19 มีนาคม 2550 09:43 น.

สิ้น..สร้อยสวาท..พันธนา..!

พุด

8230_b1_060516193311.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ 



ในโยงใยรัดร้อยสร้อยเสน่หา
กับป์กาลเวลารอคอยมิรู้จบ
กี่รอยช้ำกำศรวลมิถ้วนทบ
กี่ชาติภพที่ต้องพรากจำจากกัน

คือสัญญาแห่งอดีตกรีดรอยแผล
ดั่งดวงแดเดียวดายแค่หมายขวัญ
วิปโยคโศกสะเทือนเกินรำพัน
เหลือเพียงฝันลมลมตรมน้ำตา

อธิษฐานกรานกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จงนิรมิตคลาดแคล้วบ่วงเสน่หา
ให้เส้นทางภักดิ์ขนานตราบชั่วฟ้า

ทั้งชาตินี้ชาติหน้า...นิรันดร์...!

....................



ในสายแสงตะวันโพล้เพล้บนตึกสวยสูงตระหง่านง้ำ

ดวง..ทอดตาแลลงไปเบื้องล่าง...ละลิบ
เห็นชีวาชีวิตทุกข์ผู้คน ต่างดิ้นรนสับสน แสวงหา...

ทุกชีวีปรารถนาปัจจัยสี่แห่งการดำรงชีพชอบ

เหนือฟ้า...
มีดวงตาสวรรค์ เฝ้าดูทุกความฝัน ความหวัง
ด้วย...
ความเข้าใจด้วยความเมตตากรุณา

หากทว่า...
จะทำฉันท์ใดได้เล่า..
ที่...
จักดลบันดาล
ให้..
*ทุกปราณปรารถนา*..
ได้พบความสุขสม..รมณีย์..ถ้วนหน้า

นอกเสียจาก...
*บุญทำกรรมแต่ง..*

แล..
สวรรค์..มิได้แกล้งเมินเฉยดอกหนา..เจ้ายอดดวงใจ
คงมอบรางวัลยิ่งใหญ่...ให้..

หาก..
เจ้า..ได้ใช้ทุกลมหายใจ
เพื่อ..
เพียรทำความดี
พลีแด่แผ่นดิน
แล..
ผองชน..
รวมทั้งผู้เป็นที่รักภักดิ์พลีอย่างที่สุดแล้วนะเจ้าแก้วขวัญจอมใจ..!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ 

สายสร้อยร้อยใจสายใยสวาทหมาง......
ขาดหลุดสุดหนทาง....
รักจางตรอมตรมไม่หาย.....
โอ้ใจเอ๋ยไหนเลยมาหน่าย...
ฟ้าดินแม้สิ้นสลาย รักมิคลายรักสุดบูชา...
สายจิตร้อยทรวงใยลวงหลอกหลอน...
อกสั่นหวั่นร้าวรอน ยามกินยามนอนผวา.....
ภาพความหลังนั้นยังเตือนตา....
น้องคงมิปรารถนารักจึงลาระทมตรมใจ...
ที่แท้เจ้าไม่แลเหลียวมองมาเลย.....
อกเอ๋ยไปชื่นชมหลงคารมใคร....
พี่รักใช่หลอกลวงรักเต็มทรวงใน....
รักซ่อนซ้อนใจห่วงหรือไรทิ้งพี่ให้ตรม....
สายโซ่คล้องใจสายใยสวาทหมาย....
พี่อยู่ก็เหมือนตายมีกายไร้ใจชื่นชม...
สร้อยใจหายรักกลายเป็นลม....
เหลือรอยสายสร้อยขื่นขม...
ร้อยอารมณ์ระทมตรมทรวง....





				
18 มีนาคม 2550 11:02 น.

คือ..ดวงใจ..!

พุด

8189_b1_070101230414.jpg

แล้ว..
โลกเงียบงามนิยามว่าง
ก็กระจ่างแจ่มจิตสนิทขวัญ
ในท่ามคืนจันทร์เสี้ยวลอยเงียบงัน
ในท่ามฝันสลายลับรับร้าวราน

คือศักดิ์ศรีคุณธรรมนำชีวิต
คือลิขิตจากพรหมชะตาให้กล้าหาญ
ถอนน้ำผึ้งพิษเคยจารจิบมาช้านาน
สิ้นมนต์มารผลาญค่าคนจนสิ้นใจ

อาจจะเจ็บอาจจะปวดอาจรวดร้าว
อาจจะเศร้าอาจจะโศกเกินคำไหน
อาจจะหนาวดายเดียวสิ้นไร้ใคร
อาจจะเสียใจเสียขวัญ..รอ..วันลืม...!

..........


8274_b1_061226144348.jpg
เธอคือแก้วตาดวงใจใสพิสุทธิ์
เธอคือที่สุดแห่งรักภักดิ์ของขวัญ
เธอคือดวงดอกไม้บานหวานหอมเป็นนิรันดร์
เธอคือจันทร์อันสกาวลบหนาวใจ

เธอคือสายรุ้งแสนงามประดับฟ้า
เธอคือมวลผกาทั้งโลกบานไสว
เธอคือหยาดน้ำค้างกลางกลีบดอกไม้ใจ
เธอคือทะเลกว้างใหญ่แสนงามทุกยามยล

เธอคือไฟแห่งชีวิตเติมพลัง
เธอคือหวังงดงามยามสับสน
เธอคือสายลมแห่งชีวิตพร่างกมล
เธอคือคนแห่งศรัทธาฟ้าประทาน

เธอคือธารน้ำใสไหลเย็นในพฤกษ์ไพร
เธอคืองามดวงใจแสนกล้าหาญ
เธอคือยอดอัญมณีตราบชั่วกาล
เธอคือหวานดับแล้งไร้..ให้..เพียงรัก

เธอคือลมหายใจแห่งชีวิต
เธอคือลิขิตจากพรหมซึ้งสลัก
เธอคือใครใครคือเธอเล่ายอดรัก
หวัง..
เธอประจักษ์รักแท้นี้...ที่นิรันดร์...!!!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html
อันเป็นดวงใจ 

ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ
โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่
เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า
เหมือน ดังแสงสุริยา
สาดแสงส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน
เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง
เทิดทูนความรักสูงส่ง
ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน
หวัง ใจได้คู่เคียงกัน
ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท
เป็นทาสความรักเสมอ
อันเป็นดวงใจมานานแรมปี
เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ
ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ
จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง
ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา
ไม่เคยจะคิดเลยว่า สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง
เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง
มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง
ด้วยความสัตย์จริงเสมอ
แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ... 
 

8107_b1_061226154617.jpg				
17 มีนาคม 2550 22:44 น.

เกลียวคลื่น..กระซิบ..!

พุด

V261682.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 



พี่พุดครับ

ที่หนาวเหน็บเจ็บช้ำเกินรำพัน
คือคืนวันฝันสลายกลายเป็นตรม
รักเคยชื่นกลับกลายเป็นขื่นขม
เคยภิรมย์สมรักกลับพังภิณท์...

รำลึกถึงพี่สาวที่แสนรักครับ...

จากรอยหมึก...ทราบว่าพี่พุดกลับบ้าน

เป็นอย่างไรบ้างครับ 
กับการไปชาร์จแบตครั้งนี้ 
หาก..
ไม่เป็นการรบกวนพี่สาวที่แสนดี 
เล่าให้น้องชายที่ทุกข์ตรมคนนี้ฟังบ้างสิครับ

ผมรักมาลัยรักอักษราของพี่พุดครับ

................


น้องชายคนดีที่แสนน่ารัก

พี่พุดเพิ่งกลับจากพะงันค่ะ
และ..
เที่ยวนี้ดวงชีวีพี่พุดก็อิ่มเต็ม ค่ะ
มาตรแม้น..
ดวงจันทราที่นั่นยังไม่เต็มอิ่มพูนดวง
พาลอยล่วงพ้นผืนน้ำทะเล..ระยิบระยับ
ยามอาบด้วยพรายแสงจากสายธารน้ำผึ้งพระจันทร์ผ่องพรรณราย
เหนือฟากฟ้าทะเลฝัน
อันพร่างพราวด้วยมวลหมู่ดารารายดาระดาดแสนสุกใส
ดูใกล้แสนใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้เลยค่ะคนดี


พี่พุด..เดินริมชายหาด
ที่ลมพัดแรงราวแกล้งให้หนาวเนื้อ...หนาวนวลค่ะ
แล..
โลกของพี่พุดที่ชอบสวนกระแสโศกสุข..
ก็...
กลับแสนสงบเงียบงาม ในท่ามปาร์ตี้ริมหาด
ที่กำลังอึกทึกครึกโครม ด้วยความเมามันส์ 
น่ากลัวเสียจนขวัญจะหาย

หาก..
นี่คือธรรมดาชีวิต ธรรมดาชีวี
แห่งวัยวันของการเสาะแสวงหาความสุขของคนรุ่นใหม่
ที่มาจากต่างแดนแสนไกล*เมืองศิวิไลซ์วัตถุ* คนละทิศคนละทาง
บ้าง....
อาจจะกำลังค้นหาเส้นทางแห่งประสบการณ์เพื่อสร้างตัวตน
ตราบจนกว่าจะค้นพบว่า
*สุขใดเกินกว่าความสงบเป็นไม่มี*


พี่พุดปูเสื่อเหนือเนินทรายสวยแล้วก็ปล่อยร่างระทวย
นอนดูดาววะวาววับ แสนสุกใสสกาว
เห็นดาวพระรัตนตรัย แสนไสวเกษมเลยค่ะ

พร้อมนั่งทานข้าวฝีมือน้องสาวคนดีที่มีครัวเคียงทะเล
แกล้มเสียงเกลียวคลื่นซัดฝั่ง
ดังเป็นระลอกระลอก...
ค่อยๆทะยอยทอยทอดเคลียเเคล้า
เล้าโลมปลอบปลุกผืนทราย
หมายมั่นสัญญาจะไม่มีวันทิ้งทอด
และจะ..
โอบกอดอย่างสัตย์ซื่อถื่อมั่น..
ไปตราบ...
จนอนันต์นิรันดร์โลกมลาย....



พี่พุด..ได้ปีนเขาขึ้นไปสู่*วิมานลอย*
ที่ดินพี่พุดที่ลอยละลิบ
ให้แลลอดทอดทัศนาเห็นเวิ้งอ่าวสามด้าน
ปานวิมานเมืองแมนแม่นแล้วค่ะ
...............


และ..
พี่พุด...
ได้ไปนั่งนิ่งนิ่ง..เหนือที่ดินอีกที่ของพี่พุดค่ะ
ชื่อ*วิมานวนา*ในท่ามฟ้าโพล้เพล้

แล้วก็
ตกอยู่ในภวังค์ฝัน ฝัน ฝัน แสนหวาน
ไปกับดวงตะวันสีแดงแช๊ด
ที่กำลังอ้อยอิ่งอ้อนอำลาผืนน้ำทะเลตรงหน้า
ระหว่างเกาะแตนอกกับแตใน

ในท่ามมนต์ม่านเมฆวิเวกสงบหากแสนงดงาม
ด้วยรัศมีสีรุ้งแสนจรุงจรัสใจ
ณ..ลานศิลาวัดเขาถ้ำ
ที่มีต้นลั่นทมโผล่อยู่ในแง่งหินงาม บานสล้าง
ระร่ำรินมาชั่วนาตาปี
เป็นดอกไม้รักอมตะนิรันดร์
ที่เปรียบประดุจดั่งตำนานฝันพะงันงามมานานช้าแล้วค่ะ


พาให้หยาดน้ำตามาคลอครองเต็มนัยน์ตา
เมื่อโหยหาหวนไห้
รำลึกนึกถึงอดีตยามวัยเยาว์
ที่..
เคยพาร่างมานั่งเงียบเหงาอย่างเหว่ว้า
เพื่อรอท่าดูดวงตะวันลา 
ดูทะเลกว้างใหญ่จรดขอบฟ้าแลละลิบ เบื้องล่าง
อย่างอ้างว้างดายเดียว..เดียวดายเป็นที่สุด



และ..
กับฉากสุดท้าย ท้ายสุด
ที่..
พี่พุดนั่งมองฟองคลื่นสีขาว
แตกพรายกระจายไปรายรอบลำเรือ
ที่..
ค่อยๆพาร่างพี่พุด ให้พรายพลัดพรากจำจากลา
มาไกลบ้านอีกคราและอีกครา

และ..
คงนานเนา..
ตราบจนกว่า...คำอธิษฐานภาวนาจะเป็นจริง.!



กระท่อมไพรบนเนินผาท้าสรวงสวรรค์
มีทะเลฝันตรงหน้าให้คว้าไขว่
มีดาวสวยทรายขาวหาดยาวไกล
มีน้ำใจมีความรักมีดวงตะวัน....

ยามเช้านอนดูดวงดอกไม้มาทายทัก
หวังยอดรักคืนอ้อมใจในอ้อมฝัน
ลมทะเลเห่ครวญรำพึงรำพัน
ดุจสวรรค์บนดินถิ่นรักเรา

รอเรือหาปลาลำน้อยค่อยคืนฝั่ง
ฝากใจหวังพรานทะเลคงไม่เหงา
ใครบางคนเฝ้ารอมานานเนา
คืนว่างเปล่าเขากลับมาหาเสียที

ใจดายเดียวดูตะวันผันเรี่ยน้ำ
ฟ้าสีครามงามดั่งทองอาบแสงสี
จุดตะเกียงเขียนกลอนฝันมอบวันดี
กระท่อมไพรนี้มีใจภักดิ์เฝ้ารักรอ

แสงพริบพราวราวไฟในทะเลกว้าง
แสนอ้างว้างห่างแค่ไหนใจไม่ท้อ
กี่คืนฝันกี่วันปีที่รักรอ
กระท่อมซอมซ่อผุพังฝังร่างนี้ที่รอรัก ..รอพรานทะเล!


ท่ามกลางจันทร์ลอยดวง ดึกดื่นดายเดียว..
นะกระท่อมน้อยเชิงผา
ในราตรีหนึ่งที่ระดะดาวพราวพร่างสุกใสแสนใกล้

ราวกับจะเอื้อมคว้าไขว่มาประดับใจได้
พุดพัดชานั่งฟังเสียงคลื่นสะท้อนจากก้อนหินริมฝั่งทะเล
ราวกับเหว่ว้าเสียเต็มประดากับการรอคอย..พรานทะเล..ที่พรากไกล..
ก้อนหินได้ยินได้ฟังก็เพียงแค่รับฟัง ดั่งเพื่อนใจปลอบประโลม..
...................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 

เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ
มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย
แทรก ซึมไม่มีวันวาย
มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย
รสทรายรื่นรมย์
เสียง กระ ซิบ แผ่ว
ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา
เรารัก กันหนา มาหา มาชม
คลื่น คอยติดตามเกลียวลม
มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม
ภิรมย์เพียงฝั่ง
ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ
ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง
เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง
ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ
เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป
มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ
กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป
จะรัก กันไว้ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล... 
 
  



V263209.jpg				
16 มีนาคม 2550 17:33 น.

หลงทาง..!

พุด


ดั่งนกไพรหลงทางอ้างว้างสิ้นหวัง
เซซังซมซานผ่านพายุกล้า
เลือดใจไหลรินอ่อนล้า
ค้นหารังรักได้พักพิง

ขอพักรักษาชีวีชั่วคืน
หลับสักตื่นซอนซบซุกนิ่ง
ทิ้งร่างไร้กายบาดเจ็บกับโลกจริง
ลืมทุกข์สรรพสิ่งปรารถนายิ่งเพียงอุ่นไอ

ฝนกระหน่ำภายนอกม่านหมอกสลัว
เหน็บหนาวกลัวพายุร้ายหวั่นไหว
มากพรานจ้องปองหมายประหัตประหารใจ
นางนกไพรสิ้นแรงฝันสวรรค์ลา..

ปรารถนาแค่คืนค่ำไฟรักอุ่น
มือละมุนลูบไล้ลืมเหว่ว้า
คลายเหน็บหนาวร้าวระกำเรื่องผ่านมา
แล้วจักลา...
พร้อมเผชิญโลก..แม้นโศกรอ..มากโศกรอ.!!!

..............................


				
16 มีนาคม 2550 09:38 น.

ดั่งมณีดวง..โชติจำรัสรัศมีพราย..เจ้าสายใจ..ณ...กลางใจ..!

พุด

8186_b1_051109113702.jpg
นับวันรอยอดดวงใจคืนเรือนรัก
สู่อ้อมตักสู่อ้อมใจในอ้อมขวัญ
จากแดนฟ้าจรดทรายหมายพบกัน
จากอันดามันมิแรมร้างอ้างว้างรอ

สายเอยสายใจ
ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์อธิษฐานขอ
เพียงพร้อมหน้าสักหนึ่งวันก็สุขพอ
คือรักรอมานิรันดร์ถึงวันนี้

คือสายใยผูกร้อยดั่งสร้อยภักดิ์
คือสลักบุญกุศลชีพชนม์นี้
คือสายเลือดศรัทธางามนิยามดี
คือชีวีคือชีวันเจ้าขวัญดวง

นับวันรอ...สองดวงใจไกลครึ่งฟ้า
ในนิทราอิ่มสุขทุกข์ลาล่วง
โอ้ยอดดวงหฤทัยหนึ่งในทรวง
ดั่งมณีดวงโชติจำรัสรัศมีพรายเจ้าสายใจ...ณ..กลางใจ...!

......................................



8236_b1_060605164834.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
หนึ่งในร้อย..หนึ่งในทรวง

หนึ่งในทรวง!


ขอรจนาด้วยหยาดน้ำตาพลีณ..เบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธ
ณ..ลานวัดไชยวัฒนาราม..อยุธยา
ด้วยดวงใจเหว่ว้าไร้ใครเคียงใกล้เข้าใจ



เคยๆมั้ย....

ที่เธอเหน็บหนาวหนาวเหน็บในดวงใจเสียจนยากจะเอ่ยเผยใจ
บอกใครหรือแม้นอยากรำพึงรำพัน
นอกเสียจากนอนซุกร่างนิ่งงันนิ่งนิ่ง
อย่างอ้างว้างดายเดียวในดงหญ้า 
เฝ้ามองดูฟากฟ้าแสนสวยงามยามตะวันชิงพลบ
ยามสายัณห์ตะวันโพล้เพล้เพียงลำพัง
หรือนอนฟังบทเพลงแห่งวสันตฤดู 
ที่กำลังรินพร่างกลางกระท่อมดวงดอกไม้
ที่ไหนสักแห่งในหล้าโลก..ในโลกหล้า

ที่กำลังพร่างหยาดรินสายอย่างช้าช้า
กระทบหลังคาจาก
ฝากเสียงธรรมชาติพริ้งพราวเปาะแปะๆ
ให้ยิ่งหนาวใจ..จนสุดทน..แล้ว..!


เคยๆมั้ย....

ที่เธอแค่อยากหลบร่างห่างไกลผู้คน
ในวังวนวุ่นวาย ไปใช้ชีวิตอย่างเงียบงาม
ถีบจักรยานไปตามเส้นทางสายรวงข้าว
เฝ้าหยุดดูภู่ผึ้งบินว่อนร่อนถลา
ในบึงบัวหลากสีที่กำลังบานสะพรั่งพราว

หอมเร้าใจด้วยอวลแห่งเกสรไสว
ที่กำลังค่อยๆคลี่แย้มแก้มกลีบ
ให้ละอองทองผ่องพรายมากับสายลมในยามค่ำ
ที่นกไพรพากันร้องร่ำหาคู่
พากันโผผินบินกลับรังนอนอันแสนอบอุ่นพร้อมหน้า


เคยๆ...มั้ย

ที่เธอ..อยากเดินท่องไปในเส้นทางลูกรังสายเล็กๆ
ที่สองข้างคืองามแห่งทุ่งหญ้าไหวเอนระเนนล้อลม
ที่ราวกับเส้นทางทองทอทอดพาเธอให้ไปพลอดออเซาะ
กับละเมาะไม้..ใกล้ลำธารหวานระริน
คอยฟังเสียงระรินหลั่งของสายน้ำรักนิรันดร์

ที่กระซิกระริกรี่ไหลพร่างฝากเสียงที่ราวกำลังรำพันตัดพ้อ
 อ้อนเงื้อมผาโตรกธารฟัง ซู่ซ่า  เซาะไซร้ ซุกซิก ราวกระซิบคำรัก



เคยๆ....มั้ย

ที่เธอ..อยากไปนอนเงี่ยหูฟังเสียงสรรพสัตว์ระส่ำไพร
เสียงดนตรีธรรมชาติหวามไหว
ในเงื้อมเงาดวงตะวันสีแดง
แฝงให้หัวใจเธอแสนมีพลังหวังหวาน
ตระการด้วยความรักผืนหล้าผืนไพร 
ด้วยนวลใจที่แสนอบอุ่นกรุ่นด้วยความเข้าใจ


เคย..เคยมั้ย..!


ที่อยากเกิดมาเป็นผู้ให้
เป็นน้ำใจพร่างใสริน
ให้ผู้คนผองชนบนผืนโลกเดียวกันนี้
ที่มิได้มีดวงตาที่สาม 
งามดวงใจใครเล่ารู้ที่ช่อนชุกซึ้งสุขปิติอยู่ณ..ภายใน
เพราะมัวแต่ใฝ่หาเพียงปัจจัยสี่
เพียรเพียงหนีความยากไร้ ให้มีลมหายใจต่อไปวันๆ
ส่วนเธอนั้นแสนโชคดี 
ที่เกิดมากับดวงใจแผกพิเศษนี้
ที่ฟ้าดินสวรรค์เมตตาประทานมาให้
และ


เคย..เคยมั้ย..!

ที่เธอรู้คุณค่าของชีวิต 
รักความพอเพียงเพียงพอ
และราวกับรอเพียงพบฝั่งฝัน
รอพลีจิตนิรมิตราวบัวบานกลางบึงโลกเหนือโศกสุขทุกข์สิ้นทั้งปวง

มิหลงในบ่วงตมพันธนา 
มิหวังคว้าไขว่ในโลกวัตถุใด
อยากมีเพียงดวงจิตดวงใจดวงวาง ว่าง กระจ่างแจ้งดวงที่มิสิ้นแล้งไร้

หากอยากเพียงฝากไว้คือ ค่าแห่งความดี
พลีให้น้องพี่ทุกผู้
ที่คือพี่น้องร่วมโลกโศกชะตากรรมด้วยกัน
หวังพากันเพียรพบร่มแห่งยอดพระธรรมร่มพระรัตนตรัย
คืออัญมณีดวงใสดวงกระจ่าง
ดวงมากเมตตาอภัยแสนมีน้ำใจสวยใสแสนงาม
อันอยู่ภายในร่างใจเราเองใช่ใครใช่ไกล



เคยๆมั้ย....

ที่หัวใจดวงงามดวงดีดวงดิน
เพียงถวิลหวังแค่รจนางานงามใจงามธรรม
หวังระรินร่ำดับร้อนโลกรุนแรง
ให้เลิกพบเศร้า และได้พบพระพุทธศาสนา
ที่ดั่งคือดารารัศมีในกาแลคซี่
ที่แสนพร่างใสไสวสว่างฉ่ำเย็นเป็นอนันตกาล

ก่อนที่ร่างรานใจไร้จะฝากไว้
เป็นหนึ่งเดียวราวธุลีหล้า หาค่าอันใดมิได้
หากมิได้ทันไหวจิต
คิดเพียรพบพลังแห่งปิติเกษมบุญ
สร้างกุศลสมาธิรักษาศีลภาวนา
มิเบียดเบียนใคร 

นอกจากเฝ้าเพ่งเพียรสอนเพียงจิตใสในร่างใจของตัวเรา
ให้เลิกยึดมั่นถือมั่น
เลิกฝันเลิกหลงทางในทะเลโลกย์
ท่วมท่ามทุกข์ทนด้วยหยาดน้ำตา


เคยๆมั้ย...

ที่เธอ..เบื่อโลกโศกสิ้นเหลือใจแล้ว
อยากไปให้ไกลไกลแบบไม่พบพานผู้คน
ให้กมลได้อยู่กับความสงบเงียบงาม

ไปนั่งสวดมนต์ตรงหน้าพระพักตร์พระพุทธ
พิสุทธิปลั่งด้วยพร่างพราวรัศมีทองคำ
อันคือตัวแทนงามแห่งสัจจะธรรมล้ำค่าราวแสงธรรมธารทอง
ที่จะพาจิตเธอลอยล่องท่องสู่ฝั่งฝันอันคือนิรันดร์ว่างงาม

ราวสายธารธาราบุญกรุ่นหอมให้แสนพร่างใส 
ในน้ำพระทัยมากล้นพระเมตตาจากสายพระเนตร
ที่ทอดลงมาอย่างโอบเอื้อ ปลอบประโลม
ด้วย
ราวรับรู้ถึงจิตทิพย์และคำสวดมนต์อันแสนศักดิ์สิทธิ์
อันคือระรินร่ำอันฟังแล้วแสนไพเราะเสนาะโสตกว่า
เสียงจากคีตดนตรีกวีทิพย์บทใด 
ด้วยคือบทสวดจากนวลใจ
จากความถอดใจไม่ยินดียินร้าย
ฝากร่างไร้ใจราน
หวานโศกสุขทิ้งทุกข์ทุกอย่างวางไว้แทบเบื้องบาทจาริกา

หวังเกาะชายผ้าเหลืองเรืองรองผ่องผุด
เข้าสู่รอยธรรมรอยทางทอ
รอยแห่งวิมุติ
ที่จะพาหลุดพ้นจากวังวนแห่งบึงวิบาก

ให้ไปพบท่าทองลอยล่องไปสู่แดนดินแห่งงามว่าง
ไร้ร่าง
ไร้รักรัดร้อยใด
ไม่มี ไม่มี และไม่มีสุขไม่มีทุกข์
ไม่มีตัวไม่มีตนไม่มีเราไม่มีเขา
ไม่มีเหงา ไม่มีเสียใจ ไม่มี ไม่มีและไม่มี
นอกเสียจากความสงบงามสว่างสะอาดราวจิตใสดวงแก้ววิเศษ


เคยๆมั้ย..

ที่เธอร่ำไห้อย่างมิอายฟ้าดิน
เมื่อเธอนั่งนิ่งนิ่งลำพัง ณ..เบื้องหน้าองค์พระปฎิมา
ที่มีเพียงแสงฟ้าราวเรียวรุ้งสีทองผ่องพรายพร่างที่ช่างแสน
พรรณรายฉายทับทอด..ทอจับเงางามณ เบื้องหลังพระปฎษฎางค์
ในท่ามกลางความสลัวมัวหม่นจากมืดหมอกแห่งตะวันลาแห่งพายุร้ายชีวิต
ที่แค่พัดผ่านมาทดสอบ
ความหนักแน่นอดทนแห่งจิตใสใจดวงงามของเราเอง
ใช่ใครที่ไหนเลย


ที่ราวกับ
กำลังมาสอนบทเรียนชีวิต
มวลหมู่มนุษย์ในโลกหล้าที่ยามพบดายเดียว
เหว่ว้าจากคำพิพากษาใด 
หากใจยังคงมั่นมิหวั่นไหว
ราวตะวันในดวงใจยังสว่างใสพร่างพราว
ก็จะยังเฝ้าหมุนอยู่..
มิมีวันแตกดับลับลาหล้าไปกับกาลเวลา
ดั่งคือค่าคนอันเพียงเพียรเพาะบ่มงาม
สร้างความดีพลีเมตตาอภัยอันจักเป็นดั่งงามใจอมตะนิรันดร์........

.................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
หนึ่งในร้อย..


พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด