4 กรกฎาคม 2548 10:09 น.
พี่ดอกแก้ว
ออกเดินทางอย่างชื่นระรื่นจิต
กับมวลมิตรมุ่งไปตามใจฝัน
ไปท่องเที่ยวดูฟ้าดูตะวัน
เฮฮากันสุขใจใต้แสงดาว
เช้าวันหนึ่งถึงนาทีที่ตากฝน
แต่ละคนกลัวเปียกและกลัวหนาว
บางคนมีร่มกางกันชั่วคราว
บางคนมีเสื้อยาวกันฝนมา
เหลือเพียงฉันไร้เครื่องกันฝูงเม็ดฝน
พอร่วงหล่นก็แตะถึงมังสา
ร่างเปียกปอนหนาวสั่นเหลือคณา
ไม่อาจแบ่งร่มมาจากผู้ใด
เป็นความผิดของฝนหรือของฉัน
หรือว่าของใครกันควรแก้ไข
ฝนไม่ควรมาตกหรืออย่างไร
หรือคนอื่นไร้น้ำใจไม่แบ่งปัน
ตอบคำถามด้วยความไม่ลำเอียง
เลิกทุ่มเถียงโทษใครให้เดียดฉันท์
ไม่รอบคอบตอบใจได้เท่าทัน
ไม่ตระเตรียมป้องกันเพราะตนเอง
บางครั้งการเที่ยวโทษโกรธผู้อื่น
คือคนคิดเพียงตื้นชอบข่มเหง
ทำผิดซ้ำผิดใหม่ไม่หวั่นเกรง
ผลของกรรมนักเลงจะถึงตัว