8 สิงหาคม 2548 21:00 น.
พี่ดอกแก้ว
ม่านผงคลีคลี่คลุมเป็นกลุ่มก้อน
ลมเร่งร้อนร้อยร่างกลางพื้นหน
หมุนปะทะคละคลุ้งฟุ้งสกล
ใบไม้หล่นร่วงพราวคราวลมพรู
ความอึดอัดกลัดกลุ้มก่อคลุมจิต
เหมือนนิมิตร้ายรุมสุมตาหู
ภาพและเสียงเรียงมาไม่น่าดู
ลมอึงอู้ผงฝุ่นหนุนประดัง
คำรามเปรี้ยงเสียงฟ้ามาก่อนฝน
ยิ่งท่วมท้นวิตกปกปิดหวัง
ใจก็พล่านตามลมที่ตึงตัง
เฝ้าระวังเรื่องร้ายที่กรายมา
ใจไร้สุขรุกรนบนเหตุการณ์
แล้วฟุ้งซ่านเดาไปในทิศา
ลุ้นกับทิศทางลมที่โถมพา
เมื่อใดถึงเวลาที่ฝนโปรย
เช่นปัญหาครารอวินิจฉัย
กระทบในลมร้อนซ้อนแห้งโหย
ความกดดันบีบคั้นให้โอดโอย
เหมือนแส้โบยสะบัดอึดอัดทรวง
การรอคอย..ดั่งเครื่องทรมาน
มีห้วงกาลเป็นกรงห้องขังหลวง
และนักโทษก็คือใจทั้งดวง
ที่ผูกพ่วงโซ่ฟุ้งซ่านการระแวง
ยังไม่รู้ลมพรูในครานี้
จะมากมีน้ำฝนล้นระแหง
หรือเป็นแค่ลมครางสร้างสำแดง
ความระแวงวาดภาพใจไปเกินการณ์
5 สิงหาคม 2548 09:27 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อความแกร่งแหว่งเว้าเบ้าใจราญ
ก็คืบคลานเก็บกอบความบอบช้ำ
ไม่ย้อนคืนกลับไปให้ทรงจำ
ก่อรอยกรรมสร้างใหม่ในเส้นทาง
เมื่อร้างมิตรคิดหวนทวนเป้าหมาย
จากค่ำคืนเคลื่อนกายสู่รุ่งสาง
เรียงชิ้นส่วนหัวใจที่บอบบาง
รับอรุณรุ่งรางเพื่อฟื้นตัว
ขอเดินต่อเสี่ยงตายเป้าหมายนั้น
แม้นวันนี้มีฝันมืดสลัว
สักวันหนึ่งคงคลายความมืดมัว
ผลกรรมชั่วสิ้นแรงไม่แฝงตาม
ขอรินรดหยดใจไม่ท้อถอย
คงรูปรอยสายรักให้ไหลหลาม
เพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ให้งดงาม
คือพฤกษ์พันธุ์แห่งความรักจริงใจ
ใครอาจทิ้งรานกิ่งต้นไม้นี้
สิ้นไมตรีโค่นหักหรือผลักไส
จะดูแลรักษาตลอดไป
ตราบสิ้นไร้แรงตนบนเส้นทาง
2 สิงหาคม 2548 18:57 น.
พี่ดอกแก้ว
ความทุรนทุรายคล้ายจะคลั่ง
น้ำตาหลั่งไหลหลากมากกว่าฝน
เรื่องในโลกเล็กกว่าทุกข์ของตน
ไม่มีใครสักคนทุกข์เท่าเรา
ความภาคภูมิลำพองในกองเกียรติ
ถือยศเหยียดฐานาเหนือกว่าเขา
เราก็มีศักดิ์ศรีมิใช่เบา
หากหยามเอาเรื่องกันฉันใหญ่พอ
เราคิดดีมีไหวพริบปฏิภาณ
สร้างโครงการยิ่งใหญ่ในพ.ศ.
แก้ปัญหาเร็วไวไม่รั้งรอ
ความสำเร็จเกิดก่อเราสำคัญ
คราวคับแค้นข้องใจในชะตา
ทำไมเราต้องมาพบโศกศัลย์
ต้องผิดหวังพลั้งพลาดขาดสัมพันธ์
ไร้คนเข้าใจกันเราปวดใจ
เมื่อสมหวังครั้งใหญ่ให้ปลาบปลื้ม
จนหลงลืมทุกข์เก่าที่เผาไหม้
ดีใจเอ๋ยดีใจจังครั้งได้ชัย
มีความสุขเหนือใครคือตัวเรา
หากสังเกตเหตุผลจะค้นพบ
และประสบเงื่อนต่อก่อเชื้อเถา
สุขและทุกข์ที่เยือนถึงเรือนเนาว์
เพราะมี.. เรา..เป็นใหญ่ไม่ปล่อยวาง