10 มิถุนายน 2547 05:10 น.

สักสายเศร้าพราวระรินลาถิ่นธาร

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=137
*******


หน้าฝนหนึ่ง...
ฉันได้ไปล่องเรือในลำน้ำแควน้อย..
ที่แสนเชี่ยวกราก
เพื่อไปดูที่ดินผืนงาม ริมน้ำ..
ที่ต้องนั่งเรือเข้าไปไกลมาก


แต่บรรยากาศของสองฟากฝั่งนั้นแสนงดงาม
ด้วยไพรรกโตรกธาร
ผาและถ้ำ และป่าที่ยังเป็นป่าจริงๆ  
ที่ยังมีเถาวัลย์รกเรื้อ เกี่ยวพัน..
ราวกับจะอยู่กันคนละโลกกับโลกแห่งความจริง 
ที่ฉันอยากจะวิ่งหนีอยู่ทุกคืนวัน....


ฉันจำได้..แต่เพียงว่า 
ที่เราต้องลงไปต่อเรือนั้นคล้ายๆอุทยาน 
ที่สองข้างทาง
เต็มไปด้วยป่าสัก 
สักทองต้นโตหลายคนโอบ..สูงเสียดฟ้า ท้าแดดลม..
และลดหลั่นมากมายหลายขนาดจนเป็นดงสวย...
กำลังได้ฝนออกดอกชูช่อ
ล้อสายฝนและลมแรง...ในยามวสันตฤดู..


สายฝน..พาให้ดงดอกสัก 
ที่มีช่อเล็กๆขาวๆเจือเขียวอ่อนๆ 
ที่รวมช่อดอกดกพราวพราย
ทอประกายเลื่อมพรายสวยสุดใจ
ยามต้องแสงแดดอ่อนๆมากระทบ...
กลิ่นหอมหวานจางๆ ของดอกสัก 
อวลหวานละเมียด ในทุกอณูของความรู้สึก
จนฉันต้องเดินลงไป..ดอมดมพรมจูบด้วยรัก



ใต้ต้นนั้น...กลีบหวานของดอกสัก
ที่หล่นเกลื่อนกล่น..แตะแต้มพสุธา
ราวพรมที่ถักทอด้วยมือนางฟ้า..ช่างนุ่มละมุน...เสียนี่กระไร...

ฉันใช้มือค่อยๆกอบกำความงามนั้นไว้ในอุ้งมือน้อย..
แล้วค่อยๆละเมียดบรรจงจูบ..อย่างรู้รัก..รู้ค่า
ในหอมงามนั้นที่หายากยิ่งนัก.....                                                           
กับใจดวงนี้ที่แสนซึ้งซาบใจ......

ดอกสัก..แย้มหวานบานอวดดอกดวงในพงพฤกษ์ไพร 
ราวสาวบ้านป่าผู้บริสุทธิ์สวยใส
ราวหยาดน้ำค้าง..ที่รอวันให้ผู้รู้ค่า..
มาเด็ดดมพรมจูบมัดจำ ให้ชื่นฉ่ำใจ...


ในวันนี้.นะนาทีนี้.ฉันเองยังหวนหา 
ในเสน่หาของดอกสัก 
ยามนี้เมื่อมองเห็นสายฝนพรำกับชีวิตคนเมือง.......

ดอกไม้ป่า..ที่หาดูได้ยากยิ่งในป่านี้
 ที่ได้ชื่อว่าป่าคอนกรีต ป่าคนเมือง
ที่เห็นงามก็แค่ดอกเบี้ย......       .

ดอกสัก..คงรอวันให้ฉันได้กลับไปเชยชมและพินิจดู 
ถึงความงามซึ้งที่ซ่อนอยู่อีกสักคราครั้ง
นะเจ้าดอกสัก...
ดอกไม้หวาน....
ที่บานกลางไพรและกลางใจดวงนี้ที่นับวันรอ....

*****************



ดวง...ฝันร้าย

http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36211.php
**********

ซึ่งเป็นคำถาม?    


คืนนี้รอบข้างเงียบมาก...
ฉันไม่ได้แหงนมองจันทร์เช่นทุกคืน..
ท้องฟ้าดูเงียบเหงา เทาทึมตั้งแต่เย็นแล้ว
ฉันตาฝาดไปรึเปล่าหนอ..
ที่วันนี้..ดูโลกรอบข้าง
และท้องฟ้าราวทาบทาด้วยสีน้ำเงิน..
อีกคราครั้ง..ในรอบสิบปี..

เย็นมาก ใกล้ค่ำ ได้ยินเสียงจิ้งหรีดกรีดร้องระงม..
ฉันจุดเทียนอาบน้ำ..
ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวกระหน่ำหนัก..รินรด..
มืดทั้งบ้าน...ฉันพยายาม...เช็ดผมให้แห้ง...
ทั้งๆที่มือและใจทำไมอ่อนแรงไร้พลัง...

ทรุดตัวลงนั่งนิ่งๆ ทิ้งใจและตัว
ในความความมืดมิด..ดิ่งจม..ในห้องนอน
ริมหน้าต่าง มีใบจำปีซัดส่าย ไหวไกวกล่อมเป็นเพื่อน...

ในภวังค์ ฉันง่วงงุน...งีบหลับไป..
ฉันฝันร้าย น่ากลัว..ฝันว่าตัวเอง 
วิ่งหนีอีกแล้ว วิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..หนีจากผู้ชายคนเดิม..
ที่เคยฝันเห็นหลายครา.....

ฝันนี้..ฉันไม่โชคดีเหมือนคราวก่อน..
เขาไม่ได้ปรานี..ปล่อยฉันไป..
แต่กลับจ้วงแทงตรงกลางใจฉัน..หนักหน่วง..รุนแรง..อย่างสาสะใจ..

ในฝัน..ฉันมิได้กรีดร้อง..
แต่..
แค่แหงนมองเขาด้วยสายตาที่เป็นคำถามและหยาดน้ำตา!.. 
*************



 ตื่นมาด้วยหยาดน้ำตาพร่าง
แว่วดุเหว่าหวาน
แผ่วเพลงครวญขลุ่ยคลอ
พ้อมากับฟากฟ้ากว้าง

เดินย่ำน้ำค้างดายเดียว
รับอุษาระริน
ดาวประจำเมืองริบหรี่
ฟ้ามืดหม่น
โน้มช่อดวงดอกพุดซ้อนหอมพร่าง
ดอมดมพรมจูบด้วยรักละมุนละม่อม

ประโลมใจดวงงาม
แหงนเงย
ฝากจูบจากใจละมุน
ผ่านกรุ่นกลิ่นหอมหอมของพวงพยอม
ดวงดอกไม้ที่กำลังสยายกลีบบาน
หวานจากห้วงใจรัก
ทายทักหน้าต่างเมฆ..แมกไม้..สายลมเย็นฉ่ำ
พร่ำกระซิบรักระริน
ถึงทุกดวงใจคนดีในสายใจสายถวิล
ที่อาจยังนิทราสู่ฉิมพลี

ถึง..แทน..ทุกใจ
ที่ให้พลังใจ
ที่ให้น้ำใจรักมากล้นรจนา
***********



ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..

ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!




				
6 มิถุนายน 2547 15:08 น.

ร้อยรวงดวงบุปผามาคล้องใจ

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
(ร้อยบุปผา)
*********

อุษานี้ฝนตกนะคะ
ราวพรำพรมรินรดหวานฉ่ำชื่นใจ
ให้แมกไม้ไพรและ
แมกไม้กรุงบานไสวรับเย็นงาม
คลี่ดวงดอกละออละอองเกสรพร่าง   
อวลสายระรินรัก

ให้ทุกดวงกมลรัก
ในร่มรักเรือนไทยเรือนใจเรือนสามัคคี
ดั่งน้องพี่บนถนนสายฝันสายสวรรค์สายดอกไม้งาม

เอนหลังนอนฟังเสียงฝน
ดอมดมดวงดอกไม้สยายกลีบพร่าง
ให้ใจดวงงามดวงใสไสวหวาน
บานหอมธรรมชาติหอมความดี

ที่ใจดวงงามเงียบเฉียบเย็นฉ่ำใสเพียงนั้น
จะรับรินรสหมดจดใจได้

ให้สายพระพิรุณสอนใจ
จะให้น้ำใจรักให้น้ำใจใคร
ก็ให้เย็นใสค่ะ..ดั่งเฉกเช่นหยาดฝนพรำ
อย่าเป็นดังฝนกรดรดราดรินใจ
แก่กันและกันเลยนะคะ
เพราะว่า
เราคือ
เพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นค่ะคนดี


จงระรินสายหวาน..บานดวงดอกเมตตาปรานีอภัย
ค่อยๆให้ค่อยค่อยประคองใจประคองรัก
ทิ้งอัตตาทิ้งตัวตนทิ้งความหลง

และทิ้งความเข้าใจไปตามความคิดตัวเอง
จงคิดว่าทุกผู้ที่เกิดมาล้วนมีกรรม
ล้วนต้องอบร่ำบ่มใจตัวด้วยตัวเองทั้งสิ้นทั้งนั้นค่ะ
และมาตรแม้นฝันไกล..
ใจก็รู้หยุดนิ่งรู้คิดเป็นเห็นงาม

หากเราควรเคารพสิทธิมิพาดพิงใจ
ไม่ล่วงล้ำก้ำเกินใครหากมิรู้ใจมิรู้จริง
รู้นิ่งรู้ให้รู้รำงับ
ดับด้วยดวงดอกความดี
ที่ควรค่อยๆพลี..หยาดเย็นให้
นะคะ
ทุกคนดี..ทุกดวงใจ..
และสำหรับ


พุดมีโลกไพร
โลกน้ำใจใสงามเงียบรอรับ
โลกแสนสุขอันสงบงาม
กับเรือนหลังเล็กของพุด
มีแต่น้ำใจใสเย็นค่ะ
ใครร้อนเข็ญ
มานอนเล่นนับดาวพร่างพราวนับพัน
ดูหวานจันทร์ดูหวานดาว
เฝ้าฟังดุเหว่าพร่ำหวานแว่ว
แผ่วแผ่วฟังบทเพลงขลุ่ยเพลงพิณระรินฝัน
ยามสายแสงจันทร์พ้อพลิ้วลอดทิวไผ่งาม

ดูบึงบัวพร่างกลางพรายจันทร์อันงาม
เรืองรองผ่องผุดสร้างพิสุทธิ์ในเงาใจเงาฝนเงาฝัน
พลันบรรเจิด
ราวสวรรค์ไพรสวรรค์ใจ.นะคะ
และสัมผัส

ทุ่งนาที่สาวนาหว่านกล้าดำไว้
ให้รวงเรียวไสวชูช่อรอทุกรักมาเกี่ยว
ด้วยเคียวรักรัดร้อยวิถีไพรวิถีงามเดิมดิบติดดิน

ให้ได้สัมผัสวิถีชีวินงาม
ให้ธรรมชาติบ่มหอม
และหวานล้อมด้วยดวงดอกไม้
ให้มีพลังใจมีไฟฝันร่ายรจนามนตราเสน่หา
ให้
มองโลกนี้แสนสวยแสนงามแสนดีค่ะ
ด้วยดวงตาที่สาม
มาตรแม้นชีวีจะผ่านชื่นรื่นเรียวเศร้าดายเดียว
ด้วยนวลเนื้อใจละมุนละเมียดนะคะ
และ


จงเป็นน้ำใสดับร้อน
จงค่อยค่อยสอนค่อยค่อยสร้างทางงาม
อย่างตรงไปตรงมา
และมิล่วงล้ำพิพากษาชีวิตใคร

ตราบใดที่เรายังมิเคยได้สัมผัสเหตุผลและปัจจัย
ในชีวีชีวิตของเขาอย่างแจ่มแจ้งนะคะ
พุด..
เพียรสร้างเรือนภาวนา
หวังหมดทุกดวงชีวา
ได้พักพิงเอนอิงไหล่
เกื้อใจเกื้อขวัญฝันฝัน
ด้วยพลังจิตดี..
พลีพากันสร้างสมาธิ..สู่สติ..มีปัญญา
และพาพบฝั่งฝันนิรันดร์รักไปด้วยกัน
และ

ด้วยหวัง..ด้วยรักล้นใจ
ทุกน้องพี่เพื่อนรัก
มาพักเรือนน้อยกลางบึงของพุดนะคะ
เราจะพายเรือไปเด็ดดอกบัวมาถวายพระด้วยกัน
มาแบ่งฝันปันใจ
มาตั้งใจอธิษฐานจิต
มาลิขิตถ้อยหอมค่า
มาหาความงามเย็นใส
มาร่วมกันสร้างสรรดี


นะที่แห่งนี้..ร่มรักนิรันดร์
อย่างคนที่มีหัวใจราวดวงเดียวกัน
ดั่งบทเพลงร้อยบุปผา
ที่พุดฝากกระชิบมานะบัดนี้ค่ะ
ด้วยรักจริงใจล้นใจใสงามในทุกยามทุกคราค่ะ

**********
พุดหวังใจ
ให้อ่านคลอแกล้มเรื่องนี้นะคะ
คืนเรือนรับขวัญค่ะ
ที่เคยฝากฝังรักฝากฝังใจดับร้อนให้งามเย็นร่ำระรินรัก
แด่ทุกดวงใจรักเรือนไทยเรือนใจเรือนในฝันชั่วนิจนิรันดรค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_47468.php




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
ร้อยบุปผา   
สุนารี ราชสีมา : : Key F#m  

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน

มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง

มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์

มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน 



				
4 มิถุนายน 2547 21:59 น.

ลานจันทร์ฝันพลี

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=301
(ริมฝั่งน้ำ)
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=367
(เดือนเพ็ญ)
*********

เต้นรุมบ้าชะชะช่าท้าสายฝัน
สายแสงจันทร์หยาดหวานผ่านร่างไหว
เทพีขวัญพลิ้วร่างตามดนตรีใจ
ลีลาไหวระริกรุกสุขแกล้มจันทร์

ณ..ลานใจลานจันทร์ลานฝันพร่าง
ทิ้งใจว่างไร้ตัวตนคนช่างฝัน
ยิ้มหวานหวานร่ายเริงร่าท้าแสงจันทร์
ยิ้มฝันฝันหลิ่วตาล้อพ้อดาวใจ

หลั่งความสุขราวหยุดโลกโศกชั่วครู่
ใจรับรู้ร่างพร่างเหงื่อเนื้อชุ่มใส
ตาแวววาวราวเงาดาวสกาวไกล
ลานสุขใจลานสุขฝันสวรรค์รอ...

กระท่อมไม้สนรอคนรจนาฝันอันแสนหวาน
โมกคลี่บานพร่างใจให้ไหวพ้อ
ทอดตานิ่งทิ้งใจเศร้าไร้ใครคลอ
ก็เกินพอก็สุขพร่างกลางดายเดียว...

ใจดวงว่างวางโลกโศกสิ้นไร้
ใครให้ร้ายคนให้ดีมิแลเหลียว
เพียงเพื่อนไพรธรรมชาติใจงามเหงาเปลี่ยว
รักดายเดียวดวงวิญญาณตระการพอ..

นั่งนิ่งนิ่งทิ้งตาเศร้าฟ้ายามค่ำ
แว่วเพลงร่ำเดือนเพ็ญขลุ่ยพลิ้วพ้อ
คิดถึงบ้านนานแล้วเจ้าทุยรอ
ทั้งแม่พ่อล้อมกองไฟอุ่นไอรัก..

ฝากหัวใจจูบจันทร์เฝ้าฝันถึง
ฝากกราบซึ้งกอดแม่อุ่นอ้อมตัก
ฝากถึงพ่อลูกคนนี้ภูมิใจนัก
ฝากใจรักจูบรวงเรียวเกี่ยวร้อยใจ...

อีกไม่นานลูกคืนถิ่นผืนดินขวัญ
รอนับวันเฝ้ารอคืนมิพรากไหน
จะฝังร่างฝังวิญญาณภักดิ์พงไพร
ฝากร่างใจสงบวางห่างโลกวน........

**************




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290
กระท่อมไพรกระท่อมไม้สน

ในร้านกาแฟ...

สายน้ำตกระรินไหลจากชายคา 
พร่างสายลงมายังบึงบัวเล็กๆ

เสียงเพลงขลุ่ยบรรเลงเบาๆคลอเคล้า..
ต้นไม้รายรอบกระท่อมไม้สนเขียวชะอุ่ม
มีเฟิร์นกับหญ้ามอสเกาะคาคบพญาสัตตบรรณสูงเป็นช่อชั้น
กระถางกล้วยไม้สะพรั่งสีสลับดอกดวง แขวนตรงชายคา..

แสงอาทิตย์ยามสนธยา 
ส่องลงมาทายทักอย่างอบอุ่นอ่อนโยน..
กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น หอมหวานพอกัน
กับรอยยิ้มเจ้าของร้าน..
คละคลุ้งกำจายไปทั่วอาณา

เรือนไม้บ้านไร่กาแฟ 
ที่พุดพัดชาชอบมานั่งพักพิงเขียนงานงามตามใจฝัน

เธอ..เจ้าของร้านนั้นมีไร่อยู่ที่จังหวัดเลย.
และคงไม่นานเลย ..จนเกินรอ..
พุดพัดชาวาดหวังว่า
จะได้ไปเยือนตามคำเชิญที่มากไมตรี
แสนมีน้ำใจงามนั้น สักวันอย่างแน่นอน...

ในบรรยากาศแสนดี..
พุดพัดชาเขียนเรื่องนี้ริมหน้าต่าง 
ท่ามกลางไม้ไพร
โต๊ะตรงหน้าเป็นกระจกใส ...
มองเห็นเมล็ดกาแฟคั่วแล้ว  อัดเต็มแน่น  เป็นไอเดียงาม

และท่ามกลางแสงเทียน..วับแวม..
กับเก้าอี้ไม่สน..ราวกระท่อมไพร แสนโรแมนติก
หากมีหวานใจมานั่งซึ้งซ่านสบตา..หวานฉ่ำเบื้องหลังแก้วกาแฟ   
ก็คงยิ่งพาฉ่ำชื่นชื่นใจ..ไฉนเลย!
***********




และขอแถมด้วยบทความข้างล่างที่เคยแต่งไว้นานมานะคะ

กาแฟ กาแฟ และกาแฟ...
ฉันชอบกาแฟ...
ถามตัวเองหลายหน แล้วว่าด้วยเหตุใด

คงเป็นเพราะ..ทำให้ ใจที่เหี่ยวเฉา 
คึกคักขึ้นมานะซี... กาแฟ
คิดอีกที หรือฉันชอบ เพราะสีของมัน ที่เข้มข้น
เหมือนชอบคนผิวสี 
ที่ฉันชอบคิดว่า ดูช่างแสน แฮนซั่ม..ยังไงยังงั้นเลย
เอ๊ะ!..แล้วมันไปกันได้ไหมนี่ ฉงนใจ....

ฉันชอบกาแฟ..ที่แน่แน่
 ดื่มทีไร โลกสดใส แสนสดชื่น
แม้บางวัน ใจของฉันจะขมขื่น ฉันก็ดื่มกาแฟ ดับร้อนใจ

กาแฟหอมละมุนลิ้น 
กลิ่นยวนยั่ว ทั้งที่คั่ว ทั้งที่บดจนเป็นผง
ร้านกาแฟ ทำให้ ได้พบรักกับบางคน..
บางถนน จะมีร้านกาแฟ ที่ชุมนุม..
จะถกเรื่องนายกก็ที่นี่ เรื่องดนตรี เรื่องหัวใจ จิปาถะ...

ร้านกาแฟ เป็นสภาตำบล และหมู่บ้าน 
ให้โจษขาน ทุกเรื่อง ว่าโลกเราไปถึงไหน

แล้วอิทธิพล กาแฟ จะไม่มากได้ยังไง เมื่อเดินไปที่ห้างหรู
ก็ยังมีร้านกาแฟ กาแฟ และกาแฟ !
..............



กาแฟ กาแฟ กาแฟ แย่ไม่เอ่ย! 

กาแฟ กาแฟ แทนความรัก
ขมใจนัก อดลิ้น รอกินหวาน
ถ้าไม่ชอบ รีบเติม รสน้ำตาล
ให้หวานหวาน มันส์มันส์ คงไม่ดี...

รู้รสขม กลมกล่อม เปรียบรสหวาน
รอรักบาน ขมก่อน อย่าเพิ่งหนี
หากมัวหลง น้ำตาล ไม่เข้าที
ไม่นานนี้ ไขมันสูง อุดหัวใจ.....

กลิ่นหอมหวาน บริสุทธิ์ ของหญิงสาว
ที่ต้องคาว ขมขม ตรมหวั่นไหว
มีบางคน เติมน้ำตาลปลอม เต็มหัวใจ
หลอกล่อไป วันวัน ฝันค้างคา...

กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น อุ่นไอรัก
ต้องรู้จัก ออดอ้อน ป้อนห่วงหา
รู้จักเติม หวานวันละนิด ทุกเวลา
กาแฟจ๋า จะอร่อย ต้องคอยคอกาแฟที่เติมเป็น!ทำเป็นให้พอดี้พอดีจ้า! 

************



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=367
 เดือนเพ็ญ   
คาราบาว : : Key F  
เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม
นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา
แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา
คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์

กองไฟ สุมควายตามคอก
คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก
ให้ลมช่วยเป่า
สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว
ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย

เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย

เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...

 

				
3 มิถุนายน 2547 16:48 น.

ทิพย์วาริน

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=842
(หยาดฝนแห่งความรัก)
**********

คนดี..ดวงใจ...
วสันต์ลีลา..หยาดสายพรายพรมห่มผืนหล้า
ดับร้อนผ่อนคลายให้ฉ่ำใจ..
ใสเย็นทั้งร่าง..ทั้งใจกาย..ทั้งไร่นา..
และ

แด่..ทุกดวงกมล..
ที่รักรวง..เรียวฝน
รักหวานปรายปรน..รัก
หยาดละออละอองผ่องผุด
ปานประดุจประหนึ่งหยาดน้ำค้าง
กลางไพรกลางใจกลางสรวงกลางห้วงหาว
ให้คละงาม..เศร้า..สายฝนสายฝัน



มาเกื้อฝัน..มาจุดไฟ.
มาเคล้าคลุกปลุกชีพละไมนักรักรจนา

ผ่านร่องแก้มเรียวตา
ดั่งหยาดน้ำตานางฟ้านางไพรนางใจ..นางในฝัน
ให้พรายพร่างฝัน...ฝันฝัน..ตามฟ้าตามฝน
ตามกมล..สุขทุกข์
มาปลุกปลอบประโลม
เสกสรร
สวรรค์ฝนสวรรค์ฝันสวรรค์หวาน
และบางคราช่างว่างร้างไร้
คล้ายบทเรียน
ให้ร่างทุกร่างรู้ดายเดียวรู้วาง
รู้ว่าง รู้ไร้..คล้ายชีพนี้


ดั่งสายฝันในฤดี..ดั่งสายฝนในฤดู
ดั่งคู่ใจ..ดั่งคู่รัก

รักรักรักกันสักปานใด
ก็มีวันพบพรากจากลา

และทิ้งช่วงให้เหว่ว้า
ราววสันต์ลา..
เหมือนรักลวงเหมือนบ่วงกรรม
เหมือนรักระกำ
กำกำกรรมกรรมกันมากันไป
หลอกให้หัวใจมนุษย์มนาเป็นบ้าเป็นหลัง


ทั้งสร้างพลัง
ให้โชนช่วงดั่งดวงมณีฉาย

ทั้งทำลาย..ให้มลาย
หากให้มากไป
หากดวงหฤทัยไหวตามมิทัน

ให้เซซังซมซานหวานหวานหวานแล้วช้ำช้ำช้ำ
ย้ำ..คนคนคน..วนวนวน
เวียนวกกลับ..ราวกับฤดูกาล..ฤดีแปร..

**************



http://thaipoem.com/web/linkmain.php?url=http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=328
 
หยาดฝนแห่งความรัก   สุนทราภรณ์ : : Key F  
ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น

ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล

ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน

ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล

ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน

ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ

ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น

ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล

ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน

ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล

ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน

ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ...



บันดาลใจ..
จากบทเพลง
ที่พริ้งพราวไพเราะมากงามในรู้สึกมากค่ะ
และ
กับฝนทิ้งช่วง

กับใจดวงสงบงามเงียบเรียบง่าย
ใจดวงดีดวงเดิมดวงโดดเดี่ยว
เดียวดาย
ที่มีดวงดอกไม้ไพร
ดั่งเพื่อนไพรเพื่อนใจ
ประโลมหวานหวังให้พลังใจใสงามใสเย็น
เสมอมา

หวัง
ระรินสาย
จากธารทิพย์วารินนี้
จะประดุจ..
ดั่งหยาดน้ำใส
น้ำค้างกลางไพร

พร่างหอมห่มใจ
ให้งามฉ่ำในทุกดวงใจ
ในร่มรักเรือนไทยเรือนใจเรือนสามัคคีนะคะ
				
31 พฤษภาคม 2547 23:16 น.

ใครหนอ!

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=328
ดวงใจพ่อ
************

พ่อจ๋า..พ่ออยู่ไหน
ควานคว้าไปไม่มีพ่อในคืนนี้
พ่อจ๋าพ่อผมกลัวความมืดยามราตรี
พ่อคนดีในดวงใจในดวงชีวา..

พ่อจ๋าพ่อ..
ผมนอนรออ้อมกอดคอยห่วงหา
ระหว่างเรารักถักทอผ่านดวงตา
ยิ่งใหญ่กว่าหาคำใดอธิบาย..

พ่อจ๋าพ่อ.
อ้อมกอดพ่อหอมกรุ่นอุ่นมิหาย
มีร่างพ่ออยู่มิห่างเคียงข้างกาย
ราวตะวันฉายพรายพรมห่มหัวใจ..

พ่อจ๋าพ่อ..
สายใยทอสายใจรักหนักแค่ไหน
พ่อโอบอุ้มทะนุถนอมเจ้าจอมใจ
ด้วยห่วงใยมิห่างหายสายโซ่รัก...

พ่อจ๋าพ่อ..
ลูกกราบขอชาติไหนไหนได้ประจักษ์
พูดซึ้งซึ้งพูดซ้ำซ้ำว่าลูกรัก
พ่อยิ่งนักพ่อยิ่งใหญ่ในใจนี้..เนานิรันดร์.
**************.


พุด..ขอพลีหยาดน้ำตาละหลั่งรินด้วยซึ้งใจ
พลีดวงดอกไม้ไพรทุกดอกดวง
มอบมาลัยมะลิพวง ที่กำลังผลิละออ
ช่อนวลพราว..หอมงาม
แทนช่อภักดิ์ช่อรักแทนศรัทธาใจ

ในความรักแท้แสนยิ่งใหญ่
ในความพิสุทธิ์ใสแสนงาม
จากน้ำใจ จากกมลละไม..จากค่าคำ*นิยามพ่อ*..
ผู้เสียสละอดทน มิบ่นท้อมิพ้อใคร
แม้จะยากลำบาก..
ฝากทุกหยาดหยดเหงื่อ
เพื่อ..เจ้านะยอดดวงใจเจ้าดวงตา
นะคนดีที่พ่อแสนรักเอยแสนรักในกมล..

อ้อมกอดแข็งแรงอุ่นเอื้อ
ราวดวงตะวันอันอ่อนอุ่น
หมุนรักให้หอมกรุ่นสร้างหวังพลังใจ
ยิ่งใหญ่  หนักแน่น
ราวขุนเขา ท้าทายสายฝนลมแรง
พายุไหว ด้วยดวงใจทรหดอดทน
หวังบ่มเพียรเพาะหวัง
ให้บทเรียนมิพ่ายช้ำมิพ่ายใจมิพ่ายใคร
ให้ลุกขึ้นหยัดยืน สู้ชะตา
เป็นดั่งรอยเท้า
ให้ลูกได้ก้าวเดินตามรอยไป
อย่างลูกผู้ชาย..สู้ด้วยใจ..

ลูกผู้ชายหัวใจชาติไพร...ชาติทรนง!...

*********


ร้อยละออสุมามาลย์หวานเต็มโลก
วางลบโศกพลีมอบศรัทธาขวัญ
ร้อยห่วงใยพันผูกคล้องชีวัน
วางสวรรค์ให้ทอดย่างปูทางใจ..

ร้อยความดีพลีวางให้ก้าวย่าง
ร้อยความว่างสู่ร่มธรรมนำใจใส
ร้อยความหวานมวลดอกไม้บ้านสวนไพร
ร้อยศรัทธาใจศรัทธาภักดิ์คล้องดวงใจรักแสนยิ่งใหญ่แด่ใจเธอ..

********



http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32306.php

ฝากกระซิบแถม
แกม ริมแก้มหอม

เกาะ..กอด..เกี่ยวใจ
ด้วยงานงามใสรจนาใจ..
จากภาษาใจภาษาดินธรรมดาๆ
จากพุดพัดชาผู้หญิงชาวไพร
หัวใจดวงธรรม..ธรรมชาติกลางๆวางว่างร้างไร้

*แด่ดวงตาดารางามนามนักเขียน(อยากจะเขียน)ค่ะ*คนดีนะทุกดวงใจ



พระจันทร์สีส้มสุกดวงโตสุกปลั่ง
กำลังสาดส่องทอประกายนวลละอองดั่งทองทา 

เมื่อแหงนเงยหน้าบนฟากฟ้าสีน้ำเงินงามเข้มดั่งกำมะหยี่ 
ในราตรีที่ดวงดาวราวเร้นหลีกหลบประกายกล้า
มิหาญกล้าทายท้าแสงนวลใย หายเข้าไปในหน้าต่างเมฆ..

ฝากดอกไม้ไทยที่พากันเอาใจ 
บานละออชูช่อรอหยาดน้ำค้าง 
ที่คงหยาดสายพรายพร่างในยามดึก...
ผ่านม่านมนต์เมฆเสกเสน่หาให้มวลมนุษย์ 
มองหาสวรรค์ฝันหวานหวาน
ฝากผ่านถึงดวงใจ..ทุกดวงที่ยังห่วงใยเกี่ยวกระหวัดรัดรึง
ให้ละเมียดละมุนด้วยความงามนั้
นะที่แห่งนี้ร่มใจร่มรักเรือนไทยแห่งเราผอง

ผ่านดวงตาดารางาม
นามว่านักอยากจะเขียน
เพียรสร้างฝันกันมิว่างเว้นแม้ในยามราตรีที่น่านิทรารมย์..

ที่ทุกดวงตาอื่นๆนั้นพากันหลับไหล 
ไฉนเลย..!
เราจึงมาเดินบนถนนสายเดียวกัน 
ในมิติฝันอันลี้ลับมหัศจรรย์ไร้กาลเวลา.

นอกจากจิตวิญญาณภายในจะนำพา
มาให้เราได้พบกันและรักกัน

ได้โอบเอื้อแบ่งฝันอันละเมียดใจ 
ในทุกอณูหนึ่งนี้
กับโชคดี
ที่โลกและกาลเวลา...
ได้ประทานของขวัญ..พรสวรรค์พรแสวง
อันแสนเลอล้ำค่ามลังเมลืองใจ ..เกินกล่าว..แล้ว ... 
 
*************




http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=328
ใครหนอ   
ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key F  
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวี
ใคร หนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใคร หนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย
รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใคร หนา
ใคร หนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน
ใคร หนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใคร หนอ รักเราดังดวงแก้วตา
รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ
จะเอาโลก มาทำปากกา
แล้วเอานภา มาแทน กระดาษ
เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด
ประกาศ พระคุณไม่พอ
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน เท่าชีวัน
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอคุณพ่อ คุณแม่
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ

ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน เท่าชีวัน
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอคุณพ่อ คุณแม่
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ...

 


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด