28 กรกฎาคม 2546 20:44 น.
พี่ดอกแก้ว
เคยมีฟ้าสว่างหนบนทางนี้
ทุกทุกที่กระจ่างไปไม่ซ่อนเร้น
มีขวากหนามตามก่ายให้ลำเค็ญ
ก็แลเห็นชัดตาหาหวาดกลัว
เคยมีแสงส่องไสวในรกชัฎ
ที่ข้องขัดก็แก้ไขไม่สลัว
กี่หลุมบ่อหาก่อให้หลวมตัว
กระจ่างทั่วพิษภัยในเส้นทาง
คราวแสงดับลับแล้วแก้วสลาย
โคมส่องฉายพลันดับจนลับร้าง
ความมืดมิดปิดป้องครองอำพราง
ยืนท่ามกลางทางเปลี่ยวอย่างเดี่ยวดาย
เส้นทางยังทอดยาวให้ก้าวหา
สิ้นสายตาเพ่งพิศทิศทั้งหลาย
อุปสรรคยังคงมีมากมาย
ซ่อนตามรายทางยาวคราวมืดมน
แต่ไม่อาจหยุดอยู่อย่างผู้ท้อ
หลายคนรอความสำเร็จเสร็จในผล
หลายคนรอให้กลับไปรับชน
หลายคนรออย่างคนไร้หลักใจ
แม้นมืดมิดสนิทนักจักขอสู้
ให้ล่วงรู้อุปสรรคเป็นไฉน
ขอจุดเทียนส่องทางกลางดวงใจ
แม้นมอดไหม้ก็จะสู้ให้รู้กัน
28 กรกฎาคม 2546 20:37 น.
พี่ดอกแก้ว
ชีวิตใครใครก็รักจักถนอม
หายินยอมถูกทำร้ายให้วายสิ้น
แม้นพิการก็เบิกบานในชีวิน
แม้นเจ็บป่วยก็ไม่สิ้นความหวังคลาย
จะหมาไทยหมาเทศเขตไหนไหน
ต่างกลัวภัยไม่ต้องการถูกทำร้าย
เที่ยวจรจัดก็เพราะหนีอันตราย
อาจวุ่นวายก็เป็นเช่นสัตว์จร
ไร้สำนึกให้ตรึกเห็นเช่นมนุษย์
ว่าควรหยุดสิ่งไหนควรถ่ายถอน
ใช้สัญชาตญาณเข้ารานรอน
เพราะเป็นสัตว์ที่อ่อนไร้ปัญญา
อันมนุษย์นั้นมีที่ต่างสัตว์
คือการจัดวิจารณญาณราญปัญหา
คุณธรรมค้ำใจในเมตตา
จึงมีค่ากว่าเดรัจฉานไง
28 กรกฎาคม 2546 20:32 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อกรองพจน์รจนาภาษาศิลป์
ณ ใจจินต์จักแถลงแจ้งความหมาย
ผ่านทำนองของอักษรที่ซ่อนลาย
ก็เฉิดฉายครารวมสรวมรอยคำ
เมื่อกรองใจหมายตาภาษารัก
ต้องเพียรถักเพียรจารอ่านความย้ำ
สัญญาณใจสื่อกระแสแปรความนำ
แต่ละคำมีความหมายให้ซึ้งใจ
26 กรกฎาคม 2546 07:42 น.
พี่ดอกแก้ว
เสียงจากฟ้าพาใจให้ระรัว
แลหวาดกลัวฟ้าสำแดงแสงจากฟ้า
เธออยู่ไหน..คนไกลจงกลับมา
คอยปลอบขวัญวันฟ้าก้องคำราม
สายฟ้าเปรี้ยงเสียงย้อนสะท้อนใจ
เธออยู่ไหน..มาตรงนี้ที่ฉันถาม
รู้บ้างไหม..หัวใจใครคอยตาม
และทวงถามคำสัญญาคราเหมันต์
สายฟ้าฟาดบาดใจไม่เหลือแล้ว
เธออยู่ไหน..ดวงแก้ว..มาหาฉัน
ฉันกลัวฟ้าล้าใจไม่พบกัน
อย่าแปรผันฉันกลัวฟ้าอย่าจากไป
25 กรกฎาคม 2546 17:35 น.
พี่ดอกแก้ว
มองแมกไม้เขียวงามตามเงื้อมผา
เสียงซัดซ่ากระแสธารกังวานใส
ความเยือกเย็นแผ่ระลอกกระจายไอ
กระทบใจให้ค้นธารผ่านศิลา
จากปลายเนินเพลินชมไพรไปยังภู
ผ่านเรื่องราวน่ารู้จากแนวป่า
สมุนไพรไล้ไอดินกลิ่นพนา
มอบคุณค่าแก่มนุษย์หยุดโรคภัย
เห็นรอยเท้าส่ำสัตว์ลัดทางดิน
ชีวิตป่ายังไม่สิ้นความสดใส
ธรรมชาติสวยงามอร่ามไพร
เดินท่องไปดื่มด่ำย้ำวิญญา
มองแนวผาคราเขินเนินแห่งน้ำ
ช่างงดงามหลั่งไหลใสซัดซ่า
ฟองนทีมีมนต์ดลพนา
ละไมตาละมุนใจได้พบพาน
พ้นทิวน้ำข้ามโขดเขาเข้าเขตฟ้า
ดาริกาเริ่มสกาวพราวแสงฉาน
ตัดแสงพลบกลบความหมองข้องดวงมาลย์
กระซิบหวานฝากดวงดาวคราวอยู่ไกล
จากยอดดอยตรงนี้ที่คิดถึง
ฝากความซึ้งไปกับลมที่พรมไหว
รู้ด้วยนะว่าคนนี้ที่จริงใจ
มีเพียงเธอในหทัยไปชั่วกาล