4 เมษายน 2547 22:12 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336
************
ฟ้าหลังฝนหลงฤดู พรูพร่างกลางสนธยาฝัน
ไร้เรียวรุ้ง..คุ้งโค้งพาดผืนฟ้าไกล
งามดวงใจไยหมองเศร้ายามแหงนเงยดูเมฆหม่น
ไม่มีจินตนาการ ไม่มีหวานใด ไม่มีใครคิดถึงคะนึงหา
ไม่มีกาลเวลาแห่งอดีตลาเลยลับกลับมาเตือนใจให้จำจด
ไม่มี ห่วงหาอาวรณ์ ไม่มีอ้อมแขนอ้อมกอดใคร ให้ถวิลหา
ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ ไม่มีฝันไม่มีหวัง..
ไม่มี ไม่มี และไม่มี...
เหลือเพียงความว่างเปล่า มองโลกเหงางามเงียบ
เพียงสีเดียว สีเดียวดาย
สีสิ้นไร้ คล้ายโลกสีน้ำเงินเพียง ลำพัง...และลำพัง
เด็ดลั่นทม ชมพู พราว เสียบแซมผมริมเรียวแก้ม
ดูใบไม้แล้งไร้คล้ายใจคนแล้งน้ำ
หักใจรัก..สลัดใจ..สลัดกลีบทั้งดอกใบ..ดอกใจ..ร่วงกระจาย!
************
หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน
คงปลิดหล่นปลิดหล่นคล้ายชีพนี้
เพราะหัวใจไม่ใช่ดอกฝนนะคนดี
จึงวันนี้แหลกยับดับภายใน
หากหัวใจปลิดกลีบได้คล้ายดอกไม้
คงปลิดร่ายพรายพรมลมพัดไหว
เพราะหัวใจมิใช่ดอกไม้นะดวงใจ
จึงหวั่นไหวเสียใจเพียงลำพัง..
หากหัวใจปล่อยได้คล้ายสายฝน
คงปล่อยหล่นปล่อยหล่นหมดสิ้นหวัง
แตกกระจายคล้ายแก้วแล้วกระมัง
ไร้ฝั่งฝันฝั่งใจใครเฝ้ารอ...
เพราะหัวใจปลิดไม่ได้ในวันนี้
จึงต้องมีหัวใจไหวเพ้อพ้อ
จึงต้องทนคนไม่รักใจดำพอ
จึงต้องขอกล่าวคำลาว่าเสียใจและเสียใจ...ไปจนตาย!
***********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336
ปีศาจวสันต์ ..... สุนทราภรณ์ บุษยา รังษี : : Key F
เรา จากกันวันนั้นยังจำ
จากกันวันนั้นฝนพรำ
พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร
ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน
ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน
เรา จากกันวันนั้นนานมา
แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย
ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย
มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี
ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน
ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้
ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี
ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม
ไป จากไป ไปแล้วไปเลย
อย่ามาชวนชิดชวนเชย
ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์
ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม
เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว...
4 เมษายน 2547 00:20 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=347
*********
บันดาลใจจากงาน*หอมกลิ่นปทุมลานลุ่มธาร*
งานงามของลำน้ำน่านค่ะ
รจนาเพื่อจะตอบบทกวีนั้น
หากทว่ามันยาวไป..ก็เลยนำมาไว้นะที่นี่นะคะ
ด้วยรักค่ะ
*************
บัวกลางใจไหวช่อรอน้ำค้าง
อุษาสางแว่ววิหคนกไพรฝัน
คืนสู่ถิ่นถวิลนาตามตะวัน
อรุณขวัญรอรับรักกลับรังใจ...
บัวคลี่ดอกจากเปลือกตมระทมทับ
นานเนิ่นนับเหยื่อมัจฉาน่าเศร้าไหว
บัวแล้งน้ำรอวสันต์พลันพร่างใบ
รอน้ำใจหยาดรินสิ้นฤดี..
บัวพ้นน้ำได้อย่างไรไม่มีน้ำ
รอสายธารหวานระรินสิ้นชีพนี้
มีสายธารราวสายทองล่องชีวี
นำทางที่แสนงามนิยามใจ
บัวสีขาวบานพราวหน้าพระพุทธ
พระผู้พิสุทธิคุณศรัทธาใส
ดอกบัวงามตามแย้มติดเตือนใจ
ดอกบัวใจพลันคลี่พร่างกลางสายธรรม
เป็นความงามเรียบง่ายทางสายเซ็น
น้อมใจเห็นธรรมชาติยามเช้าค่ำ
งามแสนงามแสงเทียนในโบสถ์คร่ำ
สมาธินำทางใจเลิกไหวรับ
เหมือนอรุณหมุนดาวศุกร์แสนสุกใส
งามพร่างใจในยามเช้าน้ำค้างจับ
แหงนเงยมองผ่านดอกบัวคลี่หวานรับ
งามรำงับดับดวงใจไหวรู้ทัน
ขุดบ่อบัวบานกลางใจรับงามเงียบ
กลางเย็นเยียบงามงอกดอกดวงขวัญ
ไม่มีสุขทุกข์ก็หายกลางเงียบงัน
ไร้สวรรค์สิ้นนรกยกว่างใจ
ขอเพียรธรรมนำทางสร้างกุศล
กลางกมลบัวตระการบานไสว
พลีรักสิ้นหยาดน้ำตาล้างเท้าเจ้าดวงใจ
เดินตามไปในร่มธรรมนำนิพพาน..
เคย..เคยมั้ยคะ..
ที่คุณปลุกร่างและหัวใจ
ให้ลุกขึ้นมาจากนิทราฝัน
มาดูน้ำค้างพร่างกลางกลีบเกสรดอกไม้
หรือกลางกลีบบัว ใบบัว ที่ชูช่อชันไสว
เฝ้าดูดาวพรายฉายแสง
ตอนเช้าตรู่ ดูรัศมีแข รัศมีดาวประกายพฤกษ์อันสุกใส
และรับพร่างไสวไว้เต็มนัยน์ตาเติมจิตวิญญาณ
ผ่านความงามอย่างสงบนิ่ง ลึกล้ำในสมาธิ
อย่างที่พระเซ็นเชื่อกัน
*ยามเช้าในความหมายของพระเซ็น...โดยชานีในนิตยสารดิฉัน*..
พระเซ็นเชื่อกันว่า..พระพุทธเจ้าตรัสรู้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม
ขณะพระองค์ทอดพระเนตรไปยังดาวที่ฉายแสงเมื่อตอนเช้าตรู่
ดาวดวงนี้ คือดาวพระศุกร์
พระองค์ทอดพระเนตรเห็นรัศมีอันสุกใส
ของดวงดาวนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ทรงอยู่ในสมาธิ
และ
ทรงรับเอาแสงสว่างสุกใสนั้นไว้
จนกระทั่งรัศมีเรื่อเรืองนั้นแทรกเข้าไปในพระเนตรของพระองค์
และทำให้พระองค์ตรัสรู้..
และนับแต่นั้นมา..พระเซ็นจะยึดถือเอาการตรัสรู้
ของพระองค์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ
และฝึกสมาธิกันอย่างเข้มข้น
จนกระทั่งถึงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม
ซึ่งเปรียบเสมือนการสอบไล่
ที่จะใช้ทดสอบการปฏิบัติที่ผ่านมาทั้งหมด
และรอว่าตนจะได้รู้แจ้งแทงตลอดแบบเดียวกับพระพุทธเจ้าหรือไม่*
****************
และ
เคย เคยมั้ย
ที่คุณยอมสลัดผ้าห่มคลุมร่าง
และปอกเปลือกความสุขจากเนื้อหนัง
ให้ตื่นมาทันได้ เติมพลังใจไฟฝัน
พลังสด พลังปราณในยามเช้าอย่างผู้เข้าใจโลก
เข้าใจธรรมชาติรักธรรมชาติ รักธรรมะธรรมดาชีวิต
ที่ต้องเพียรใช้พลังจิตภายในอันสวยใสสงบงาม..เพียงนั้น
จึ่งจักได้มา ซึ่งซึ้ง นาทีทรงค่า
ที่จะเติมต่อบ้านภายใน นวลเนื้อใจ
ให้เงียบเรียบเย็นแนบสนิทเนียน..
ยามเช้า..ที่
เคย..เคยมั้ย..ที่คุณ
เปิดเพลงบรรเลงฝันฟัง
อย่าง*สายน้ำนิรันดร์ ริมฝั่งเนรัญชรา
สายธารธรรม พระโพธิแก้ว*และ แล้วล้วนตามใจรักใจชอบ
หรือฟังบทเพลงกลิ่นอายลูกทุ่งอย่าง..
ดอกจานบานรอ..สี่ในสี่ห้องหัวใจ และสาวชาวสวนส้มโอ..
เพื่อเปิดใจพลีพร้อม..รอ..
ดวงตะวันอ่อนอุ่น
ที่จะหมุนโผล่พ้นดงไม้รำไรดงไผ่ ดงดอกหญ้า
ระเรื่อเรื่องเหลืองละออละอองทองผ่องผุด
หรือ
ตะวันแดงฉ่ำตัดฉับรับกับทะเลผืนงามสีมรกตสีเทอร์ควอย์..
อันเงียบงามสงบใจ
หรือ
ดงป่าปูนกลางกรุงกรง
ก็ยังคงให้แสงละมุนงามใจ
ในแบบมากับเหลี่ยมมุมตึกดูงามลึกลับ
ไม่เลือกที่รักมักที่ซ่อนดวงอ่อนหวาน
บานโตเท่ากระด้งฝัดข้าวในราวเมืองใหญ่
และกับไพรพนา
ที่มีบึงบัวหลากสีพร่างพรรณ
เหมือนอย่างในงานงามลำน้ำน่าน
ที่หวานพิสุทธิ์แฝงคำสอนของพระพุทธองค์
ให้พุทธศาสนิกชนทุกดวงใจ
เตือนใจงามตามธรรมชาติใจธรรมดาคน
ที่ผสานผสม ทั้งดินน้ำลมไฟ
ให้เรา ถึงพร้อมยอมรับความเป็นจริง
ว่าทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน เท่าสัจจธรรม
อันเป็นคำสอนจากพระบรมศาสดา
จากพระธรรมทองธรรมทานนานนับ
มาเกินกว่าสองพันห้าร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว
และจักเป็นความจริงอมตะนิรันดร์ชั่วกัลป์กัปป์..
2 เมษายน 2547 16:04 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1305
*******
อ่านอ.ส.ทฉบับใหม่แล้วใจเศร้า
ใจดวงร้าวราวเบื่อโลกโศกหลงฝัน
กับผู้คนมากมายหลั่งไหลกัน
สู่คืนฝันวันพระจันทร์หวานผลาญพะงัน..
ใจดวงเดิมเสียดายโลกใบเก่า
โลกงามเหงาเงียบใจราวสวรรค์
ไร้ผู้คนใจร้ายทำลายวัน
คืนงามฝันจันทร์งามใจในโลกจริง...
มาวันนี้พะงันมีทั้งสองด้าน
ทั้งตระการธรรมชาติฝากใจนิ่ง
ทั้งปาร์ตี้พี้ยาฝันกันระวิง
ทั้งสองสิ่งราวสวรรค์นรกตกพร้อมกัน..
น้ำตาฉันจึงหลั่งล้นท้นใจรับ
หนาวใจนับนึกย้อนคืนเยาว์ฝัน
ภาพเด็กหญิงน้อยนอนนับดาวนับร้อยพัน
กับทะเลฝันตรงหน้าสุดตารัก..
เขาบอกว่าใครมีที่งามดั่งทองของแหนหวง
ใจสาวดวงกลับแล้งโรยโหยไห้หนัก
ใจดายเดียวแปลกแยกแผกใครนัก
เมินเงินรักกลับอยากเห็นเน้นงามใจ...
ไม่อยากขายที่ดินผืนดินเกิด
ใช้ชีวิตเลิศสุดหรูสักปานไหน
ใจดวงดีดวงงามนิยามใจ
ไม่หวั่นไหวโลกวัตถุใจรู้พอ..
จึงตัดใจไม่คืนถิ่นแผ่นดินฝัน
น้ำตาขวัญหวั่นพร่างทะเลพ้อ
หนีนิยามงามเรืองรุ่งรู้รักรอ
พาร่างขอไกลห่างทางมากคน..
พาหัวใจไหวหวั่นพลันสู่พฤกษ์
ในยามดึกหนาวน้ำค้างหนีสับสน
ไร้เสียงใดไร้ใครคนวนวกวน
มีหยาดฝนใสพร่างกลางใจจำ..
อาจจะโง่อาจจะหยิ่งทิ้งเงินล้าน
อาจจะหวานอาจจะเศร้าหนาวเจ็บช้ำ
ขอเดียวดายดายเดียวไม่ครวญคร่ำ
รินระกำลำพังหวังเงียบงาม
จึงหนีโลกย์โศกสุขยอมเปลี่ยวร้าง
กระท่อมว่างไร้สิ่งใดใจวาบหวาม
รจนาบทกวีฝากโลกนี้ถึงเงียบงาม
ฝันทุกยามคืนโลกนี้มิเสียใจ...
ขอสยบพบทางออกลบชอกช้ำ
สวดมนต์พร่ำหน้าพระพุทธพิสุทธิ์ใส
ลูกยอมรับเงียบงามสงบใจ
ท่ามกลางไพรไร้ใครสิ้นถวิลลา...
ปลูกดอกไม้ให้หอมใจในร่มรัก
เรือนแห่งภักดิ์ฝากวิญญาณผ่านโหยหา
ห่างไกลโลกย์หนีรักโศกชั่วชีวา
ยอมเหว่ว้าจนยากหากภูมิใจ...
***********
อ.ส.ท.ฉบับล่า พาไปเที่ยวผืนดินเกิด
เปิดดู ความเพลิดเพลินของผู้คน
ที่พากันหลั่งไหลไปผลาญพร่าพรหมจรรย์พะงันงาม
ใจดวงฝันพลันน้ำตาก็ร่วงก็ริน
อธิบายใจมิหมดสิ้น ถึงถวิลถึงเสียดาย..
คล้าย*โลกใบเล็ก*งามเงาในวัยเยาว์ในอดีต
ลาลอยลับแหลกยับนับธุลี ในไม่ช้า ลาไกล
อาจจะคิดไม่เหมือนใคร
ที่ยอมถอดใจไม่อยากหวนคืนหลัง
ให้น้ำตาละหลั่งรินด้วยเสียใจเสียดาย
ให้ฝั่งฝันรอรับเพียงร่างรักนิรันดร์
ในวันหนึ่งที่ปราศจากลมหายใจ
แต่..
สำหรับวันนี้ ขอแค่หนีผู้คนอลวนอลเวง
กระเตงมากันแทบล้นทะลักเกาะ
ทั้งหวังมาพักพึ่งพิง ทายทัก
และทำลาย งามง่ายให้หมดสิ้นไปในเร็ววัน
แบบไม่ไยดี แบบผู้ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป
มิใช่เนื้อใจเนื้อดินเดียวเกี่ยวเกาะรักร้อยสร้อยโซ่รัก
ใจดวงร้าวจึงเศร้ายับจนสุดรำพันรำพึง
กับคืนฝันวันแสนดีที่ใจดวงงามนี้
เคยสัมผัสร้อยรัดรึงตรึงใจไปตราบชั่วกาล
ให้ใจดวงร้าวยิ่งคะนึงเจ็บลึกยามนึกย้อน
ยามนอนดายเดียวร้างไร้ผู้ใดและดวงใจแสนสงบงาม
ไกลห่างนิยามโลกวัตถุโลกศิวิไลซ์
ห่างไกลแววตาทะเยอทะยานอยาก
มากด้วยกิเลสแห่งน้ำเงินงาม
แทนที่จิตวิญญาณรักผืนดินพื้นพสุธา
ไม่รู้ค่า..สงวนไว้..
ให้งามตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
**********
หัวใจละเหี่ย....... มาลีฮวนน่า : : Key G
บางครั้ง หัวใจ ละเหี่ย
เหนื่อย ท้อแท้
นั่งเศร้า คนเดียว
หนทาง ยาว ไกล
หนทาง ยาว ไกล
ก้าวไป คนเดียว
โลกนี้ มันสับสน
ผู้คน ผู้สร้าง
เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง
เส้นทาง ที่เดิน
ย้อนมอง กันบ้างไหม
เหนื่อยล้า กันเท่าไร
กี่ครั้ง ที่คุณ
น้ำตาไหล ออกมา
บางครั้ง หัวใจ สะอื้น
เหนื่อย สุดฝืน
สะอื้น คนเดียว
ขอเพียง หนึ่งเดียว
คือใจ ของเธอ
เพียงเพื่อปลอบโยน
คนที่เดียว ดาย
โลกนี้ มันสับสน
ผู้คน ผู้สร้าง
เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง
เส้นทาง ที่เดิน
ย้อนมอง กันบ้างไหม
เหนื่อยล้า กันเท่าไร
กี่ครั้ง ที่คุณ
น้ำตาไหล ออกมา
บางครั้ง หัวใจ สะอื้น
เหนื่อย สุดฝืน
สะอื้น คนเดียว
ขอเพียง หนึ่งเดียว
คือใจ ของเธอ
เพียงเพื่อปลอบโยน
คนที่เดียว ดาย...
1 เมษายน 2547 07:32 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290
***********
ปิดไฟมืด
ปล่อยน้ำตาพร่างริน..เงียบเงียบ
นอนดู จันทร์ครึ่งดวง ใจครึ่งเดียว ดายเดียว
เหมือนวันก่อน เหมือนคืนเก่า นานเนา มาไม่รู้นับไม่อยากนับ
ใครบางคน ใคร่ถาม
งามใจไยเหลือครึ่งเดียว
พอกับเสี้ยวจันทร์พอกันกับเสี้ยวใจ
ก็..ไม่รู้เหมือนกัน
เกิดมากับใจดวงนิ่งงัน ฝัน ฝัน ฝัน
จำได้ใจมีแค่นี้มาตั้งแต่เกิด
ใจดวงนี้ไม่เคยเต็ม แต่กลับเห็นงามอิ่มเต็มได้
ในทุกรายละเอียดของสรรพสิ่งจากธรรมชาติรายรอบชีวิต
มีทั้งเศร้า..สุข ทุกข์ปลง
กับชีวิตผู้คน
ผู้มีร่างจนและ..เนื้อใจยังแห้งผาก..พอกันกับทะเลทราย
ที่ยังเทียบมิได้เพราะมีโอเอซิส ให้ดื่มกิน
หากคนบางคน สักกะนิ๊ดนึงไม่มี หาดูไม่มีเลยในการกระทำ
มีเพียงคำลมลมลม ลิ้นขมขมขมเคลือบน้ำตาล
ราวยาพิษ ฆ่าฆ่าฆ่า ใจ แค่นั้นก็แค่นี้
ที่พลีมอบให้กัน
ก็แปลกดีจัง แปลกดี..ใจ
ทำไมการทำดีต้องมีเงื่อนไข
เลือกให้ไป...แม้นกับใครที่ไม่เคยให้มา..
แต่กลับ
ไร้ค่าแล้งไร้กับคนมากมายมากมีน้ำใจให้
ก็แปลกดีก็แปลกใจ..ก็นี่ไงก็คนคนคน
วันนี้.พาใจเศร้าหลาย
อ่านสาวเภสัช กินยาตาย
อยากร้องไห้แทนดวงใจแม่พ่อพี่น้อง
เพราะประโยคในข่าว
เธอ เฝ้าโทรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หาคนรักสักประมาณร้อยครั้ง..กระมังได้
แล้วไยเล่า..เขาเฝ้านิ่งเฉย..ไฉนเลยฉะนี้หนอ
จนสายเกินการณ์เกินแก้
เพราะประมาทไม่รู้ทันรู้เท่าไม่เข้าใจ ไม่ทันการณ์กรรม..
คนดี..เพราะหัวใจคนเรานี้..มักเห็นแก่ตัว..เห็นแก่ได้
หากสิ้นไร้ใจ แม้นเยื่อใยแห่งมิตรภาพยังเลือนลืม
เชือดเฉือนโหดร้าย ให้ถึงตายได้โดยไม่เหลียวมอง
ว่าเคยครองปองใจกันมา..
แน่นอน..เรามิอาจพิพากษาใจใครได้
เพียงใช้คอมมอนท์เซนส์ จากความเป็นคนนอก
เพียงแค่อยากกระซิบบอกเป็นอุทาหรณ์สอนสั่งใจ
บทเรียนใจแด่ทุกดวงใจวัยรุ่นวัยรักวัยระเริง
ให้เข้าใจคำว่ากองเพลิงแห่งรักแบบมืดบอดขาดสติ
และยอมพลีแม้ชีวีที่แม่พ่อเพียรก่อสร้างเกิด
จากหยาดเลือดและหยดน้ำใจอันประเสริฐ
อันใสพร่างอันงามรัก รินรดมายาวนานนัก
ดั่งลำธารรักบริสุทธิ์มิรู้สิ้น
แล้วไยเจ้ามิเคยถวิลหันมอง รักอันผุดผ่องไม่มีเงื่อนไขนี้
ยอมพลีชีวีเพียงเพื่อคนที่เจ้าพบไม่กี่วัน
แถมเขาปันใจแปรไปไม่แน่ไม่นอน
และ..
อยากกระซิบบอก..สุภาพบุรุษผู้ชอบหักอกสาวสาวสาว
ยามจะตัดรอนรัก..หากมีเนื้อใจละไมละมุน
โปรดพิจารณาไกล คิดถึงใจเขาใจคนใจใครใจแม่พ่อครอบครัว
ได้โปรดให้รักเข้าใจ ค่อยเป็นค่อยไปอย่าหาญหัก
ให้เกิดรักร้าวเศร้าผิดเป็นรอยกรรม ย้ำรอยใจในใจตนไปตราบชั่วกาลเลย
เพราะ..เขามีแม่พ่อ มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ มีความรักความจริงใจยิ่งใหญ่มอบให้เรา
จงการุญย์กรุณาเมตตา หาทางสวยงามสละสลวย
อย่าให้ม้วยด้วยความหยาบ กระด้างแห่งจิตที่คิดแค่ว่าน่ารำคาญ..ใจ
****
รจนาใจไม่ออกเลยค่ะ
เพราะสองวันมานี้ รับบทเป็นศิราณีจำเป็นมาสองราย
คล้ายๆกันเลย
คนสองคนสองเพศแต่รักแบบพลีให้
ให้วัตถุให้ร่างใจหมดสิ้นเลย..
แต่คนรับ..กลับ
ได้จนเคยจนเฉยจนชาชิน
แม้นเพียง
เขา..เธอ..ถวิล
ขอเพียงแค่อ้อมกอด จากยอดรัก
แลกกับกำลังใจ
ยอมช้ำชอกเสียใจน้อยใจ
ยอมลำบาก..แลกเปลี่ยน
ดูวนเวียน หากคิดให้ดี นี่คือชีวีคนในวันนี้.ที่แสนเหงา
ทั้งเราเขา..และหลายๆดวงใจ
โลกมือถือสื่อรักระบายใจ
จึงระบาดระบัดให้คุณทักษิณรวยเอ๊ารวยเอาไงละ
ก็...
แค่มาระบายใจ แต่คนรจนากลับไม่ค่อยสบาย
เวียนศรีษะอยากอาเจียนทั้งวัน
คงเป็นความอัดอั้น เหนื่อยใจเพลียใจ
กับหัวใจคนหัวใจใคร
ในโลกแล้งใจ..แล้งในจิตวิญญาณรักละมุน
ที่หมุนวนวันละไม่รู้กี่หนกี่ครั้งต่อวัน...
หวังเพียงบันทึกร้าวนี้คงพอให้ทุกดวงใจได้ตระหนักชัด
ทำสิ่งแสนดีมีน้ำใจแก่กัน ก่อนวันจะสายเกิน!
**********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290
รักเอย
ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key C
รัก เอย จริงหรือที่ว่าหวาน
หรือทรมานใจคน
ความ รักร้อยเล่ห์ กล
รักเอยลวงล่อใจคน
หลอกจนตายใจ
รัก นี่ มีสุขทุกข์เคล้าไป
ใครหยั่งถึงเจ้าได้ คงไม่ช้ำ ฤดี
รัก เอย รักที่ปรารถนา
รักมาประดับชีวี
หวั่น ในฤทัยเหลือที่
เกรงรักลวงฤดี รักแล้ว ขยี้ใจ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮือฮื้อหื่อฮือฮื้อ
ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้
กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮือฮื้อหื่อฮือฮื้อ
ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้
กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ
หื่อหื่อฮือฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ...
30 มีนาคม 2547 13:35 น.
พุด
คลิ๊ก URL ฟังบทเพลงนี้ให้กระแทกๆๆใจนะคะคนดีทุกดวงใจ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3304
ชอบภาพนี้ค่ะ
เหมาะกับคนที่ไม่ได้สักอย่างไม่มีสักสิ่ง..ไม่มีที่ไป..
พอกันกับใจคนรจนาเลยค่ะ
***********
ดวง..ยืนเดียวดาย
ตรงชานเรือนไทยหลังใหญ่มหึมา
มีสะพานเหว่ว้าทอดยาวสู่ลุ่มธาร
ขนาบข้างด้วยดอกบัวหลวงพร่างสี..
ปทุมวดีดวงดอกไฉไลสะพรั่งกระทั่งแม้นในความมืดหม่น
คืนเดือนแรม...
เงยแหงน ดูจันทร์เสี้ยว ดวงเศร้า
เห็นดาวเคียงเดือน
เหมือนอย่างในภาพวาด..ส.ค.ส..ยังไงยังงั้นเลย
ฟ้างามเข้มเต็มผืน สีกำมะหยี่
มีดาวราตรีแตะแต้มฟ้าประปรายให้พิลาสพิไล
เหนือ*ร่มไม้ให้ดอกหอม*
เหนือเรือนไทยแสนงาม
ดวง
คิดถึงบทเพลงของENYA
Paint Sky with the Stars
และในจินตนาการแสนหวาน
ราวดวงยืนหันร่าง
สลัดแปรงพร่างดาว..ให้พรึบเต็มราวฟ้า..โอ้ลั้นล๊า
เสียงเพลง
*ได้อย่างเสียอย่าง* ลอยลมมาจากห้องภายใน
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3304
ได้อย่างเสียอย่าง... อัสนี-วสันต์ โชติกุล : : Key C
จากเคยรัก อยู่
จากเคยรัก กัน
กลับมาไหว หวั่น
กลับมาเหิน ห่าง
ก็ใจของ เธอ
แบ่งเป็นสอง ทาง
แบ่งเป็นสอง อย่าง
เกิดลังเล หัวใจ
ก็มันเห็น อยู่
ว่าเธอมี ใจ
ให้กับเขา คนใหม่
เท่ากับฉัน คนเก่า
เก่าก็แสน ดี
ใหม่ก็เข้า ที
แต่จะให้ ดี ต้องเลือกไป
ได้ อย่าง ก็ต้องเสีย อย่าง
เลือกเดินบนทางสักทาง ได้ไหม
เลือก มา ว่าจะรัก ใคร
ก็อยากให้เธอปักใจ เสียที
หากว่าเขา ดี
ก็ไม่ว่า ไร
ก็จะเข้า ใจ
และจะไป เสียที
ปล่อยเอาไว้ นาน
อาจจะไม่ ดี
บอกกันเสีย ที จะเลือกใคร
ได้ อย่าง
ก็ต้องเสีย อย่าง
เลือกเดินบนทางสักทาง ได้ไหม
เลือก มา ว่าจะรัก ใคร
ก็อยากให้เธอปักใจ เสียที
หากว่าเขา ดี
ก็ไม่ว่า ไร
ก็จะเข้า ใจ
และจะไป เสียที
ปล่อยเอาไว้ นาน
อาจจะไม่ ดี
บอกกันเสีย ที จะเลือกใคร
บอกกันเสีย ที
ได้ อย่าง ก็ต้องเสีย อย่าง
ให้มันเสีย บ้าง
เลือกสักทาง ว่าใคร
อยากจะได้ มา
ก็ต้องเสีย ไป
แต่จะเสีย ใคร ให้มันรู้
อยากจะได้ อย่าง
ก็ต้องเสีย อย่าง
ให้มันเสีย บ้าง
เลือกสักทาง ว่าใคร
อยากจะได้ มา
ก็ต้องเสีย ไป
แต่จะเสีย ใคร ให้มันรู้
อยากจะได้ อย่าง
ก็ต้องเสีย อย่าง
ให้มันเสีย บ้าง
เลือกสักทาง ว่าใคร
อยากจะได้ มา
ก็ต้องเสีย ไป
แต่จะเสีย ใคร
ให้มันรู้...
*********
เสียงดนตรีกระแทกใจสะท้อนใจสะเทือนใจ
โดนใจ..ใช่เลย.
.คนเรามักจะได้อย่างต้องเสียอย่างเสมอ
จะมีใครกันสักกี่คน ที่โชคดีได้ทุกอย่างหรือเสียทุกสิ่ง
และ
สำหรับดวง
ในค่ำคืนนี้ที่แสนดายเดียว
แค่อยากได้..อย่าง..และไม่ยอมเสียสักอย่าง
เพราะเป็นแค่ความอยากในฝันในจินตนาการ
แค่หลับตา
ให้เธอ..คนดีมายืนให้เคลียไหล่ฝากใจ
พิงร่างชี้ชวนชมบัวพร่างงามด้วยกัน
ตามประสาใจคนช่างฝันแสนหวาน
ที่รับงามละมุนนวลในทุกถ้วนได้พอกัน
แต่..
ไม่ได้สักอย่าง ไม่เสียสักสิ่ง
เพียงใจนิ่งๆงง งง
หลงพ้อจันทร์หลงเพ้อใจหาใครคนนั้น
แค่ฝากใจกับจันทร์ฝากฝันไปกับดาว
ว่าร้าวว่าเศร้า ว่าเหงาสุดทนแล้วนะใจแล้วนะจันทร์
ก็เท่านั้นก็เท่านี้..และ
กับฝันค้าง ค้างๆนี้
ที่นับวันนับเดือนนับปี..
และคงต้องนับนับนับ
ทุกทิวาราตรีตราบชั่วกาลชั่วกัปป์
กับ*มหัศจรรย์รักนี้
*ที่ไม่..มิแม้หวังให้เป็นจริงได้เลย
โอ้ละเอ๋ยโอ้ละเห่หัวใจดวงนี้ดวงดีที่พลี
*ร้องไห้กับเดือน*มาจนถึงนาทีนี้ไม่รู้สักกี่ที่กี่ครั้งแล้ว..
เรือนไทยยังงามรุ่ง
ด้วยแสงจากไฟพริบๆระยิบระโยงตามต้นไม้ไทยๆ
ที่สูงพร่างอย่างทันอกทันใจ
เสกสดชื่นระรื่นตาใจ
กับพันธุ์ไม้นานาราวเนรมิตรพฤกษ์พง
ปีบใบระยับตา
เลยหลังคาเคียงพญาสัตตบรรณ
ช่อชั้นแฉกแตกตระหง่านงาม
ตามด้วย
ชมพูพันธ์ทิพย์ ละลิบพวงรวงดอกร่ายลม
ตะแบกตรมผลิดวงดอกพราว
ปลิดหวานเศร้าม่วงสะออนรอนภิรมย์พื้นพรายให้หอม
ไม้ดอกยังมีหิรัญญิการ์ กอขาว
พราวเลื้อยซอนวอนหวานออกช่อละออนวลปลายกิ่ง
บุหงาส่าหรี..ที่มิยอมนิ่งงามรอซุกซอกใบ
ราชาวดี..ไม้พุ่มโปร่ง ดอกไสวให้หอมแรงแย้มตระการ
เทียนกิ่งงามพริ้งดอกแดงพรายปลายกิ่งเกสร
อีกทั้งดอกสร้อยฟ้า
ดอกเดี่ยวสีฟ้าอมม่วงคลี่รวงละออละออง
แผ่แร่เร่ให้เห็นเกสรภายใน
และทั้งดวงดอกเล็บมือนาง ลั่นทม
ดอกพุดซ้อนพากันอ้อนออกดอกฟ้อน
รับสายลมร้อนในยามค่ำ..พร่ำภิรมย์พิไร
ให้หอมในร่มไม้ใบ ในร่มใจร่มรัก..
********
ราตรียังเพิ่งเริ่มต้น
ทุกคนยังสนุกสนานเฮฮา
พากันกระทืบเท้าฟังบทเพลงสไตล์คั่นทรี่ขับกล่อม
ในขณะที่หัวใจดวงสะออนของดวง..กลับ
ลอยล่องกลับกระท่อมร่มเรือนไทย
คิดถึง
บทกวีสวยใสจากดวงใจทุกดวงของผองเราเนานาน..
ที่แสนงามทั้งหวานเศร้าเคล้าคลุกสอนใจ..ในทุกคืนค่ำร่ำรมย์
มิให้ตรมนาน
ต่างพากันผลัดให้งามห่มหอมหวังกอดประคองใจ
ปลอบประโลมใจไปด้วยกัน ในร่มขวัญร่มรักสามัคคี..
ที่มีเงางามนามนิยามนาม*ปีกฟ้าคนดี*
คลอบคลี่คลุม ให้สิ้นกลุ้มสิ้นร้าว..
ราวฟ้าเมตตามอบน้ำใจ
ดั่งสายพระพิรุณพิสุทธิ์ใสให้ชีวียังมีหวัง
มีหวานมีดาวให้เงยแหงนแทนใจรักระบายได้ไขว่คว้า
ในทุกราตรีงามเลยทีเดียว
********
ในสายลมพลิ้วไหว
ในดวงใจดวงดายเดียว
ดวงแหงนเงยดูจันทร์เสี้ยวอีกหน
ปล่อยเรียวฝนจากปลายตาให้ฟ้ารับรู้...อีกครา..
**************************************************
ด้วยร้อนนักอยากพักร้อน
และกับอ้อมแขนอ้อมใจเธอ
แค่อยากอ้อนอยากบอกเธอ..
ทันที่ที่ใจสัมผัสงามจากภาพและคำบรรยาย
ของหนังสือ*UNSEEN THAILAND*
ที่แสนวาบหวามใจค่ะ
เลยนำมาให้ทุกดวงใจ..
ได้เลือกตัดสินใจพาใครสักคนในดวงใจรักไปพัก
ไปวาดหวาน
กับหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์
แทนใจดวงนี้ที่แสนเหว่ว้านะคะ
และ
งานนี้ไม่มีค่าโฆษณาค่ะ
แค่ขอให้คิดถึงคนแนะนำบ้าง
ตอนเว้นช่องว่างหวาน
ตอนนอนเรียกแรงรักนะคะ
ที่ดวงขอแค่แนะนำสถานที่แสนงาม
น่าท่องเที่ยวเกี่ยวก้อยไปร้อยรักร้อยรสหวาน
ให้ผู้อ่านที่ไม่มีโอกาส
ได้อิจฉาในสำลักสุขแทน
ทุกท่าน
และในนาม
รักประเทศไทยเที่ยวไทยใจเกินร้อยค่ะ..
และข้างล่างนี้
คือเพียงบางความ
ที่ชักชวนแนะนำสถานที่ในดวงใจ
ที่บางใครบางคนยังไม่เคยไปยังมองไม่เห็น
ที่ดวงนำมา
ที่ต้องตาต้องใจดวงผู้มีรวงรักระรินหวาน
วาบหวามในใจละไมละมุนในโรแมนติกนะคะ
พร้อมเสนอเบอร์เสร็จสรรพ
เหลือเพียงยังไม่ควักตังค์จ่ายจองแทนให้
เหลือไว้
ก็ช่วยตัวเองตัวใครตัวคุณ
หมุนหารักหารสกันเองให้หอมกรุ่นแล้วกันนะคะ
จากใจดวงด้วยรักในวันร้อน
***********************
และ
สถานที่ในดวงใจเพียงเสี้ยวใจ
อยากไปนอนดูเสี้ยวจันทร์ฝันฝากใจค่ะ
ดังมีรายนามแนะนำดังนี้นะคะ
อยากไปพักผ่อนในกระท่อมไม้ไผ่
ไล่เรียงเคียงลดระดับคู่กับเชิงผา
อ่อนหวานลีลาถิ่นล้านนาเมืองเหนือ
สระสวยสดใสในแมกไม้
ชวนให้ลงเล่นในยามเย็นแดดอ่อน
กระท่อมน้อยจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีทอง
ท่องไปในอลังการของวัฒนธรรม
ผสานเป้นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
สปาสวยช่วยให้ลืมโลกภายนอก
ให้เสน่ห์คุณและมนตรากระท่อมไม้ไผ่มัดใจ..ชั่วกาล..
*ภูใจใส เชียงราย
0-5391-8636-7
****************
และ
ไปนอน
ในเรือนแพกับสายน้ำไหลไม่เหือดหายจากแดนตะวันตก
ที่นี่แม่น้ำแควน้อยสายน้ำอดีตกาลเล่าขานตำนานประวัติศาสตร์
เลาะเลื้อยเหมือนงูใหญ่ขนาบคู่ขุนเขาตะนาวศรี
ในพงลึกสุดเร้นเป็นโตรกผาน่าฉงน
มีคนสร้างเรือนแพแนบเรือนกายคู่สายน้ำ
เข้าถึงธรรมชาติถ่ายทอดวัฒนธรรมื้องถิ่นที่โลกลืม
อิงกาย กับสายน้ำคือโลกอิสระที่ไม่มีใครเอาไปจากคุณได้
ใครจะรู้ว่า โลกใบนี้ที่เราค้นหาจะมาเคียงคู่กับสายน้ำ..นิรันดร์..
*เรือนแพจังเกิลราฟท์ 0-2247-5373..0-1734-0667
**************
และ
จากจินตนาการ
นานนับปีปีมีฝืมือช่างช่วยสร้างฝันให้เป็นจริง
สิ่งใหัมหัศจรรย์ก็บังเกิดได้ในผืนดินอีสาน
*บ้านดิน*ใครเขาสร้างบ้านด้วยไม้
แต่ที่นี่ สร้างด้วยดิน
เรียงอิฐทีละก้อนซ้อนกันได้อย่างแยบยลฉาบด้วยดิน
วางจังหวะการใช้สอยได้พอเหมาะ
อลังการด้วยงานศิลป์ของภาพเขียนฝาผนัง
อีกทั้งภายในที่ตกแต่งงดงาม*********
ใครจะเชื่อว่า
บ้านดินถิ่นอีสาน ร้อนก็อยู่ได้ หนาวก็อยู่ดี ที่ที่เดียวทั่วเมืองไทย
*โรงแรมเลยลีลาวดี..02- 3749517..01- 9147898ค่ะ
****************
และ
อีกที่ที่ดวงอยากไปกับคนดี..
ที่อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ ริมฝั่งมหานทีสายน้ำโขง
ที่ที่..ไม่มีวัน เดือน และเวลามาถามหาค่ะ
*ทอแสงโขงเจียม อุบลราชนี
0-45351174-6