16 กันยายน 2547 19:55 น.
พี่ดอกแก้ว
บางค่ำคืนฝืนทนความหม่นหมาง
มองแสงจางจากดาวเศร้าเหลือหลาย
ปมชีวิตบิดเกลียวไม่เคยคลาย
รอยบาดเจ็บมากมายไม่เว้นวัน
หาที่พักดวงจิตคลายฤทธิ์โศก
เหมือนอับโชคเดือนดับไม่รับขวัญ
หยาดน้ำตารินไหลคืนไร้จันทร์
หลุบดวงตาหนีพลันปิดม่านใจ
ไขว่คว้าหาความหวังนั่งไขว่คว้า
สิ่งภายนอกเข้ามาช่วยแก้ไข
ก็ช่วยได้บางหนบนทุกข์ภัย
แต่แล้วใจก็คืนรอยพร้อยแผลเดิม
อาจหมดหวังไร้พลังในคืนนี้
พักสักนิดนะคนดีเพื่อสร้างเสริม
กำลังกายให้เข้มแข็งแรงเพิ่มเติม
รอแสงเสริมสุรีย์อาจมีทาง
ปล่อยเวลาสักนิดอย่าคิดเครียด
ใจถูกเบียดให้ครุ่นคิดจิตยิ่งหมาง
ทุกสิ่งมีทางแก้ไขให้ละวาง
ช้าเสียบ้าง...สร้างใจไม่ร้อนรน
16 กันยายน 2547 01:21 น.
พี่ดอกแก้ว
คร่ำครวญหาแสงไฟคราไร้แสง
เสาะแสวงอัญมณีที่สูญหาย
เที่ยวป่าวร้องฆ้องตีสีตะพาย
วอนอดีตกลับกลายให้คืนมา
ครามีไฟกลับทิ้งไฟให้ไหม้มอด
เที่ยววางถอดเพชรไว้ไม่เห็นค่า
คราวจำเป็นจึงจรย้อนกลับมา
แล้วรู้ว่าสิ่งดีนี้หายไป
โบร่ำราณท่านเปี่ยมเอี่ยมปัญญา
กลับทิ้งค่าเริงชาติอื่นชื่นนิสัย
วัฒนธรรมดีงามได้เปลี่ยนไป
สีหัวใจกลายด่างอย่างเครื่องกล
ศีลธรรมเลือนหายกฎหมายเพิ่ม
และต่อเติมเล่ห์ใหม่ให้สับสน
ผิดเป็นถูกปลูกบาปอาบกมล
ค่านิยมของคนปนเรื่องทราม
ยามวิกฤตจิตไร้ไฟส่องแสง
จึงจัดแจงระดมสมองร้องเรียกถาม
คุณความดีอยู่ที่ใดต้องไปตาม
และเปิดฟาร์มฟื้นฟูผู้มีแวว
หวังสร้างคนรุ่นใหม่ให้เด่นดี
นำเภรีธรรมาภิบาลประสานแถว
ปลูกเมตตากลางใจให้เป็นแนว
อาจสายแล้ว..กว่าได้คิดล้างจิตทราม
15 กันยายน 2547 00:42 น.
พี่ดอกแก้ว
กรรมนำทางสร้างสายทุกข์
ให้ล้มลุกคลุกเถ้าเคล้าตัณหา
มาได้คิดพินิจพิจารณา
เห็นคุณค่าพระธรรมนำพ้นภัย
ให้สำนึกตรึกรู้ดูสิ่งควร
กระทำการถี่ถ้วนและแก้ไข
สร้างรอยทางสร้างกรรมดีมีสุขใจ
และมอบใยเยื่อรักพิทักษ์ชน
ใช้สองมือถือธรรมนำความสรรค์
สองเท้านั้นเบิกทางสร้างถนน
สองดวงตาแลไกลในสกนธ์
หนึ่งปากนี้ปลอบคนให้เดินทาง
ใช้สองหูสดับรับสรรพเสียง
หนึ่งดวงใจร้อยเรียงไม่หม่นหมาง
มอบรักไว้ใจช่วยเหลือมิเจือจาง
ถึงเป้าหมายปลายทางอย่างสุขใจ
15 กันยายน 2547 00:32 น.
พี่ดอกแก้ว
หยาดน้ำตารินหยดรดใบหน้า
ไม่สร่างซ่าดังฝนที่หล่นสาย
มรสุมคลุ้มคลั่งพลั่งทลาย
ความเจ็บช้ำมากมายไหลล้นทรวง
ฟังคำเขาค่อนว่าพาใจเฉา
พูดถึงเราผิดไปอย่างใหญ่หลวง
เห็นเพียงเสี้ยวดาวน้อยล่องลอยดวง
คิดว่าปวงดาวรายนั้นคล้ายกัน
ตัดสินคนบนความคิดตัดสิทธิ์เขา
มอบความเศร้าฝากไว้ให้โศกศัลย์
กรีดด้วยคำพูดจาสารพัน
บีบให้เข้าทางตันปิดปากตรึง
ปากต่อปากฝากข่าวให้ร้าวจิต
คิดและคิดคิดค้นจนนิ่งขึง
ไร้หนทางแก้ไข...ใจรำพึง
พบสิ่งหนึ่งปลอบใจในเหตุการณ์
หาใช่เราที่ถูกเข้าใจผิด
มีอีกหลายชีวิตน่าสงสาร
มีมากมายถูกเข้าใจผิดมานาน
ตลอดกาลแบกความผิดช้ำจิตใจ
มองให้ไกลให้ถูกปลูกความหวัง
รักหรือชังเข้าใจถูกหรือสงสัย
ทำดีแล้วอย่าหวั่นจงมั่นใจ
อาจต่างในมุมมองมิตรจิตศัตรู
14 กันยายน 2547 05:44 น.
พี่ดอกแก้ว
ไม่เคยมีไม้สักใบไปสู่ฟ้า
มีแต่ร่วงลงมายังเบื้องล่าง
แนบซบลงสู่ถิ่นสิ้นสอางค์
กลายดำด่างเปื่อยเน่าแทรกเข้าดิน
ไม่มีใครสักคนทนค้ำฟ้า
อมตะแห่งชีวาไม่ดับสิ้น
มีแต่เอนร่างแนบแอบกับดิน
เป็นธุลีหมดสิ้นไม่เหลือกาย
ไม่มีเลยสักใบกลายเป็นทอง
ไม่หม่นหมองปลิดปลิวพลิ้วลับหาย
ไม่มีเลยสักคนที่ไม่ตาย
ไม่แพ้พ่ายมัจจุมารราญราวี
โค้งสุดท้ายปลายชีวิตใกล้ปิดแล้ว
เร็วหรือแผ่วก็ต้องถึงตรึงกับที่
เลือกเอาเถิดจะทำชั่วหรือทำดี
พกติดตัวข้ามภพนี้หลังความตาย