17 มิถุนายน 2546 11:54 น.
พี่ดอกแก้ว
พงหนามตามเกี่ยวก่าย
สะกิดกายลายริ้วแผล
ร่องรอยปริมากแล้
โลหิตแผ่ตามริ้วรอย
ครวญครางอย่างร้าวรวด
กรรมตามกวดไม่ล่าถอย
เหลือแรงอยู่เพียงน้อย
ก็เพียงคอยให้กรรมโรย
ทิ้งร่างรับผลกรรม
บาดแผลซ้ำไม่แห้งโหย
ก้าวสู้มิรู้โรย
สวนทางวัฏฏ์ตัดแรงกรรม
พี่เองได้เผชิญมาด้วยตนเองหลายสิบครั้ง
ภายในห้องผ่าตัดค่ะ
ครั้งท้ายสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 45
พี่เข้าผ่ากระดูกสันหลังค่ะ..ได้แต่งกลอนไว้สอนใจ
เอามาฝากน้องๆค่ะ....พี่ดอกแก้ว
17 มิถุนายน 2546 11:36 น.
พี่ดอกแก้ว
..มีพระจันทร์พันดวงในห้วงฟ้า
มีดาราพันดวงในห้วงฝัน
มีความรักจากใจที่ให้กัน
มีเพียงฉันที่ยังคงรักเพียงเธอ
แม้ห่างไกลสุดปลายเส้นขอบฟ้า
สุดสายตาก็ไม่อาจได้พบเจอ
แต่หัวใจฉันยังคงพร่ำเพ้อ
อยากบอกเธอว่าคิดถึงและห่วงใย
ยังจดจำวันคืนที่ผันผ่าน
แม้วันวานผ่านไปนานเพียงไหน
ภาพความหลังยังคงอยู่ภายในใจ
สุดอาลัยในวันนี้ต้องจากกัน
ฝากบอกฟ้าผ่านดวงดาวช่วยบอกหน่อย
สักเพียงน้อยว่าเธอยังมีฉัน
เราคงอยู่ใต้ฟ้าแห่งเดียวกัน
ทุกคืนวันยังคงรักเพียงเธอ
16 มิถุนายน 2546 10:13 น.
พี่ดอกแก้ว
ใจบรรเจิดจิตพร่างสว่างไสว
ณ เบื้องไกลให้กระจ่างดั่งมองเห็น
ณ เบื้องลึกก็ตรึกทั่วทุกประเด็น
ณ เบื้องกาฬฉานเช่นเห็นชัดตา
ใจสงบพบความสงัดเงียบ
แม้นที่เปรียบชุมผ่านศูนย์การค้า
แม้นที่โต้คารมคมวาจา
แม้นที่ทุกข์พบพามิพรั่นพรึง
ใจละมุนอุ่นไอในพรหมวิหาร
ก็เบิกบานเมื่อพบสบคนขึง
ก็เยือกเย็นดุจน้ำยามโทษตรึง
ก็ยื่นให้แม้นถึงทุรกาล
ใจมีคมชมโชคไม่โศกเศร้า
พบคนเขลาก็ยังสุขสนุกสนาน
พบคนโศกก็โยกย้ายให้เบิกบาน
พบคนพาลก็ระงับดับปวงภัย
ในความต่างห่างไกลในความเปลี่ยน
ที่หมุนเวียนเจริญทรามตามสมัย
หากเข้มแข็งเพิ่มแรงให้จิตใจ
ก็จะไร้ปัญหาทุกคราเอย
16 มิถุนายน 2546 10:06 น.
พี่ดอกแก้ว
ตะวันฉายพรายพร่างกระจ่างฟ้า
ก้าวไปสู่มรรคาอย่างเข้มแข็ง
ค่อนคืนผ่านการพักพำนักแรง
เพื่อจะแข่งเวลาสร้างค่างาน
บรรจงใจในกิจรับผิดชอบ
หมายประกอบการกุศลผลสืบสาน
มุ่งผลิตปัญญาวิชาการ
และพ้องพานมิตรภาพไว้ซาบใจ
นาฬิกาเข็มฟ้าอาทิตย์แจ้ง
ค่อยค่อยเคลื่อนลำแสงลงมาใกล้
บอกให้รู้ตะวันรอนอย่าอ่อนใจ
ค่าของคนมีได้เพราะผลงาน
วันนี้ยังเพลี่ยงพล้ำถลำบ้าง
พักสักคืนเพื่อล้างใจให้หาญ
เผชิญสู้ชูชมอุดมการณ์
จักได้งานที่งามเลิศประเสริฐคน
14 มิถุนายน 2546 21:34 น.
พี่ดอกแก้ว
มาลีวัลย์สันสีมีปรากฏ
ความสวยสดหอมละไมให้กลิ่นซึ้ง
ดึงดูดใจให้ผู้พบสบคะนึง
ติดตราตรึงในกลิ่นสีมาลีงาม
เชิดดอกงามพร้อมความสวยด้วยจารีต
อยู่ในขีดขอบจรรยาพาไหวหวาม
ไม่ทอดร่างลงดินให้สิ้นงาม
ก่อนถึงความโรยแรงแห่งห้วงวัย
ดอกไม้งามด้วยสีที่สร้างสรรค์
สตรีนั้นงามด้วยศีลอันสดใส
พร้อมวาจาไพเราะเสนาะใจ
หวานละไมด้วยคุณค่าน่านิยม
ยามชราครากาลร่วงผ่านพ้น
ทุกผู้คนยังเห็นค่าว่างามสม
เพราะกลิ่นศีลสลักไว้ให้ชื่นชม
หอมทวนลมแม้นจางสีมาลีพันธุ์