17 สิงหาคม 2547 09:24 น.
พี่ดอกแก้ว
แสงสะท้อนตอนสุดท้ายใกล้จะค่ำ
ส่องเป็นลำลางเลือนเหมือนภาพฝัน
ฟ้าระยับจับเมฆเฉกสุวรรณ
ผ่องอำพัน..สีเพลิง..ใกล้เชิงพลบ
ตะวันลาฟ้าลงตรงซอกเขา
เหลือเพียงเงาทอดไว้ให้ประสบ
เหมือนรอยซึ้งเศร้ากมล...คนเคยคบ
มาหลีกหลบแรมร้างไปห่างกัน
เห็นโสนปลายหนองที่นองน้ำ
เหมือนจะย้ำสัญญาว่ายังมั่น
เสียงลมหวลครวญคร่ำเหมือนรำพัน
มาปลอบขวัญคนที่ฤดีตรอม
ดอกพยอมเริ่มขยับพับกลีบห่อ
เหมือนทดท้อหฤทัย...เพราะไม่หอม
ซ่อนเกสรที่ส่อว่าซ่อซอม
โอ้พยอมหมองหม่นเช่น..คนนี้
ก่อนระพีพุ่งฟ้าจะลาลับ
ยังทอดทับเงาแจรงเป็นแสงสี
แต่ขวัญเอยเลยร้างห่างฤดี
ช่างไม่มี..น้ำใจ..อาลัยลา
แสงสีส้มจมหายลายฟ้าลบ
เมื่อเชิงพลบพร่ามัวไปทั่วป่า
ด้วยคนเคยเผยใจไร้ราคา
จำก้มหน้าจากกันแต่วันนี้
16 สิงหาคม 2547 16:59 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อเข็มยาวสาวเท้าไปเบื้องหน้า
บอกเวลาไม่คงที่...มีแปรผัน
เมื่อเข็มสั้นก้าวเดินจนทันกัน
ปรับชั่วโมงคืนวันให้เปลี่ยนไป
ใบไม้ผลิริเริ่มเติมกิ่งช่อ
เขียวลออ...เข้มข้นบนก้านไหว
สีส้มแดงแฝงร่างลงกลางใบ
แล้วเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลร่วงลานดิน
ดอกไม้แย้มกลีบสวยด้วยกลิ่นสี
ช่อมาลีประดับหล้าพาถวิล
ครั้นผ่านแสงแรงฝนหล่นหลั่งริน
กลีบก็สิ้นกลิ่นสีที่มีมา
เพียงชั่วคราวไม่ยืนยาวในสวยงาม
เพียงชั่วยามที่ฉกรรจ์ความหรรษา
เพียงชั่วครู่อยู่ดูโลกอันโสภา
เพียงเพราะว่า...ชีวิตนั้นไม่มั่นคง
10 สิงหาคม 2547 23:26 น.
พี่ดอกแก้ว
กาพย์ยานี ๑๑
..๏ พระคือมิ่งมงคล........................................สิริชนเชิดชาติไทย
ทรงแผ่พระเกียรติไกร.................................สู่แหล่งหล้าบ่าแผ่นดิน
..๏ รักษ์ป่ารักษาน้ำ................................ทั่วเขตคามไม่สุดสิ้น
ป่าโทรมได้ชุ่มสินธุ์.............................ชีพสัตว์ป่าพ้นตักษัย
..๏ ทรงเสริมอาชีพสรรค์.................................ศิลปาชีพพลันทั่วแดนไทย
ทั่วโลกประทับใจ.........................................ศิลปกรรมนำไทยงาม
..๏ ห้วยแล้งแห้งน้ำขอด..........................กลับเริงรอดน้ำไหลหลาม
ผืนป่าพนาราม.....................................คืนความเขียวทุกเสี้ยวแดน
..๏ คนไทยได้พ้นยาก...............................เพราะทรงตรากไปทั่วแคว้น
อาชีพสร้างทดแทน.................................พระกรุณาทรงปรานี
..๏ สิบสองสิงหาดล...............................เฉลิมพระชนม์มหาราชินี
บังคมบาทบดี.......................................ทรงสราญนิรันดร์เทอญ.
10 สิงหาคม 2547 18:52 น.
พี่ดอกแก้ว
มีบางสิ่งเก็บไว้ในส่วนลึก
และตรองตรึกหลายคราวจะกล่าวขาน
วันคืนล่วงหลงบ่วงดักดวงมาลย์
จนไร้ทางคืนผ่านพ้นม่านใจ
อาจดูเหมือนฉันโง่งมจมความรัก
มิอาจถอนสลักรักออกได้
จึงเวียนวนจนพันติดเยื่อใย
ร้อยดวงใจสานสุมคลุมฤดี
จะขออยู่ตรงนี้ที่รักหวาน
ดั่งเชลยพันธนาการไม่หลบหนี
ขังฉันไว้ในรักและไมตรี
กำหนดโทษให้มีชั่วนิรันดร์
อย่าสงสารเห็นใจในคนลวง
ที่จะช่วงชิงเธอไปจากฉัน
อย่าสงสารและคิดลดโทษทัณฑ์
ฉันขออยู่ตรงนั้นตลอดไป
10 สิงหาคม 2547 18:44 น.
พี่ดอกแก้ว
สุรีย์งามยามเช้าคราวทิวา
แสงอุษาส่องโลกไร้โศกหมอง
สรรพชีวิตดำเนินตามครรลอง
มีแสงทองส่องหล้าพาเบิกบาน
สนธยาคราพลบคบแสงไต้
สว่างไล้เขตคามตามถิ่นฐาน
ภายนอกแม้นเข้าสู่ราตรีกาล
ยังพบพานแสงดาวเดือนให้เยือนยล
พุ่มลำพูดูกระพริบระยิบพราว
แสงวับวาวดุจไม้เพลิงร่ายเริงหน
ด้วยหิ่งห้อยให้แสงแก่สกล
ยังมีผลแม้เพียงน้อยไม่ด้อยไฟ
หลายชีวิตอยากใกล้ชิดแสงสว่าง
บนเส้นทางกลางคืนวันมักหวั่นไหว
เกรงหมดแสงนำทางร้างราไป
จึงคว้าไขว่แสงสีที่งดงาม
หลายชีวิตเร่งผลิตแสงสว่าง
ให้เกิดกลางดวงใจไร้เงาหนาม
แม้นคืนวันล่วงเลยกี่ชั่วยาม
มีไฟงามส่องไสวในใจตน
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ฟื้นความหลง
ไร้รกพงปัญหาพาสู่ผล
เบิกบานกับความรู้คู่กมล
เป็นดวงไฟพุทธชนบนแผ่นดิน
[img]http://picdb.thaimisc.com/dokgaew13/113-6.jpg?[/img]
[img]http://www.thaipoem.com/web/photo/poem/58854.gif[/img]