2 มกราคม 2547 22:37 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420..รางวัลชีวิต
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5820
***********
ตะวันทิ้งดวง..เหนือทิวสน..ยามย่ำสนธยา
เรียวเมฆหวานล้ำ
งามเหนือคำบรรยายใดใด
ในซาบซึ้ง..ตรึงใจตรงหน้า
สีฟ้า..โศกสวย..
ม่วงพรายพรมอมชมพูเทาเทา
อ่อนอ่อน จางจาง บางบาง..เบาเบา..ราวขนนกนุ่มนุ่ม
ดูนวลนวลพร่างพร่างราวร่างระบายด้วยสีน้ำ
ให้มองดูนิ่มอิ่มสีกลมกลืน
ในผืนฟ้ากว้างแทนผืนผ้าใบ..
ทั่วผืนน้ำ..ทะเล
แปรสีเป็นเงินงาม..
ครามเคลือบม่วงอมชมพูตามโค้งฟ้าคลุมครอบ..
ฟ้างามอะคร้าวราวสายรุ้งพร่างพราว
ม่านเมฆราวเกร็ดเพชรเป็นช่อชั้น..สวรรค์บันดาล..
ไพลเอนร่างนอนเหนือเนินทราย..
ใต้ร่มไม้ใต้ทิวสนแผ่ใบสล้าง..
พังเสียงลมครางสนครวญ
เสียดสีซัดส่ายใบ
ไหวซอกแซกๆซู่ซ่าๆ..
ท้าตะวันให้ฝันไกล.แสนไกล..ในคะนึง
ฟังเสียง.คลื่นคลอทราย..เว้าวอน.อ้อนออดชายชล..
ปล่อยกมล..ว่าง..วางไว้..
ให้หาดทรายร้างไร้ยาวเหยียดสุดตา..
ให้ทะเลเหว่ว้าโค้งจรดฟ้าไกล..
ปลอบหัวใจดวงละมุนดายเดียวเดียวดาย..
ระบายเศร้าเสน่หา..
พร่างพาพรมห่มดวงใจด้วยธรรมชาติแสนดี..
แสงสีส้ม..อมก่ำฉ่ำดวงแดงราวไข่ดาวดวงโต..โผล่กลางทิวสน
ทอทอดลอดแสงพร่างโลมไล้ร่างให้มลังเมลืองราวทองทา..
แสงเรืองรอนรอน สะท้อนสายสร้อยทองโบราณรอบลำคอ
ร้อยรัดราวรูปสลักโบราณ...กับร่างหนึ่งนอนนิ่ง..งัน
ในเรียวตานั้น....
เพชรน้ำพร่างวิบวับระยับสะท้อนรับแดดละออราวรุ้ง
เป็นซึ้ง ซ่าน หวานสุข เศร้า
ราวโลกร้างว่างเปล่าเหงาเงียบเฉียบเย็น
เป็นดื่มด่ำร่ำรสสุข
มิหวังให้ผู้ใดรับรู้..เห็น..
มีเพียงงามหัวใจสุขเร้น เต้นแผ่วๆ..สุขล้ำ..ลำพัง
กับงามในทุกสรรพสิ่ง..รายรอบ
มองฟ้างาม น้ำจรดฟ้า
มองท่าโผผินบินสู๋ท้องนภาเวหาหาวของนกนางนวล
มองเรือน้อยค่อยค่อยลอยลำลา วิ่งฝ่ากระแสชล
เหนือทิวคลื่น ทั่วผืนน้ำ งามระยับจับดวงใจ
จากย่ำสนธยา ตราบดวงตะวันลาลับฟ้าต่อถึงยามราตรี
ที่ดาวประจำเมืองเรืองรุ่ง
โผล่พ้นโค้งคุ้ง
ทิวทุ่งข้าวสีทองลอมฟางหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว
เดือนครึ่งดวงลอยคว้างฟ้า
ราตรีคลี่ม่านหว่าน
ดวงดาราพริบพราวสุกใสนับพันดวง
บทเพลงฝันวันปีใหม่กระหึ่มก้องกังวาน
ไปกับสายลมในยามค่ำ
ไพลไหวร่างเดินทอดน่องห่างจากเนินทราย
ดูพรายพระจันทร์ดวงเศร้าแสนหวาน
ดูแสงไฟวับแวมวะวิบกระพริบล้อนวลแสงดาว
ที่ประดับประดาไว้พร่างพราว
ตามราวกิ่งไม้และตามสุมทุมพุ่มพฤกษ์
ไพลมีความสุขที่ได้เร้นกาย..
จากงานปาร์ตี้เรียบง่ายสบายๆแบบครอบครัวใหญ่
ในทุกปี ที่มีงานเลี้ยงแสนดี คืนแสนงาม
หลังให้โมงยามแห่งชีวีได้ทำสิ่งมงคล กราบแม่พ่อ ขอพร
และญาติมิตรพี่น้องได้ร่วมกัน แย้มยิ้มยินดี
มีคืนสามัคคีอบอุ่นเป็นสุขร่วมกัน
หลังตรากตรำแยกย้ายกัน ดำรงร่างใจทำตามหน้าที่ตน..
ไพลชอบเดินอาบน้ำค้างพร่างพรูกรูเกรียวลมหนาวกอดตระกอง
และปล่อยให้หัวใจทั้งสี่ห้อง..ว่างเปล่า...
ไพล..พยายามถอดหัวใจ ไม่รู้สึก ในทุกเรื่องราว
ราวชาดิ่งดื่มด่ำกับดายเดียว
ให้ทุกคืนวันผันผ่านมาลาเลยลับนับทวีเพียงกาล..
ก็แค่เพียงนิยามคืนผ่าน หวานเลย..
ให้รู้ทำใจเฉยนิ่งชินชา
ที่เหลือก็..คือความเหว่ว้าว่างเปล่า กับเหงาเงียบที่ซ่อนซุก
ในรู้สึก..ที่ยากยิ่งอธิบาย..กับผู้ใด ด้วยนวลใจไหวละมุนนี้
ที่มองชีวีและทุกสรรพสิ่ง อย่างแผกผิด พิเศษพิสุทธิ์
มาเนานานเนิ่นเกินนับและจักเป็นนิรันดร์
ไสว สว่าง ราวสวรรค์สร้างเสก สล้างกลางใจ ในทุกงามง่าย
คล้ายชีวีที่พอใจในวิถีติดดิน
ถวิลแต่งามเงียบเรียบง่ายไร้มายา..
ไม่ว่ารักใด ไม่อยากผูกพัน ไม่อยากยึดมั่น ถือมั่น
และไพลเพียงแวบหวั่น คิดถึงสายวสันต์
ที่เคยพรมพร่างใจในวูบวับกับหนาวเหน็บนี้
และพลันหัวใจไพล..ราวลอยละล่องท่องไปในโลกฝัน
กับบทเพลง..หวานแว่ว แผ่วพลิ้วมา...
บทเพลง..
MY HEART WILL GO ON
Every night in my dream
I see you,I feel you
That is how
I know you go on
Far across the distance
and spaces between us
You have come
to show you go on
Near,far,
wherever you are
I believe that the
heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here
in my heart,
And my heart
will go on and on
Love can touch us
one time and last
for a lifetime,
And never let go
till were gone
Love was when
I loved you,
one through time
I hold to
In my life well
always go on
Near,far,
wherever you are
I believe that the
heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here
in my heart,
And my heart
will go on and on
Youre here,
theres nothing I fear
And I know that
my heart will go on
well stay
forever this way
You are safe
in my heart,
And my heart will
go on and on...
******
ไพลใช้เวลาแสนดีแสนงามในยามนี้
ทบทวนกับทุกสิ่งในดวงฤดีไหวอ่อนนี้ที่แสนเข้าใจ..
ทุกชีวี..
ในโลกนี้..ที่ คิดดิ้นรนใฝ่คว้า หาความสุขภายนอก
มาลวงหลอนหลอกปลอบประโลมใจตน ตามๆกันไป
ตามใจตน ตามเงินในกระเป๋า
เป็นสุขชั่วคราวมิยาวมิยั่งยืน..ถาวร..
มีรถหรู.. มีบ้าน หลังที่สองที่สาม
มีสตางค์ เดินทางท่องเที่ยวเกี่ยวเก็บประสบการณ์..
มีภรรยางามหรูประทิ่นทับ
ประดับโฉมด้วยเครื่องสำอางจากต่างประเทศแสนแพง..
มีหวานหวัง..ที่ยังมีอยาก..และอยาก
อยากมีนั่นมีนี่..ที่ก่อเกิดกิเลสให้ฤดีถวิลหาตลอดเวลา..
สนองโหยหา สุขวูบวับ ดับ ดับ แล้วก็เกิด เกิดใหม่..
ไปตามใจอยาก มากมีกิเลส รักในวัตถุมากมี..มิรู้สิ้นรู้จบทบทวี
จนกว่าผืนดินจะกลบหน้า
พาวกวนหลงทาง มิวางแอกแบกหนักบนบ่า
มิพากันปลดเปลื้องตราบวันตาย..
ไพล..เบื่อเหลือที่
กับชีวีวนซ้ำ กับการพบเห็นทุกแห่งแหล่งที่
มากมีมากมาย การจับจ่าย แบบมอมเมา
กับเหงาล้ำ เมื่อใจไพลคอยย้ำว่า..เบื้องหลังนั้น
ทุกครอบครัว อาจจะเป็นหนี้
หนีระบบเงินผ่อนไม่พ้น
จนต้องนอนสะดุ้งผวาไปแทบทุกครัวเรือน
ผ่อนบ้าน..ผ่อนรถ..มิทันหมด ก็ผ่อนตู้เย็น คอมพิวเตอร์
เผลออีกนิดก็คิดผ่อนโทรศัพท์มือถือ..
เครื่องใช้ไฟฟ้า ตามโฆษณามอมเมาดอกเบี้ยต่ำ
ที่กระหน่ำลดแลกแจก(และแถม..ความเครียดให้ทั่วหน้าประชาชี)
ไพล..เบื่อ การกินเกินพอดี
ที่มีทุกหัวระแหง แย่งกันเข้าคิว
กิน กิน กิน เกินอิ่ม เกินพอเพียง
จนร่างกายเดี้ยงด้วยโรคภัย และลืมสนใจการออกกำลังกาย
ทำร้ายตัวเองทางอ้อมวันแล้ววันเล่า..
ไพลกำลัง..ดายเดียว กับโลกนี้ที่หมุนวนตามกระแสโลกโศกรอ..
รอเวลาระเบิด..รายรอบบ้านเรารานรุก..บุกล้ำ ก้ำเกินกัน
ด้วยความเร่าร้อน รุนแรงแฝงไปทุกถิ่นที่ทุกประเทศ
เพราะเพียรแสวงหากันเพียงสุขเปลือกภายนอกหลอกใจไปวันวัน
จนจิตวิญญาณไร้ขวัญ
สิ้นฝันอันอ่อนโอบ เอื้ออาทร รักกันฉันท์น้องพี่
ทั่วทั้งโลกนี้ที่อยากให้เกี่ยวก้อยร้อยรัดใจเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยวกับศาสนา การเมือง การปกครอง
เพียงปรองดองรู้รักสามัคคีมั่น
สานฝัน สรรสร้างโลก ให้สิ้นโศก
มีแต่โลกอันพรายแพรวดั่งแก้ววิเศษ
ผ่องแผ้วสวยใสงาม..ด้วยนิยามแห่งคำว่ารักกัน..
สำหรับ..
ไพลเพียรฝัน เพียรสร้างพลังพยายาม ให้หัวใจ สะอาด สว่าง
คิดดี พูดดี ทำดี มีความพอเพียงเพียงพอ..
และขอเลือกโลก ทางใจใสงาม..
สวดมนต์ทุกยาม
*ให้กรรมเก่าที่ตามมาได้หมดสิ้นกันไป ไม่ขอถวิลรักผู้ใด
เพราะไพลซาบซึ้ง..คำ*ทุกข์ใดไหนเล่าเท่ารัก..
หนักดังถูกหินทับไว้ใต้หล้าโลกให้โศกครวญมิรู้จบ*
ดั่งคำตรัส..ของพระพุทธองค์.
*ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์*
ตัดรักได้ ตัดทุกข์ได้ทันที
ทุกข์ที่เป็นดังบ่วงใจ..บ่วงดวงใจ!
เลิกไหววิโยคครวญ โหยหา ห่วงใย
ละล้าละลัง หมดสิ้นพลังที่จะก้าวเดิน
ไปสู่เส้นทาง แห่งความว่าง..ความสงบ
พบเส้นทางสีขาวพราวด้วยดวงดอกพุทธะ.
เก็บมาสอนตนห่มใจบ่มดวงใจ
ให้รู้ตื่น รู้เบิกบาน
ปานประหนึ่งดอกบัวพ้นน้ำเสียที..
ให้สะอาดสวยใสเย็น
ปานประหนึ่งสายน้ำนิรันดร์
มีเรือสำเภาทองคำเทียบท่า
มารอรับสู่สะพานนิรันดร์ พาไปถึงฝั่งฝันพระนิพพาน..
ที่ยากยิ่งนัก..
มาตรแม้นตัดรัก หักอาลัย ในสรรพสิ่ง มิได้
อย่าได้หมายมาดเลยชั่วกัลป์กัปป์...
ให้ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี..
******
ไพล ไม่อยากหลงวน หลงหวั่น หลงฝัน หลงรอ หลงคอย
ราวต้องคำสาปจากชาติปางก่อน
ให้ร้าวรอน พรายพลัดพรากจากรัก..แท้..
หลงพ่าย หลงแพ้ คำเว้าคำวอนอ้อนให้ติดในวัฎสงสาร
ให้หัวใจดวงหวานดวงละมุน..ครองโศก
หนีไม่พ้นวิโยค..
โลกรักวน ซ้ำซ้ำ ตามย้ำรอย
ว่ายวนตามเพรงกรรมนำพา..อีกต่อไป
********
ทุกคืนค่ำในราตรีอันงามเงียบเรียบง่าย
ไพลเพียรทรุดตัวนั่งเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธพระผู้พิสุทธิคุณ..
ไพลเพียร ถวายพวงมาลัยจากใจดวงละมุนงาม
พร่ำกราบกรานบอกถึงความในใจ
ขอพรท่าน ให้กุศลบันดาล
ให้ใจไพลพบทางสว่างทางออกแสนงาม นามความว่าง ความสงบ
พบสุขที่แท้จริง มิพักวิ่งไปขอรอจากดวงใจใคร...
ให้รู้ลบ รู้เลิก ความฝันอันงามตระการ
ที่หลงพลัดผ่านเข้ามา
หลอมดวงชีวา จิตวิญญาณตัวเอง
ที่รอคอยมาแสนนานตราบชั่วกาลชั่วชีวิต..
ราวรอพระพรหมสรรสวรรค์ปันเศษเสี้ยวแหว่งวิ่น
ให้หัวใจสิ้นหวังได้ต่อติดเติมเต็ม..
แม้ไกลร่าง..ห่างกาลวัยวัน..
ขอเพียงจิตวิญญาณพิสุทธิ์ใสนั้น
ได้หลอมละลายกันเป็นหนึ่งเดียวบริบรูณ์..เสียที
เพียงภพนี้ชาตินี้ ..
เพียงเท่านี้เพียงแค่นี้ ก็แสนดีแสนงามแล้วนะคนดีนะดวงใจ!
30 ธันวาคม 2546 15:21 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2126
ฟังเพลงดังๆนะคะ..แค่เสียใจไม่พอ!สายเกินแล้ว..
********
นอนคว่ำหน้ากับทุ่งหญ้ากับฟ้ากว้าง
ใจอ้างว้าง ร้างร้าว ราวขวัญหาย
ถอดหัวใจ เจ็บช้ำ ที่เปล่าดาย
วางเอาไว้ แทบเท้าเธอ นะคนดี...
ตะวันโศก โลมไล้ ไปทั่วร่าง
ตรมอ้างว้าง รอฟ้าใหม่ ตัดใจหนี
ถึงใจเศร้า ดายเดียว เข้าใจดี
ว่าโลกนี้ วกวน จนใจตามไม่ทัน...
ซื่อยิ่งนัก กับเกมรัก เกมพิสวาท
ยอมให้บาด หัวใจ จนเสียฝัน
ใจดวงงาม เจ็บช้ำ จนนิ่งงัน
ใจดวงฝัน กลับงงงง หลงน้อยใจ...
โลกเรานี้ มีเสือสิงห์ ที่ซ่อนเล็บ
ฝากรอยเจ็บ ตะครุบเหยื่อ สะเทือนไหว
สมันน้อย หลงโง่งม จนเปิดใจ
ไม่ทันไร ฉีกแหลกยับ กับธุลี...
จะโทษใคร ไหนเล่า เจ้ายอมเขา
หลงเพียงเงา วูบวับ แล้วดับหนี
ทิ้งรอยแผล บนร่างร้าว ไร้ปรานี
ราวธุลี ที่แปดเปื้อนกับเกมกลของคนลวง!
30 ธันวาคม 2546 08:09 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1951
ตักบาตรรวมขัน ฝันร่วมใจในวันปีใหม่
ฉัน..เป็นเด็กบ้านนอก ไม่รู้ดอกว่า
วันปีใหม่ต้องมีขนมเค้กแพงๆ
มีลูกโป่งสีแดงๆเต็มงาน
มีของหวาน ของคาวมากมาย
ไว้ปรนเปรอแขกที่เชิญมา..ให้อิ่มท้อง
ร้องเพลงสนุกสนาน เบิกบานสราญใจ
ปีใหม่นั้น คือวันที่คุณย่า
จะจับใส่เสื้อแสง กระโปรงตัวใหม่
แล้วพาไปวัด...ทำบุญ ตักบาตร
ถวายสังฆทาน
กราบกรานหลวงพ่อองค์โต ที่อยู่ในโบสถ์
และในวันนี้
วันปีใหม่ที่..แสนดี
ที่มีโอกาสตักบาตรร่วมขัน
มาฝันร่วมใจ ไปด้วยกันนะคนดีทุกดวงใจ
หากมีงานปาร์ตี้ไม่ว่าที่ไหน
กลางกรุงกรงหรือป่าไพร
ปิดไฟมืด แสงเทียนวับแวม......
หยดน้ำตาวับวาว....
แสงเทียนกับเสียงเพลง....
ปีใหม่ล่องลอยแสนไกล
ไปในฟากฟ้าแสนงาม ยามราตรี
ที่ค่ำคืนนี้
แม้แต่ดาวก็ยังแย้มยิ้ม อวยพร ให้กับทุกดวงใจ
ส่งความสุขฝากหัวใจผ่านหน้าต่างเมฆ
เสกมนตราด้วยดวงใจรักแสนรัก
ไปถึงที่รักไปซุกซบในอ้อมตักในอ้อมใจ
หากสองดวงใจมิได้เคลียเคล้าในวันแสนดีปีใหม่นี้นะคะ
อธิษฐาน..วันมงคล ขอพร....
จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จาก แม่พ่อ ผู่ก่อกาย.....
ให้มี สุขภาพดี มีความสุข
หมดทุกข์โรคภัย ขอให้คู่ใจ
เป็นคนดี ที่มั่นคงในรัก
ภักดิ์ต่อเราตราบนิรันดร์....
ให้ดวงใจคนดีที่เรารักและรักเราทุกๆคน
พบกับโลกด้านสว่างไสว ไม่มืดบอด
มองเห็นแสงธรรมนำทาง
พาใจสว่างไสว ดังเปลวเทียน
ในวันนี้ วันดี
วันที่ได้ ผ่านปีมาเริ่มต้นใหม่อีกคราครั้ง
ให้บทเรียนในหัวใจสอนสั่งใจตัว
ให้เกิดมา สร้างคุณค่า แก่ตัวเอง ครอบครัว
และแก่โลกนี้ ที่มอบสิ่งดีๆให้มากมาย
มาทายทัก ให้เรียนรู้รัก รู้ให้ ใช่เบียดเบียน...กันและกัน...
ขอชีวีทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทย
ทุกดวงดอกฝัน...มีแต่สิ่งดีดี ทุกปีเทอญ........เพี้ยง!
*********
อย่าหยุดยั้ง
ดิโอฬารโปรเจ็ค : : Key A
อย่าไปแคร์ถึงเรื่องราว ในครั้งก่อน
อย่ามัวนอนเศร้าโศกศัลย์ เมื่อช้ำใจ
ก็ลองคิดใคร่ครวญ มันคุ้มกันหรือเปล่า
ตัดอกตัดใจบ้างเถิดหนา คนดี
แต่เธอบางคน ยังยึดมั่นภายในใจ
ซ่อนเก็บ ความเจ็บไว้
มีใครบ้างไหม เข้าใจเธอ
มียังมี คนอื่นเข้าใจเธอยังมี
อย่าสับสน อย่ากังวล ร้องไห้ไปทำไม
ทิ้งไว้ในอดีต
อยู่แห่งไหนหรือเป็นใคร เคยช้ำโศก
ใช่เพียงตัวเราที่อับเฉา ยับเยิน
ชีวิตของคนเรา ยังพบพาล หลายอย่าง
มีสุขสมหวัง มีปวดร้าว ปนเป
วันเวลา ที่แสนเศร้า คงจางไป
ไม่นาน ความสดใส ที่เธอหวังคงคืนมา
โอ้พรอันใด ศักดิ์สิทธิ์เพียงไหนจงบันดาล
สู่แดนดิน แด่ตัวเธอผู้ช้ำตรม ในดวงใจ
ให้หายความจาบัลย์
ต่อแต่นี้หัวใจเธอ มีเพียงความสบายใจ
เธอเปี่ยมล้นด้วยพลัง ที่เธอสร้างขึ้นมาใหม่
ด้วยใจ
แต่เธอก็เข้าใจ สิ่งที่แล้วพลาดพลั้งไป
เธอเข้าใจ
อย่า อย่าหยุดยั้ง ก้าวไป ดังสิ่งที่หมาย
ที่เธอ ใฝ่และฝัน ให้สมหวังดังใจปอง
โอ้เธอ
วันเวลา ที่แสนเศร้า คงจางไป
ไม่นาน ความสดใส ที่เธอหวังคงคืนมา
โอ้พรอันใด ศักดิ์สิทธิ์เพียงไหนจงบันดาล
สู่แดนดิน แด่ตัวเธอผู้ช้ำตรม ในดวงใจ
ให้หายความจาบัลย์
ต่อแต่นี้หัวใจเธอ มีเพียงความสบายใจ
เธอเปี่ยมล้นด้วยพลัง ที่เธอสร้างขึ้นมาใหม่
ด้วยใจ
แต่เธอก็เข้าใจ สิ่งที่แล้ว พลาดพลั้งไป
เธอเข้าใจ
อย่า อย่าหยุดยั้ง ก้าวไปดังสิ่งที่หมาย
ที่เธอ ใฝ่และฝัน ให้สมหวัง ดังใจปอง
อย่า อย่าหยุดยั้ง ก้าวไปดังสิ่งที่หมาย
ที่เธอ ใฝ่และฝัน ให้สมหวัง ดังใจปอง
อย่า อย่าหยุดยั้ง ก้าวไปดังสิ่งที่หมาย
ที่เธอ ใฝ่และฝัน ให้สมหวัง ดังใจปอง
โอ้เธอ...
29 ธันวาคม 2546 23:36 น.
พุด
ปีใหม่ ผ่านเลยแล้ว เป็นปีเก่า
ปีเก่าไป ปีใหม่มา
ใจเหว่ว้า ปีไหนไหน
ใจดวงเดิม ไร้รัก เติมดวงใจ
ไม่มีใคร เคียงข้าง นับเวลา
ช่วยกันนับ ถอยหลัง วันปีใหม่
รับโชคชัย สมมุติกัน คอยเรียกหา
โลกมนุษย์ สร้างวันปี ปลอบวิญญาณ์
บอกใจว่า ชีวิตนี้ ยังมีวัน
รอเริ่มต้น วันใหม่ กับทุกสิ่ง
รอรักจริง เดิมพันใจ เธอกับฉัน
เรียนรู้รัก เรียนรู้โลก เรียนแบ่งปัน
เรียนรู้ฝัน อาจเป็นจริง สิ่งรอคอย
อย่าท้อแท้ ชีวิตนี้ มีคุณค่า
จงรู้ว่า มีกำไร ถ้าไม่ถอย
โลกหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ดาวดวงน้อย
แม้สุดสอย จะไขว่คว้า มาเคียงใจ
ปีใหม่ผ่าน เลยแล้ว กลายเป็นเก่า
ปลอบตัวเรา ใจดวงเดิม เริ่มต้นใหม่
แม้ตัวไกล ใจชิดใกล้ นะดวงใจ
ปีเก่าใหม่ ยังยืนยัน มั่นรักเธอ........
**********
ดอกไม้บาน รับขวัญ วันปีใหม่
ดอกไม้บาน รับขวัญ วันปีใหม่
ดอกไม้ใจ คลี่กลีบหวาน บานรอฝัน
อรุณรุ่ง รุ้งเรียว เกี่ยวผูกพัน
ในอ้อมฝันในอ้อมใจ ไกลคนดี
ฉันรักเธอ ผ่านมา อีกปีแล้ว
เธอคือแก้ว กลางใจ ไปทุกที่
เธอคือฝัน ให้มุ่งมั่น ทำความดี
เธอคือเทพีสถิตกลางใจไปนิรันดร์
รอให้เธอ รับรัก ข้ามพอศอ
รอและรอ ด้วยดวงใจ ใฝ่และฝัน
ใจอยู่นิ่ง แม้โลกหมุน ตามตะวัน
ราวสิ้นขวัญ สิ้นไร้ พลังใจ
เปลี่ยนพอศอ ใหม่แล้ว แก้วใจพี่
โอ้คนดี ยอมรับรัก จะได้ไหม
ให้ปีนี้ มีความสุข ทุกวันไป
ยอดดวงใจ อย่าให้รอ ง้อจนตาย !
**********
พรปีใหม่จากใจรักมากกว่าเดิม
กลอนปีใหม่ จากใจดวงเดิม มีแต่จะเพิ่มรักมากขึ้นค่ะ
ปีใหม่ ขอให้มี สิ่งใหม่ใหม่
หวังสิ่งใด ขอให้ สัมฤทธิ์ผล
มีคนรัก เพิ่มมากขึ้น ทุกทุกคน
ปีผ่านพ้นอย่าท้อสู้ต่อไป
ฝันทำดี มีชัย ไปกว่าครึ่ง
คงจะถึง ฝั่งฝัน ไกลแค่ไหน
เฝ้าเตือนตน จงขยัน จำขึ้นใจ
โลกหมุนไป ให้วันดี มีทุกวัน
อย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอ อย่าแพ้พ่าย
สู้จนตาย กายใจสู้ เคียงคู่ขวัญ
สู้กับรัก สู้กับโลก เคียงคู่กัน
สู้เพื่อฝัน กลายเป็นจริง สิ่งไม่นาน
ประเทศนี้ ต้องการ คนใจสู้
เรารู้อยู่ ย่อยยับ เกินไขขาน
รอรุ่นใหม่ กอบกู้ อีกยาวนาน
ไทยต้องการ คนดี ที่รู้จริง
จงช่วยกัน กอบกู้ ประเทศชาติ
จงฉลาด เรียนรู้ทัน ทุกทุกสิ่ง
โลกภายนอก หลอกเรา ถ้าอยู่นิ่ง
รับความจริง จะสิ้นชาติ ขาดสามัคคี
จงเริ่มต้น ปีใหม่ ให้งามงด
จงกำหนด ทำดี ชีวีนี้
จงช่วยกัน เริ่มต้นใหม่ นะคนดี
พร้อมใจพลีเพื่อชาติวาดหวังใจ
หยุดฟุ้งเฟ้อบ้าตามอย่าง โลกภายนอก
หลงวนหลอกโลกวัตถุรู้บ้างไหม
ตามรอยเท้าพ่อผู้เป็นปราชญ์ปกป้องไทย
รู้ธรรมดาใจรู้เพียงพอขอเคียงดิน
นี่คือพรปีใหม่ จากใจขวัญ
เฝ้ารอวันคนดีสายถวิล
เคียงคู่กันร่ายรจนาตราบชีพสิ้น
ถึงแดนดินถิ่นแสนงามนามธรรมชาติไพร
กลอนปีใหม่ บทนี้ จำใจจบ
เราจะลบ ความหลัง ไม่เอาไหน
เราจะเริ่ม ทำความดี ด้วยดวงใจ
เราคนไทย สัญญากัน วันใหม่เอย..(วันปีใหม่เอย)
********
เด็ดดอกรักร้อยด้วยใจมาลัยขวัญ
เด็ดลดาวัลย์ทุกดวงดอกบอกรอฝัน
เด็ดดวงใจด้วยรักร้อยผูกพัน
เด็ดคืนวันฝันจากนี้มีดวงใจ...!
28 ธันวาคม 2546 07:38 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=223
ไพล..เขียนเรื่องนี้
ในขณะที่พิษไข้ยังรุมรุมสุมแทรกซุกซ่อนเศร้าในร่างใจ
ไพล..ใช้ผ้าคลุมไหล่ผืนโตกันลมหนาว
จุดเทียนหอมหอมวะวับวาว..แทนโคมไฟ พราว..รจนาเรื่อง..
อากาศยามเช้า..สดหอม..
อวลกลิ่นดวงดอกไม้เผยอแย้มกลีบสล้าง...
รับหยาดละออละอองน้ำค้าง
เสียงนกร้องยามฟ้าสาง เฉกเช่นทุกวัน..
นกเขาขันคูเสียงไพเราะมาก
ไพลน้ำตารื้นชื่นตา ฟังบทเพลงเหว่ว้า
จากสรรพเสียงมวลนกไพร
พลอยพาให้หัวใจนวลนวลนุ่มนุ่มยิ่งละมุนละไม..
ที่แม้นหัวใจจะดายเดียวสักเพียงใด ที่ยังมีเนื้อใจใสดวงสวย
ด้วยยังรับซาบซึ้งดื่มด่ำจากดนตรีธรรมชาติรายรอบที่เงียบงาม...
ได้ในทุกโมงยามแห่งชีวิต...
ไพลสร่างไข้..แต่หนาวเยือกในใจยังอยู่คู่ใจ
ที่ไพลรู้ว่าไม่นานจะชาชิน เฉกเช่นเคย....
หลายวันก่อน ไพลเช่าหนังบางเรื่องมาดู
หนังที่เกินค่าล้ำย้ำสำนึก ลึกถึงจิตวิญญาณ
แฝงปรัชญา ค่างามแห่งคำว่ามิตรภาพ
และกับซาบซึ้งถึงรักแท้ ในแง่มุมเสียสละ
ที่จะพิทักษ์รักษาโลกเราไว้ให้หอมกรุ่นอุ่นทรวง
แทนความชั่วร้ายที่หมายกลายกล้ำมาทำลายล้าง....
ไพลร้องไห้ กับหลายฉากสวยเศร้าในใจในอารมณ์
และต้องนอนสยายผมรานร้าวเศร้าซึ้งสุขฟังเพลง..ลำพัง
น่าแปลกนัก..ที่หัวใจรับหอมงาม..ในทุกนิยามความรู้สึก
ได้ล้ำลึก เสียทุกเรื่องราว .....
ไม่ว่าในฉากฝัน ฉากเศร้าในโลกจริงของทุกผู้คนที่ผ่านพบ
และไพล..ยอมสยบต่อความน่าสงสารใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวิต..
หัวใจไพล..พร้อมโอบเอื้อ..อิ่มเอม..
เหมือนยอมเชือดเนื้อใจตัวเอง
มิเกรงกลัวความเจ็บปวด..
บางครั้ง ไพลนอนมองฟ้ากว้าง..ลำพัง
น้ำตาพร่าง และเฝ้าถามพระผู้อยู่เบื้องบน
*ท่านทดสอบใจลูกพอหรือยัง
ท่านหว่านรัก หว่านหวัง หว่านเศร้า ให้มาผลิบานรานร้าว
ท่ามกลางหัวใจละไมละเมียดด้วยสงสาร..มากเกินพอหรือยัง..*
หรือว่าท่านรู้ดี..เพียง.เพียรสอนเมตตา ปรานีพร้อมพลี
ให้หัวใจลูกนี้ที่พร้อมแง้มงามแด่ทุกผู้คนทนทุกข์บนผืนโลก
พร้อมดับโศก รับทุกข์ระทม จากทุกลิขิต..มิคิดปริปากบ่น..
ให้กมลหอมหอมในหัวใจในรู้สึก..ในสำนึก..ไปยาวยืน
จนกว่าผืนดินจะกลบหน้า ....
จนกว่าความเหว่ว้าจะลาลับดับดวงใจไปตามตะวัน..แห่งดวงชีวี..
ไปตามกาลตามกรรมตามฤดี ฤดู
และตราบเท่าที่ยังคงมีอุทัยและโลกหมุน..วน..
******..
ไพล..กำลังตัดสินใจ..
จะให้รางวัลชีวิตรางวัลหัวใจตัวเอง
พ้นพันธนา จากหน้าที่ที่ร่างนี้ดำรงมานานเนิ่น..เกินจะทานไหว..
ไพล..อยากไปปลดปล่อย..โซ่ตรวนห่วงใยแห่งดวงใจนี้
ที่มักคิดถึงชีวีตัวเองทีหลังเสมอ..
ปลดบ่วงดวงใจ เพียงขณะ
พาร่างราวนกไพรโผผินเหิรบินสู่ฟ้าไกลสู่โลกกว้างทางไกลข้างหน้า
ที่มีที่เงียบงามรอท่า แดนดินถิ่นไหนก็ได้...ให้หัวใจไปตามฝัน..
ที่หวังมีดวงตะวันอ่อนอุ่นยามอรุณรุ่งกับเรียวรุ้งทุ่งนาเขียวขจี
มีอาทิตย์ละมุนหมุนลาลับฟ้า..ผ่านดงดอกหญ้าไสว
ยังมีเขียวไพรใบไม้ระบัดใบเป็นดั่งมิตรมิตรสนิทเนาในใจ....
มีดวงดอกไม้ชูช่อชัน ผลิดวงดอกฝัน.
ให้ยังมีฝันหวานหวานบานเบ่งงดงามตระการกลางใจ..
เคลื่อนดวงใจ เคลื่อนงามไสว พร่างในจิตวิญญาณ....
สู่ความว่าง ความร้างไร้..
ราวได้กลับไปสู่ชีวิตดิบเดิม..เติมต่อชีวีรักอิสราอีกคราครั้ง..
หวัง สร้างพลัง..ให้ของขวัญกับหัวใจ...
ให้หอมในนานเนารู้สึก...ลึกและล้ำ!ลำพังๆ..
หัวใจดวงหอมหอมที่ยอมพ่าย..
ธรรมชาติ..สายธาร หวานดอกไม้ รักสายฝน
รักแสงตะเกียง รักเสียงจากธรรมชาติไพร
รักกระท่อมใบไม้ รักดวงใจนิ่มนวลละเมียดละมุน
รักแสงเทียนอบอุ่นในยามค่ำ รักตะวันตกดิน
รักทุกสิ่งที่เงียบงามร้างไร้ให้ชีวีงามเงียบ
รักเส้นทางสายธรรมชาติสู่ไพรลึก
รักดำดิ่งล้ำลึกจิตวิญญาณไพร
รักทะเลสวยใส น้ำค้างพรม ลมยามดึก
เดือนเสี้ยว จันทร์เศร้า ดาวพร่างพริบ
ละลิบทิวทิพย์เมฆ ..
และบทเสกมนตรารจนาภาษาสวย
จากสมองสองมือของกวี..ของบทกวี..
*******
ให้หัวใจดวงดี..ยังคงรู้ค่าของเกิดมาเพื่อ*ให้*
ให้หัวใจหอมหวานบานซึ้งสุขด้วยเมตตา
และพร้อมพลีชีวายอมเจ็บปวดรวดร้าวใจ
พร้อมสู้..พร้อมทน..เพื่อคนที่รักตลอดไป..ไม่ไหวหวั่นเลย!
และมาตรแม้นหัวใจรักยังไม่ตรอมถึงตาย
ขอหมายมาดชูช่อรักให้ชื่นฉ่ำร่ำรสรมย์
พรมพร่างงามแด่ทุกดวงใจ
ในทุกที่ทุกฤดีดวง..นะยอดดวงหฤทัย
และณ...
ร่มรักเรือนไทยแห่งนี้..
ที่อยากขอฝากชีวีจิตวิญญาณรักรจนา
ตราบจนกว่าไฟฝันแห่งดวงชีวา
จะมอดลับดับไปตามกาลกรรมชั่วนิจนิรันดร..!
********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=223
ขวัญเรียม
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ ของเรียม
หวนคิดผิดแล้วขมขื่น ฝืน ใจเจียม
เคยโลมเรียม เลียบฝั่ง มาแต่หลัง ยังจำ
คำ ที่ขวัญเคยพรอดเคยพร่ำ
ถ้วนทุกคำยังเรียกยังร่ำเร่าร้องก้องอยู่
แว่ว แว่ว แจ้ว หู ว่าขวัญชู้ เจ้ายังคอย
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม...