แด่มิ่งมิตร..แท้..สายน้ำรักนิรันดร์.. รังรักในจินตนาการที่หวานหอม หวังปลูกพะยอมดอมดมมิรู้สิ้น สานฝันงามนิยามดีแด่ผืนดิน กระแสสินธุ์เกษมบุญสว่างใจ คือรังรักในจินตนาการวิมานเมฆ หว่านมนต์เสกสวรรค์สรวงไสว เป็นรังรักให้นกพเนจรพักพิงใจ เป็นวิมานไพรลอยเหนือโลกโบกใบบุญ เป็นสายธารธาราปรารถนาดี เป็นอัญมณีเคียงคู่ขวัญตราบโลกหมุน เป็นไม้หอมกลางกรุงอันหอมกรุ่น เป็นละมุนกลางใจไทยทุกดวง รังรักในจินตนาการวิมานขวัญ หวังก่อฝันเกื้อสุขสู่แดนสรวง พลีน้ำใจใสงามให้จากบึงทรวง เพื่อผองปวงเพื่อนไทฝากใจอัญมณี รังรักในจินตนาการวิมานทอง เพียงหวังครองปองฝันตราบชีพนี้ รจนาธรรมนำทางสร้างงามพลี กตเวทิตาแด่ผืนหล้าพสุธาไท รังรักในจินตนาการ หวังดอกไม้แก้วตระการบานไสว จากบึงรักชูช่องามกระจ่างใจ เป็นธารใสดับโลกแล้งมายา รังรักในจินตนาการวิมานภักดิ์ ฝากอักษราทายทักดับเหว่ว้า ให้ดวงใจไททุกดวงอิสรา ใต้ร่มรัตนาพาสู่แดนฝันสวรรค์ นิพพาน..นิรันดร์....! วันที่ฟ้าสวยใสสว่างกระจ่างสงบ พาให้สองดวงใจไปพบ วิมานทอง ปองฝันอันแสนยิ่งใหญ่ในศิลปโลก เป็นวันแห่งการตัดสินใจ วันแห่งความปิติใจ วันมิ่งมงคลใจ ที่เจ้านกไพรพเนจร จะได้มีรังนอน อันแสนอบอุ่น เป็นสุขถาวรเสียที ได้เอนอิงพิงพัก ในอ้อมหัตถ์แห่งสวรรค์สรวง ได้นอนนับดาวเรียงดวงในเวิ้งฟ้า เพื่อสานฝันอันอนันต์เอนกค่าตามจิตนึก ยังได้รู้สึกล้ำลึกดื่มด่ำกับวิถีธรรมชาติ ได้ทอดตาวาดแลดูผืนนาทอง ละลิบ ที่ยังระยิบผ่องระย้าของข้าวกล้าสุกปลั่งพร้อมเกี่ยว รอเคียวคม ในครองตา..ไม่ไกล ยังเห็นทิวทิพย์เมฆไสว ลอยเลื่อนเกลื่อนนวลนภา ทุกเช้า สาย บ่ายเย็น มิเว้นในยามค่ำ ที่คงงามล้ำด้วยเดือนดารานับหมื่นนับพัน ให้ฝันไกล ไปในเวิ้งอนันตกาล และ.. หวังได้ดูดวงดอกไม้ไทยค่อยๆคลี่กลีบแย้มบาน ริมระเบียง ให้ได้ดอมดมพรมจูบด้วยรัก หวัง และหวัง ทุกธรรมชาติ ในรวงรังแห่งรัก จักได้น้อมนำ ให้มีพลังใจไฟฝันอันเกษมไสว มาเรียงร้อยเป็นสร้อยโซ่อักษราจากจิตภายใน ที่แสนเงียบงาม สมถะ รู้พอดี พอเพียง เพื่อพร้อมพลีฝากค่าไว้ ก่อนลมหายใจสุดท้าย..จะสิ้น..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song193.html รังรักในจินตนาการ ทูล ทองใจ พี่ฝันจะสร้าง รังรัก สักหนึ่งหลัง ณ ริมฝั่ง เจ้าพระยา อยู่อาศัย แม้ฝันของพี่ ไม่เกิดมี อันเป็นไป สองชีวี เราคงได้ ร่วมเสน่หา รังรักในจินตนาการ วิ มาน รักอันบรรเจิดจ้า ริม หน้าต่างปลูกซุ้มลัดดา ห้องนอนสีฟ้า ติดม่านชมพู ความ รัก เป็นมนต์ดลใจ ฝัน ไป พลังใจ ต่อสู้ คอย พี่หน่อยเถิดนะโฉมตรู มินาน จะรู้ รังรักอยู่แห่งใด รังรักริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา สุขตราฝังตรึงซึ้งอยู่ในใจ แม้ความฝันพี่เป็นจริงได้ พี่จะให้ชื่อว่า รังรักอนุสรณ์ ความ ฝันเป็นจริงวันใด หัวใจพี่จะบินว่อน คอย พี่ก่อนไม่ช้าบังอร แม้ใจไม่ร้อน แน่นอนเราได้สุขสันต์... รอสร้างเรือนไทยในฝัน วิมานดิน แห่งวิมานมนตราทวารวดี ลำดับต่อไปนะ สายน้ำรักนิรันดร์..
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song290.html รักเอย หอมพุดซ้อนหวานอวลในพรายฝน การะเวกบ่มรินร่ำมากับฟ้าหนาว หยาดน้ำค้างกลางใบบัวพลิกพริ้งพราว ดูกับราวหยาดเพชรร่วงสู่ปวงใบ ประดุจชีวีดั่งน้ำค้างรอระเหยหาย ยามสุริยาฉายแสงส่องไสว วูบมลายหายวับไร้รอยใด คือสัจจะใจธรรมดาฝันนิรันดร์กาล แลโลกก็ยังหมุนวนวัฏฏจักร มาทายทักทุกข์สุขเศร้าซึ้งหวาน มาบ่มเพาะเมล็ดฝันตราบชั่วกาล เป็นตำนานแผ่นดินตราบสิ้นใจ เลือกโลกไหนเล่าหนอจิตมนุษย์ ให้พิสุทธิ์ผ่องแผ้วดั่งแก้วใส โลกธรรมโลกทองโลกศิวิไลซ์ ขึ้นกับใจใครสร้างบุญ..เป็นทุนทาง.. โลกแห่งรักคือทุกข์ใช่ไหมเล่า แล้วไยเจ้ายังปองหม่นหมองหมาง กี่ภพชาติพิสวาทลวงหลงอ้างว้าง รู้ปล่อยวางทิ้งโลกมายาฝัน..นิรันดร......! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song290.html รักเอย ศรีไศล สุชาติวุฒิ รัก เอย จริงหรือที่ว่าหวาน หรือทรมานใจคน ความ รักร้อยเล่ห์ กล รักเอยลวงล่อใจคน หลอกจนตายใจ รัก นี่ มีสุขทุกข์เคล้าไป ใครหยั่งถึงเจ้าได้ คงไม่ช้ำ ฤดี รัก เอย รักที่ปรารถนา รักมาประดับชีวี หวั่น ในฤทัยเหลือที่ เกรงรักลวงฤดี รักแล้ว ขยี้ใจ หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ หื่อหื่อฮือฮือ ฮือฮื้อหื่อฮือฮื้อ ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้ กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ หื่อหื่อฮือฮือ ฮือฮื้อหื่อฮือฮื้อ ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้ กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ...
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3719.html นอนนิ่งนิ่งทิ้งทอดตาดูฟ้าเศร้า ฟ้าหลังฝนชุ่มพราวด้วยเมฆหม่น โลกสีเทาเงียบงามสอนกมล โลกของคนมีสุขทุกข์ธรรมดา ธรรมชาติสอนสัจจะใจอย่าไหวหวั่น กี่รานฝันกี่ร้าวใจกี่เหว่ว้า เปรียบเสมือนพายุฝนพัดผ่านมา แล้วก็ฟ้ากระจ่างสว่างวัน นั่นนกน้อยบินถลาเกาะกิ่งแก้ว ดอกพร่างแพร้วผลิพราวบานรับขวัญ โน่นพุดซ้อนอรชรอ้อนหวานมานานวัน แล้วก็นั่นลั่นทมฝันชูช่อพ้อพลีใจ ดอกไม้ใดไหนเล่างามเท่าดอกดวงใจมนุษย์ เพชรพิสุทธิ์ดั่งอัญมณีขวัญอันไสว กี่พันทุกข์รุกทรวงรู้ทำใจ กี่กิเลสใดไม่ไหม้หมองครองราน..นาน เพราะหัวใจดวงทองปองเพียงให้ ประดุจสายธาราระรินผ่าน ดับแล้งโลกโศกใจตราบชั่วกาล หวังนิพพาน ณ กลางใจ ไม่ท้อเลย...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3719.html เรือลำหนึ่ง หากชีวิต เปรียบดังทะเล ฉัน คงคล้าย เป็นเรือ ล่องไป ให้ลมพาพัดไป ไร้ ทิศทาง สุดขอบฟ้า กว้างใหญ่ ใคร รู้ บ้าง สุดท้ายหนทาง จะร้าย หรือดี มีความหวัง ฝั่ง อันแสนไกล เห็น เพียงแสงรำไร อ้างว้าง จะมีใครสักคน หรือ ไม่มี หากคืนไหน ไร้ ดาว เหงา ทุก ที ชีวิตก็อย่างนี้ อยากมี ความหมาย เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว ในใจมีแต่จุดหมาย คือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหน ต้องไป แม้ ว่าในหัวใจ ไม่มีใครเลย ฉัน ก็คงเป็นแค่เพียง ผงฝุ่นในสายลม ไม่มี ไม่มีความหมายใด ไม่ มี ใคร มรสุม พัด ผ่าน ทาน ไว้ ได้ ชีวิตวันต่อไป ไม่มีใคร รู้ เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว ในใจมีแต่จุดหมาย คือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหน ต้องไป แม้ ว่าในหัวใจ ไม่มีใครเลย เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว... เริ่มรุ่ง..รับงาม! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6189.html (บทเพลงพระราชนิพนธฺ*ใกล้รุ่ง*ค่ะ) http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6881.html (น้ำเซาะทราย ..คุณจำรัส เศวตาภรณ์) ..................... ถึงคนดี... มีคำถาม.. จากดวงใจใสสวยแสนงาม..แสนสดชื่น จากคนที่แสนดีแสนเก่ง.. ที่ยังมองโลกนี้เป็นสีชมพู.. ถามพุดพัดชามาว่า * สวัสดีพี่พุดครับ ทำไมงานมักจะออกมาแนวเศร้าๆเสมอหล่ะครับ ส.ธันวันตรี จาก : รหัสสมาชิก : 5338 - หมึกมรกต * และ.อีกหนึ่งค่ะ * หวัดดีจ๊ะ พุด สาวบ้านนา ผม ...... นะ อยากรู้จักหนะ เอ่อ พูดไม่เก่งอะนะ แนะนำตัวพุดให้ฟังหน่อยสิ เอ่อ แค่นี้ก่อนนะ บาย.. * เป็นคำถาม ที่พุดพัดชาไม่มีคำตอบค่ะ.. เพียงขอกระซิบบอก.. ในความเป็นพุดพัดชาและสาวบ้านนานั้น ทุกคำถาม มีคำตอบในงานที่ร่ายรจนาแล้ว หากรักและอยากรู้จักพุดพัดชาอย่างจริงแท้ ก็ให้ตามติด ตามคิด ตามอ่านหัวใจ จากงานงามรจนา ที่พยายามเพียรฝากธรรมชาติธรรมะธรรมดาคน ไว้อย่างให้มองโลกนี้ แบบมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาๆ *ที่ยังคงต้องมีรักในบางวันฝันในบางที และในที่สุดดวงชีวาชีวีก็ ปลงตกยอมรับชะตากรรมได้กับทุกเรื่องราว* และท้ายสุดสุดท้าย ที่ได้พยายามเพียรบอกคือ ให้ใช้ธรรมะปลุกปลอบใจ..น้อมนำใจ สู่เส้นทางสายใสสายงามสว่างสงบ.. พบสุขว่างทุกฤดี..ดวง และ น่าแปลกใจ เป็นมหัศจรรย์รัก มหัศจรรย์ใจ เชื่อไหมว่า อดีต.. มีเพียงผู้เดียว.. ที่ตั้งใจอ่านงาน แบบเก็บรายละเอียดมายาวนานนัก.. เป็นที่รักเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจ ที่รู้ใจรู้จักและอาจจะรักงานพุดพัดชา อย่างถึงแก่นก้นบึ้งถึงดวงใจ ประทับใจตราตรึงใจจำจด.. และแล้ว.. ที่นะวันนี้วันหนึ่ง.. เขาก็ถึง*อิ่มงามพบนิยามความเบื่อ* และ นี่ก็คือคนในโลกฝันโลกรจนา โลกมายาอีกด้านหนึ่งของชีวาชีวิต โลกนักอยากจะลิขิตเขียน.. เพียรฝันค้างอ้างว้างแสนว้าเหว่ใจ แสนเปลี่ยวดาย ที่หมุนมาสอนใจมนุษย์ ว่าเรามิอาจยึดมั่นถือมั่นอะไรได้เลย ไม่ว่าเขาไม่ว่าใคร แค่ผ่านมาฝากหวามหวังพลังใจ ให้มีทั้งรักทั้งชังทั้งหวานขมขื่น ทั้งรื่นอภิรมย์ใจ เพียงนั้น.... ก็เท่านั้นก็เท่านี้.. กับฤดีคนคนคนวนวนมิรู้จบให้พบเจอมิรู้สิ้น แค่มาฝากบทเรียนให้ไหวหวั่นฝันระทม ให้...เรียนรู้รัก..หักใจ..พักใจ รู้งามให้.รู้เมตตา..อภัย.. รู้ทันเท่าความเป็นไป และในที่สุด รู้ปล่อยวาง ..ว่าง... ไม่ว่าค่าคำใด.. สรรเสริญ เยิรยอ ด่าทอ หรือให้กำลังใจ แท้ไซร้คือลม..ลม....และลม ที่พุดพัดชา ไม่ตรม..ไม่เศร้านานเลยไม่ว่ากับสิ่งใด เหลือเพียงดวงใจ ที่พร่ำสวดมนต์ภาวนา ขอเมตตาขอพรพระ ให้ใจดวงร้าวที่เฝ้า หวังเพียรพยายาม ให้ค้นพบเส้นทางสายงาม ให้รู้วาง ว่าง มากขึ้นและมากขึ้น ในทุกขณะจิตแห่งชีวิตหนึ่งนี้ ที่มากมีมากมายเรื่องราว ผ่านเศร้าผ่านสุข เข้ามาคลุกเคล้าให้ชีวิตมีรสชาติ ที่ใจจริงแท้..นาทีนี้ พุดวาดหวังแค่ลืมทุกสิ่งทิ้งทุกอย่าง วางไว้ข้างนอกเหลือก็เพียง *บ้านภายในลั่นดาลรักตอกสลักตรึง* ขอแค่ดำรงซึ่งร่างใจ ทำหน้าที่ทั้งในโลกจริงและโลกฝัน ให้ดีที่สุด และหวังเพียงดวงชีวี หากจะมีเหลือ ไม่ขอมีรสชาติขอเพียงสะอาดสว่างสงบ.. พบว่างในบั้นปลายเพียงแค่นั้น ฝันเพียงแค่นี้ค่ะ และเป็นฝันพลี..สุดท้าย จากดวงใจพุดพัดชา. นักรจนาฝากไว้มากมายมากมี.. มาจนถึงนาทีนี้ ที่คิดว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ในโลกฝันมากขึ้นทุกที และทุกวัน ที่ไฟฝันราวริบหรี่ลางเลือน เหมือนใกล้จะมอดลงทุกทีแล้วละค่ะ ไม่รู้ว่านาที*อิ่มฝัน*นั้นจะผันมาถึงในวันใด ที่คงพรากจากไปแบบไม่จับปากกาอีกเลยแล้ว เหมือนกำลังค้นพบว่า หากจะยังคงเหลือแรงใจแรงรักรจจนา ก็แค่อยากใช้เวลาให้มีค่า ได้มีก่อเกิดงามฝันบันดาลใจ รจนางานที่พอมีค่าคืนกลับโลก เรียนรู้โศกลบทุกข์ ฝากให้ทุกดวงใจ พบสุขในความเย็นรื่นชื่นฉ่ำชื่นทรวง ดั่งธารน้ำใส.. มีดวงดอกไม้หวานหอมหลอมลอย ประดับรับขวัญงามให้ทุกดวงใจ ในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้ ที่ยิ่งอยู่ไปๆนานนาน ก็พานพบน้ำใจมิ่งมิตร ที่มิชิดกายหากใกล้ใจมากมายเลยค่ะ และ สำหรับวันนี้ ชีวิตพุดพัดชายังคงมีคงฝาก *เพลงบทเศร้ามิรู้จบ! * บทเพลงเศร้ามิรู้จบลบลาเลือนจากโลกนี้ ตราบชีวียังมีรักและมีฝัน บทเพลงเศร้ายังร้าวรอนอ้อนรำพัน บทเพลงฝันวันเดียวดายไร้คู่ใจ.. บทเพลงเศร้าสอนสุขทุกข์คลุกเคล้า นัยน์ตาเจ้ามีเงาใจไยหวั่นไหว ดวงจันทราหยาดหวานสักปานใด ม่านฝนในแววตาพาหม่นงาม.. บทเพลงเศร้าหลายดวงใจในโลกฝัน ราวคืนวันคู่กันไปจนไหวหวาม ทั้งมืดมนปนสุขสันต์ทุกโมงยาม ทั้งต้องหามดามใจไอซียู.. บทเพลงเศร้าเคล้ากลอนฝันคืนวันนี้ แด่คนดีในดวงใจไร้ใครคู่ มากล่อมขวัญว่าวันหวานยังมีอยู่ ให้รับรู้คู่โลกนี้มีตะวันมีจันทร์งาม..ให้ชื่นใจ..(ไทยโพเอมทุกทุกคน) ...................... และ ขอฝากเริ่มรุ่ง..อีกคราครั้ง มอบหวังให้กำลังใจพลังใจทุกดวง จากดวงใจพุดพัดชา.. ตราบที่ดวงใจรักรจนายังมิพรากลานะคะ .................. เริ่มรุ่ง! .... พุดพัดชา เริ่มรุ่ง..... ในราวเมือง.. ที่มิใช่..ราวป่าใหญ่ไพรกว้าง. ที่ฉันนี้ฝันใฝ่ อยากฝากกายใจไปเริ่มรุ่ง..ในราวพฤกษ์ไพรพนา.. เริ่มรุ่ง..... เช้าวันใหม่ ทุกดวงใจ ทุกผืนดิน ทุกถิ่นที่.. ต่างมีฝัน ต่างมีหวัง ต่างยังมีลมหายใจต่อดวงใจรักไปอีกวัน เริ่มรุ่ง.... ที่ยังมีเสียงนกร้องขันคู จู้จุ๊กกรู จู้จุ๊กกรูเพราะพริ้งพราว บรรเลงเพลงแห่งราวไพร. เพราะยังมีต้นไม้ใหญ่ ให้เกาะคอนขัน..ในบ้านของฉันเอง.. เริ่มรุ่ง..... ฟ้าหวาน ลมหนาว เย็นฉ่ำ เมฆอิ่มใส อาบไรแสง สายไหม ลมชื่น อวลหอมดอกไม้ บานเบิกชูช่อชัน ขันแข่งกันกับใบไม้เขียว ล้อลมไสว..รอหวานใจชื่นชม..ดมดอม เริ่มรุ่ง..... บ้านนี้ ที่ยังมีงามดวงใจใครจะรู้ ที่ทำให้ดวงใจใสชุ่มฉ่ำ ราวหยาดน้ำค้างหยดพราว มาให้ดอกไม้ฝัน..สดสว่างกลางใจ บานแย้มรับหวัง พลังใจ ไฟฝัน ในโลกหวัง โลกอนาคต ที่หมดจดแสนดี ..มิมีท้อแท้แพ้พ่าย... กับกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลง.. เริ่มรุ่ง..... ที่ยังมีฝันว่า สักวัน ใครบางคนที่พิเศษสุดในใจ ที่เราแสนภาคภูมิใจในคุณค่าความดี ที่มีรักแท้ หนักแน่นมั่นคงจะก้าวมาร่วมชายคา พาให้ใจเราทุกคนฝันแสนดีร่วมกัน วันเคียงหมอน มิจากลาเลยลับไปไกล ไปหนไหนอีกแล้ว... เริ่มรุ่ง..... ที่ยังมีกลิ่นดอกไม้หวานหอม จรุงใจลอยฟุ้งคละเคล้า มากับสายลมหนาว หวานอมเศร้าพราวกับหยาดน้ำค้าง ที่รอระเหยหาย..ยามอรุณร่ำลา.. พายามสายมาเยือนเยี่ยมแทน... เริ่มรุ่ง..... ที่มีเช้าแสนดี มีละอองหมอกเย็น แสนสบาย มาทายทัก ในบางวัน พร้อมกับความฝันความรักมากมี จากทุกดวงใจที่ใสงาม มากด้วยรัก..ด้วยจริงใจ ที่ยินดีมอบให้ไร้ร้องขอ... เริ่มรุ่ง..... กับใจดวงดี ที่รู้จักมองโลกให้เป็น แลเห็นงาม ไม่มืดบอด รู้รัก รู้ให้ รู้ห่วงใย เข้าใจอดทนต่อความเป็นไป ผันแปร ไม่แน่ไม่นอนของโลกที่หมุนวน ยอกย้อนลวงหลอนหลอกใจ ให้มากบทเรียน มากประสบการณ์สอนใจฝากจำจด.. เริ่มรุ่ง..... ที่รู้ค่าการมีชีวิต ที่ถูกลิขิตมาให้แสนโชคดี มีดวงตาดวงใจเห็นในธรรมชาติเงียบสงบงาม มีพลังใจว่าได้เกิดมาในแผ่นดินร่มเย็น ได้พบพระพุทธศาสนาที่ส่องสว่างนำเส้นทางใจ ให้แลเห็นในความว่างความพอดี พอดี.. เริ่มรุ่ง..... ในวันนี้..ขอทุกชีวี คิดแต่เรื่องดี ให้เรามีพลังสร้างฝันให้เป็นจริง พบทุกสิ่งที่หวัง และมีความสุข กับคนดี คนเดียวในดวงใจ.. ขอให้มีใครสักคนนอนเคียงข้างยามเริ่มรุ่ง.. ตราบวันนี้ ตราบชั่วชีวี และชั่วฟ้าดินสลาย..! ............................ .
จันทร์นวลสีทองกำลังฉายแสงผ่องพราว เหนือราวฟ้า หว่านสายแสงเสน่หาแสนหวาน ทายท้าให้ทุกดวงใจ.. ได้ปันแบ่งความคิดถึงลึกซึ้งยามห่างไกล เมื่อได้แล เหลียวเห็น ดวง..เปิดบทเพลง*ม่านไทรย้อย* ที่กำลังครวญคร่ำบรรเลงในนาทีนี้ ที่หยาดน้ำผึ้งแสนหวานแห่งดวงจันทรา กำลังพร่างพรมห่มหอมให้ไปทุกถิ่นที่ .. ในท่ามราตรี ที่ฟ้าไทแสนทุกข์เทวษ ด้วย.. เหตุแห่งความไร้รักสมานสามัคคี http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3700.html ม่านไทรย้อย ลืม ลืมหมดแล้วหรือไร แม้จันทร์ ที่เคยเป็นใจ หลบบัง ร่มไทรย้อยกิ่ง กระซิบรำพัน แฝงจันทร์ เคยแอบเอนอิง หนาวลม แนบอกเธอผิง สุขซึ้งใจจริง หาใดปาน ลืม ลืมหมดแล้วน้ำคำ ซึ้งจำ ติดรอยใจพิมพ์ เคยชิม ว่าเป็นน้ำตาล ยังหวานตรึงใจ รสใด จะเปรียบประมาณ แท้จริง ลมปากเธอหวาน หลอกฉันมานาน ร้อยหมื่นอย่าง กิ่งไทร ย้อยร้อยรักไว้ ลมไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง แอบออดชู้ ชูกิ่งพลาง ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดัง ม่านทอง ลืม ลืมหมดแล้วสายลม แม้ไทรที่เคยชื่นชม รื่นรมย์ แทนเรือนหอห้อง ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็น แดนสุขเคียงครอง เย้ายวน กันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา กิ่งไทร ย้อยร้อยรักไว้ ลมไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง แอบออดชู้ ชูกิ่งพลาง ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดัง ม่านทอง ลืม ลืมหมดแล้วสายลม แม้ไทรที่เคยชื่นชม รื่นรมย์ แทนเรือนหอห้อง ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็น แดนสุขเคียงครอง เย้ายวน กันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา... ดวง...แลลอดผ่านเรียวใบจำปี ริมหน้าต่างกระจกบานกว้าง เห็นมวลเมฆอ้างว้างลอยวนไปกับมนต์จันทร์ ให้ฝันฝากใจ.... แล้ว...ไฉน..ไยเล่า .. ในค่ำคืนนี้.... ที่ทั้งน้ำตาดวงน้ำตาดาว จึงต่าง...พราวพร่าง..พลี.. ฝากโศกสะเทือน..แด่โลกพร้อมกัน...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น ได้ยินไหมเสียงหัวใจเราสองกระซิบ ดั่งดนตรีทิพย์คนธรรพ์สวรรค์สรวง ว่ารักแท้นิรันดร์เจ้าขวัญดวง มิมาลวงหลอนหลอกช้ำชอกใจ ในอ้อมกอดหอมกรุ่นสัญญามั่น มีกันและกันตราบกาลนานแค่ไหน ปาฏิหารย์ฟ้าเมตตานะดวงใจ อย่าหวั่นไหวในรอยอดีตกรีดใจจำ หยุดหนาวน้ำตาดั่งนางฟ้าร้องไห้ หยุดวนว่ายระทมระรินร่ำ หยุดซ้ำวนบนวิบากรักระกำ หยุดใจย้ำคำว่ากลัวเสียทีหนีให้ไกล อยู่กับมหัศจรรย์รักนี้ที่แสนงาม กับปัจจุบันนิยามสัจจจากใจใส พลีรักแท้ให้สิ้นแล้วแม่ยอดดวงหฤทัย เราสองไม่พรากจากกันตราบวันสิ้นลม....! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3517.html เสียงกระซิบ ธงไชย แมคอินไตย์ เมื่อเราสบตา เหมือนว่าจะรู้ ทั้งที่มองอยู่ แต่ก็ดูเหมือนยังไกล ช่วยกระเถิบมา เข้ามาฝากใจ ซบลงตรงไหล่ แอบอุ่นใน ของกายกัน ลมหายใจ อุ่นๆ ไอละมุนจากเธอ ใจฉันคงละเมอ ไปแสนไกล คำรักเพียงแผ่วๆ ฟังแล้วยอม หมดใจ ลืมฟ้าดินใดๆ ไปทั้งวัน เอ่ยคำ รักกัน เมื่อเรานั้นได้อยู่เคียง มีแต่เสียงกระซิบ กระซิบ มาจากหัวใจ ฝังรอยอุ่นไอ ให้เราจดจำ แสนจะชุ่มช่ำ เอ่ยแต่คำ ที่จริงใจ ขอจงพูดจา สัญญาออกไป ซบลงตรงไหล่ ติดตรึงใจ มิลืมเลือน ลมหายใจ อุ่นๆ ไอละมุน จากเธอ ใจฉันคงละเมอ ไปแสนไกล คำรักเพียง แผ่วๆ ฟังแล้วยอม หมดใจ ลืมฟ้าดินใดๆ ไปทั้งวัน เอ่ยคำ รักกัน เมื่อเรานั้นได้อยู่เคียง มีแต่เสียง กระซิบ กระซิบ มาจากหัวใจ ลมหายใจ อุ่นๆ ไอละมุน จากเธอ ใจฉันคงละเมอ ไปแสนไกล คำรักเพียง แผ่วๆ ฟังแล้วยอม หมดใจ ลืมฟ้าดินใดๆ ไปทั้งวัน เอ่ยคำ รักกัน เมื่อเรานั้นได้อยู่เคียง มีแต่เสียง กระซิบ กระซิบ มาจากหัวใจ ช่วยกระเถิบมา เข้ามาฝากใจ ซบลงตรงไหล่ แอบอุ่นใน ของกายกัน ฝังรอยอุ่นไอ ให้เราจดจำ แสนจะชุ่มช่ำ เอ่ยแต่คำ ที่จริงใจ... ................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย แทรก ซึมไม่มีวันวาย มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย รสทรายรื่นรมย์ เสียง กระ ซิบ แผ่ว ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา เรารัก กันหนา มาหา มาชม คลื่น คอยติดตามเกลียวลม มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม ภิรมย์เพียงฝั่ง ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป จะรัก กันไว้ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล...