10 สิงหาคม 2547 07:03 น.
พี่ดอกแก้ว
รักลดเลี้ยวเกี่ยวสัมพันธ์ให้หันเห
รักรวนเรแสร้งมายาพาใจหลง
รักเล่นเล่นเห็นว่าง่ายให้มึนงง
รักร้างราให้ต้องปลงตรงเรื่องจริง
ม่านมายามาบังใจให้ใกล้ชิด
เชื่อในคำของมิตรไปทุกสิ่ง
มั่นในน้ำใจรักว่ารักจริง
ร่วมกันฝันสรรสิ่งที่หมายปอง
พอมิได้ดังใจให้ลาจาก
แล้วมาพรากสัมพันธ์เก่าของเราสอง
กว่าจะสร้างสายใยให้ปรองดอง
นั้นจะต้องใช้เวลามานานปี
ดุจกุหลาบกลิ่นหอมถนอมเฝ้า
ดูแลเจ้าให้อวลกลิ่นและสดสี
นำมามอบให้มิตรด้วยไมตรี
แต่เขากลับขยี้จนแหลกลาญ
9 สิงหาคม 2547 08:13 น.
พี่ดอกแก้ว
ดั่งแสงโสมส่องฟ้า... คราเพ็ญ
พร่างรัศมิ์แผ่ความเย็น ....เยี่ยมเกล้า
คลายร้อนผ่อนทุกข์เข็ญ ....จากจิต
งามยิ่งงามอะคร้าว ....เพริศแพร้วพิสมัย
พระบาทยาตรเหยียบพื้น... ธรณี
ราชกิจโปรดธุลี ...... เช่นข้าฯ
มอบพระราชเสาวณีย์ ... ทั่วถิ่น
หลั่งพระทัยสู่หล้า ..... โอบเอื้อเกื้อขวัญ
บารมีพระแม่นี้ ....ยืนนาน
เจริญยิ่งพระชนมาน ...เกียรติก้อง
สิบสองสิงห์สราญ.....เลิศสุข
ปวงราษฎ์ต่างแซ่ซ้อง ....มิ่งแท้พระแม่ไทย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
บุษกร เมธางกูร
ผู้ประพันธ์ในนาม
ดอกแก้ว
7 สิงหาคม 2547 07:27 น.
พี่ดอกแก้ว
ร่มไทรงามยามเช้าคราวเบิกฟ้า
สร้อยระย้าม่านไทรไหวอ่อนหวาน
ให้ความรื่นชื่นเย็นและเบิกบาน
คุ้มภัยพาลจากกิ่งใบไม้ไทรบัง
ยามราตรีมีความหมายให้พิงพัก
เข้าร่มรักถักทอก่อความหวัง
เป็นเรือนนอนผ่อนใจให้พลัง
ร่มไทรยังความสดชื่นให้คืนมา
เย็นร่มไทรเพียงหนึ่งในส่วนของล้าน
ไม่เปรียบปานร่มชีวีที่แน่นหนา
คือร่มเกล้าอุ่นเกศของมารดา
แผ่ปกมาคราชนม์เริ่มบนครรภ์
สายโลหิตสนิทแนบแอบไอรัก
แม่ฟูมฟักถนอมหวังตั้งความฝัน
ป้อนอาหารผ่านสายใจไปให้กัน
รอคอยวันพบหน้ามาอิงทรวง
เห่กล่อมขวัญวันลืมตามาพบพักตร์
กระแสรักแผ่ไปอย่างใหญ่หลวง
ธารน้ำนมผสมใจแม่ทั้งดวง
บำรุงเลี้ยงให้ล่วงเจริญวัย
จวบวันนี้จะกี่ปีที่ผันผ่าน
ต้นรักยังแตกก้านกิ่งไสว
ผลิใบรักถักดอกบอกเยื่อใย
จากหัวใจของแม่แผ่คุ้มเงา
กี่ร้อนแล้งแห้งไร้น้ำไหลหลาก
ใบรักจากใจแม่ไม่เคยเฉา
ให้ความเย็นคลายร้อนผ่อนบรรเทา
อบอุ่นใจคลายเศร้าทุกคราวเอย.
5 สิงหาคม 2547 06:56 น.
พี่ดอกแก้ว
สายลมพริ้วแผ่วผิวกายใกล้รุ่งสาง
ยินน้ำค้างพร่างลงกับพงหญ้า
ละอองจันทร์เริ่มละลายจากสายตา
ใจโหยหาถึงคนไกลในเงาเดือน
ราตรีก่อนอ้อนสุนทรมธุรส
หวานเหลือล้ำย้ำพจน์มากกว่าเพื่อน
ร้อยวจีมาลีใจมิให้เลือน
มนต์แสงจันทร์ยังตามเตือนมิเคลื่อนคลาย
พินิจลักษณ์อักษรสุนทรถ้อย
วรรณศิลป์เรียงร้อยงามเหลือหลาย
แต่ความจริงและความฝันพลันกลับกลาย
ผ่านราตรีจึงเลือนหายคล้ายแสงจันทร์
รักหนอรัก..ช่างสลักตรึงใจนี้
แม้ทราบดีว่ารักลวงในห้วงฝัน
ก็จะขอมั่นรักภักดิ์นิรันดร์
ใจของฉันขอซื่อตรง..จงรักเธอ
5 สิงหาคม 2547 06:44 น.
พี่ดอกแก้ว
หยาดเป็นสายลายริ้วอาบผิวหนัง
เหงื่อรินหลั่งเรือนกายจรดปลายเท้า
เที่ยวเก็บงานกร้านกรำทำหนักเบา
เหตุผลเดียวเลี้ยงเจ้าคือลูกยา
แม่ชราหาเลี้ยงเยี่ยงแม่ไก่
ไม่ห่างไกลลูกตนเที่ยวค้นหา
จะอายุกี่ปีที่ผ่านมา
ลูกเป็นลูกทุกคราไม่เปลี่ยนแปลง
ลูกจะร้ายหน่ายทิ้งสิ่งแม่ให้
ก็ทำใจสงบจินต์ไม่กินแหนง
เมื่อลูกกลับคืนเรือนเหมือนเพิ่มแรง
รักให้แซงความช้ำลบคำรวน
คือภาพของแม่หนึ่งซึ่งรักลูก
เฝ้าฝังปลูกสิ่งดีอย่างถี่ถ้วน
แต่ลูกกลับทิ้งกรอบชอบโซ่ตรวน
เปลี่ยนขบวนชีวิตผิดเส้นทาง
ใกล้เรือนไม้ในเขตขังฟังเสียงเศร้า
ของแม่ผู้ปวดร้าวและหมองหมาง
เพ่งมองลูกที่ต้องขังไม่ละวาง
เล่าเรื่องพลางหลั่งน้ำตาคราเยี่ยมเยียน