24 กรกฎาคม 2546 20:21 น.
พี่ดอกแก้ว
โลกแท้จริงต่างมีสิ่งให้ปวดร้าว
และพร่าเอาหัวใจไปเผาผลาญ
บ้างเหยียบย่ำซ้ำเพิ่มเติมด้วยพาล
หรือประหารให้แดดิ้นจนสิ้นใจ
ไร้รอยงามยามรันทดหมดความหวัง
ยามใจพังยั้งเท้าก้าวไม่ไหว
ไม่อาจสู้กระแสหยามที่ลามไล่
และพ่ายแพ้กระแสใจที่รวนเร
จึงหม่นใจไร้แสงแห่งความหวัง
มีแต่ความหยุดยั้งและหันเห
พร้อมยอมแพ้แก่ความทุกข์ที่ท่วมเท
ทอดร่างนิ่งกลางทะเลความระทม
จุดความหวังครั้งสุดท้ายที่ปลายจิต
วาดชีวิต..ฝันใหม่ ไม่ขื่นขม
รู้จักพอก่อสุขไม่ทุกข์ตรม
รู้จักล้ม..รู้จักลุก...ก็สุขใจ
24 กรกฎาคม 2546 20:17 น.
พี่ดอกแก้ว
นิยามคำลึกซึ้งที่ตรึงจิต
มากความคิดมากความหมายให้ค้นหา
เพียงคำเดียวอธิบายจนอ่อนล้า
คือคำว่า รัก นั้นเป็นฉันใด
เขาบอกว่าความหวานปานน้ำผึ้ง
เขาบอกว่าความซึ้งเมื่อชิดใกล้
เขาบอกว่าความเหงาเมื่อจากไกล
เขาบอกว่าความให้ไม่หวังคืน
เพียงคำเดียวเหนี่ยวใจให้หนาวร้อน
และสะท้อนใจร้าวคราวรักฝืน
เพียงคำเดียวทำชีวิตให้ยั่งยืน
หรืออาจลื่นล้มลุกคลุกน้ำตา
24 กรกฎาคม 2546 07:07 น.
พี่ดอกแก้ว
เป็นคนหนึ่งในส่วนไม่ควรค่า
อย่ามาเสียเวลาอีกได้ไหม
เธอก็รู้ฉันไม่เลิศแต่อย่างใด
เพียงแค่มีหัวใจไว้เพื่อเธอ
ความหงุดหงิดคิดมากหลากหลายเรื่อง
ทำให้เธอขุ่นเคืองอยู่เสมอ
ความใจร้อนอ่อนไหวไพล่เผอเรอ
ทำให้เธอระอามาเนิ่นนาน
เธอก็รู้มีฉันอยู่แล้วทุกข์ร้อน
เพราะว่าฉันไหวอ่อนและฟุ้งซ่าน
อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งทรมาน
อาจร้าวรานแตกลึกเป็นศึกใจ
พบคนใหม่ใจงามในยามนี้
ขอให้มีความสุขและสดใส
ฉันขออยู่อย่างนี้เรื่อยเรื่อยไป
เพื่อรักษาเยื่อใยที่เคยงาม
24 กรกฎาคม 2546 06:58 น.
พี่ดอกแก้ว
รสพระธรรมนำใจให้สูงค่า
ชุบชีวาผู้โศกไร้โชคสรรค์
ให้ดำเนินเพลินบุญอบอุ่นครัน
หลอมใจนั้นให้งดงามทุกยามตรอง
กลายกลับใจไร้แสงแห่งความดี
ให้มากมีศรีไสวไม่หม่นหมอง
รักษาตนสุจริตไม่ผิดคลอง
ท่องทำนองโอบเอื้อเกื้อผู้คน
โอสถธรรมชำระใจให้สิ้นเพลิง
ที่หลงเหลิงร้อนเร่าเขลาทุกหน
ให้เยือกเย็นยิ่งในดวงกมล
มอบประโยชน์สู่ชนทดแทนคุณ
คนที่งามงามเพราะธรรมมานำใจ
รู้จักให้เจือจารทานอุดหนุน
รู้จักรักถักสายในทางบุญ
รู้จักคุณอ่อนน้อมพร้อมฝึกเอย
23 กรกฎาคม 2546 07:26 น.
พี่ดอกแก้ว
หากหมดรักสิ้นไร้ใจคิดถึง
อย่าโกรธขึ้งถึงโทษพิโรธถาม
เก็บอดีตไว้ในแฟ้มที่งดงาม
นึกถึงยามหวามหวานสะท้านใจ
ใครกำหนดบทพรากที่หลากรส
ให้กำสรดโศกราญหักหาญไว้
กาลเวลาย่อมกำกับให้แปรไป
บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ในมายา