24 กรกฎาคม 2546 21:47 น.

ลมหายใจแห่งชีวิต!

พุด




ลมหายใจแห่งชีวิต

แด่หนุ่มน้อยคนดี ที่ชื่อดังสายลมเย็น 


ค่ำคืนนี้....
สายลมอ่อนๆบางเบา..พัดมา อย่างอ่อนหวาน อ่อนโยน
 แทรกมา กับสายฝนพรำ ..... 
พรมลูบไล้ ให้กับใจ ดวงนี้... 

สายลม เย็นละมุน ที่พัดมาจากซีกโลกแสนไกล 
แม้ขอบฟ้ากว้าง แค่ไหน 
ก็มิอาจหยุดยั้ง เอาไว้ได้ 
สายลมบริสุทธิ์ใส จากเมืองหนาว 
ที่พัดมาเคลียเคล้า ดวงใจ ที่อยู่เมืองร้อน 
ให้มีแต่เย็นกาย สบายใจ..... 

น่าแปลกใจ...ที่คนเรานี้หนา ไม่รู้ค่า ให้ความสำคัญ
กับสิ่งที่ยังประโยชน์ให้กับชีวิต 
ถ้าตราบใด เรายังมี..สายลมนี้ เป็นดั่งลมหายใจ....แห่งชีวิต.... 

แต่วันใด..... เมื่อดวงใจของเราจะขาดรอน 
กำลังจะลาลับไป ขาดลมหายใจต่อชีวิต 
วันนั้น...เราจะซาบซึ้ง และรู้ค่า 
ราวกับว่าอยากหยุดเวลา หยุดโลก ให้หมุนย้อนไป 
เพื่อพบกับวันที่แสนดี ที่เรานี้มองข้ามไป........ 

สายลมแห่งชีวิต จะรู้บ้างไหมว่า 
สำหรับฉัน..เธอนั้น.. มีค่าทำให้ชีวิตที่ราโรย มีคืนวัน 
ที่ฟ้าสดใส ใจสดชื่น มีพลัง มีหวังว่า...... 

วันหนึ่ง ข้างหน้า จะมีเธอ..ก้าวเข้ามา 
รับดวงใจของฉัน ไปดูแล ปกป้อง คุ้มผองภัยแทน 

โลกนี้..ไม่มีใคร ลิขิตชะตา ใครได้ ใช่ไหมเล่า....เธอ คงเข้าใจ 
อย่า!...เสียใจ นะคนดี อย่าท้อแท้ ยอมแพ้พ่าย...... 
ความรักที่มากมาย ของเธอ 
อาจจะชนะได้ ถ้าเธอ ใช้ใจและเวลาเป็นเดิมพัน.... 

เธอ คงเข้าใจ ....นิยามรักนี้... ที่ได้มา นั้น..
บางครั้งต้องเกิดจากการให้ไร้ร้องขอ..... 


ผู้ให้ความรัก ผู้อื่นได้ คือผู้เข้มแข็ง 
ส่วนผู้มีใจดวงอ่อนแอ จะเป็นผู้เรียกร้องต้องการแต่เป็นผู้รับรัก 


เธอ เลือกแล้วใช่ไหม.!..จะเป็นผู้ให้หรือรับ ...
และยอมรับ คำพิพากษาของมันแม้จะเจ็บปวดปานใด

				
24 กรกฎาคม 2546 16:40 น.

ไร้ตัวตน!

พุด


  http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=101 
 ในโลกนี้..มีมากมายหลายสถานที่ 
ที่เราเคยไป เคยประทับใจเคยฝากรอยรัก 
รอยใจ รอยอาลัยอาวรณ์ ไว้กลางใจใสงามหวานหวามของเรา

สำหรับฉัน ผู้หญิงที่ชอบการเดินทาง 
และชอบไหวหวามกับอารมณ์ดิบเดิมละไมละมุน
ที่รักธรรมชาติไปทุกที่ 
รักสายฝน ลมครวญ มวลดอกไม้ และฟ้ากว้างกับพรายดาว..
รักจันทร์เจ้าขา ที่ไม่เคยสร่างซางามจรัสแจรง...
ยังคงแฝงฝังซ่อนสุขซึ้งทุกโมงยามในคำนึง

วันนี้...วันที่ ติดอยู่ในกรง เมือง หลวง(ลวง) 
บ่วงคล้องมัดขา มิให้ร่างกาย ได้สัมผัสฝันสล้าง
แต่มิอาจจะขังดวงใจรักให้ออกเหินบินสู่โลกกว้างทางไกล
 ด้วยปีกแห่งความฝันในใจดวงพิสุทธิ์ใส
ดวงนี้ ที่ถวิลแต่ไพรพง..และทะเลงาม....

มาวันนี้..ที่ร่างร้างไร้ร่อนเร่พเนจรไปแสวงหาฝัน 
ฉันก็พยายามสร้างโลกจินตนาการ
คืนฝันวันแสนดีแสนงาม ให้งามงดหมดจดใจ 
รายรอบที่พักพิงราวราวไพร....

โลกฝันโลกจริงของฉันแม้จะซ้อนทับกันมิสนิทดั่งใจฝันใฝ่ 
แต่ก็มีร่มไม้ใหญ่แผ่ก้านกิ่ง
ให้นกกามาร้องระงม ในยามเช้า 
ให้ฉันเฝ้าเชยชมความงามหอมอวลของจำปีที่เชยชิดชายคาสูง
มีมะม่วง มีหางนกยูงออกดอกแดงดก 
มีแก้วการะเวก และอีกมากมายพรรณไม้นานา..
ที่พาให้หลับตาฝันดี 
และตื่นมามองโลกสวยด้วยงามง่าย...เงียบสงบกลางกรุงมิพักวุ่นวายใจ

ใจดวงนี้จึงเงียบงามตามแบบสบายสบาย 
มิดิ้นรนแย่งชิง เร่าร้อน ริษยาใครให้ใจหมองไหม้
ดังไฟแผดเผา หมดเสน่หาหมดงามตามตามกันไป..
ในโลกแห่งเทคโนโลยี่ ที่ฉันนี้โง่งมตามไม่ทัน
ไม่ว่าเรื่องทางวัตถุมากมีหรือจิตใจที่วกวนสับสน
 ซ่อนเงื่อนงำคิดทำร้ายกันและกันราวไร้ปรานี

ฉันบอกใครไม่เป็นให้เห็นงามง่าย 
ใกล้ตัวใกล้ใจ ขึ้นอยู่กับใจดวงพิเศษพิสุทธิ์เพียงนั้นที่สวรรค์
ประทานมา หรือจะคว้าไขว่กันเอาเอง ถ้าไม่มืดบอด...
.ตามกรรมกำกับ..ใจที่เคยสร้างมา..แต่ภพก่อนปางก่อน.....

เป็นดวงตาที่สาม ดวงตาภายใน..
ที่ใสสวยมิมีวันราโรย..เป็นดวงตาที่เห็นธรรมสว่างไสว
มิช้ำไปกับกิเลสของคนที่วนเวียนมาหยอกล้อ
พ้อพาระทมชั่วยาม หากคุมสติไม่มั่นคง..
พลันจะหลงทาง.....ระกำนาน

ฉันดูต้นไม้ ใบหญ้าเริงระบำ ดูหยาดน้ำค้าง
 หรือสายฝนพรำปรายโปรยหยาดละออง ผ่องใส 
ด้วยใจเหงาเศร้าแต่มิเคยเปลี่ยวเปล่าในจิตวิญญาณ 
เฝ้าดูดาวเดือนหัวเราะตัดพ้อยามอิ่มเอิบงาม
ที่ลืมทายทักแหงนมองในบางค่ำย่ำราตรี ..

บางคืนค่ำที่ฉันนี้จะเดินย่ำเท้าด้วยดายเดียว 
ทอดตา ทอดใจดูงามง่ายใต้เงาจันทร์และฟ้ากว้างเพียงลำพัง
กับฝันทั้งหวานเศร้า ซึ้งสุขซุกซ่อนใจ 
กับใจดวงร้าวนี้ที่มิมีใครรับรู้ระบาย.......

และทุกยามเย็น....ถ้ามีเวลา
ฉันจะถวิลหาพาตัวเองไปยังที่แห่งหนึ่ง 
ซึ่งเป็นรังรักในจินตนาการให้ฉัน
ได้หวานหวามกับธรรมชาติ งามง่ายร้างไร้ผู้คนมากมายไยดี...
.ฉันจำต้นไม้ได้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดวงดอก
ไม่ว่ายามไหนจะช้ำชอกกับใจผู้คนหรือพบรานร้าว 
ทุกคราคราว ฉันจะมีเพื่อนคอยประโลมให้เอิบงาม
ไร้หมองหม่น ทนทุกข์ใจ อย่างรวดเร็ว 
ราวได้พบเพื่อนเก่าที่เข้าใจและไยดี...

ฟ้ากว้าง..บึงตรงหน้า ดงหญ้าเอนลู่ลม 
ฝูงนกบินกลับรัง กับแสงอาทิตย์ลับลา 
กับฟ้าสีส้มสุกสวยหวาน
กับม้านั่งในสวน..

ฉันจะนอนซุกตัวนิ่งนาน ถอดใจ ถอดจิต 
ไม่มีฉัน ไม่มีใคร ไม่มีหัวใจรักในคำนึงลอยล่องตามติดมา
มีแต่ซาบซึ้งเศร้าสุขคลุกเคล้าคละกันอยู่ภายในดวงใจที่ใสเย็นฉ่ำ 
ไม่จำเป็นต้องมีใครเห็น รับรู้ รับทราบ
นอกจากฟ้าดินที่วาดหวังว่ายังมิทอดทิ้งสิ้นรัก....

ใช่เลย!.... 
ไม่มีตัวตน ไร้คนไยดี ไม่มีหัวใจรักภักดี 
มีก็แต่ฟ้างาม อ้างว้าง ดงดอกหญ้า กับแสงอาทิตย์สนธยา
ใกล้ลาลับ กับวันเวลา 
ที่เตือนตอกย้ำ ว่าชีวิตคนเราแสนสั้นนัก.......
 หากรักที่ซื่อตรงคงมั่น 
ถือสัจจะต่างหากที่คงที่มิมีวันมอดดับลับลาไปกับดวงใจ.. 

รักจริงใจ......ไม่เลือกเวลาไม่เลือกสถานที่.......
เมื่อถึงที่ถึงทางฝันฟ้าดินนั้นจะ
มอบให้เรียนรู้ค่ารักจักให้ถนอมจนตราบนานนิรันดร์ 
ให้โลกนั้นยังหมุนวนไปได้ด้วยพลังแห่งรัก
ที่บริสุทธิ์งามงดดั่งอัญมณีที่สวยเลอล้ำค่า..ถาวร...

ฉันไม่รู้ว่า ภาษาจากใจดวงดีนี้ 
จะไปกระทบมีปัญหากับใครอีกมั้ย 
แค่หวังฝากฝันฝากใจลดเร่าร้อน
รุนแรงแย่งชิง ในเกมรักเกมพิษสวาท 

สำหรับฉันนั้นแค่มีฝัน มีงานเขียน 
มีคนดีที่เข้าใจก็พอเพียง เพียงพอมิท้อพ้อใจ...ไฉนเลย!

และขอแค่ถอยออกมาจากโลกวุ่นวายนั้น 
มาพบฝันที่เงียบงามสวยใส สล้าง
 เพื่อสร้างสรรสิ่งดีงามให้สว่างกลางใจแด่ทุกดวงใจ...
เพื่อย้ำคำว่า........
.ค่าของคนอยู่ที่ผลของงามและงาน...... นะยอดดวงใจ
>


เพลงหยาดเพชรที่นำมาประกอบนี้ 
มีที่มานะคะ...
เป็นเพลงที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งขับร้องเพื่อมอบไห้
กับผู้หญิงที่เขาแสนรักเป็นยิ่งนักในดวงใจแสนงามของเขา
และทุกคราที่เห็นหยาดน้ำตาจากดวงตางามของเธอ
ที่ราวหยาดเพชรร่วงในดวงใจละมุนของเขา.......

วันนี้...
เขาคนนั้น..
ลาลับลาจากดวงใจไกลแสนไกลเหลือเกินแล้วค่ะ!

และ...เมื่อวันหนึ่ง..ดวงใจรักของพุดพัดชาหมดสิ้นฝัน
พรากจากเรือนไทยร่มเรือนใจเรือนรักนี้ไป

หวังด้วยใจว่า..เมื่อใครกลับมาอ่านงานที่รจนาด้วยรักนี้
จะรำลึกถึงสิ่งที่คุณฝากไว้ให้
ไม่ว่ารักหรือรอยระกำช้ำตรมให้กับลูกผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งคนนี้
ที่มีแต่หัวใจดวงดีที่แค่อยากมาฝากฝันฝากใจรัก..
แค่วอนหวังวาดขออ้อมใจโอบอุ่น
ขอแค่สายใจ..สายไยรัก
ให้พักพิงใจดวงร้าวเพียงนั้น!

ก่อนวันลาจะมาถึงค่ะ..ระหว่างเรา!
และจะรักและรักทุกดวงใจ..ตราบนิรันดร์นะคะ
				
24 กรกฎาคม 2546 16:19 น.

ในห้องนอนอ้อนหาเธอ!

พุด


ในห้องนอน นอนนิ่งนิ่ง ใจหนาวหนาว
ใจร้าวร้าว เศร้าเศร้าสร้อย สะเทือนไหว
ไร้เนื้อน้อง แนบอกอุ่น นอนหนาวใจ
ไร้คู่ใจ ใครคู่กาย ก่ายกอดงาม..

พี่เดียวดาย ดายเดียว ใจเปลี่ยวเหงา
ที่โง่เขลา ปองดอกฟ้า พาถูกหยาม
พี่จนเงิน จำเจียมใจ ไม่ติดตาม
ยอมหักห้าม ปรามหัวใจ ไม่รักดี..

อกพี่หัก ดังเป๊าะ ถูกเยาะเย้ย
หลงทรามเชย ทรามสวาท ขาดศักดิ์ศรี
คนอย่างพี่ คือผู้ชายไม่รักดี
ที่ยอมหนี ยอมไกลห่าง ทางรักเธอ..

ได้รู้จัก รักแล้ว ก็แค่นั้น
ราวสวรรค์ ลอยเลื่อน ได้พ้อเพ้อ
แม้นชาตินี้ มีชีวี เพียงรอเก้อ
พี่เผยอ ขอชาติหน้า ถ้ามันมี..

ไม่เลิกรักเลิกรอขออีกสามสี่ชาติ
พิสวาท ตามติด ไม่คิดหนี
จะสมหวังสิ่งใดไม่เท่าใจของพี่นี้
ขอแค่มีเธอเคียงข้างไม่ห่างไกลตราบสิ้นลม!

				
24 กรกฎาคม 2546 16:08 น.

ดวงใจในฝัน!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973
สนามหญ้ากว้างเขียวขจี สุดสายตา..
ด้านข้างคือบึงกว้างที่ยามนี้ปลากำลังกระโดดผึง
โชว์ความงามระยิบของเกล็ดสีเงินวะวาววับ..
สะท้อนจับแสงสนธยาสีทอง..ที่กำลังตกต้อง
สู่ผืนน้ำ ราวทองทาโลมไล้ สวยสุดใจ..
.ในยามเย็นที่เงียบงาม..ร้างไร้ผู้คน...


ในแนวตา..มีชมพูพันธุ์ทิพย์ ชมพูสวย 
กิ่งหวานพราวไปด้วยดอกดวงเป็นพวง..ระย้าระยิบตา
ตะแบก..แบกรัก..หนักไปทั้งก้าน ใบ 
มีแต่ดอกดก..อมม่วงสวยเศร้า 
ร้าวใจเคียงข้างคู่ไปกับชมพูหวาน
ที่บานเบิกใจของชมพูพันธุ์ทิพย์...
ราวเศร้าสุขคลุกเคล้ากันในใจ..ใครคนนี้!

ทองหลาง..สลัดใบไม่ไยดี กราวเกลื่อนพื้นพรม..
ราวตรมตรอม..เหลือเพียงดวงดอกแดงโดดเด่น
พราวต้น พราวตาน่า ตื่นใจ...

ดวงจังงัง..ฝันคว้างขวัญ..
กับภาพงามตรงหน้า..ราวฝันไป..
สะกดให้ใจดวงร้าว..ตาดวงช้ำ..นิ่งงัน
กับแรงร้อนของงามโดดแดง..ชูช่อ..ท้าทาย.....
ให้หายตรมตรอม..ใจ!

พลัน...หวนคิดถึง..คะนึงหา..
ทองหลาง..ต้นงามในยามวัยเยาว์ริมทะเลกว้าง..คู่ใจ
ที่บานซุกอยู่ในใจมานานเนิ่น.
.ดวงดอกแดงไสวตัดขอบฟ้าเงินงามเข้ม....
ภาพเด็กหญิงตัวน้อยๆ ใช้เปลือกหอยแว่น..
ค่อยๆจัดเรียงวางดวงดอกงามนั้น
เป็นช่อชั้นสวยตระการตา 
เพราะสมมุติว่าเจ้าตัวกำลังเป็นแม่ค้าขายดอกไม้!..


ใครหนอ!จะเข้าใจ....ใจดวงร้าวยามนี้
กับนาทีตรงหน้ากับกรอบตากรอบใจที่หวานไหว
ที่กำลังซึมแทรกเข้าไปปลอบประโลมใจ 
ลดเศร้ารานร้าวจากราวเรื่องมากมีทีคนในโลกนี้
หยิบยื่นมาให้อย่างไร้เข้าใจ...โอ้ละหนอใจคน คำคน!


เอนตัวลงนอนช้าๆ..มองฟ้ากว้าง สีหวาน ส้มอมชมพู 
มีเทาแตะแต้มกระจายคล้ายสลัดสี
ให้กลมกลืน บนผืนผ้าใบสีฟ้าอ่อนอ่อนใส บางเบา 
ไม่บรรจงแต่งามจนน่าตะลึงหลง...
จนอยากสำลักในงามนั้น
เคียงคู่ขวัญกับคนดีในดวงใจ ในยามนี้..
ที่นอนดายเดียวเดียวดาย..ลำพัง!

ป้ายหยาดน้ำตาอุ่นๆ ปลายตาที่ซึมมา 
เกลี่ยให้หายวับไปกับแก้มและแสงอาทิตย์
ที่โลมไล้ร่างละมุนราวรูปปั้น..ยามนี้......

ให้..คิดถึงดวงใจ......
ที่คงฟันฝ่าอยู่กับโลกคนเมืองร้อนระอุ...มิได้ผ่อนพัก..
เสียงหัวเราะ..อ่อนโยนเคลียเคล้าใจให้หวานไหวในรู้สึก..
อย่างผู้มิยอมแพ้พ่าย!
กับเหนื่อยหน่ายของวันคืนและโลกที่หมุนไป..ไม่สิ้นสุด..

คนดี..ผู้มากน้ำใจใสเย็นปลอบประโลมใจ
ให้ใครๆในโลกฝัน ในยามค่ำคืน..รินรดหมดจดใจ
เติมเต็มในโลกใบเล็กๆที่หลายดวงใจ
แวะมาทายทักพักใจมาแอบอ้อน
เอาอ่อนหวานสุขซึ้งซุกซ่อนเศร้า
หรือเรื่องร้าวรานพอให้ผ่านไปวันวัน.....

นอนนิ่ง..เสียใจสะท้อนสะเทือนใจ..
เพียงชั่วยาม 
กับใจดวงงามนี้ที่มิอยากเพิ่มหม่นหมอง..
ราวเห็นแก่ตัว...ใจหนอใจไฉนเลย!
เสียงอ่อนอ่อน..นะ นะ นะ วอนเว้า
พร้อมจะเคียงข้างเข้าใจในทุกสิ่ง..
ด้วยใจดวงดีพิเศษที่..ตรงกัน..

ลมรำเพยระบัดผ่านมา พาให้คลายเศร้า เย็นชื่นฉ่ำ......
หลับตาทิ้งระกำชั่วครู่ได้ไหม..นะใจเอ๋ย...ใจ..
บอกกับใจ..กับฟ้ากว้าง..กับสายลม .....
กับฟ้าดิน....ในยามนี้..
สุขนี้ชั่วคืนจะคืนกลับกับตะวันเมื่อถึงวันลา!
นะยอดดวงใจ!อย่าห่วงเลย......... 


				
23 กรกฎาคม 2546 12:22 น.

หัวใจดอกไม้!.

พุด


หัวใจดอกไม้!. 
หัวใจฉัน หอมหวาน ปานดอกไม้
บานท้าทาย สายลมแรง แสงแดดกล้า
มอบน้ำใจ ใสเย็น เป็นความหวัง ปลอบชีวา
หอมมนตรา ด้วยดวงใจ ใฝ่ความดี...

หัวใจดอกไม้ ไม่มีวัน จะเหี่ยวแห้ง
มิสิ้นแรง ฝันฝากใจ ไปทุกที่
หัวใจดอกไม้ เติมไฟฝัน หวังยังมี
บานกลางใจ ยอดชีวี พลีพร้อมใจ...

หัวใจดอกไม้ หอมให้โลก ลดโศกเศร้า
ลดรานร้าว ใจทุกดวง สว่างไสว
หอมเที่ยงตรง คงทน หอมกลางใจ
หอมไปไกล ไม่ไหวหวั่น ฝันเพื่อเธอ..

มาเด็ดดอม หอมหอม ย้อมใจหวัง
อย่าหยุดยั้ง พลังใจ สนองเสนอ
หวานกลางใจ ไปทุกวัน ใช่เพียงเพ้อ
ปล่อยฝันเก้อ เปล่าร้าง ห่างให้ตรม..

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด