20 เมษายน 2547 16:17 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4261
(รอ)
ขอเขียนกลอนอ่อนหวานสักบทหนึ่ง
กลอนซาบซึ้งแต่คงไม่อ่อนไหว
กลอนบทนี้มีชื่อว่า*ความจริงใจ*
ฝากดวงใจทุกดวงห่วงหากัน
โลกหมุนไปเวลานับคงที่
ใจคนดีต่างหากเริ่มเปลี่ยนผัน
ได้ความรักมากล้นทุกคืนวัน
จน..เธอ..นั้นคิดว่า*คือของตาย*
อยากกระซิบริมหูนะยอดรัก
ถึงใจภักดิ์เพียงไหนมีวันสาย
ถ้าไม่ซึ้งถึงความรักที่มากมาย
อาจกลับกลายเหลือรอยช้ำภายในใจ..
เคยได้ยิน คำนี้ไหม เล่ายอดรัก
ไม่หวนกลับสายน้ำที่รินไหล
ไม่มีคำลาไม่มีแม้คำว่า*เสียใจ*
เส้นทางใจ ขนานกัน นิรันดร....
*************
ทิวาวัน ทิวาหวาม ยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนผัน
รออรุณรุ่งรับขวัญรับดวงใจ
รับหวานไพรพงดวงดอกไม้ดงดอกหญ้าชั่วนาตาปี
ให้มีชีวีชีวารอเวลาเริ่มต้น
ให้ได้พบหวานฉ่ำชื่นพลิกฟื้นคืนชีวิตใหม่...เริ่มต้นใหม่
ดั่งละออละอองหยาดน้ำค้าง...รอระเหยหายและวนว่ายคืนกลับมา
คล้ายดั่งมีกลางวันย่อมต้องมีกลางคืน
มีชื่นมีสุขมีทุกข์มีเศร้าคละเคล้ากันไป..
เหล่ามาลีหลากสีสันหลากพันธุ์ในพง..ก็คงรอ
คลี่นวลกลีบแย้มบาน
รอเติมพลังหวาน
พลังสดชื่น รื่นร่ำฉ่ำงาม
ตระการตาตระการใจตระการโลก..
ปลอบประโลม
ให้สิ้นโศกสิ้นท้อแท้
ประดับรักประดับใจ ใครสักคน
ประดับโลกทุกแห่งหน
มิให้แล้งงาม แล้งใจ
และ
ในราตรีฝันราตรีจันทร์ราตรีใจราตรีงาม
ยังคงมีเดือนพราวดาวสุกใสดับหมองหม่น
เสมือนคนที่ถูกคลื่นชีวิตพาพัดหมอง
แบกทำนองเพลงชีวิตระทมถมทับแทบดับดวงใจ
ราวกับชีวีมีเพียงกลางคืนมืดดำ
ทุกข์ทนตรอมตรมตราบวันตาย..
ยาวนานตามบุพพกรรมทำมาสร้างมา..
ให้หัวใจดวงร้าวดวงเหว่ว้า
รู้ทำใจยอมรับความจริงแห่งชีวิต
ที่ฟ้าลิขิต...ที่หนีไม่พ้นบ่วงกรรม ตามกาล
ที่ตามมาผลาญพร่าชีวี...ไปตราบวันตาย
และ
หากมีดวงตาที่สาม..
นาม...งามภายใน*เนื้อดวงใจเนื้อนาบุณย์*
เพียงมีหัวใจดวงละมุนสักเสี้ยวคงพอไหวทัน
จะทานรับกับกระแสโลกกระแสกรรม
ได้อย่างสงบงามรำงับดับด้วยเยือกเย็น
ไม่เต้นไปตามจังหวะคำคนคำใครพิพากษา..
ที่มักตัดสินจากอคติแห่งใจ
ขาดเวทนาเมตตาปรานี..
ไม่มีกระจกสักด้านมาส่อง..
มองเห็นงามดวงใจใครเล่ารู้นี้
ทั้งทิวาวัน ทิวาหวาม ราตรีงาม
ราวเตือนใจให้ทุกดวงใจบอบช้ำได้ย้ำเตือนใจตน
ก่อนสายเกิน กับทุกสิ่ง
เพราะสัจจธรรมจริงของชีวิต
*คือความไม่แน่นอน*
แปรผันยอกย้อนวกวนได้ทุกเสี้ยววินาที...
และ
ดวงขออุทิศงานเขียนบทนี้..*แด่ทุกดวงใจไหวงาม*
แด่เราทุกคนปุถุชนคนธรรมดา
ผู้มิได้จำต้องหมายว่าบรรลุถึงธรรม
หากเพียงเพียรแค่น้อมนำรำลึกตรึกตรอง
และเลือกทางสายกลาง
แม้จะวางว่างบ้าง มิว่างวางบ้างก็ช่างมัน
และ
แด่ทุกดวงกมลของคนเคยรัก
ผู้มอบบทเรียนแห่งความงดงามหวานหอม
ที่เฝ้าหลอมละลายเนื้อใจเนื้อจิตวิญญาณแห่งงามความทรงจำ
ในคำนึงมานานเนิ่นเกินนับ
เคยรับรสซ่านผ่านสุขโศก..เคียงกันเคียงฝันเคียงใจ
จนไหวครวญคะนึงตอกตรึงสลักลั่นดาลแห่งห้องใจ
มิให้รักใครอีกเลยแล้ว..!
คนดี..
เพราะว่าโลกนี้เหนือดวงชีวีดวงชีวา
อาจจะมีชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์บันดาล
มาแต่ปางก่อน
ก่อนจะประทานพร
ให้พบคนบางคน
ที่ดูภายนอกแสนธรรมดา
หากทว่ามีงามภายในดวงใจใครเล่ารู้!
ที่แสนพิเศษพิสุทธิ์
ให้เราอยากสยบ
หยุดรักไว้กลางอกกลางใจอุ่นๆละมุนทรวงนั้นตราบชั่วกาล
ให้หวานหวัง
ให้รักนั้นมีคนดีเคียงข้างมิร้างแรมไกล
ไม่พรากลา
จนกว่า
ผืนดินจะกลบหน้า..
จนกว่าจะถึงวันฟ้าร่ำไห้อย่างดายเดียวทิ้งเราไว้..ลำพัง
ฝากตำนานฝันตำนานใจ ในรักอันเป็นนิรันดร..
ดวงใจ....
ในชีวีชีวิต หายากสักนิดนะ
ที่..เกลียวจิต เกลียวรัก
จักเสนอสนองผสมผสานมิหวานคลาย
ให้ลงตัวได้อย่างพอดิบพอดี
จงอย่าได้สับสน
ลองใช้กมลละมัยไตร่ตรองทบทวนดู
และให้รู้ค่าทะนุถนอม งามหอมดวงใจใครเล่ารู้..ในวัน..ก่อนสายเกิน!
อย่าได้ใช้บาทา วาจา มาขยี้
เมื่อมีคนรักภักดียอมทรุดร่างลงสยบพลีภักดิ์
คนดี...
ใช่เลย..ใช่แล้ว
วันเวลามักพรากทุกสิ่ง....
นิ่งและจำคำไว้
เวลาให้
และ
ในขณะ..ก็พราก
ราวรอยเท้าบนผืนทราย
ถูกคลื่นฝันซัดไล่ ลบรอยหายลาลับ
และวนกลับมาใหม่
หากผิดกับหัวใจแลร่างรักนี้ที่จักดับสูญ
มิดำรงนาน..
มีหวานมีเศร้ามีทุกข์ร้าวรอทำใจทุกร่าง
วางรอนะเบื้องหน้า..ทุกนาทีมิมียื้อยุดได้
หากชะตาได้ถูกลิขิต
ด้วยกุศลบันดาล
และคำประกาศิตจากฟ้าดิน..ให้สิ้นแล้ว
คนดี..ยอมรับซี....
ชีพนี้เราทุกร่าง
มิใช่พระบรมศาสดา
เพียงมาพบพาน..พระพุทธคุณหนุนนำ
ให้เลือกทางสว่างสงบสยบโลกย์วายวุ่น
กรุ่นด้วยกิเลสมากมีมากมายหลายล้านปัญหาสารพัดสารพัน
ฉะนั้นและฉะนี้
คนดี..
หัวใจดวงดี ดวงใจใครก็ดวงใจคนนั้น
ขอเพียงพบทางอันว่าง วางมิรกเรื้อ
ให้เนื้อนาบุญ บุพเพกลางใจจงงอก
แตกดอกดวงแห่งความดีมีรักนิรันดร์
มีแบ่งปันโอบเอื้ออภัย
มีดวงใจใสเย็น และอบอุ่นอ่อนโยน
ปลอบประโลมกันไปในเส้นทางใจเส้นทางฝัน
อันแสนสวยงาม
ฝากเป็นนิยามแห่งรัก หวังดี ปรานี เมตตา
และดวงใจ..
เวลา..เป็นของมีค่า
ทุกนาทีจง เคารพตัวเอง ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
อย่ายำเกรงใคร
หาก
ทุกสิ่งตัดสินทำไปด้วยดวงใจงามพิสุทธิ์..
มิมีใครเดือดร้อน
อย่าพรากลาไปโดยผืนดินกลบหน้า อย่างกล้าๆกลัวๆ
ปล่อยให้ใจสลัวมืดดำ
ติดกรรมทุกข์ทนวนเวียนว่าย
จงรีบชดใช้..ตัดใจตัดกรรมตัดรักนั้น
อโหสิกรรม
ยอมทรุดร่างนั้นลง ตรงเบื้องหน้า
ผู้อันเป็นที่รักภักดิ์พลีหมดสิ้นจิตวิญญาณ
ยอมรานยอมร้าวเพื่อขอกล่าวคำตรงคำใจคำจริง..
มิวิ่งหนี...ชีวิต
หวังมิตามติดหลอนลวง
เป็นบ่วงกรรมย้ำรอยอีกหลายภพชาติพิสวาสวาย
ว่า...
อย่าได้พบพานกันอีกเลย..ตลอดชั่วกัลป์กับป์..
ไม่อำพราง
ไม่ติดค้าง
ไม่รักไม่รอ
ไม่ขอเสียใจ....
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเฝ้าวนวน
หมดหนทาง ค้างคาใจ..
หวังทุกดวงใจ..พบว่าง
วางทุกข์ลง..ตรง..เดินไปในเส้นทางสีขาวงาม..นะคะ
**************
จากใจในอารมณ์..ตรมตรึงค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4261
รอ
ถ้า เธอ
มีหัวใจเหมือนฉันสักหน่อย
เธอคงไม่ปล่อย ให้ฉันต้องคอย อย่างนี้
เธอคงมองซึ้งถึงไมตรี
เธอคงมองซึ้งถึงความหวังดี
ที่มี เรื่อยมา
สู้ รอ
รอแล้วรอแล้ว รอไม่สิ้น
รอจนใกล้ดับ ถมทับแผ่นดิน แผ่นฟ้า
เธอมองไม่ซึ้งถึงสายตา
เธอมองไม่ซึ้งถึงความบูชา
ว่าฉันศรัทธาเพียงใด
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
แต่หัวใจ อ่อนอ่อน ของเธอทำด้วยสิ่งใด
ช่างไม่สะทก สะท้านสะเทือนเหมือนหัวใจ
ช่างไม่ หวั่นไหว ว่าใครเขารักเขารอ
สิ้น ลม ลมหายใจของฉันเมื่อไหร่
เธอคงจะต้องได้รู้ว่าใคร เฝ้าง้อ
ใครกันมีรัก มีรักเพียงพอ
ใครกันรอแล้วและยังเฝ้ารอ
เขารอ เขารอ เขารอ เขารอ
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
แต่หัวใจ อ่อนอ่อน ของเธอทำด้วยสิ่งใด
ช่างไม่สะทก สะท้านสะเทือนเหมือนหัวใจ
ช่างไม่ หวั่นไหว ว่าใครเขารักเขารอ
สิ้น ลม ลมหายใจของฉันเมื่อไหร่
เธอคงจะต้องได้รู้ว่าใคร เฝ้าง้อ
ใครกันมีรัก มีรักเพียงพอ
ใครกันรอแล้วและยังเฝ้ารอ
เขารอ เขารอ เขารอ เขารอ...
19 เมษายน 2547 14:27 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380
***********
สายลมฤดูร้อนยามค่ำพัดผมไพลปลิวไสว
ดวงดาราเริ่มทอแสงสุกใส
ขับม่านเมฆหม่นบนฟากฟ้าสีกำมะหยี่
นกสีเงิน..จอดนิ่งสงบกลางลานบิน..
ลำตัวถูกเพ้นท์งาม..
มีมวลหมู่มัจฉาแหวกว่ายระเริงคลื่นชื่นฉ่ำใจ
กับทิวมะพร้าวไสวระบัดลมเคียงกัน..
ให้ใจดวงฝันฝันทุกดวง
ได้แย้มยินยินดีมีความสุข
รอซุกซบกับอ้อมกอดของหาดทรายสายลมแสงแดด
และทะเลเงียบงาม..สีมรกต..สดชื่นสดใสบานเบิกใจ
กับฟ้ากว้างกับร่างใจพ้นพันธนา
ให้นกอิสราพาเหินฟ้าหนีจากกรุงกรง..ลงสู่เกาะ..มนต์รักแห่งทะเลใต้..
ไพล..แทบเผลอใจส่งจูบลา..
เมืองหลวงเมืองลวงเมืองเรืองรุ่งไม่ประทับใจ..
แม้นจะพรากลาไกล..ไปไม่กี่วัน..
ก็แสนดีแสนอิ่มเอม..ใจ..เสียไม่มี
แนบหน้ากับหน้าต่างมองลงสู่เบื้องล่างที่ระยิบระยับ
เห็นไฟสนามแดงน้ำเงินเหลืองพร่าง
งามราวติดปีกลอยเหนือโลก..แลละลิบ ..
ไพลแอบคิด..
หากค่ำคืนนี้ดวงชีวีไพลต้องแตกดับลาลับไป
ไพลก็คงเตรียมใจพรากลา
ด้วยจิตวิญญาณฉ่ำเย็นจนนาทีสุดท้าย
ให้มโนนึกราวลอยล่องท่องแดนสุขาวดีมิเปรียบปาน..
น้ำตาไพลซึมซึ้ง...
หลายสิ่งหนักอึ้งในดวงใจถูกปลดปล่อย
ให้ลอยคว้างวางไว้นะกลางกรุงกรง
หลงเหลือเพียงหัวใจอิสราที่ราวมีปีกจริงๆกำลังโผผิน
ทะยานผ่านหน้าต่างเมฆ
สู่แดนฟ้า..เกาะสวาทหาดสวรรค์...
ในห้วงเวหาหาว
ใจดวงร้าวสัมผัสละมุนวาวของพราวดาววะวับแวม
ยามค่ำ ที่ระรินร่ำ ด้วยกลิ่นไอ ของทะเลเมฆ งามล้ำเกินรำพันรำพึง
และทะเลใจไหวหวามดายเดียว
แต่แสนสุขอบอวล ทุกอณู ทุกเสี้ยวนาที..
หยาดน้ำค้างจากตา..พร่างริน..
เมื่อไพล..มองนิ่งพบงาม*ดาวประจำเมืองประจำใจ*
ราวแทนดวงตาดวงใจของใครคนหนึ่ง
คนของหัวใจที่กำลังพรากไกลห่างกันหลายพันไมล์..
และ
ราวกับว่าดาวในดวงใจแห่งรัก..
กำลังกระพริบพราว
ราวกับจะกระซิบฝากคำอ้อน..วอน..
ว่า..
ทุกนาทีที่อุทัยโลกหมุน..
กรุ่นแห่งรักหนักแน่นภักดีจักดำรง..
เป็นนิรันดร์..ระหว่างเรา..
แม้นจะเหงางามตามลำพัง..
พลังแห่งจิตวิญญาณรักภักดิ์พลี
จะมิมีวันมอดดับ..ลาลับเลือนไปกับกาลเวลา
หากเราซึ้งค่ารักแบบ..คนเหนือโลกโศกสุข..
รู้หยุดรู้รำงับรู้รักเย็น..รักเป็น..
รักให้งดงาม จักเป็นนิยามแห่งความสุขแท้..ชั่วนิจนิรันดร.
ไพล...พลันร่างบทกวีสดขึ้นในดวงใจนิ่งงันอย่างงดงาม
*ดาวประจำเมืองเรืองพราวบนราวฟ้า
ราวดวงตาสวรรค์เฝ้าฝันถึง
คือห่วงใยอบอุ่นใจในคะนึง
แทนความซึ้งความห่างอย่างคืนนี้...
ใจดวงร้าวเหินหาวราวนกน้อย
นับวันคอยนับคืนรอมิท้อหนี
แต่ไฉนใจดายเดียวเล่าคนดี
ในราตรีมีน้ำตามาแทนเธอ
ฟ้าเมตตาให้มาเพียงแค่นี้
รับเสียทีที่ได้มาเกินพ้อเพ้อ
ถึงร่างห่างใจเดียวกันใช่ละเมอ
เป็นความเก้อความฝันมหัศจรรย์รัก*
พุดพัดชา..พยายามกลั่นใจรักรจนา
ทั้งๆที่ใจดวงเหว่ว้ายังปรับสภาพใจยังมิได้มิให้ไหวครวญ
ถึง..คืนฝันวันจันทร์เสี้ยวแสนสุขที่พะงันได้เลยค่ะ
****
ยังมากมีเรื่องราว
งามอะคร้าวรอถ่ายทอดละอออก
ละอ่อนใจอีกมากมายค่ะ
ในเรื่องราวนับจาก..
สนามบินสมุย...สู่...ดินแดนแดนดินพะงันงามค่ะ
อย่าลืมติดตามนะคะ
ด้วยรักล้นใจ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380
เติมใจให้กัน
มัม ลาโคนิค : : Key G
ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
อยากให้เธอลองตรองดู
ในความทรงจำ เก็บไว้
ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
อยากให้เธอลองตรองดู
ในความทรงจำ เก็บไว้
ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม...
18 เมษายน 2547 22:15 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=19
อาลัยรัก อาลัยเกาะสวาทหาดสวรรค์ในดวงใจค่ะ
พุดพัดชาขอฝากเรื่อง..งามดวงใจ..แสนรัก.อีกคราค่ะ.
จากดวงใจรักแสนคิดถึงคะนึงหา
ถึง..ทุกดวงใจแสนรักในร่มรักเรือนไทย
ในวันนี้ที่กลับมาวิมานดินแห่งผองเราแล้วค่ะ
ภาพเซ็กซี่ไปนิ๊ดดับร้อนนะคะ..
ด้วยรักคิดถึงล้นใจ
*********
ตั้งแต่เด็กมาแล้ว
ที่ฉันมองโลกนี้ ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเด็กบางคน.....
ได้ยินเสียง ฝนตกก็ฟังเพราะพริ้งพราว
ยามฝนหล่นกราว กระทบหลังคาบ้าน ในชนบท ที่เป็นสังกะสี
สำหรับฉันฟังเป็นเสียงดนตรี จากธรรมชาติที่ไพเราะสุดใจ
บอกใคร ไม่เป็น ให้เห็นงาม และได้ยิน.....
แสงตะเกียงเจ้าพายุ..วับแวม ก็หวามไหว
บางครั้งพาใจให้เหงาเศร้า แปลกดีจัง...
ยามเห็นเรือหาปลาเข้าฝั่ง...มากับตะวัน ยามเช้าตรู่
กับหมู่นกนางนวลสีขาว.........
ในอ้อมแขน...ของชาวประมง...มีตะกร้าปลาสดๆ...
เป็นภาพที่ติดตา มาจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีลืม
ยามเย็น....วิ่งเล่นบนหาดทรายขาวนวล สุดตา
เคียงไปกับทะเลกว้าง เวิ้งว้าง แต่ไม่เหงาใจ..
เฝ้าดู..ตะวันรอน อ่อนแสง ลาลับลงสู่ผืนน้ำ
ทิ้งแสงสวย งามตา อำลาทะเล อ้อยอิ่ง...
อยู่ในใจ ในความทรงจำ....
ยามค่ำ....นั่งดูดาว ดูเดือน ที่สุกใส
ไร้แสงไฟ แสงสี ไม่มีมลพิษ เพราะเป็นเกาะกลางอ่าวไทย
ไกลแสนไกล ในใจของเราเด็กๆ...จากแผ่นดินใหญ่
ที่ไม่เคยไปเหยียบเยือน....
เห็นเครื่องบิน...ผ่านมา ดีใจราวกับว่า
จะแวะมารับเราไปเที่ยวด้วย....
จะวิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..โบกมือ บ้าย บาย ทายทัก กับนักบิน
ที่ไม่รู้จะเห็นเราบ้างมั้ย ยังสงสัยอยู่เลย
หน้าพายุ...ทะเลพิโรธ โกรธกริ้ว
ทิวมะพร้าวไหวเอน น่ากลัว....
ฟองคลื่นขาว ซัดซาด หาดซู่ซ่า ซู่ซ่า
กล่อมให้เราหลับไหลไปกับเสียงดนตรี
ที่ได้ยินจนชินทุกค่ำคืน...
เช้ามา..หาดเกลื่อนไปด้วยขยะ ที่มากับมรสุม....
ทะเล...สอนใจ ให้เรียนรู้ว่า
เหมือนใจมนุษย์นี้ ยามมีอารมณ์ไม่สุนทรีย์
ที่มักมีสิ่งปฎิกูล เกิดในใจเฉกเช่นทะเล
ที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ไม่สงบ ตลอดไป ตลอดปี.......
ภาพดอกไม้สีเหลืองสวย เป็นพวง ออกดอกพราว
ที่มีกอขึ้นอยู่ริมน้ำ ยามน้ำป่าไหลลงสู่ทะเล
คู่กับดอกสีม่วงละมุน ของดอกผักบุ้งทะเล
ที่แสนบอบบาง ในใจดวงนี้ที่แสนรัก
ภาพ..ดอกจิกร่วง หวานบานพราว
ลงแตะแต้มริมลำธาร ใสไหลเย็น...ยามหน้าแล้ง
น้ำจะแห้งจนมีสันทราย ไว้เป็นลานให้เราเอาผ้าไปซัก....
ภาพ..เงาะ ผลไม้ลูกแดงๆ ห้อยย้อย..เป็นพวง น่ากิน..
ตามทางเดินไปโรงเรียน
ได้แต่เหลียวมอง เพราะเจ้าของแช่งไว้ ถ้าเด็กคนไหนหัดขโมย....
เรียกว่า ..ใส่โจ...ไว้ใต้ต้น เป็นภาษาปักษ์ใต้
จนวันนี้ตีความไม่ออก
ได้แต่เดาว่า คงด่าโจรขี้ขโมย...ให้ตายเร็วๆ ....
ภาพ..เด็กๆถูกครู ใช้ขนทรายเข้าวัด
ทำให้วัด สะอาด สวยงาม....ฝึกใจให้เรียนรู้การให้..
จะได้ มีใจ ที่สวยพอกัน
บางทีขน ทรายขาว มาทำสนาม ลู่วิ่ง ยามมีกิฬา
พาให้สนุกสนานทั้งตอนขน และตอนได้วิ่ง
ทรายทะเล..มากมี ไม่ต้องซื้อหา
ใครขยันขนมาถมสนามหน้าบ้าน ได้ขาวนวลน่านั่ง น่านอนเลย
ทุกสิ่งที่เล่ามา....เป็นรายละเอียดเล็กน้อย ในความทรงจำ
ของใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คนนี้
ที่เกิดมากับธรรมชาติงาม
ทำให้ใจดวงนี้มีรัก ละมุน อ่อนหวาน ซ่อนซึ้ง ติดตราตรึงใจ ไม่รู้เลือน...
มาในวันนี้...จะมีใครซัก..กี่คน
รู้ความละเอียดอ่อน และเข้าใจ ในสิ่งที่ใจเราสัมผัสมา
คนเรานี้หนา...จะแจงใจ..ให้ใครหยั่งถึง ได้ถ้วนถี่
แม้กระทั่ง กับคนใกล้ คนดี
ที่เกิดมาคนละที่ คนละท้อง คนละพ่อ คนละแม่..กับเรา....
ไม่เสียใจ..น้อยใจ..และคาดหวัง...ใครเลย....
ถ้าไม่รู้จัก ใจเรานี้..ดีพอ..
ขอเพียงว่า ใจเรานั้นหนา
รู้จักเปิดใจ ให้เห็นงาม จากภายใน
ไม่ต้องหวังให้ผู้ใด มายกย่อง ชื่นชม
แล้วเราจะไม่ตรอมตรม ไม่เสียใจ
ในความคิด ของใคร ที่ตัดสินเราเพียงเปลือกนอก.......
เพียรเพาะบ่ม รู้จักชมชื่น ตัวเอง ให้เกิดงามภายใน ใจดวงนี้..ก็ดีพอ......
7 เมษายน 2547 12:57 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4..
(จงรัก)
บันดาลใจจาก..งานงามสูตรรัก..จักทดลอง
ของคุณอัลมิตรานะคะ
************
ฉันลงทุนเขียนเกมรักด้วยหัวใจขึ้นบทหนึ่ง
เป็นเกมซึ่งใช้ความฝันใช้หวามไหว
ใช้หัวใจใสซื่อเดิมพันใจ
เทหัวใจให้บางคนจนหมดใจ
มาวันนี้เขาคิดว่า..ฉันผู้แพ้
ตามเกมแก้ไม่ทันจนหวั่นไหว
หารู้ไม่ในเกมรักเรื่องหัวใจ
แท้จริงไซร้คือลิขิตของฟ้าดิน
เกมหัวใจจบลงแล้วนะยอดรัก
แม้อกหักยับเยินใช่หมดสิ้น
แม้ขมขื่นชอกช้ำน้ำตาริน
ยังตัดสินไม่ได้ใครทุกข์ทน..
เพราะวางหัวใจเดิมพันไว้ในเกมนี้
เธอรู้ดียามนี้ใครสับสน
แม้จากไปฝากจริงใจกลางกมล
ฝากเกมกลเกมใจเป็นบทเรียน..
เกมสุดท้ายถามหัวใจใครชนะ
เธอหรือจะแน่ใจไยแปรเปลี่ยน
ถามหัวใจไปมาวกวนเวียน
โลกหมุนเวียนใจหมุนวน..จนสุดท้ายบอกกับใจ..แพ้ดวงใจใครคนนี้ที่รักจริง!!
************
เดิมพัน..ด้วยใจ..ใจดวลใจ
**************
เคยบ้างไหม..
ที่คุณเปิดใจ..ให้ใครบางคน..ก้าวเข้ามา..
ในโลกของชีวิตอันแสนเงียบเหงาของคุณ..
เข้ามาสัมผัส..รับรู้..เข้าใจ
ถึง..ความรัก ความหลัง ความหวัง พลังใจ
เท่าที่คุณมี..คุณเป็น..คุณอยู่
คุณค่อยๆปล่อยให้เขาเดินก้าวล้ำเข้ามา ..
ในใจดวงน้อย..ทีละนิด..ทีละนิด..โดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว
ที่สุดเขาก็กลายเป็น..ส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ....
เหมือนโลกที่ต้องมีพระอาทิตย์.
ในตอนกลางวัน ..และ มีพระจันทร์ในยามค่ำคืน......
วันใดที่เขาหายไป...
โลกที่เคยอบอุ่น....
ที่ดูราวมีใครสักคนที่พร้อมจะเคียงข้าง....
รับรู้และรับฟัง.....พลันเดียวดาย.......ไร้หวัง
ราวท้องฟ้าไร้จันทร์ในคืนแรม......
ไม่ยากเลย...ลองดู....
ถ้าคุณอยากให้ใครสักคนรักคุณ...และขาดคุณไม่ได้.....
ให้เขาเห็นความสำคัญ.....และคุณค่าในตัวคุณ.....
เพียงอย่าท้อแท้......สิ้นหวัง...
คิดเสียใหม่......ยิ่งให้คุณจะยิ่งได้........
ในทุกทุกเกมของชีวิต..กับ..ทุกทุกคน.....
และโดยเฉพาะกับคนที่คุณรักเขายิ่งชีวิต....
ไม่มีอะไรที่คุณจะเสีย...
มีแต่ศรัทธาเปี่ยมด้วยรัก..จริงใจ ..มั่นคง..หนักแน่น.....
เป็นเดิมพันใจ..เพื่อ..ใจ...เท่านั้น.....
และคุณจะพบว่าคุณคือผู้ได้มา...มิใช่เสียไป.......
เกมของรัก...เกมของใจ .....
เกมของความหวัง.....และเกมของความฝัน........
เพียงใช้ใจดวงงามที่ใสซื่อ....อดทน...รอคอย.....เพียงนั้น ..
โลกทั้งโลกก็จะอยู่ในมือคุณ...................
เส้นทางใจ...เส้นทางชีวิต
ที่จะมีใครสักคนคู่เคียง...
ไม่ว่า..ในยามทุกข์..หรือสุข.ตราบนิรันดร์..
บางครั้งเส้นทางนี้..มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ..
มิได้หวานหอม..ตั้งแต่บทเริ่มต้น......
ขอเพียงคุณ......ไม่ยอมแพ้พ่าย.....
เอาใจดวงที่เปี่ยมรักบริสุทธิ์ล้ำ.....หนักแน่นยิ่งกว่า.....
ขุนเขาและแผ่นผา.........แผ้วถาง ฟันฝ่า...
ปลายทาง.....มีสวรรค์บนดิน
ที่พระเบื้องบนจะประทานให้.....
มีความรัก..ความอบอุ่น.....
มีน้ำใจจากหญิงงาม มากค่า
พร้อมเด็กน้อยที่บริสุทธิ์ใสประโลมใจคุณทุกโมงยาม.........
เปรียบประดุจสายธารา..แห่งชีวิต..
ที่คุณจะได้ดื่มกิน..แหวกว่าย..เย็นฉ่ำทั้งใจกาย.......
ตราบวันสุดท้ายแห่งลมหายใจของชีวิตนี้ที่แสนงาม..............
นิยามรักฉันหรือคือจุดจบ!
นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
คือการลบจากใจไม่ใฝ่หา
หากไม่รักไม่ทุกข์ท้อทรมา
กับคำว่าพลัดพรากต้องจากไกล...
รักคือนิยามความทุกข์ใช่ไหมเล่า
คือห้วงหาวห้วงเหวให้หวั่นไหว
รักคือนิยามมายาลวงหลอนใจ
ให้ดวงใจคนในโลกโศกระทม..
นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
มิใช่การค้นพบให้ขื่นขม
รักของฉันรอเวลาลบช้ำตรม
เลิกระทม..รอเงียบงาม ว่างเปล่ามาแทนใจ!
5 เมษายน 2547 10:22 น.
พุด
URLhttp://http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=496
อยากให้ฟังเพลงหยาดรุ้งคลอค่ะ
เพลงรักอมตะ แม้ตาเธอจะบอดเขาก็ยังรักภักดิ์มิทอดทิ้ง
********
ถือเป็นโชคมีดวงตามองฟ้ากว้าง
สร้างหวังหวานผ่านคืนฝันวันร้าวไหว
ถึงเดียวดายใช่!สิ้นไร้ในดวงใจ
หนทางไกลรอทอดรับกับนภา..
เมฆคือเมฆสวยงามนิยามว่าง
สอนบางอย่างเติมบางสิ่งหยุดนิ่งหา
จิตรกรรมความฝันลอยลับลา
ฟ้าคือฟ้าสูงไกล..ในความจริง..
เมฆมายามองดูน่าจับต้อง
ให้ฝันปองให้มองเพ้อเผลอทุกสิ่ง
มิทันไรก็สลายคล้ายหยุดนิ่ง
เผยม่านจริงม่านใจอย่าไหวรอ..
ก้มดูดินที่เท้าเจ้าย่างเหยียบ
รู้รักเปรียบคือจริงทิ้งเพ้อพ้อ
หยุดความฝันหันคืนบ้านนานเกินรอ
ทิ้งแม่พ่อแก่เฒ่าหนาวรอใจ..
เจ้าคือนกผกจากรังหวังสู่ฟ้า
จากดงหญ้านาข้าวพราวไสว
ทิ้งวัวควายน้ำตาคลอรอน้อยใจ
สู่ศิวิไลซ์หวังสร้างค่าหาชีวิต...
แต่รู้ไหมใจดวงเดิมเริ่มอ่อนล้า
ฟ้าคือฟ้าใช่!คำตอบชอบด้วยสิทธิ์
เพียงฝันฝันฝันฝันสร้างชีวิต
ใจดวงนิดดวงน้อยคอยคืนวัน...
ด้วยสมองสองมือคือโลกแท้
เป็นของแน่ของตายใช่เพียงฝัน
ดวงดอกไม้รอเจ้าเก็บอยู่ทุกวัน
อย่าเพียงฝันมองฟ้าหาบันดาล...
อ้อมกอดจริงอ้อมกอดใจใครคนหนึ่ง
เทพีซึ้งหนึ่งในใจงามแสนหวาน
รินน้ำใจใส่พรอ้อนชั่วกาล
หวังเติมหวานให้เจ้าได้ก้าวไกล..
เลิกตะลึงหลงละไมในมายา
เลิกโหยหาคืนหลังฝังหวามไหว
โลกความจริงอยู่ตรงหน้าท้าดวงใจ
พาเจ้าไปสู่ความดีที่นิรันดร์...
หน้าต่างเมฆแหวกม่านผ่านสู่ว่าง
ใจทอดวางร้างไร้คล้ายดั่งฝัน
อย่ายึดติดมายาเมฆแปรทุกวัน
เพียรสร้างฝันในวันนี้พลีเพื่อรัก...
โลกหมุนไปใจหมุนวนให้ค้นหา
โลกมายาโลกมาลัยใจแน่นหนัก
วันนี้ชังพรุ่งชอบออดอ้อนรัก
สุดสิ่งภักดิ์หอมหวานวิมานดิน..
มองดูดินเลิกดูดาวหนาวเมมฝัน
สุขนิรันดร์ในวันนี้ที่ถวิล
ใช้สมองสองมือระบายจินต์
หวังมิสิ้นดาวดวงร่วงสู่มือ..คือพรพรหม!
**********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=496
เพลงรักอมตะ แม้ตาเธอจะบอดเขาก็ยังรักภักดิ์มิทอดทิ้ง
หยาดรุ้ง ชรินทร์ นันทนาคร : : Key Cm
หยาดรุ้งงามราวดวงดาวรุ่งจิต
รุ่งความโสภิต รุ่งชีวิตชายแม้เงา
ดวงตาคมซึ้งซึ้งดังเพชรวาว
เนตรงามอคร้าว
หยาดรุ้งราวหยาดน้ำริน
หยาดรุ้งคนดีปราณีพี่หน่อย
อย่าลอยสูงนัก พี่ปองรักยอดยุพิน
ลมครวญคำหวานเสียงธารระริน
คร่ำครวญถวิล ว่ารักยุพินเช่นกัน
เธอหอมความดี เป็นที่คละคลุ้ง
ประหนึ่งสายรุ้งรุ่งดวงตะวัน
ยามยิ้มแย้มยวน ชวนให้ชายฝัน
สยบใจนั้นรักเหลือคณา
หยาดรุ้งงามราวดวงดาวกระจ่าง
รุ่งดังน้ำค้าง ที่ยังค้างตามพฤกษา
เธอคือความหวังฝังใจทุกครา
พี่ครวญใฝ่หา พี่รักบูชาหยาดรุ้ง
เธอหอมความดี เป็นที่คละคลุ้ง
ประหนึ่งสายรุ้งรุ่งดวงตะวัน
ยามยิ้มแย้มยวน ชวนให้ชายฝัน
สยบใจนั้นรักเหลือคณา
หยาดรุ้งงามราวดวงดาวกระจ่าง
รุ่งดังน้ำค้าง ที่ยังค้างตามพฤกษา
เธอคือความหวังฝังใจทุกครา
พี่ครวญใฝ่หา พี่รักบูชาหยาดรุ้ง...