7 พฤษภาคม 2552 13:02 น.

หลับตาลงตรงนี้..แล้วที่รัก..ในอ้อมตักในอ้อมใจในเรือนขวัญ...!

พุด

หลับตาลงตรงนี้..แล้วที่รัก..ในอ้อมตักในอ้อมใจในเรือนขวัญ...!


หลับตาลงตรงนี้แล้วที่รัก
ในอ้อมตักในอ้อมใจในเรือนขวัญ
ในนิมิตเราแหวกว่ายสายธารจันทร์
น้ำผึ้งฝันวันหวานชื่นคืนมีกัน

ทะเลดาวพราวพรายแลชัดโชติ
สว่างโรจน์เรืองรุ้งทุ่งสวรรค์
ทางช้างเผือกเลือกเคียงข้างเป็นนิรันดร์
จูงมือกันสู่แดนธรรมทิพย์

ณ ที่เงียบงามสว่างสงบ
เพื่อค้นพบน้ำอมฤตมาจารจิบ
สุดตานัยน์ไกลโพ้นแลละลิบ
แพรวระยิบบัวบุณย์ระยับตา

แดนตระการหวานหอมดอกปาริชาติ
ในเวิ้งวาดอนันตกาลมณีค่า
ดั่งกามนิตวาสิฏฐีรอเวลา
เพื่อพบพาสู่นิพพานตราบกาลกัลป์

หลับตาตรงนี้แล้วที่รัก
จิตเพียงภักดิ์พระพุทธหยุดโลกฝัน
มายาใดไหนเล่าเป็นนิรันดร์
เพียงหมายมั่นพ้นวัฏฏอย่าว่ายวน!




ฝากถึงทุกดวงใจ
ให้ไปอ่านเวบนี้นะคะ

http://www.khonnaruk.com/html/book/liturature/kamanita/kamanita-index.html

เป็นเวบที่จะทำให้เราค้นพบความงดงาม
ทางจิตวิญญาณ อย่างหาที่ใดเสมอเสมือนมิได้
ค่อยๆเสพสุนทรีย์อักษราภาษาที่แสนยอดเยี่ยม
จากท่านเสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป 
ปราชญ์แห่งวงวรรณกรรมแผ่นดินทอง
ที่จะทำให้เราทั้งผองพุทธศาสนิกชน
ค้นพบความงามมลังเมลือง
เรืองรองยิ่งกว่าเพชรพรายพร่างพราว
ในสายใจเราทีเดียวค่ะ

พุดพัดชาจัดรายการวิทยุ
และ..
นำเรื่องนี้อ่านออกอากาศ
พร้อมบทกวีธรรม
บทกวีธรรมชาติ
น่าเสียดายที่จำต้องหยุดไว้
เนื่องจากเหตุจำเป็น

หวังสักวันจะได้กลับไปทำรายการ
ด้วยดวงใจอันผ่องใสงดงาม
อีกสักคราครั้ง..
เป็นธรรมทานอันคือศรัทธายิ่งใหญ่
เหนือใดปานในดวงใจ
แม่ดวงดอกพุดไพร
อัญมณีไพรแห่งผืนดินธรรม
ผืนดินทอง ของเรานี้นะคะ

ด้วยรักยิ่ง....

				
6 พฤษภาคม 2552 01:32 น.

The Other Side of Twilight

พุด


ดวงใจอย่าหวั่นไหวเศร้าหมอง
เพียงเฝ้ามองโลกนี้อย่างที่เห็น
เข้าใจในธรรมดาชีวิตเป็น
อยู่ให้เย็นรักให้งามนิยามชีวี

แท้แล้วอะไรไหนเที่ยง
ใครอาจเลี่ยงหลบหลีกลี้
ยามถึงวันพรากจากนะคนดี
ย่อมต้องมีสักวันทั้งฉันเธอ

เก็บเกี่ยวกอบกำธรรมทิพย์
อมฤตสวรรค์สรวงสนองเสนอ
ลืมฝันมายาพาเพ้อ
ละเมอเวียนว่ายหมายใด

ลืมเรื่องราวเศร้าสร้อยให้สิ้นซาก
วนวิบากมากมายสักแค่ไหน
ดั่งพายุกรรมพัดผ่านให้พ้นไป
ประคองใจให้ใสว่างสว่างพราย...!

				
5 พฤษภาคม 2552 11:59 น.

หยาดเพชรชมพูเบิกฟ้า..ไทยทั้งหล้าถวายพระพร

พุด

หยาดเพชรชมพูเบิกฟ้าไทยทั้งหล้า..หลอมรวมใจ..ถวายพระพรชัยมงคล

ดิถีมงคลฉัตรเฉลิมฉลองสมัย
มิ่งหฤทัยนิรันดร์ขวัญหล้า
หลอมรวมดวงใจปวงประชา
น้ำค้างฟ้าเมตตาแด่ผองชน

ลบแล้งไร้หมายฝากจริยวัตร
ใต้ร่มฉัตรหยาดเย็นเช่นสายฝน
รินงามให้หมายสอนสัจจกมล
พสุธาชนบนแผ่นดินนี้ยังมีรัก....

กี่กาลสมัยพระเสโทราวหยาดเพชร
ธ เสด็จสู่ป่าเขาแม้นเหนื่อยหนัก
ทุ่มเทพระวรกายมาเนานัก
พระภูมิภักดิ์พลังแห่งแผ่นดิน

กรานศิระกราบเบื้องบาทมหาบพิตร
เทพนิมิตดลสุขดั่งถวิล
พรจากเทพยดาทั้งองค์อินทร์
เป็นสายรินชื่นรัฐฉัตรมงคล...

................................
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม 
ข้าพระพุทธเจ้า
พุด พัดชา เขียนถวาย เนื่องในมหามงคลวโรกาส 
วันฉัตรมงคล ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ 
พระพุทธเจ้าข้า

(๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒)



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html

น้ำพระทัยสู่รวงข้าวราวรวงเพชร

เพชรคือ อัญมณี ที่ทุกคนยอมรับว่า 
เป็นสิ่งงดงาม 
ที่ธรรมชาติ ได้หยิบยื่น ให้แก่มนุษยชาติ 
เพื่อนำมาใช้เป็นสื่อแทน 
สิ่งที่มากค่า สูงส่ง งามเลิศล้ำ มากความหมาย
 ในทุกสรรพสิ่ง บนผืนโลกนี้ 

เหตุด้วยเพชรเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง
ที่มีคุณสมบัติมากล้น....... 
เพชรมีความแข็งแกร่ง 
มีน้ำงาม มีเหลี่ยมมุม 
ที่เมื่อมนุษย์ ได้ใช้ใจที่สูงด้วยอารมณ์สุนทรีย์ 
มีศิลป นำมาเจียรนัย 
ให้สัมผัสแลเห็นงาม
 เกิดประกายวาววับ เจิดจรัส บาดจิต บาดใจ 
งามจนน่าไหลหลง ยามเมื่อต้องแสงสวย........ 

และที่สำคัญ มีกรรมวิธีสลับซับซ้อน
 ยากลำบากกว่าจะได้มา
 ดังคำว่าเพชรในตม ที่กว่าจะขุดพบ 
และเลือกคัดสรร จนสามารถนำมาเจียรนัย 
และแปรรูปเป็นอัญมณีนั้น 
เป็นขั้นตอนที่ยิ่งเพิ่มความมากค่าของ หิน
 ที่เรียกกันใหม่ว่า เพชร ให้มากยิ่งขึ้น......... 

มนุษย์.....คือผู้กำหนด ในบางสิ่งบนผืนโลกนี้ 
ยกเว้นธรรมชาติยามพิโรธที่เรายังมิอาจหยุดยั้งได้ 
แต่ไม่ว่าค่านับของเงิน ทอง
 หรือสิ่งใดๆ เกิดจากน้ำมือ...น้ำใจ 
ด้วยมันสมองอันเลอเลิศของมนุษย์
 ทั้งสิ้นทั้งนั้น มิใช่ดอกหรือ....... 

เพชร....จึงถูกนำมา
เพื่อใช้เป็นสิ่งแทนค่า แลกเปลี่ยน 
และเป็นดังเช่นสัญญลักษณ์ของความสูงส่ง 
ในทุกๆด้าน ของชีวิตมนุษย์เฉกเช่นกัน....... 
นอกจากสัญญลักษณ์ที่เห็นได้ด้วยตา 
และจับต้องได้
 หลังจากนำมาประดิษฐ์ประดอย
เป็นเครื่องประดับงามบนร่างของมนุษย์นี้แล้ว 
เรายังได้นำเพชรมาเปรียบกับ...
คุณงาม ความดี ความยิ่งใหญ่ 
เกียรติยศ ความสำเร็จ 
และความภาคภูมิใจของชีวิตคนบนผืนโลกนี้ 
มิใช่เพียงเฉพาะที่ซื้อหามาได้ด้วยเงินเพียงนั้น....
เพราะเพชรในที่นี้ เปรียบประดุจดังความดีมีค่า 
ที่เงินก็ไม่สามารถ นำมาซื้อ ขาย
 หรือแลกเปลี่ยนให้ได้มา...
ถ้าจะเปรียบ....
ความสูงส่ง...ยิ่งใหญ่ของเพชรล้ำค่า 
ต่อ ผู้คนที่ล้ำเลิศ คงได้ดังนี้....

เพชร........ของโลก คือระดับผู้นำของประเทศ 
ที่กุมบังเหียน บริหารบ้านเมือง ลิขิตโชคชะตาผู้คนได้ 
และ
จะเป็นเพชรแท้ หรือเพชรเทียม 
หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณของผู้นำนั้นเอง..

เพชร.....
ที่ประดับโลก ประดับไทย
 ประดับใจของคนไทยเราทุกดวง 
คือองค์พระประมุขของชาติ 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ....
ผู้เป็นยิ่งกว่าเพชรแท้มากมีมารวมกัน....
ก่อเกิดเป็นพลังแผ่นดิน 
รวมดวงใจไทยทุกดวงให้ หลอมเป็นดวงเดียวกัน 
ด้วยน้ำพระทัย ใสเย็น 
ดังหยาดเพชรที่หยดหยาด 
ให้พสกนิกรด้วยรัก..เมตตา เสมอมายาวนาน.มิรู้สิ้น 

เพชร......
ที่แท้จริงอีกอย่าง คือแก่นธรรมมะ 
แก่นแท้ของศาสนา
 แม้คนในโลกนี้มีเพชรงามหลาย 
รูปแบบ หลายศาสนา 
เราคนไทยมีพระพุทธศาสนา 
ที่เปรียบประดุจดังเพชรเม็ดงามเรืองรุจี...
ที่เราทุกคนโชคดีนักที่มีโอกาสเกิดมาพานพบ 
และ
เลือกมา...ประดับใจของเรา...ให้มีคุณค่า 
มากล้นด้วยคุณงามความดี
 ด้วยน้ำใจที่ใสสะอาดราวเพชรงามน้ำดี เ
พื่อส่องสว่างนำทางให้
 จิตวิญญาณ สงบงาม..
และยังประโยชน์ 
เพื่อนำ..เส้นทางใจ
ให้แก่ผู้ที่ยังทุกข์ทน มืดบอด หาแสงสว่าง 
ไม่พบเจอ....

เพชร.......ของมนุษย์เรา 
นอกจากประดับที่ร่างกายแล้ว 
ทุกคนจะมีเพชรส่องประกาย...ภายในใจ 
ให้งามงดเฉพาะรูปเฉพาะนาม ต
ามทางแห่งการระลึกรู้ 
ด้วยความเพียรและกุศลผลบุญที่ได้สร้างสม 
บ่มเพาะ แตกต่างกันไป 
แล้วแต่ใจใครจะไขว่คว้า....

เพชร...
ของพระราชินีทุกๆองค์
 คือมงกุฏเพชร 
ดังเช่นมงกุฏงามของพระราชินีเอลิซาเบธ...
ที่คงมากล้นค่าแห่งเกียรติยศ 
ในดินแดนที่เคยกล่าวว่าพระอาทิตย์ไม่เคยตก.......... 

มงกุฏงามที่..สวมใส่ประดับ
ให้แก่หญิงงามพร้อมยอมรับ 
จากผู้คน ที่เราเรียกว่านางงามต่างๆ....

เพชรของชีวิต......
คือความสำเร็จ ในทางที่ถูกที่ดีงาม
ในหน้าที่การงาน ต่อครอบครัว 
และต่อสังคมส่วนรวม....... 

เพชรของคนตาบอด.....
คือความหวังเรืองรอง
ที่ต้องการมีดวงตาสว่างไสว
 มองเห็นโลกนี้ที่สวยงามสดชื่น มีสีสรร 
ราวดวงตาสวรรค์ที่ฟ้าประทาน
ให้ทุกผู้ที่โชคดี..มีวาสนา สัมผัสเห็นงามตามใจนึก.... 

เพชรในใจแม่..พ่อ..ผู้ก่อกำเนิด..
คือลูกรัก...ปานดวงใจ......... 

เพชรในใจหนุ่มสาว...
.คือความรัก ความสมหวัง 
การได้ครองคู่อย่างอบอุ่นเป็นสุข
 ด้วยความเข้าใจ อภัย กรุณา ตราบจนชีวีนี้จะหาไม่...


และเมื่อรัก
 สิ่งสูงค่าที่อยากนำมาแทนใจ คือเพชร 
รักมาก เงินมาก ไม่เดือดร้อน 
ก็แสดงออกบอกรักด้วยค่าของเพชรมาก กะรัต...
รักมาก เงินน้อย ไม่พึ่งพาเพชรพลอย 
ก็...ไม่ผิดอันใด...

เพราะ. 
ใจดวงดีที่มั่นคงจงรัก 
และเปี่ยมล้นด้วยเข้าใจกันและกัน 
ย่อมมากค่าเท่าเพชรได้เฉกเช่นเดียวกัน 
สำคัญที่ใจ.
และ
ตัวใครตัวคนนั้น 
ที่มีสิทธิ์จะแสดงออกในรูปแบบต่างกัน.....ดังฝัน 
ที่มิอาจ 
เหมือนกับชาย..อย่าง ริชาร์ด เบอร์ตัน 
ที่แสดงออกบอกรักหญิงงาม
นามเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ 
ดาวค้างฟ้า ด้วยเพชรมากค่า...แ
ต่ก็ยังมิอาจฉุดรั้งให้รักราร้าง ในวันหนึ่ง........ 

เพชร...
ในใจของนักเขียนคือ...
กำลังใจจากผู้อ่าน ที่ยามได้รับคำ ติชม ราวหยาดรุ้งงาม 

เพชร........ในใจของเจ้าของร้านเพชร 
คือผู้ซื้อ..ที่รู้คุณค่ามิเกี่ยงราคา
 ด้วยซึ้งค่าในการออกแบบ 
ให้งามงด...เป็นมรดกฝากไว้ไม่สูญสลาย....

เพชร...
ในใจที่สว่างไสวของเด็กเร่ร่อนจรจัด 
คือ ครูวัลลภ และครูทุกๆคนที่ร่วมด้วยช่วยกัน 
ให้ความสำคัญของอนาคตของชา
ติ ที่ถูกเมินเฉย ทอดทิ้ง ................ 

เพชรยังมีอีกมากมายหลายสาขาอาชีพ...
ในจิต ในวิญญาณของผู้คนที่ทุกข์ทนยาก 
คือคนดีมีน้ำใจงาม
 ผู้ถือโคมเพชรพราวราวแสงไฟ 
นำทางชีวิตให้สว่างไสว..ไม่ย่อท้อ...แพ้พ่าย....

และ
เพชรใดใด ที่เลอล้ำค่าที่สุด
 ก็มิอาจเปรียบเพชรนี้ที่ให้ด้วยรัก....
ด้วยเมตตาบารมี....
คือ......... 
เพชร......ในใจของชาวนา..
เกษตรกรผู้ยากไร้..
ที่เพียรพลิกฟื้นผืนดิน.....ด้วยน้ำพระทัยจาก.... 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
ที่มีโครงการในพระราชดำริมากมาย
เกี่ยวกับการหาแหล่งน้ำ..... 
เพื่อนำมารินรด...ใ
ห้ใจทุกดวงที่รอคอย...น้ำจากฟ้า
 จากพระบารมี ให้ดวงใจทุกดวงอาบชื่น 
ให้มีความหวัง....มีพลังแห่งใจ....ดังคำที่ว่า...

มีน้ำ....มีนา....มีชีพชอบ....
ได้ปลูกข้าว....
ให้ออก...รวงเรียวงาม...ราวรวงเพชรพลอยพราว...
คราวได้รับหยดน้ำค้าง 
ราวหยดน้ำเพชรพราวพร่าง....แห่งชีวิต......
ที่จะนำมาหล่อเลี้ยงพืชพรรณ...
และชีวิตผู้คน...บนผืนดินทอง แผ่นดินไทย นับล้านๆ 
ให้ดำรงรอด......
เพื่อมีร่างงาม...ประดับเพชร เพียงสวย....
แต่มิใช่เพื่อชีวิต......นี้ที่จำเป็น...!
				
4 พฤษภาคม 2552 21:25 น.

เย็น...เดือนเสี้ยว..!

พุด


ลบลืมเลือนลาวันฟ้าโศก
ทิ้งโลกวิปโยคไว้เบื้องหลัง
เรื่องใดใครเขาชิงชัง
ฝากฝังไว้ใต้พื้นพสุธา

เพียงรักเมตตาแก่กัน
เอื้อฝันปันดีปรารถนา
ลมหายใจแสนสั้นดินกลบหน้า
เหว่ว้าหันไปไม่มี

ทิฐิถือดีที่แท้
พ่ายแพ้ยึดมั่นศักดิ์ศรี
ปล่อยวางตัวตนเสียที
ไม่มีทั้งเขาแลเรา

เดือนเสี้ยวสอนธรรมชีวิต
หยุดคิดหยุดทุกข์สุขเหงา
กงกรรมกงเกวียนดั่งเงา
ผ่อนเพลาพบทาง..สว่างเย็น...!

.......................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song481.html
คิดถึง 

จันทร์ กระจ่าง ฟ้า
นภา ประดับ ด้วยดาว
โลก สวย ราว
เนรมิต ประมวล เมืองแมน
ลม โชย กลิ่น
มาลา กระจาย ดินแดน
เปรืยบ มี แสง
คนึง ถึง น้อง นวลจันทร์

งาม ใด หนอ
จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง
เจ้า งาม ต้อง
ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน
ถ้า หาก น้อง
อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน
โลก จะ เหมือน
เมืองแมน แม่นแล้ว
นวลเอย... 
 
				
4 พฤษภาคม 2552 17:22 น.

ใน..สายใจ...!

พุด


เห็นพวงดวงดอกตะแบกบาน
หวานเศร้าละมุนริมถนน
ราวแบกทุกข์ทดท้อสู้ทน
รอสายฝนพร่างกลางกลีบใบ

เดินเดียวดายเงียบงามยามเย็นย่ำ
ฟ้าใกล้ค่ำสวยโศกโลกรานไหว
ในลำพังกับธรรมชาติงามเหลือใจ
ใบไม้ไหวกระซิบว่าอย่าระทม

ดูฟ้าสิยังแปรสียังเปลี่ยนผัน
ชีพเรานั้นมีบ้างต้องขื่นขม
กับวิบากกรรมเก่าพาเราตรม
ให้สายลมพัดผ่านรานรักลา

แลเห็นว่างเปล่าในเงาฝัน
นิรันดร์ใดเล่าเจ้าปรารถนา
ใดเที่ยงใดแท้แค่มายา
ผ่านมาเฝ้าดูรู้วาง..!

...................................



แถวบ้าน....
ยามเย็นดวงสุริยาสีส้มสุกสวย
ลอยเด่นฟ้า
พุดพัดชา เดินเดียวดายออกกำลังกาย
ริมชายทุ่ง จะมีนาข้าว
ไม่มีก็แต่ดงตาล
มีหวานเศร้าม่วงละมุน
ของพวงดวงดอกตะแบกริมทาง


ต้องใช้คำว่าพวง
เพราะดวงดอกตะแบกไม่บานเดี่ยว
เดียวดาย
บานพราว ม่วงชมพู ต้องดูรวมๆ
จะให้งามละไมละม่อม

ไม่ทราบจะรำพันอย่างไร
ต้องใช้สายใจสัมผัส
เพียงนั้น
ให้ฝันงามในท่ามโลกนี้
ที่แสนวายวุ่นด้วยเรื่องโรคภัย
ไหนจะการเมืองอีก
ที่อยากหลีกปลีกวิเวกให้ไกล
เพื่อความเงียบงามสงบใจ..กระไรเลย...!



บทกวีจารจากใจคนคนกุลา

ในความรักอักษรคำกลอนหวาน
ได้พบพานคนร่วมทางสร้างความฝัน
รักชอบตอบคำกลอนอาทรกัน
ได้สร้างสรรค์บทกลอนยามอ่อนแอ

เป็นกำลังใจแก่กันวันยุ่งยาก
หรือท่ามการพลัดพรากจากจริงแท้
ยามที่ไร้คนรู้ใจใครเหลียวแล
ให้รู้แก้รู้ไขด้วยใจตน

สายสัมพันธ์มั่นรักจักถูกสาน
เป็นตำนานสานใจในทุกหน
เกิดที่ตามานานและทานทน
ก่อนมาล้นบานที่ใจ...ให้งดงาม



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song297.html
 มนต์รักดอกคำใต้ 

ช...พริ้ว ลม พัด ฉ่ำ
ดอกคำใต้กรุ่น หอมละมุน โชยกลิ่นละไม
โอ้ละหนอ เจ้าดอก คำใต้
เจ้าหว่าน ดอกไว้
เหมือน คอยเตือนให้ใจฝัน
หอม ชวน หวน ชื่น
ค่อนคืน ครั้งหนึ่ง ซึ้งใจจนสุดรำพัน
โอ้ละหนอ เธออยู่เคียงฉัน
เกี่ยวก้อยคล้อยตามกัน สวรรค์นั่นแหละบัญชา
ญ...มนต์ รัก ระริน
เปรียบดังนกน้อยบิน เหิน ลอยไปสู่เวหา
ช...ความ รัก ก็คือบุปผา
ผลิดอก ที่ตา แล้วมาบานเบ่งที่ใจ
พร้อม...สอง เรา สาว หนุ่ม
เกาะกุม แขนเกี่ยว นิดเดียวก็สุขเกินใคร
โอ้ละหนอ เจ้าดอก คำ ใต้
อย่าบอกนะใครใคร ว่ารักเราได้ สู่สวรรค์
ญ...มนต์ รัก ระริน
เปรียบดังนกน้อยบิน เหิน ลอยไปสู่เวหา
ช...ความ รัก ก็คือบุปผา
ผลิดอก ที่ตา แล้วมาบานเบ่งที่ใจ
พร้อม...สอง เรา สาว หนุ่ม
เกาะกุม แขนเกี่ยว นิดเดียวก็สุขเกินใคร
โอ้ละหนอ เจ้าดอก คำ ใต้
อย่าบอกนะใครใคร ว่ารักเราได้ สู่ สวรรค์ 
 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด