12 สิงหาคม 2546 07:40 น.

สูงสุดสอย

พี่ดอกแก้ว

ด้อยเพียงดินถวิลมองจ้องดารา 
หมายไขว่คว้ามาแนบแอบเคียงข้าง 
ชะเง้อมองจองหมายใจเลือนลาง 
เพราะความต่างห่างดอกฟ้าดาราวดี 

แต่ยังหวังยังฝันถึงวันซึ้ง 
ครวญคำนึงทะยานกายไม่หน่ายหนี 
รวบรวมร่างกลางดงจากธุลี 
ปั้นเป็นดินอินทรีย์มีรูปรอย 

ค่อยค่อยเสริมเติมแต่งแห่งลายศิลป์ 
บรรจงจินตนาการไม่เสื่อมถอย 
เผาหลอมร่างสร้างหวังและรอคอย 
ดินก้อนน้อยกลายเป็นดาวพราวนภา 				
8 สิงหาคม 2546 20:09 น.

เที่ยวเพลินเดินดง

พี่ดอกแก้ว

เที่ยวเดินดงฝ่าพงที่รกเรื้อ 
หมายใจเพื่อไปสู่ยอดแห่งภูผา 
แม้นเส้นทางขรุชันบั่นกายา 
ต้องเหนื่อยแรงเหน็ดล้าก็ฝ่าไป 

เพียงเพราะว่า..เห็นค่าในบางคำ 
จึงกระทำตามจิตที่คิดใฝ่ 
คือพิชิตยอดผาศิลาลัย 
ประกาศไว้ว่าเรานี้มีศักดา 

ผ่านความชื้นขื่นขมระทมใจ 
หนักแค่ไหนก็จะมุ่งปรารถนา 
พิษแผลร้ายจากรอยบาดคาดกายา 
ไม่มีค่าให้เสียขวัญกั้นเส้นทาง 

พบความงามตามเนินเพลินแมกไม้ 
บุบผาไพรชูช่อล้อเคียงข้าง 
ลำธารใสไหลรินไม่สิ้นราง 
ก็เพียงวางใจหย่อนผ่อนชั่วคราว 

มิอาจมีสิ่งใดให้เหนี่ยวรั้ง 
ทั้งรักชังหมดสิ้นรอยสืบสาว 
มีเพียงหวังตั้งใจไปคว้าดาว 
ถึงปวดร้าวก็มุ่งหมายไม่คลายคลอน 
				
8 สิงหาคม 2546 19:59 น.

วาดวิมานบนลานทราย

พี่ดอกแก้ว

วาดวิมานบนลานทรายใต้ตะวัน 
ที่ลดหลั่นองศาคราฟ้าหมอง 
ใกล้เวลาสิ้นไร้ลำแสงทอง 
สายตาจ้องแสงพรายที่ฉายมา 

ช่างเยือกเย็นดวงใจไม่เร่าร้อน 
ทอดกายนอนกับพื้นทรายเพื่อคลายล้า 
เห็นเมฆเคลื่อนเลือนไปกับนภา 
ฝูงวิหคเริงร่าท้าลมบน 

อยากเสกมนต์ดลให้กลายร่างนี้ 
เป็นนกน้อยเสรีที่พร้อมขน 
ขยับปีกหลีกทุกข์รุกใจตน 
ลอยลมบนไปตามทิศที่คิดไป 

ไร้ร่องรอยภาระอะไรแล้ว 
บินไปตามถิ่นแนวที่กว้างใหญ่ 
ชมโลกหล้าไม่คราคร่ำกับคำใคร 
ปล่อยให้ลมหายใจเข้าเต็มทรวง 

แต่ทำได้คือวาดลายนกน้อยน้อย 
เกาะกิ่งไม้นิ่งคอยอยู่ริมสรวง 
รอวันหนึ่งหมดหน้าที่ใดทั้งปวง 
นกจะออกจากรวงสู่เสรี 
				
8 สิงหาคม 2546 19:50 น.

ไม่..หนักโลก…

พี่ดอกแก้ว

คำประนามหยามด่าว่าหนักโลก 
แลชุ่มโชกสัญญาณป่ามาเคลือบสิง 
มิจักตรองครองตามความถูกจริง 
ปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายร่ายมนต์มาร 

ชักพาใจให้ไขว้เขวเซซัดบาป 
ต้องเอิบอาบตัณหาอย่างกล้าหาญ 
เบียดเบียนชนสุจริตด้วยคิดพาล 
เขาจึงขานว่าคล้ายสัตว์ขัดศีลธรรม 

อะไรหรือคือความชั่วจริงแท้ 
ที่ควรแก้เสียใหม่ให้เลิศล้ำ 
ใช่อยู่ที่สำนึกแต่ไม่ทำ 
เหมือนกับรำดาบวงไม่ลงมือ 

ที่ควรแก้แน่แท้กว่าสิ่งใด 
คือแก้ไขที่ความคิดติดยึดถือ 
รู้จักบาปบุญให้ใจสัตย์ซื่อ 
และฝึกปรือเมตตาธรรมมาย้ำใจ 

คงมิใช่เพียงประนามหยามผู้ผิด 
แต่ควรคิดช่วยเหลือเอื้อแก้ไข 
ปลูกสติริชอบกอปรเกื้อใจ 
ให้อภัยผู้พลั้งยั้งลงทัณฑ์ 

เพราะทำชั่วผลชั่วติดตัวแน่ 
ต้องย่ำแย่ในทุกข์อย่างมหันต์ 
เพียงชาตินี้ชี้ทางสว่างกัน 
ช่วยเขาออกจากทางตันอย่าซ้ำเติม 

มีทางเลือกมากมายให้โลกเบา 
คือตัวเขาตัวเราช่วยสร้างเสริม 
เติมเมตตาลงไปในโลกเดิม 
โลกจะเพิ่มความสวยด้วยมือเรา 				
7 สิงหาคม 2546 12:57 น.

พลิ้วคลื่นระรื่นไหว

พี่ดอกแก้ว

หลากอารมณ์ชมน้ำตามกระแส 
เดี๋ยวเปลี่ยนแปรเดี๋ยวสงบสยบขวัญ 
บางทีคลื่นครืนโถมโหมใส่กัน 
เป็นพรายพรรณปะทุฟองนองทะเล 

บางครั้งนิ่งดิ่งลึกให้นึกหวาด 
ทะเลอาจพลุ่งพลันให้หันเห 
แล้วพลิกล่มจมลำเรือตังเก 
ให้ลอยคอรอเห่หาฝั่งชล 

บางคราปลิวพลิ้วคลื่นระรื่นไหว 
กระทบทรายเรียงไล่สู่ไม้สน 
ปลุกชายหาดให้ฟื้นชื่นกมล 
ทะเลดลความงามยามอรุณ 

กี่ครั้งคราวร้าวใจในความช้ำ 
ก็กลับมาดื่มด่ำและอบอุ่น 
มองทะเลเห่ใจให้ละมุน 
ทิ้งความเหนื่อยเป็นทุ่นลอยทะเล 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว