3 กรกฎาคม 2547 19:03 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=716
ปริม..เป็นสถาปนิก
ถูกว่าจ้างให้สร้างบ้านเลียนแบบพระราชวังโบราณ
ในสมัยกลางของชาวอาหรับ
เจ้าของ..เป็นหนุ่มหล่อ
ทอล ดาร์คแอนแฮนซั่มแสนร่ำรวยและมีอนาคตไกล
และ
เพียงแค่ไม่กี่ครั้งหลังพบปะฟังทัศนะ
เพื่อรับมาออกแบบให้เขาพอใจในงานงาม
ตามประสาอาชีพที่จะเรืองรุ่ง
หากพบเจอลูกค้าไม่จู้จี้
และ
มีทัศนะกว้างไกลพอไปกันได้
มิใช่ให้สถาปนิกออกแบบ และแก้ไปแก้มา
จนแบบวิจิตรวิลิศมาหราด้วยไอเดียงาม
ได้กลายแบบร่างเป็นโรงลิเกแทนในไม่ช้า
สำหรับ*เขา*คุยไม่กี่ครั้ง
ปริมก็สามารถสัมผัสได้
ถึงความคิดพิเศษพิสุทธิ์ของเขาอย่างไม่คาดฝัน
*หัวใจดวงที่งดงามรักเงียบงัน
ฝันอยากแยกโลกและร่าง ห่างๆวิถีภายนอก
ที่เขากระซิบบอก เบื่อเหลือทน
ราวจนใจ
ต้องทนสวมหน้ากากลวงโลกทั้งวัน
กับภาระกิจอันวุ่นวายสับสนต้องพบผู้คนวันละมากมาย
ฉะนั้น
บ้านในฝันของเขาขอให้ซ่อนอยู่ในเงื้อมเงา
ภายใต้*ปราการแห่งความสงบ*
ที่เขาพยายามยกหนังสือเป็นตั้งมาให้ปริมดูเพื่อรับไอเดีย
ให้ดูวังโบราณ ที่สร้างขึ้นในกำแพงหินในศตวรรษที่18
ที่เป็นของราชวงศ์เลบานีสพระองค์หนึ่ง
ซึ่งเขาบอกแสนจะประทับใจตั้งแต่นาทีแรกที่เห็น
อันดับแรก เขาบอก
ปริม..ต้องออกแบบหลอกตา
ให้ซ่อนอยู่ท่ามกลางป่าละเมาะ
ที่ต้องลัดเลาะเลียบ
ซากป้อมกำแพงเมืองโบราณ
มีประตูหินโค้ง เต็มด้วยเศษอิฐหักพัง
และกำแพงนั้น
ต้องทิ้งช่องโหว่ว่างราวร้างไร้รกเรื้อมานาน
และให้แฝงมหัศจรรย์เหลือเชื่อไว้นะเบื้องหลัง
คือบ้านราววัง..โบราณ
หลังป้อมปราการแห่งงามสงบนั้น
*เขา* ถามย้ำ
ปริมทำได้ไหม..สานฝันให้เขาได้ไหม..
ปริมคลี่ยิ้มหวาน...
ก็งานของปริมนี่นา
สู้ร่ำเรียนมาจนได้เกียรตินิยม
อาชีพอันตรอมตรม
ที่บางครั้งบางคราหากเดาอารมณ์ลูกค้าไม่ถูก
ก็ต้องแก้แบบครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกว่าเจ้าของงานจะพอใจ
ปริม..ล้มลุกคลุกคลานผ่านหนาวร้อนมา
กับเล่ห์เหลี่ยมคนที่มักจะเอาเปรียบกัน
มิคงมั่นในสัญญา
พากันโกงค่าแบบ มากร้อยพันแบบประสบการณ์
แล้ว
ทำไมงานนี้
หัวใจดวงดีดวงงามจะไม่หวั่นไหวดีใจ
ที่พลันพลอยกระตุกวาบด้วยปลาบปลื้ม
ดื่มด่ำราวพบขุมทรัพย์ล้ำค่ามหาศาล
ได้พานพบลูกค้าชั้นเลิศ
ราวหัวใจดวงเดียวกัน
จะปล่อยฝันให้พลันหลุดลอยไปได้ยังไงกัน
เมื่อ..*เขา* คนดีนั้น
เปิดไฟเขียว
ให้
สาวปริมใส่ฝันได้เต็มที่พลีจิตวิญญาณได้เกินร้อย
แล้วเรื่องอะไรจะถอยหลัง
ทั้งๆที่ยังไม่ทันชกหรือออกหมัดฮุคด้วยเล่า
ปริมเพียงหวังรุกให้ลูกค้ายอมรับนับถือฝีมือ
ในแนวที่ปริมแสนรักแสนถนัด
ราวกำลังได้ออกแบบบ้านสร้างหวังหวานผ่าน
ความคิดว่าคือรังรักในจินตนาการของตัวเอง
ให้บรรเลงอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร..
ชั่วไม่นานวัน...แบบร่างพร้อมภาพเหมือนจริง..งามกว่าจริง
ภาพเพอร์สเปคตีพที่สายงานอาชีพต้องสเก๊ต
เผด็จใจชนะใจลูกค้า
ที่บางคราบางคนดูแปลนไม่ออกบอกไม่ถูก..
ไม่กล้าตัดสินใจจะถีบส่งไปดี
หรือจะรับไว้..ก็แล้วแต่ฝีมือ..ฝากใจ
สำหรับงานนี้
*เขา..คนดี *ตะลึงตะไล
ราวร่างใจแทบผวามากอดปริม
ผู้ยิ้มอิ่มเอมทายใจเดาใจถูก
*เขา*ระล่ำระลัก เหมือนเด็กๆ
ที่ปริมนั้นได้เสกสรรฝันให้เป็นจริงในกระดาษแล้ว
และ
นี่เพียงขนาดแค่วิมานในอากาศกระดาษ เพียงนั้น
เขายังดีใจเพียงนี้แล้ว
วันที่ฝันเขาถูกสร้างเนรมิตรให้จริงจะยิ่งสักเพียงไหน
เขาคงเหมือน
เด็กได้ของขวัญพิเศษถูกใจที่ราวรอคอยมาทั้งชีวิตเลยทีเดียว
เขายามย้ำซ้ำๆว่าปริมทำได้ไง ...
ทำไม
เหมือนถอดใจถอดจิตวิญญาณเขาออกมาได้
อย่างหมดจดงดงามใจมากเหลือเกินแล้ว
.
ปริมไร้คำตอบ
ก้มลงลอบมองภาพเพอร์สเปคทีพตรงหน้า
ที่มี
ทั้งภาพเบิร์ด อายวิว
ภาพด้านข้างด้านหน้า
และภาพงามจริงราวจำลองมา
จากความฝันที่ทำให้
นิ่งงันอั้นอึ้ง กันทั้งคู่
ใช่แล้ว
ปริมทำได้ไง ก็ไม่รู้
รู้เพียงว่าตอนนั่งออกแบบ
รังรักในจินตนาการ..งานนี้นั้น
ปริมเปิดบทเพลงฝันฟังคลอเคล้าใจไปตลอดเวลา
และ
สมมุติตัวเองว่าบ้านหลังนั้น
คือบ้านในฝันของปริมเองนะซี จะมีอะไร
นี่คือเคล็ดลับที่ปริมมักใช้สายใจสายใยรัก
ถักทอทอดสอดประสานผ่านความคิดมาเป็นรูปเป็นร่าง
สวมวิญญาณ ผ่านความรู้สึก....
หรือลึกลึก
ปริมอาจจะรอเวลา
ที่จะทำงานด้วยหัวใจด้วยจิตวิญญาณ
มานานนักหนาแล้วก็เป็นได้
ที่เป็นบ้านงามเรียบง่าย คล้ายปราสาทแห่งความฝัน
เบื้องหลังปราการอันงามเงียบ
ที่นึกรักความงามดิ่งลึก
แบบเข้าถึงความรู้สึกอันแสนอลังการยิ่งใหญ่
ในขณะ
ที่หวังให้หัวใจผู้อาศัยอยู่ภายใน
มีแต่ความร่มเย็นสงบงาม
ท่ามกลางสงครามความขัดแย้ง
แห่งโลกภายนอกที่ร้อนแรงระอุในเชิงธุรกิจ
*เขาบอก*
ให้ปริมสร้างกำแพงบ้านลอกเลียนแบบของเก่า
สร้างรอยปูนกระเทาะและ
ทิ้งรอยคราบเก่าๆต่างๆอย่างเสมือนราวรอยอดีต
ผ่านกาลเวลามายาวนานนัก อย่างละเอียดละออ
และ
ขอให้มีรอยหลุดลอกบอกความเป็นบ้านเก่า
ซ่อนเอาทุกเทคนิคการติดตั้งอย่างแนบเนียน
โอ้ละหนอหัวใจสถาปนิกสาวช่างฝัน
ผู้ขยันวาดวิมานในอากาศในกระดาษก่อนการสร้างจริง
ถึงกันนิ่งงัน ด้วยซึ้งฝัน
ไปกับเจ้าของที่จะกลายเป็นจริงในไม่ช้า
ช่างแสนน่าจะปลาบปลื้มภาคภูมิใจ
ในชีวีหนึ่งนี้
ในอาชีพนี้ที่ได้สัมผัสอะไรมามากมาย
ได้รู้จักเศรษฐีเจ้าของโครงการ
ได้ผ่านงานและโลกวัตถุมากมี
โลกคนรวยที่มีเงินล้นฟ้าหาความสุขไม่ได้
เวลาให้สร้างบ้านให้ออกแบบตามไปทุบไป
ด้วยเชื่อพลังในเรื่องฮวงจุ้ย
บางทีแก้แบบไปแก้แบบมา
พาเครียดทั้งผู้ออกแบบ
และเจ้าของที่ต้องมาเสียเงินทองมากมาย
เนื่องจากมารู้จักซินแสทายทักทีหลัง
ให้ไม่มั่นใจ
ไม่นานเท่าไร
ก็เครียดเส้นโลหิตแตก
แทบไม่ได้อาศัยบ้านอยู่
ที่แสนหรูแสนแพง
และ
นี่คือชีวีมนุษย์
ที่มิสุดสิ้นความต้องการมากมายมากมี
อยากมีบ้านภายนอกงาม
หากลืมสร้างบ้านภายใน
สร้างฐานรากแห่งดวงใจให้แข็งแรง
รองรับสรรพสิ่งที่วิ่งใส่วิ่งชนได้
ให้รู้รักรู้หยุด
รู้จักรู้จับ
รับงามเงียบในทุกยาม
เพราะ
หากเราคิด....คิด มิรู้หยุด
ในที่สุดหัวใจ..จะไม่พานพบบ้านใดใดเลย
ที่แสนสุขสงบใจ...แม้แต่เพียงหลังเดียว
และ
จิตวิญญาณ
ต้องเที่ยวท่องแบบร้างไร้ คล้ายจนเสียยิ่งกว่า..คน
ผู้ไม่มีบ้านภายนอกหลอกอวดใครอวดบารมี
หากทว่า
*เขาคนดี*นั้นมีบ้านภายในบ้านในดวงใจ
แสนสวยใสงดงามละไมละเมียดแข็งแรง
ใจที่ร่ำรวย ด้วยความดี มี สมาธิ สติ มีปัญญา
พาให้หลุดพ้นจากวังวนเวียนว่ายในวัฎฎสงสาร
ที่มิต้องหวานชื่นต้องขื่นขมระทมทับ
และแตกดับดวงใจดวงจิต
ติดหลงกลับมารับว้าเหว่เดียวดายดายเดียว
นับอสงไขยในเวลามิอาจหลุดพ้น....ผลกรรม..
1 กรกฎาคม 2547 09:41 น.
พุด
นาทีนี้
แพนมีความเกษมสงบสุขมากค่ะ
แพนเชื่อว่า
ความรักแท้จะไม่มีวันทำลายใคร
เพราะรักแท้
จะไม่มีวันเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง
เหมือนที่ใครบางคนเคยให้คำมั่นสัญญา
กับแพน ที่แพนจำตราไว้ ภายในจิตวิญญาณแล้ว
แพน..เชื่อว่าเฉกเดียวกับความเกษม
ที่ไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นความทุกข์
มาตรแม้น
เราอาจจะได้สัมผัสความรักความเกษม
เพียงช่วงสั้น อันแสนงาม
ก็จักจะยังคงเป็นนิรันดร์รักมหัศจรรย์ใจเสมอใจเสมอไป
ไม่มีใครสูญเสียใครไป
แม้นไม่ได้มา
เพราะว่ารักนั้น
จักประดับพร่างนะกลางดวงชีวาของเราเอง
เป็นธรรมชาติ
แม้นใจแม้นใครก็มิอาจทำลายความคิดได้
แม้ฟ้าจะมีดมนสักเพียงใด
พระอาทิตย์ก็ยังจรัสแสงอยู่อีกฟากหนึ่งของมวลหมู่เมฆ..ค่ะคนดี
และ
คนดี....
นานแล้วที่ไม่ได้เขียนเมล์รักจดหมายรัก
และพอดี
ตอนนี้ที่กำลังอินเทรนด์อินใจ..
ในทุกดวงใจนักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝัน
กันเป็นทิวแถวก็..
คือ
จดหมายรักค่ะ..และเป็นหนังรักมหัศจรรย์รักมหัศจรรย์ใจ
ที่แพน..ยังไม่ได้ไปทอดทัศนานะคะ
เพราะแค่คำโฆษณาก็กลัวว่าจะหลั่งน้ำตาท่วมโรง
และเหตุผลแสนดีที่แท้จริงคือ
แพนไม่มีอกใครและไหล่ใครให้ไหวหวั่น
ไปอิงอกพลันให้รอซับหยาดน้ำตานะซี จะมีอะไรเสียอีกละคะ
เพระทุกคราในชีวานี้มักตกที่นั่ง..
ดูหนังคนเดียว..เดินคนเดียวทำอะไรคนเดียว
ดายเดียวค่ะ..ประจำชีวีชีวิตก็ว่าได้
ใจชอบด้วยมังคะ..ชอบทำอะไรคนเดียว..
เหมือนในเรื่อง
*ลำพังกับจันทร์แรม*
เย็นนี้ ฟ้าสวยเหลือเกิน
สีฟ้าอ่อนอมเทาบางเบา เจือส้ม ชมพู ม่วง
จนยากจะแยกออกว่าเป็นสีใด
รู้แต่ว่าเป็นสีท้องฟ้า
ที่อ่อนหวาน ปานสายไหมเลื่อมพรายพราว
ตะวันเรี่ยยอดไม้โรยตัวลงช้าๆ
ทิ้งแสงสีราวรุ้งทาบทา
เป็นช่อชั้นส้มปนแดง
จับเมฆหวานปานวิมาน ยามใกล้ค่ำ
จันทร์เสี้ยวตะแคง ขี้เกียจ
แขวนอยู่กลางฟ้ากว้างแล้ว
รอเวลาทายทักราตรี
ที่จะจุดเทียนแสงดาวประดับฟ้า
ให้พราวพรายนับพันล้านเล่ม เต็มอ้อมฟ้า เต็มอ้อมฝัน..
ชาวสวนหลังบ้านก่อกองไฟ..
ควันไฟลอยอ้อยอิ่งแตะปลายกิ่งไผ่ที่ไหวเอนล้อลม....
พ้นดงไม้ขึ้นมา ช้าๆ
ให้ได้สัมผัสกลิ่นนี้
ที่หวนไห้คิดถึง ท้องทุ่งนา ท่ามกลางป่าดงและไพรกว้าง
ยอดโดม..สีขาวบ้านเพื่อนบ้าน
ล้อแสงตะวันราวอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน...
ยามนี้ที่ฉันราวอยู่ลำพัง...คนเดียวในโลก .........
เวทีท้องฟ้า..
เล่นแสงสวยช้าๆให้จับนัยน์ตาในใจ..ไล่โทนสีไปเรื่อยๆ..
ด้านโน้น ด้านนี้
ฟ้าเปลี่ยนสี
เหมือนจะบอกเรานี้ว่า
ใจคนเราก็ยังไม่สายที่จะเปลี่ยนแปลง..
เป็นลำพัง...ที่แสนดี ในความคิดความรู้สึก
มีเพียงนกน้อยๆ เกาะกิ่งโมกอย่างโดดเดี่ยว เป็นเพื่อนใจ
ฟ้า..มืดแล้วนะ..แต่ใจกลับนิ่ง สว่าง สงบ
ไม่พบกับความวุ่นวาย สับสน ด้วยได้อยู่ลำพัง..
เอนกายราบ..ทอดตาจับฟ้าเบื้องบน
ฟ้าเริ่มมืดหม่น..
แต่จันทร์เสี้ยวกลับทอแสงนวลใยโลมไล้ราตรี...
และใจดวงนี้ ให้คลายหม่นราวเมตตา..........
มองจากเบื้องบนลงมา.........
หากฟ้ามีตา.....
คงเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง..
นอนนิ่งเงียบ..เดียวดาย..ลำพัง..กับฟ้ากว้างและจันทร์แรม.......
*************
ประมาณนั้นประมาณนี้ค่ะ..
คนดี...
สัญญาว่าจะเขียนถึงตั้งแต่ฤดูร้อน
ตอนกลับบ้าน...เกาะแสนรัก..มหัศจรรย์รัก
หลังจากกลับมาใหม่ๆหมาดๆ
นี่ก็พลาดมาถึงยามวสันตฤดูแล้วนะ
จนปีศาจวสันต์มาร้องร่ำครางครวญหวนไห้แทบทุกวันแล้ว
ก็ยังไม่ได้รจนาภาษารักภาษาใจภาษาละไมละมุนกรุ่นคิดถึงฝากให้
อาจจะเป็นเพราะ
ระยะนี้..น้ำตาลในหัวใจในเลือดต่ำจังค่ะ
เบื่อคำว่ารักจังรักจริง
อยากวิ่งหนี..วันละหลายร้อยหนเลย..
แค่แพนตั้งใจ
จะพยายามเค้นใจรจนาเรื่องรักให้ครบ500
แล้วว่าจะพักใจไม่หวามไหวหวานหวามหวั่นแล้วค่ะ
ว่าจะหันไปเขียนเรื่องแนวอื่นแทนแล้วนะ
เอาล่ะ
เมื่อนับดูยังไม่ครบก็จะร่ายบทพรรณารักพรรณาสด
อีกหลายบทหลายบาทฝากพิษ(พิสวาทใจ)ไปพลางๆนะ
ทนๆอ่านหน่อยละกัน
คนดี
จำได้ไหม
นาทีแรกที่เราพบกัน
ในยามสนธยาฟ้าร่ำรินสีแสงงาม
เหมือนในเรื่องคำมั่นสัญญาของพุดพัดชา
ที่บรรยายฉากวิมานม่านเมฆไว้งามมาก
**************
*คำมั่นสัญญา พุดพัดชา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
เรือเฟอรี่ลำใหญ่...วิ่งฝ่าทะเลเงิน..งามเข้ม..
จนเกิดฟองคลื่นขาวนวล..กระจายรายรอบลำเรือ...
รัศมีฟองฝอย..ริ้วรายพรายพร่าง..
แผ่วงคลี่คลุมผืนน้ำจรดฟ้า..แลเวิ้งว่าง..กว้างไกลสุดตา....
ยามเย็น..อาทิตย์ดวงโตสีส้มสุก..ใบใหญ่เท่ากระด้ง..ใกล้ลาลับฟ้า....
แตะต้อง..ทายทักทะเล..อย่างอ่อนโยน..
นิ่มนวล..รู้ใจ..ร่ำลา..อ้อยอิ่ง..ทิ้งแสงสวย............
เบื้องบนนภา..รัศมีสีรุ้ง..ฉายฉาน..ส้ม..ปนเหลือง..
แสดแดงแรงร้อน..เริ่มราโรย..ในม่านเมฆ........
ซ่อนละมุนอุ่นไอ..กลมกลืน..ในพยัพหมอกบางเบา..นวลนุ่ม..
ดุจสายไหมหลากสี..สลับเลื่อมซ่อนลาย
คล้ายดั่ง..วิมานเมฆ..
ดังทิพย์สวรรค์ลอยเลื่อนจากฟ้า..มาแตะต้องโลก.........
ทายทัก..พักสายตา..พาสายใจไหลหลง..สัมผัสแลงาม..
.ตะลึงใจ..ตะไลฝันกับงามล้ำของม่านเมฆ..มนต์ขลัง
เสน่ห์ทะเลไทย.....
ตรึงดวงใจทุกดวง...ดื่มด่ำบนดาดฟ้าเรือ.....
ยามสนธยา..ใกล้ราตรีมาเยือนแย้ม........
************
หากฉากนี้นางเอก..นุ่งกางเกงขาสั้นที่สั้นมาก
สั้นแบบสิ้นสงสัยนอนสยายผม..ยาวสยายนะแคร่ไม้ไผ่ริมเรือน
ใต้ซุ้มพวงชมพูที่กำลังออกดอกมิหรูหากหวานพรูพราวเลื้อยพัน
เกาะเกี่ยวกันกับซุ้มการะเวกและแมกไม้ไทยนานา
คนดี
จำได้ใช่ไหม..คุณตกใจคิดว่านางไม้นางไพรค่าที่มานอนอยุ่ในเงาสลัวลาง
หากเพราะผมทอประกายจรัสในความืดที่ทำให้คุณใจชื่นชื้นขึ้นมาหน่อย
และกับร่างมิได้ห่มสะไบรักสะไบภักดิ์..เพียงนั้น
คนดี...
คุณบอกในท่ามกลางความสลัวนั้น
คุณเห็นความสล้างจากน้ำในแววตาพร่างวะวับ
ที่คุณบอกงามจับใจมาก..ยามเราเจรจาทายทักกัน
และคุณบอกว่ายามได้สัมผัสภาษาพูดของฉัน
สาวแพนแม่แขนอ่อน
ผุ้หญิงหัวใจสะออนขี้อ้อนแล้วคุณยิ่งงงงัน
ที่คุณพลันบอกกลัวความพิเศษพิสุทธิ์นี้
ราวหวั่นรู้ชีวีภายหน้าจะพบฝันร้ายมากกว่าฝันดี
และต้องมีคำพลัดพรากจากเจ็บรอ...
เหมือนดั่งคำสัจจธรรม*ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์*เลย
คนดี
แล้วมากนาทีแสนงดงามก็ตามมาค่ะ...ก็ฝากในเรื่องนี้ไงคะ
ผู้หญิง. ดอกไม้ กับสายฝนในคืนแรม..
**************
ฝนตกพรำพรำ อากาศหอมชื่น..
กลิ่นดอกแก้วหอมระรื่นระรินลอยมากับสายลมเย็น..
ไพล ซุกตัวในผ้าห่ม หลับตาฟังเสียงฝน..กระทบหลังคา..พริ้งพราว..
พลัน..คิดถึงอดีต........นานมา...
ในราตรี ที่ฝนพรำฉ่ำฟ้า อย่างนี้..กับคืนที่มีใครบางคน....
คืนที่ซ้อน..มอเตอร์ไซด์ ท่ามกลางสายฝน
จากโค้งอ่าวหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง..
เส้นทางที่รถยนต์ใช้การไม่ได้..เส้นทางอันตราย
เย้ยฟ้าท้ามฤตยู ที่ตัดเลียบเนินผาสูง
เส้นทางที่มองลงมาเบื้องล่าง จะมีหุบเหว ให้หวิวหวั่น..
แต่ราวจะลอยเลื่อนสู่สวรรค์ของหนุ่มสาว
ยามที่มีคนรักโอบเอวแนบแน่น ทะยานปีนขึ้นผา ท้าหวาดเสียว..
เส้นทางที่..เขาของไพล..บอกว่า จะไม่มีวันลืม คืนฝันอันตรายนี้..
คืนที่ร่างสองร่าง เปียกโชก และเนื้อแนบเนื้อ ใจแนบใจ
ไร้สิ่งใดมาขวางกั้น เพื่อบึ่งขึ้นไปยังโขดหินที่มีศาลาให้หลบฝน..
เป็นคืนฝันอันงดงาม ...ที่คิดคราใด ก็วาบหวามไหว
ในความทรงจำรำลึกของไพลทุกคราครั้ง
บางเวลา..ไพล..อดคิดไม่ได้ว่า..
ในความทุกข์ระทมจากรัก เราทุกคนก็จักมีสิ่งสวยงาม แสนดี
ให้มิรู้เลือนลืม เฉกเช่นกัน..
คืนนั้น..คุณคนดี มัวแต่สาละวนเอาผ้าเช็ดหน้าผืนโต
คอยเช็ดหน้าเช็ดผมให้ไพลอย่างทะนุถนอมเบามือ
ด้วยห่วงใย กังวลว่าไพลจะไม่สบาย จนลืมคิดถึงตัวเอง..
รอเวลา..ให้สายฝนที่พร่างสายขาดเม็ด สร่างซา ให้ฟ้าเปิด..
เพราะหากขับลงไปดีไม่ดีจะลื่นไถลมีอันตราย
จากทะเลโคลนที่ไหลบ่ามากับสายน้ำจากภูเขา..
กลิ่นดอกไม้ป่า....อวลหวานละมุนมากับ..สายฝน..
นั่งเคียงกัน ดูทะเลเหงาเหว่ว้า
เบื้องล่างลิบๆราวกับผืนกำมะหยี่ในเงามืด กับราตรีที่ไร้จันทร์ส่อง..
เป็นคืนแรม..ที่หัวใจไพลแรมๆรอนๆเสียยิ่งกว่า..
เมื่อมองสบตากันนิ่งนานในเงาสลัวของคืนฟ้าหม่นไร้สิ้นแสงดาว ...
บรรยากาศหวานหวานเป็นใจ..
ให้ดวงใจสองดวงหลอมละลาย..
เบียดชิดร่างให้หนาวคลาย
เคลื่อนใกล้เข้ามาสู่อ้อมกอดอุ่นหวานละมุนละเมียดใจ
ไพลซบหน้ากับไหล่กว้าง เขาเคลียแก้มคางเชยชม..
โลกหยุดหมุนลงนาทีนั้น กับฝันสล้าง
แสนงามของสองดวงใจ..ที่งามงดหมดจดใจ
ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น..
**********************
กลับมานะนาทีนี้ดีกว่านะคะ
ด้วยเบื่อรจนารักต่อจึงขอหยุดจดหมายรักไว้อีกแล้ว
แอะ..แอะ..ตลกมั้ย
กับการเขียนจดหมายรักสดแล้วงดรักงดใจหวานอีกแล้ว
ฝากให้รอติดตามอ่าน..
หากคุณรักจริงน่าจะรอไหวนะคะ
27 มิถุนายน 2547 23:20 น.
พุด
ถึงทุกดวงใจ..ในค่ำคืนนี้นะคะ
ช่วงที่รอดูบอล
พุด
มาสะออนอ้อนอยู่แถวนี้นะคะ
และราตรีนี้
พระจันทร์สวยมากเหลือแล้วค่ะ
สีทองผ่องผุดนวลแอร่มแจ่มฟ้า
ทายท้าฟ้าสีน้ำเงินงามเข้ม
ดูเศร้าดายเดียวเด่นลอย..เลยละค่ะ
งามแจ่มมากค่ะ
พุดค่อยๆหรี่ตามองลอดใต้เงามะม่วง
ด้วยดวงใจรัก..
และพุดถึงกับทนไม่ได้ต้องเดินออกไปทายทัก
นอกลานบ้านกลางลานจันทร์
ให้น้ำค้างฝันน้ำค้างในดวงใจละหลั่งรินรับถวิลงาม
นาทีนี้หอมเคล้ากลิ่นจำปีพร่าง
หอมว่างงามเงียบ
หอมหัวใจใสเย็นเฉียบ
ยามได้ระร่ำรินทุกรสบทกวีคลอแกล้มใจไปด้วยกันค่ะ
เด็ดดอกลีลาวดีหวานๆหอมๆมาสองสามช่อพอเคลียใจ
พลิกดูภาพประทับใจใน*anywhere *
หนังสือท่องเที่ยว ที่มีสะโลแกน
(BE WHAT YOU WANT TO BE)
ใช่เลยค่ะ..
อ่าน
Bhutan Blessd from above
ภูฎานแดนบริสุทธิแห่งขุนเขาหิมาลัย
ที่ช่างงามจับใจจับตา
และด้วยภาพงามเดียวดายร่ายมนต์ภูไพร
พาใจพุดพัดชาไปนอนหนาวเหว่ว้า
บนเทือกสูงเหนือน้ำทะเลแล้วค่ะนาทีนี้
ความงามที่แสนพิสุทธิ์ใจในวิถึชีวิตอันมีเอกลักษณ์
ที่พุดพัดชาอยากไปสัมผัสมายาวนานแล้ว
และหวังสักวันไม่นานนี้
เมื่อปลดบ่วงชีวี จัดสรรทุกอย่างลงตัว
พุดจะออกโอละเห่เดินทางไกลเสียที
ไปทุกที่ ที่อยากไป
ธิเบต อินเดีย แม่น้ำภาวนา
ดูคงคาเรืองรองสายนทีทองนทีธรรมนทียากแด่ผู้ยากไร้
..........
พุดเพิ่งอ่านมาพบว่า
*บ้านใครออกแบบโดยไม่ใช้สถาปัตยกรรมสไตล์ภูฎาน
ก็จะไม่ได้รับการอนุมัติให้ก้อสร้าง
จึงทำให้สิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือน ร้านค้าในประเทศนี้
สามารถคงเอกลักษณ์อันโดดเด่นไว้ได้
โดยไม่ถูกบิดเบือนโดยวัฒนธรรมอื่นใด
อ้าวมาดูต่อค่ะ
โอ๊ะโอ..เพียงแค่เห็นภาพวัดทัคซัง(Taksang)
ตั้งตระหง่านงามง้ำงามล้ำอยู่บนริมผาบนเทือกเขาอันสูงชัน
หัวใจพุดพลันก็ฝันกระดอนกระเด็นแทบเต้นออกมานอกอกนอกใจ
เพราะคิดไปถึงงาน*อัฐิอาจารย์*ฉากที่เณรซุงไซ...
จุดเทียนก่อนหนีออกมาจากวัด
เป็นฉากอันประทับใจในความสมถะ
ในความเร้นลับ..มหัศจรรย์สงบงามเงียบในจิตวิญญาณ
ที่อ่านอีกสักพันครั้งก็มิรู้เบื่อค่ะ
ใครที่มีหนังสือเล่มนี้
แล้ว
ทิ้งขว้าง..ก็กรุณาให้ทำใจสล้างเสลารักกลับมาอ่านเสียนะ
และพาให้คิดถึง*ขุนเขาแห่งจิตวิญญาณงานโนเบล*
ที่ส่งไปให้*ม้าก้านกล้วย*อ่านค่ะ
หากไม่อ่านคืนกลับมานะคะมาให้คนที่รักที่ชอบอ่านซ้ำอ่านซาก
เพราะพุด..ไม่รู้เป็นอะไรชอบอ่านงานเกี่ยวกับองค์ลามะ
หรือวัดจีนโบราณชอบวิถีเซนค่ะ
สำหรับวัดนี้
ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้
นอกเสียจากจะเป็นแขกของพระมหากษัตริย์หรือรัฐบาล
และ
วัดนี้เคยเป็นสถานที่
สำหรับนั่งสมาธิขององค์ลามะชื่อดังหลายรูปทั้งในทิเบตและภูฎาน
สร้างมาตั้งแค่ค.ศ1692
และเคยถูกไฟไหม้ การบูรณะต้องใช้เวลาหลายปีด้วยตั้งอยุ่บนผาสูงชัน
ปัจจุบันอนุญาตให้ขึ้นไปถึงแค่จุดชมวิวที่หนึ่งและที่สองเท่านั้นค่ะ
.............
ขอเบรคดวงตาและดวงชีวาล้าละมุนหน่อยนะคะ
ออกไปเด็ดดวงจำปีมาแซมผมก่อนนอน
ให้หอมงามเคลียแก้มแต้มขวัญหลับฝันดี
และ
หากว่าบอลคืนนี้สนุกด้วยนะคะ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973
ดวงใจในฝัน
อรวรรณ เย็นพูนสุข : : Key Eb
รำพึงรำพัน ฝันรัก รักเอยใฝ่หา
ยังจำติดตาชวนปลื้ม ฉันลืมไม่ลง
เป็นรอยพิศวาส ปักใจมั่นคง
ฝังใจพะวง หลงรอคอย
อาวรณ์ใจครวญ หวนคิด คิดจนพร่ำเพ้อ
พาใจละเมอหมองหม่น คิดจนเลื่อนลอย
ยามนอน ถอนสะอื้น ตื่นตาแลคอย
คิดจนดาวลอย คล้อยเมฆา
ฝันกอดเชยชม ภิรมย์รื่น พี่ชื่นตื่นผวา
จนใจ ไม่มีใครเมตตา
เพียงนิทรา นิจจานึกว่าสุขเอ๋ย
บางคืนมองจันทร์หรรษา นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย หลงเชยแต่เงา
บางคืนมองจันทร์หรรษา
นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า
น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว
ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย
หลงเชยแต่เงา...
27 มิถุนายน 2547 06:11 น.
พุด
ความเคลื่อนไหวของยูโร2004
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/page1/jun/26/p1_2.php
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/sport/jun/26/spo2.php
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/euro2004/jun/26_6_47.php
http://www.inet.co.th/thairath/
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/euro2004/jun/25_6_47.php
****************
ฉันเพิ่งจะดูฟุตบอลยูโร2004 คู่ฮอลแลนด์-สวีเดนจบลง..
เกมกิฬาของลูกผู้ชาย
เกมใจเกมจริง ที่ยิ่งกว่าใช้ใจเดิมพัน..
เป็นเกมกิฬาแห่งชีวิต
ที่แสนมันส์ ตื่นเต้นเร้าใจสะทือนขวัญสะเทือนใจ
เกมแห่งความฝันอันงดงามยิ่งใหญ่ ของมวลหมู่มนุษยชาติ
ที่ฉันนั้นมองผ่านลูกบอลกลมกลมที่กลิ้งกลิ้งไป
ทะลุมองเห็นสัจจธรรม.แห่งหัวใจแห่งชีวิต..มาทั้งเดือน..
ดวงตา..ของผู้แพ้.!..
ไฉนหนอหัวใจฉันจึงราวถูกเฉือน
กับดวงใจไหวร้าว
กับดวงตาแสนเศร้าสะเทือนของผู้แพ้ ไม่ลบเลือน.........
ราวกับดวงใจพลอยถูกเฉือนตามไป.. ในสนามแห่งชีวิต....
ที่มีทั้งรอยยิ้มเสียงหัวเราะและน้ำตา
ที่ทุกหัวใจทุกฝีเท้าพยายามเฝ้าลิขิต
ด้วยความมานะบากบั่นขยันฝึกซ้อม
ด้วยหยาดเหงื่อรินรดหยดหยาดมานานปี..
เพื่อขอให้มีนาทีแห่งความยิ่งใหญ่สวยงาม...
นี่คือ..เกมแห่งใจแห่งโลกนี้...
ที่สอนและให้บทเรียนว่า........
ไม่ว่าในสนามรักสนามกิฬา..
คือความจริง..
ที่ต้องยอมรับว่า ....เมื่อมีผู้แพ้ต้องมีผู้ชนะ..
อย่าลดละ..สร้างฝันลุกขึ้นมาสู้ใหม่
ด้วยพลังใจเต็มร้อย
ที่หวังและรอคอยวันปรีดา
แม้ว่าวันนั้นจะมีมา..
หรืออาจจะไม่มีวันได้พบเจอ..
ขอเพียงเธอฉันได้ทำทุกสิ่งแสนดีที่รักนี้
ด้วยหัวใจดวงนี้ที่เต็มไปด้วยศรัทธาฝัน..ขวัญ
ที่มิมีวันจะยอมก้มหัวยอมแพ้!แก่เกมชะตา..
และ
ขอเย้ยทั้งฟ้าทั้งท้าดิน..สิ้นแล้ว..ราวชีวิตเรา!
25 มิถุนายน 2547 22:35 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5524
คลิ๊กurl ฟังบทเพลงนี้ประกอบนะคะ
********************
คนดี..
ผม..มองคุณมาเป็นเดือนแล้ว
หนึ่งเดือนเต็มๆ
ที่ทุกวัน..ผมจะต้องเห็นคุณใน*คลองตา*
และนะบัดนี้คนดี..ครับ
คุณรู้ไหม ภาพคุณกลับมาสถิตใน*ครองใจ*ผมเป็นนิรันดร์แล้ว
คนดี..
ไม่เคยมีวันไหนในชีวิต..ที่ผมจะรู้สึกดีรู้สึกงาม
เท่ากับในยามสนธยาแรกที่ผมได้พานพบคุณ
ช่างน่าแปลกนัก...
ที่สวรรค์เมตตาหรือว่านรกปรานี
ที่ผมนี้ยังมิอาจจะคาดเดาได้เลย..ถึงวันข้างหน้า..นะคนดี
ผมเพียงอาจจะโชคดีหรือโชคร้าย
ได้รับการทายทักจากคำว่า*มหัศจรรย์รัก*
ที่ผมเพียรพยายามหลีกหนีมาเกือบชั่วชีวีชีวิต..เลยทีเดียว
คนดี..หลายคนที่รู้จักผมมักลงความเห็นกันว่า
ผมเป็นมนุษย์ผู้ชายพันธุ์พิเศษพิสุทธิ์..
ที่นับวันชักจะเหลือน้อยลงน้อยลงทุกที..และทุกที..แล้ว
เพราะอะไรนะหรือ..ครับคนดี
ก็เพราะว่าหัวใจผมนี้ไม่สะออนอ้อนหารักสาวใด
ไม่สนใจสนรักจะอยากฝากภักดิ์พลีใจให้ใครใครเลย..
ผมเบื่อ..คำว่ารัก..นัก
ผมชินผมเชยผมเฉยผมชาและชักจะ
ไม่เหมือนมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาๆเข้าไปทุกที
ที่ยังต้องมีกมลละไมละมุน
หมุนวนหลงในเกมกลเกมกาม
นิยามรัก
ที่มักจะพบทั้งสมหวังและผิดหวัง..
และทั้งสองฝั่งนั้น
สำหรับความคิดผมคือ*พันธะพันธนาการใจ*
ที่นับวันจะยิ่งทำให้ไกลห่าง
ทางงามเงียบสว่างสะอาดสงบพบ..ว่างวางถาวร..
คนดี...
ผม..สารภาพ..นะครับ
อาจจะเพราะผมเกิดมากับเนื้อนาบุณย์กับใจดวงนี้
ที่ยินดีเหว่ว้า ที่ยินดีรับสุขดายเดียวลำพังได้อย่างมิพะวักพะวงถึงผู้ใด
คนดี..
หัวใจ..ดวงนี้ลึกล้ำเกินไป
จนยากที่ใครจะหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งความคิด
ความฝันความเบื่อวังวนวนเวียนแห่งโลกวัตถุนี้
ที่เนื้อใจดวงดี ดวงพิเศษ
ราวคอยเฝ้ากระซิบเตือน
ให้ผมพาจิตวิญญาณและร่างราว*คนเหนือโลก*
ทิ้งทั้งโศกสุข ไม่มี ไม่รับ ไม่จับ ไม่จ่อจิตกับชีวิตที่ยึดมั่นถื่อมั่น
คนดี..
หลายคำถาม..ตามมาอธิบายให้ตัวผมเองนะนาทีนี้
ที่ผมอยากพลีใจบอกเล่าให้คุณได้รับรู้เพียงคนเดียว
ราวนางใจนางในฝัน
ที่ผมรู้ว่าคุณนั้นก็มีหัวใจดวงพิเศษพิสุทธิ์เสมอจิตเสมอใจ
พอที่ผมจะบอกเล่าให้เข้าใจให้รับฟังและรู้จักรู้ใจผมได้อย่างถ่องแท้
คนดี...
หัวใจดวงดิบดวงดินดวงดี..นี้..
เกิดมากับทุ่งกว้างอย่าง*เด็กชายชาวนา*ผู้ยากไร้
กับวัวควายกับโคลนเลน
กับโสน เอนละออ ออกช่อเหลืองทอง
ละอองผ่องพรายริมชายทุ่งชายนาป่าเขา
กับหอมเสลาตาลยืนต้นดายเดียว
กับกล้ารวงเรียวหอมพร่างสล้างพราย
ยามสายลมพัดข้าวเบามาเยือน..
กับดาวเลื่อนลอมฟางกลางมวลหมู่ดาวพราวฟ้าใส
กับน้ำค้างไพรหยดเย็น
ค้างกระเซ็นดั่งพราวเพชรเกล็ดกลางใบบัว
กับยามสลัวอุษาสางดุเหว่าแว่วแผ่วพร้องร้องเพลงหวาน
ขานขับรับอรุณอุ่นงามยามตะวันดวงสีไพล
ค่อยๆโผล่รำไรๆเหนือยอดไผ่ใบตองริมระเบียงกระท่อม
กับแก้วหอมหอมเชยชายคา
กับน้ำตาดาวเคล้ายอดหญ้ารอฝูงวัวควาย
ที่รอให้ผมสลัดร่างจากผ้าห่มผืนเก่า
หากทว่าหอมเพราอุ่นละออแดด
ให้ผมค่อยๆพาเทียมแอกแบกไถออกไปในนากว้าง
กับร่างแม่พ่อผู้ก่อเกิดงามนะกลางใจดวงน้อยๆของผม
แม่ผู้มีมือกร้านงานหากมีใจดวงหวานราวละอองน้ำค้าง
กลางไพร..เป็นดั่งดวงใจ..เป็นไพรเทพีของเราทุกคน
ในยามเช้า
ที่จะเห็นเงางามเดินไปมาในครัวมัว
เฝ้าก่อไฟด้วยฟืนหอมหอมให้คุคุปะทุลั่นเปรี๊ยะ
เพื่อหุงข้าวแก่นจันทร์พันธุ์หอมฟุ้งจรุงไปทั่ว
ยั่วน้ำลายให้หิว..อยากซดน้ำข้าวแดงเติมเกลือ..อุ่นๆ
กรุ่นท้องรอเวลาอาหาร..เต็มมื้อ
.........................................
รอติดตาม..ยังมีต่อค่ะ......
เพราะ
พุดรจนาสดๆห้านาทีนี้เองค่ะ
มีพล๊อตไว้ในใจแล้วค่ะ
คงยาวค่ะ.....และรจนาไปแก้ไปค่ะ
ด้วยรัก