นับวันมากมีมากมายมนุษย์
และตามติดมาด้วยการมิหยุดแก่งแย่งแข่งดี
ชิงดีชิงเด่นเข่นฆ่ากันเพื่อความอยู่รอด
ความเหงา...จึงติดร่างเรา..
ราวเพรงกรรมคอยกระหน่ำตาม
ผู้ซึ่งใจยังไม่วางว่าง
และมองข้ามหัวใจภายใน..บ้านภายในของตัวเอง
ไปไม่ถึงฝั่งฝันไม่หลุดพ้นวงกรรมวนเวียนวกวน
ยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ..
และที่นี่ร่มรักเรือนไทย
คืองามสงบใจให้ซ่อนซุกสุขซึ้งเศร้า
ให้เรามีโลกใบเล็กที่แสนสุข
ประคับประคองเอนอิงพิงไหล่ฉันท์พี่น้อง
ไว้แบ่งฝันปันใจไปบนถนนสายดอกไม้งามด้วยกัน
*ขอบคุณ..
ทุกดวงใจในเรือนไทยแห่งนี้ที่มากมีน้ำใจเอื้อโลกฝัน
ให้ได้ทำสิ่งที่แสนรักเอยแสนรักในกมลมายาวนาน
โดยเฉพาะเจาะจง...
มหัศจรรย์รักจักบังเกิด
ยามที่ใจไพลอ่อนล้า
พระเบื้องบนผู้มากเมตตา
เวทนาไพลเป็นยิ่งนัก
มัก..ส่งคนดีมีน้ำใจงามมาปลอบประโลมทางเมล์ใจ
ให้พลังใจเพื่อให้ไพลมีพลังรจนางานที่รักต่อไป
จาก..พี่นกตะวัน..ที่เพิ่งตื่นจากฝันเพ้อละเมอหาดาว
แบ่งรวงใจงามงดบทกวีจากดอยอ่างขาง
อ่านๆไปจนซึ้งใจน้ำตาซึม..
จนใจกระเจิดกระเจิงเหินบินละลิ่วละล่อง
ท่องตามพี่นกตะวันไปในไพรพง
จาก..หลินน้องน้อยผู้มิเคยลืมลา..
จะกลับมาย้ำคำห่วงใยเสมอมา
จาก..บุรุษรูปงามแห่งเขาตังกวน..
ที่เพียรส่งการ์ดมาทำให้ได้อมยิ้มให้หัวเราะ
ให้หัวใจเบิกบานดั่งได้น้ำค้างกลางกลีบดอกไม้
จาก...ผู้ชายคนเดิมคนดี
ที่เป็นแรงฝันบันดาลใจ
ให้เข้ามาขออาศัยชายคารักพักพิงใจ
ในร่มรักเรือนไทยแสนยาวนาน
จาก...พรระวีที่นานทีจะเมล์มาส่งข่าวคราวราวพี่น้องห่วงใยกัน
จาก..ไอดาโฮ่..ที่ขยันฟอร์เวิค์ดมาให้ประทับใจ
และจาก..ใครมากมายมากมี..
น้องเรนน้องน้อยผู้งามพร่าง
ดั่งหยาดน้ำค้างยามอรุณรุ่ง..
ผู้หญิงไร้เงา อัลมิตตรา
ทื๊กกี้..ฤกษ์ และยังมีอีกมากมีมายมาย
หลายดวงใจที่มิอาจจะนำมากล่าวได้ทั้งหมดทั้งสิ้น มาณ.ที่นี้
และที่พิเศษพิสุทธิ์..เป็นยิ่งนักในใจดวงนี้
ที่จะขอบันทึกด้วยดวงใจไหวละมุนซาบซึ้งถึง
สองดวงใจ...
หนึ่ง..
ลูกผู้ชายรูปงามนามสิริมงคล ชัยชนะ..
ที่เป็นยิ่งกว่ามิ่งมิตรแท้ในยามยาก
ได้บากหน้าร้องไห้ระบาย..หากหัวใจดายเดียววันไหน
และ..
อีกหนึ่ง..
ณราตรีนี้ที่ได้รับเกียรติ
ที่ทำให้จับปากกา
นำพาจิตวิญญาญอิสระรักรจนากลับมาอีกคราครั้ง
ด้วยคำแสนงามจนน้ำตาซึมซึ้ง
จากก้นบึ้งแห่งดวงใจผู้หญิงหัวใจธรรมดาๆคนนี้
จากน้ำคำหมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
ดั่งน้ำใจเพชรพรมพลังพราวพร่างส่องกระจ่างใจ..
ให้ไพลร้องไห้ด้วยขอบคุณที่เห็นค่า
เป็นเมล์..ใช้คำสวยนักสวยหนาเชิญมาว่า..
*เทียบกิตติมศักดิ์ ถึงไพล
เป็นเทียบเชิญเล็กๆ แต่เปี่ยมด้วยไมตรีครับ
หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก *
ให้ไพลนั้นไปเยี่ยมวิมานฝัน..สวรรค์นักรจนา
และคนดีทุกดวงใจ
ในโลกฝันอันไม่มีอะไรเที่ยงแท้แลแน่นอนนี้....
นาทีนี้ ราตรีนี้ไพลรู้เพียงว่า........
ไพลแสนซาบซึ้งใจ..กับน้ำใจมากล้น
ที่หลั่งรินรดมาให้ชุ่มฉ่ำใจ.....
ให้กำลังใจ.
เป็นดั่งน้ำใสรินรดมากคุณค่า..
มากความหมายทางใจ..
ในหัวใจในวันนี้ของไพลค่ะ....
เป็นแรงฝันบันดาลใจ....
ให้หัวใจไพลที่รักโลกการเขียน....
ให้ชีวิตที่ราโรยของใจดวงนี้มี...
ทางสายงาม....
ให้ก้าวเดินไปในโลกแห่งความรัก ....ความฝัน....
แต่จะงามงดอยู่ในใจของชีวิตไพลนี้
เป็นดั่งฝันแสนงามตราบชั่วนิจนิรันดร์.....
ขอบคุณ.............
บ้านคือวิมานของเรา...
ที่คุ้มฝน...คุ้มร้อน....คุ้มหนาว..คุ้มสุข...คุ้มทุกข์
คุ้มชีวิตไพล...ได้ตื่นมามองโลกชื่นใจ
แสนสุข...สวยใส...สดชื่น.....
ในทุกคืนวันแห่งชีวิตนี้.....
เป็นความสุขสงบงามง่ายสมถะมีความหวัง...
พลังใจใต้ร่มเงาไม้ให้รัก..เข้าใจ..อภัย.
ในบ้านของเราดั่งวิมานดินถวิลไพรตราบชั่วกาล..
ขอบคุณ...............
ธรรมชาติรายรอบทุกสรรพสิ่ง..แสนงาม...
*ผืนดิน....ที่เหยียบย่ำทุกที่
ทรายขาว หาดยาวเหยียด
ท้องทุ่ง ท้องนา ป่าเขาลำเนาไพร ..
ทุกเส้นทางงามสงบ.
ที่นำเส้นทางใจให้สงบงามตามกัน....
*น้ำ......ที่ได้ดื่มกิน หล่อเลี้ยงพืชพรรณ และชีวิต.
ลำธารสายงาม ....ทะเลกว้างไกลตา..จากตาปีถึง
เจ้าพระยาผืนงามทอดสายยาวราวลมหายใจไม่สิ้นสุด
19 กุมภาพันธ์ 2550 10:48 น.
พุด
ดวง..นอนดายเดียวบนเตียงโบราณ
กับราตรีแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้น
มนตราเสน่หา ในคลองใจยังคงไหลระริน
ราว..
สายใจเจ้าพระยา
แลฟ้าดินจักเป็นพยานแห่งรักนี้ที่พลีสิ้นแล้ว...
ในมโนนึกบทเพลง*หยาดเพชร*
กำลังขับขานในท่ามม่านฟ้างามรัตนโกสินทร์...
ให้แสนซึ้ง..สุขใจ...เสมอใด..เสมือน...
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html
หยาดเพชร
เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน...
แล..
ในอรุณ..อันยังคงหมุนวนมา
ให้มวลมนุษยชาติทั้งโลกหล้า
ที่มีดวงใจมืดดำเฝ้าห้ำหั่นทำร้ายกันราวสัตว์ร้ายสัตว์ป่า
ฆ่าแม้นกระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้า
และ...
ผู้คนผู้บริสุทธิ์ อย่างมิหยุดโหดเหี้ยม
ไร้สิ้นความยุติธรรม
เร่าร้อนราวฟอนไฟ...ทำลาย..เผาไหม้ทุกสรรพสิ่ง
แม้นกระทั่งโรงเรียนให้เด็กๆได้พากเพียรศึกษา
ทั้งๆที่แผ่นดินนี้ให้ความรักเมตตาให้ข้าวน้ำ
ให้สองขาได้หยัดยืนอย่างทรนง
นั่นเพราะหลงผิด
คิดตัดสินพิพากษากับคนที่ขัดแย้งกันทางความคิด
แค่หยิบมือเดียว..ใช่คนไททั้งแผ่นดิน..
ดวง..แสนสะเทือนใจ วิปโยคโศกใจ..
จนเกินจะกล่าวคำใด..ในภัย ไฟแห่งความพินาศบาดหมาง
ที่ย่างกราย หมายมาทำให้ไทมลาย..ไร้รักสามัคคี
ซึ่งดูราวโลกนี้ ที่กำลังหมุนรี่หมุนวน
หมุนให้ทุกข์ ทุกผู้คน
ชนทุกชาติ ต่างพากันวิปลาสและต่างพากัน
เดินไปพบจุดจบอันเดียวกัน..
นั่นคือ
ความสิ้นชาติ สิ้นโลก..
ทิ้ง..
โศกตรา...ให้หนาวเหน็บไปตราบชั่วกัลปาวสานต์..!!!!
................
16 กุมภาพันธ์ 2550 09:58 น.
พุด
เสมือนยืนเดียวดายปลายโลกร้าง
ในอ้างว้างตะวันลาท่ามทิวเขา
ในอ้อมกอดแห่งเหว่ว้ามานานเนา
ไม่มีเขาไม่มีใครในท่ามวัน
เพราะคือฝันอันว่างเปล่ามิรู้จบ
เพียงเศร้าทบโศกทวีที่เฝ้าฝัน
อยู่กับโลกเงียบงามชั่วกัปป์กัลป์
รอเพียงขวัญโบกมือลา..ฟ้าแลดิน
และ..
คงแสนซึ้งสุขนิรันดร์ขวัญรอพบ
รอจิตจบด้วยเกษมธรรมถวิล
ไม่ห่วงหาไม่หลงรอน้ำตาริน
หวังจักสิ้น..รอยทรงจำอันย้ำวน..อันช้ำวน..!!!
........................
http://www.xq28.net/s/viewtopic.php?t=8083&sid=4332a00ba021f88d8dd51818762e4218
ลาวม่านแก้ว '
ล่องลอยเอ๋ย จากพิมาน
ข้ามสีทันดร ตระการ
สู่แคว้นแดนไทย
เป็นจอมขวัญ
ปักใจพี่มั่น ตรึงหมาย
กี่ชาติกี่ภพ ไม่มีคลอนคลาย
รักเจ้าไม่หน่าย ไม่คลายจากกัน
แจ่มจันทร์ขวัญฟ้า ขอเทพเทวาเป็นพยาน
วันดีศรีสุข สองเราสมัครสมาน
พี่ขอรักนงคราญ จวบจนรักนั้น นิรันดร์กาลเอย
ดอกเอ๋ย..... เจ้าดอกจำปาลาว
ตัวพี่รักเจ้า เท่าท้องนภาเอย...
14 กุมภาพันธ์ 2550 08:36 น.
พุด
วันนี้..วันแห่งความรัก
ดวงตื่นมาทายทักโลกยามเช้าสีชมพูแสนหวาน
เกินจักจารรำพึงรำพัน
ม่านเมฆดูสลัวมัวหม่น
ตราบจน..สายอาทิตย์แห่งทิวาวัน
จรัสแสงอุทัย..มาประโลมฟ้า ประโลมหล้า...
นก..ยังคงขับขาน
ดวงดอกไม้ยังหวานเต็มราวเมืองราวไพร
หัวใจทุกผู้คน ยังคงเฝ้าดิ้นรนใฝ่หา
ความสุข..และ...ความรัก รัก รัก
ความภักดิ์พลี
ที่จักมาชุบชีวีให้มีพลังได้ขับเคลื่อนไปตามกระแสโลก
ที่แฝงโศกสุข มิหยุดหมุนสักนาที
โลกที่..เราทุกคนดี..
ควรน้อมใจพลีช่วยกันรักษ์..ไว้
ให้..ยังคงงดงาม..
ด้วยสายธารป่าเขาลำเนาไพร
แผ่นดิน..
ที่ยังควรทะนุถนอมให้อุดมไสว
ไปด้วยพันธุ์ไม้พืชผักเขียวชะอุ่ม
ดินที่จักยังคงชุ่มน้ำไปด้วยแร่ธาตุ
ให้ชาวนาคนยาก ได้หว่านกล้า
พาเรียวรวงระย้าสุกปลั่งเต็ม*ท้องทุ่งสุวรรณภูมิ*
ให้ลูกหลานไทได้อิ่มท้องไปทั้งผองแผ่นดิน..
ได้มีกิน มิอดหยาก
แล้ว..
ได้นำจิตอันงดงาม
มาพากเพียรพัฒนาพาพบพระพุทธศาสนา
สู่พระนิพพาน
ให้สมกับที่มีบุญวาสนา
ได้เกิดมาบนผืนดินทอง..
ราวได้ครองแดนขวัญสวรรค์สรวง
ดวง...
มองฟ้าเรื่อเรือง
แล้วส่งใจอันแสนเกษมไสวสว่างพร่างพราย
ราวสายแสงแรกแห่งอรุณอุ่นอุษา
ฝากฟ้า ฝากดิน
ให้โบยบินไปสู่ทุกแดนดิน ไกลแสนไกล
คนที่ดวงแสนรักแสนห่วงใยแสนจริงใจปรารถนาดี
ให้มีความสุขสวัสดี
มีฤดีธรรมฤดีทองคอยเคียงครองประดับใจ
และ
ดวงดอกไม้ใดไหนเล่าจะงามเท่า
ดวงดอกธรรม
ที่ดวงเพียร..ระรินร่ำพร่ำรจนา
มานับหลายร้อยเรื่องเรียง
เพียง..
เพื่อน้อมพลีมามอบให้
แด่....
ทุกคนดี ผู้เป็นที่รัก....
ให้ดอกไม้ธรรมระยับวะวาววับราวมณีเพชรพร้อยแพร้ว
ราว..ดวงแก้วผ่องพราย
ได้คอยหมายพิทักษ์ปกปักรักษาดวงจิต
สนิทเนาแนบ...ไปตราบชั่วนิจนิรันดร...นะดวงใจ..!!!!
ดอกไม้ธรรมดอกไม้ทองพลีด้วยรัก
วันแห่งภักดิ์วันแห่งงามนิยามขวัญ
ให้หอมหวานนานเนาตราบนิรันดร์
ประดับฝันประดับจิตสถิตทอ
หมาย..ดวงใจจักซึ้งถึงล้ำค่า
ภาวนาให้พบสุขขวัญเฝ้าขอ
ให้หัวใจพิไลพิลาสรู้ภักดิ์พอ
ให้ละออดั่งเพชรรุ้งจรุงใจ
และ..
คือของขวัญวันแห่งรักสลักจิต
คู่ชีวิตเคียงชีวีฤดีไสว
รักษ์รู้โลกโศกเศร้านะดวงใจ
หยาดน้ำใสสู่จิตพร่างมิร้างรา
ให้เมตตาธรรมเป็นดอกไม้แห่งความรัก
ซึ้งสลักฝากแทนค่าว่าห่วงหา
ฝากหยาดน้ำค้างกลางดวงใจแทนดวงตา
ฝากจันทรากระซิบพราย..ยังหมาย..รอ...!
.............................
ในนาม..แห่งความรัก..
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song200.html
(ในฝัน)
...................
นวลบุญ..
กำลังเอนกายลงนอนบนเตียงไม้ไผ่
ในกระท่อมพิมานสรวงแสนขวัญอย่างช้าช้า
ที่มีฟูกอัดนุ่น ปูผ้าสีขาวสะอาดสะอ้าน รอรับร่าง
มีหมอนสองใบที่ริมหมอนยังหอมกรุ่น
ด้วยดวงดอกลั่มทม ราวรับรู้ระทมระกำล้ำลึก
ภายในดวงใจดวงรานดวงหวานซ่อนซึ้งโศกดวงนี้
ที่กำลังดายเดียวสุดทน..แล้ว
เธอ..คนดี..
นอนนิ่งงัน..กับทุกสรรพสิ่ง
มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรนกไพร
ร้องหวานแว่วแผ่วมาราวรับรู้ซึ้งโศกสะเทือนแทน
ในท่ามแสงตะเกียงวูบไหว
กับชายมุ้งไหวระบัด
ที่เธอค่อยๆผูกเก็บชายขึ้นไว้อย่างเรียบร้อย
มีเพียงโต๊ะเล็กริมหน้าต่างกับลั่นทมดอกงามสะพรั่ง
กำลังบานพราวอวดดอกหวานเศร้า
ให้ยิ่งหนาวใจในทุกราวกิ่งราวใจให้ยิ่งเงียบงาม
น่าแปลกนัก
ที่ในราตรีเงียบงามนี้
ผู้หญิงที่เจ้าน้ำตาเหมือนเด็กขี้แย อ่อนแอ อ่อนหวาน
ด้วยนวลใจรับรานเศร้าดายเดียวได้ง่ายดายนัก
กลับ..สิ้นไร้น้ำตา...
เสมือนเคยมีคนกล่าวว่า..แสนจะน่าเป็นห่วง...
หากวันใดที่หัวใจดวงนวลละมุนสลาย!
คล้ายแม้นน้ำตาก็มิอาจหลั่งริน
นั่นคงหมายถึงความสูญสิ้นถวิลเทวษเหลือคณานับ..
เธอ..
เห็นบุหลันงาม...
ลอยดวงเด่นเหนือทิวเขาสลับซับช้อน
แห่งไพรพฤกษ์พงพนา
ที่ซ่อนตัวหลับลึกหลีกเร้น
จากความวายวุ่นของเมืองหลวง
ในท่ามกลาง*กระท่อมพิมานสรวงแสนขวัญ*
กระท่อมที่ก่อเกิดในพื้นพิภพนี้
ที่มีเพียงสองแห่งในหล้าโลก
ด้วย*นามแห่งความรักภักดี*ระหว่างเราสอง..
ด้วยน้ำพักน้ำแรงของ..
ยอดรักยอดหฤทัยของเธอ
*ภาคย์*
คือนามแห่งเทวดา
ผู้หอบรักแท้รักนี้รักพลีภักดิ์เดียว
มามอบให้แด่เธอ...
ผู้ฝังตัวปลีกร่างห่างไกลจากแสงสีศิวิไลซ์
ห่างไกลจากใจผู้คนในโลกวัตถุทุกข์ทนมากมายวายวุ่น
ราวอยู่ปลายโลกร้างลำพัง
อันแสนงามเงียบเรียบง่าย
ที่เธอและเขาพอใจที่จะเลือกมาใช้ชีวิตด้วยกัน..
เขาคนดี
สุภาพบุรุษชาติไพร
ที่มีหัวใจดวงธรรมดวงทองอันผ่องผุด
ที่บานพราวราวดอกบัวแก้วพิสุทธิ์
ลอยเหนือโลกย์นิรพาน
เขา....คนดี!
ที่สอนให้เธอได้เรียนรู้รัก
รับตระการดอกไม้หวานบานพราว
*ราวอัญมณีเพชร*
ที่พรายพร่างช่วงโชติชัชวาลย์
หวานแสนหวานงามแสนงาม
มาส่องกระจ่างนำเส้นทางใจเส้นทางจิตเส้นทางชีวิต
ให้เคียงคู่จับมือกุมกันไปในเส้นทางธรรมเส้นทางทอง
เพื่อลอยล่องพานาวาทองแห่งชีวิต
ไปสถิตทอด
*เป็นดั่งรักนิรันดร์*
ในอาณาจักรแห่งพระนิพพาน
แดนดินที่มิไกลห่างหากมีกุศลทานมากบารมี
เพียงเพียรให้พอ
ด้วยการรักษาศีลบริสุทธิ์ฝึกสมาธิภาวนา
จะเกิดดวงปัญญาฉายฉานชัด
แจ่มจำรัสราวนิรมิตจับจิตใสว่าง
จนพบวิมุตติหลุดพ้นทาง
แห่งการเวียนว่ายตายเกิดนับอสงไขยชั่วกาลกัปป์
เขาคนดี ...เทวดาแห่งภักดิ์พลี
ที่มาสอน..
ให้รู้ค่าคำ*รักด้วยจิต*
อันล้ำลึกเหนือโลกย์โศกสุขนี้
ที่มิหวังครอบครองแค่เนื้อหนัง
ที่มินานวันก็จะเน่าเปื่อยหลุดร่วง
เป็นหนึ่งเดียวกับธุลีหล้าฟ้าแลดิน
แลบางทีอาจสูญสิ้นสลาย
กลายร่างงามเป็นเหยื่อเต่าตมเสียก่อน
หากประมาทและพบกับการหลับไม่ฟื้นตื่นไม่ได้แล้ว
ฝึกคำตายก่อนตาย
การใช้ชีวิตไม่หลงยึดติดยึดมั่น
ให้มีมรณาณุสติกำกับใจกายมิให้ประมาท
และ...
เพียรวาดวงชีวี
ให้ใช้เวลาทุกนาที
กับลมหายใจนี้ที่พลีพร้อมยังประโยชน์
เพื่อผองชนคนทุกข์ทนยาก
อีกมากมายนัก
ที่เกิดมา
เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ให้รู้ซึ้งถึงค่าคำล้ำเลอเลิศ
*ปาฎิหารย์รักมหัศจรรย์รอ*
มาโบกโบยความงาม
แลมาสอนให้เชื่อมั่นศรัทธา
รู้ค่าแห่งความงามความดีพลีจิต
อุทิศชีวิตเพื่อแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง..
ที่เราผองได้พากันหยัดยืน..ในผืนดินอันงามอุดม
ทั้งด้านจิตวิญญาณและทรัพยากรธรรมชาติ
ราวฟ้าบันดาลสวรรค์เมตตา
นวลบุญ...
รัก..*กระท่อมพิมานสรวงแสนขวัญ*
ที่ราวสวรรค์เรียบง่ายลอยลงมาเยือนหล้า
บ้านป่าบ้านไพร
ที่มาสอนให้เข้าใจ
ถึงวิถีงามแห่งการพึ่งพาพึ่งพิง
ได้เอนอิงอ้อมจิตอ้อมใจไปกับธรรมชาติงาม
รู้รักความพอดีพอเพียง
ทุกสิ่งภายนอกในโลกนี้ก็เพียงแค่นี้แค่นั้น
หากจิตใสภายในรู้อิ่มทิพย์อิ่มฝันอิ่มสุขอิ่มงาม
ก็ราวอัญมณีพร่างพราว
ไร้ความต้องการมายาวัตถุใด
มาต่อเติมมาเพิ่มสุขเพียงภายนอกอีกต่อไป
ที่แค่หลอกให้หลงยึดมั่นถือมั่น
หลงฝันหลงเพ้อละเมอวนว่ายในวิบาก
เทวดา..เดินดิน...ที่เธอแสนรัก
สร้าง*กระท่อมทับแห่งรักนิรันดร์นี้*ด้วยน้ำพักน้ำแรง
ด้วยแรงรักภักดีที่เธอแสนภาคภูมิปิติ
ที่เขาบอกชั่วชีวิตนี้
เขามีเธอเท่านั้น
ที่จะจำตราติดตรึงไปตราบชีวิตจะหาไม่..
ที่ช่างแผกคิดพิเศษพิสุทธิ์นัก
กระท่อมไม้ไผ่หลังย่อม
มุงด้วยจาก ที่ภาคย์คนดีที่แสนรัก
เพียรเลือกใบจากแต่ละใบด้วยตัวเขาเอง
ก่อนที่ผู้เฒ่าในหมู่บ้าน ผู้แสนอารี
รับปาก เต็มใจทำหลังคาจากให้กับเขา
โดยไม่รับค่าตอบแทนแม้แต่บาทเดียว
ไม้ไผ่ที่เรียงรายขนาน
ไปกับสายน้ำที่หล่อเลี้ยงหมู่บ้านแห่งนี้
น้องชายคนดีหัวใจซื่อ
ที่เขาแสนถูกชะตา อาสาตัดให้เขา
และ
ลำเลียงมาส่งให้ถึงกระท่อม
โดยให้ญาติช่วยกันแบกไม้ไผ่มาส่งให้ถึงที่
นวลบุญ
รำลึกด้วยน้ำตา
วันที่...ภาคย์โอบกอดเธอไว้ในวงแขนอันแน่นหนัก
ด้วยรักภักดี
และกระซิบริมหูว่า
คนดีครับ...
ผมจะสร้าง
*กระท่อมรักนิรันดร์ที่นี่นะ
*ชื่อพิมานสรวงแสนขวัญ*
เพราะผมรู้ดีว่าคุณต้องชอบที่นี่
คนดีรู้ไหมที่นี่
มีแต่ผู้คนเอื้ออารีเอื้อเฟื้อแบ่งปัน
ระหว่างกันภายในหมู่บ้าน
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน
หากไม่ใช่สักแต่ว่าใช้
พวกเขายังช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟู
ดูแลเพื่อเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไป
ยอดรัก
มองที่โค้งฟ้าสิครับ งามนักงามหนา
ยามวสันต์ลา
ฟ้าใกล้ค่ำ
หรือ...
วันที่บุหลันลอยดวงอวดอรชรอ้อนสองเรานะดวงใจ
ที่เราจะประคองเคียงกันชี้ชม
บนเปลยวนหน้ากระท่อม
ที่ผมจะผูกไว้ให้เราสองได้เบียดซุกแอบอกอุ่น
อิงแก้มแลกหอมให้แก่กันและกัน
เป็นระยะยามคลอเคลียเฝ้ามอง
คนดี..ดวงใจ
ผมรู้นะครับ
คุณรักสถานที่สงบ สันโดษ เรียบง่าย
ซึ่งเต็มไปด้วยความงดงามแห่งวิถีธรรมชาติ
คนดี..ครับ
ฝันของยอดรักยอดดวงใจของผมกำลังจะเป็นจริง
คือสิ่งที่ผมพลีได้เพื่อคุณยกเว้นดาวเดือน
ผมจะสร้างกระท่อมนี้
ที่ไม่มีพื้น เป็นไม้
หากใช้ทรายละเอียดเป็นพื้น
ที่ผมจะหาบหามาเองจากแม่น้ำก่อนใส่
ด้วยตาข่ายสีน้ำเงินชนิดละเอียด
เพื่อให้ได้เม็ดทรายละเอียดที่สุดเท่านั้น
ก่อนโรยกรวดไว้เต็มพื้นกระท่อม
และ...
ผมจะบรรจงเรียงหินกรวดมนจากแม่น้ำ
ที่เช้าตรู่ทุกวัน
ผมจะไปเดินลุยลำธารน้ำใส
เพื่อคัดเลือกหินกรวดมนแต่ละก้อน
ด้วยหัวใจละเอียดอ่อน
ที่ผมจะวางเฉพาะจุดที่เป็นทางเท้าสำหรับ
เดินในกระท่อมเท่านั้นครับคนดี
นวลบุญ..
เศร้านัก..!
หากในวันนี้เธอรู้ดี
คืนวันแสนดีแสนรักระหว่างกัน
ที่ได้ผูกพันถักทอ
ด้วยรักด้วยเข้าใจก็เกินมากพอ
ที่จะตราจำหวาน
ให้เธอทบทวนด้วยความงามความภาคภูมิใจ
ในรักอันแสนยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยายนี้
ที่เธอแสนโชคดี...
ได้พบได้รักได้ภักดี
ได้มีคืนวันที่แสนดีแสนงาม
ยามเคียงข้างประคองได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
คืนวัน..
ที่มีแต่คำหวานคำรัก
เฝ้าคอยทนุถนอมห่วงใยกันและกัน
ปันแบ่งทั้งทางโลกทางธรรม
เพื่อน้อมนำชีวิต
ให้งดงามเตรียมผ่านภพภูมิรักนิรันดร์
มิพัก..
พรากจากแล้วจากเล่า
รักแล้วรักเล่า
เฝ้าแต่โหยหาคร่ำครวญ
ยามอีกฝ่ายจากไปไม่หวนคืนกลับมาอีก...
ยอดรัก
นวลบุญ..กำลังหลับตา
และในเวิ้งฝันอนันตกาล
นวลบุญ
พาร่างตัวเองไปเคียงกับคุณแล้ว
*ในดอกบัวแก้วนิรมิตแสนงามจิตงามใจ*
สองดวงใจคงมั่น*หลอมรวมรักภักดี*
แล้ว
ก้มศิระลงกรานกราบ
เบื้องหน้าพระพุทธองค์
ด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้งปิติเกษม
พร้อมกันแล้วนะบัดนี้
ก่อนที่จะหันมายิ้มหวานฉ่ำเย็น
ให้แก่กันและกันนะยอดรัก
*ในอ้อมภักดิ์แห่งรักนิรันดร์*
*ในนามแห่งรักนี้*
ที่จะไม่มีวันพรากลากันอีกต่อไป
ตราบนานแสนนาน
ตราบจนชั่วกาลกัปป์กัลป์...ที่มิมีวันจะสิ้นสลายลา...!
.......................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song200.html
ในฝัน
หากฝันว่าฉันและเธอ
ละเมอความรักร่วมกัน ทุกๆ วันแสน สุขฤทัย
หากความรักนั้นหนักเหลือ
แนบเนื้อเชื้อ รักดังไฟ ฉันขอตายบน ตักนาง
หากเราได้รักร่วมกัน
ผูกพันกระสันแน่นเหนียว
ขอรักเดียวไม่ จืดและจาง
หากเป็นดั่งเช่นที่หมาย
จะตายฉัน ไม่ขอห่าง
ขอรักนางเนื้อนวลแน่นอน
มอบ ใจ และกาย ทุกสิ่งมั่นหมาย
ถึงตัวตายไม่คลายรักก่อน
สู้ ทน อ้อนวอน ยอมฝันแม้ยามหลับนอน
ทนกอดหมอน นานมา
หากฝันฉันไม่หลอกหลอน
ตื่นนอนคงพบหน้าน้อง สมดังปองใจปรารถนา
หากเป็นดังเช่นที่หมาย
จะตายฉัน ไม่นำพา ขอบูชาน้องนางแน่นอน
หากฝันฉันไม่หลอกหลอน
ตื่นนอนคงพบหน้าน้อง สมดังปองใจ ปรารถนา
หากเป็นดังเช่นที่หมาย
จะตายฉัน ไม่นำพา ขอบูชาน้องนางแน่นอน...
12 กุมภาพันธ์ 2550 09:00 น.
พุด
ตะวันดวงโต สีส้มสุกจัดเท่ากระด้ง
กำลังลอยดวงช้าช้า
ลงมาทายทักท้องทุ่งนาสีเขียวไพล
ที่กำลัง..
ถูกอาบทาบทาด้วยพรายรัศมีสีทองผ่องอำไพ
สู่ข้าวกออ่อนใส
ที่ยามลมพัดระบัดโบกราวแพรไหมผืนพรมแสนงดงาม
ฟ้าสวย สวยเหลือเกิน
สีหวาน ส้มส้มอมชมพูชมพู
แล..
สักครู่ที่เฝ้าดูตะวันดวงเดิม
ก็พลันกลาย เป็น*ตะวันดวงชมพู*
ตะวันที่แปรสีเพียงชั่วครู่
ไปตามม่านเมฆหมอกหม่นสีเทาทึมที่ทอดทาบ
เสียงบทเพลงแห่งความรัก ภักดี
กำลังลอยละล่องท่องผ่าน
เข้าสู่กลางบึ้งใจ..บึงไพร บึงบัว
ในท่ามฟ้าสลัวโพล้เพล้
หากใจดวงดี ดวงงาม
ก็วาบหวามเกินให้คำนิยามใด
มาบันทึก
มณีนวล...มีความสุขในยามนี้กับผู้เป็นที่รัก
เธอเพิ่งไปไหว้พระที่วัดในโบสถ์คร่ำ*อยุธยา*
ด้วยใจดวงศรัทธาปสาทะเต็มเปี่ยม
โบสถ์ที่มีเพดานดาว
พราวสุกใสระยิบระยับราวอัจกลับแก้วอัญมณี
ในคืนค่ำที่ราตรี มีเดือนเพ็ญพูนดวง
ลอยเด่น...ประดับเหนือฟ้าราชธานี
เมืองเก่าของเราแต่ก่อน
ให้..
ใจอาวรณ์อาลัยได้ย้อนรอยถอยหลัง
ไปฟังเสียงบทเสภาหวนไห้ระร่ำริน
อย่างแสนสุดเทวษถวิล..โศกสะเทือน
ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง เผยแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแจงจ้าเจิดจันทร์ เพียงพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน สายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกออมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ
อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง
เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง
รินรสพระธรรมแสดง ค่ำเช้า
เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด
ยลยิ่งแสงแก้วเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์
โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น ไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลาน พระแผ้ว
หอไตรระฆังขาน ภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้ว ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์
เสร็จสารพระยศซ้อง สรรเสริญ
ไป่แจ่มใจจำเริญ ร่ำอ้าง
ตราตรอมตระโมจเหิน หวนสวาท
อกวะหวิวหวั่นร้าง รีบร้อนการณรงค์
แถลงปางบำราศห้อง โหยครวญ
เสนาะเสน่ห์กำศรวล สั่งแก้ว
โอบองค์ผอูนอวล ออกโอษฐ์ อรเอย
ยามหนึ่งฤาแคล้วแคล้ว คลาดคล้ายขวบปี
รอยบุญเราร่วมพร้อง พบกัน
บาปแบ่งสองทำทัน เท่าสร้าง
เพรงพรากสัตว์จำฝัน พลัดคู่ เขาฤา
บุญร่วมบาปจำร้าง นุชร้างเรียมไกล
จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก อรเอย
เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้
สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค ออกแม่
ภาคพี่ไปหนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม
โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ แลโลม โลกเอย
แม้ว่ามีกิ่งโพยม ยื่นหล้า
แขวนขวัญนุชชูโฉม แบกเมฆ ไว้แม่
กีดบ่มีกิ่งฟ้า ฝากน้องนางเดียว
โฉมควรจักฝากฟ้า ฤาดิน ดีฤา
เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า นะแม่
ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน
ฝากอุมาสมรแม่แล้ ลักษมี เล่านา
ทรามสวยมภูวจักรี เกลือกใกล้
เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง แล้วแม่
โฉมฝากใจแม่ได้ ยิ่งด้วยใครครอง
บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้ง เตียงสมร
เตียงช่วยเตือนนุชนอน แท่นน้อง
ฉุกโฉมแม่จักจร จากม่าน มาแฮ
ม่านอย่าเบิกบังห้อง หับให้คอยหน
สงสารเป็นห่วงให้ แหนขวัญ แม่ฮา
ขวัญแม่สมบูรณ์จันทร์ แจ่มหน้า
เกศีนีนิลพรร โณภาส
งามเงื่อนหางยูงฟ้า ฝากเจ้าจงดี
เรียมจากจักเนิ่นน้อง จงเนา นะแม่
ศรีสวัสดิ์เทอญเยาว์ อย่าอ้อน
อำนาจสัตย์สองเรา คืนร่วม กันแม่
การณรงค์ราชการร้อน เร่งแล้วเรียมลา
....................................
และ..
ท่าม...นวลตะวันลอยเรี่ยดวง
เหนือวัดชัยวัฒนารามท่ามทรากศิลา ปรักหักพัง
หยาดน้ำตาในดวงใจ..ของมณีนวล..
ก็ระรินหลั่งสังเวย ยามแหงนเงยเห็นพระพุทธรูป
ที่ไร้เศียร สิ้นแล้ว.... แววทองแห่งบรรพกาล..บรรพชน...
และ..
ได้เพียงก้มศิระกรานกราบอธิษฐานจิต
ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทวยเทพเทวานฤมิตทุกทิศา
ได้โปรดพิทักษ์ปกปักรักษา
*รัตนโกสินทร์ธานี *ในวันนี้ด้วยเทอญ
อย่าได้มีวัน..ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ให้แสนสุดโศก..วิปโยคใจ ไทยทุกดวงอีกเลย..!!!!!