23 สิงหาคม 2547 05:58 น.
พี่ดอกแก้ว
เดินมานานผ่านวันอันรวดร้าว
แต่ละก้าวเปี่ยมแรงแห่งความหวัง
กำหนดทิศลิขิตทางอย่างจริงจัง
หมายไปยังดวงดาวที่พราวพรรณ
ไม่รั้งรอขอร้องกองโชคเสริม
มุ่งตนเพิ่มเข้มแข็งแรงมหันต์
ทุกนาทีที่ผ่านกาลคืนวัน
เพียงบากบั่นด้วยตนบนผองภัย
ในบางคราวก้าวล้าคราเหนื่อยหนัก
อยากพิงพักกายผ่อนนอนหลับไหล
เหลียวหาคนเคียงข้างบนทางไกล
เหม่อมองไปไร้เพื่อนช่างเลือนลาง
ใจวูบวับลับแสงแห่งความหวัง
หลายหลายครั้งพ่ายตนจนหม่นหมาง
อยากลบดาวความหวังที่ปลายทาง
แรงต่อสู้เจือจางจากหัวใจ
เมื่อคร่ำครวญหวนไห้จึงได้คิด
หนึ่งชีวิตต้องต่อสู้และแก้ไข
อุปสรรคคือผู้มาเตือนภัย
หากไม่ก้าวต่อไปต้องอัปปาง
สร้างความหวังพลังใจในวงล้อม
ดั่งเบ้าหลอมความแกร่งแห่งเรือนร่าง
งามตามพิมพ์นักสู้ผู้กู้ทาง
แกะแบบวางข้างดาวเข้าครองชัย
21 สิงหาคม 2547 07:58 น.
พี่ดอกแก้ว
เผลอไผลฟังระฆังหวานกังวานแว่น
จับจิตแล้วเสียงใสใจประสาน
ท่วงทำนองต้องมนต์จนลืมวาร
อยู่กับกาลฝันใฝ่ในฤดี
มีเสียงบอกหยอกเย้า....รักเท่าฟ้า
แว่วกระซิบพร่างพร่าไม่หน่ายหนี
ที่ริมโสตสดับซึ้งตรึงวจี
จับใจนี้จองจำคำว่ารัก
สร้างวิมานผ่านอากาศวาดสวนศรี
ล้อมชีวีสราญปานตำหนัก
มีแต่สิ่งงดงามยามพิงพัก
มายารักดุจม่านพลิ้วปลิวบังตา
ครารักโรยโหยไห้ใจครวญคร่ำ
ความระกำโทรมใจให้ไร้ค่า
นึกถึงคำเคยฟัง...หลั่งน้ำตา
อดีตพาเล่นละครยอกย้อนใจ
เสียงผ่านหู....รู้ความหมายในคำกล่าว
เกิดเรื่องราวต่อความยามขานไข
ปรุงแต่งความรู้สึกขึ้นที่ใจ
แล้วบอกไปว่าวาบหวานซ่านฤดี
ที่เกิดเหตุเลศนัยไปทุกสิ่ง
ก็เพราะใจไม่รู้จริงในเสียงสี
ยึดติดรูปและเสียงที่มากมี
ชอบไม่ชอบ...เพราะใจนี้ตัดสินความ
โลกจึงจมด้วยทุกข์ปลุกไม่ตื่น
เพราะไม่ฝืนฝึกใจใฝ่คำถาม
รูปและเสียงผ่านมาเพียงชั่วยาม
แต่ใจกลับติดตามยึดติดตน
17 สิงหาคม 2547 09:51 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อกำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์
ประเสริฐสุดเกินสัตว์ในสงสาร
มีบุญมากยากสัตว์ใดมาเปรียบปราน
เทพประทานทุกสิ่งให้เรามา
เรามาพร้อมกายใจเหมือนใครอื่น
เรายังตื่นมองโลกไม่กังขา
ทุกสิ่งอย่างเรารู้เห็นตลอดมา
ต้องรับว่าเขาก็เป็นเช่นกับเรา
ทุกคนพบความแปรเปลี่ยนในชีวิต
ทุกคนคิดหาทางแก้ปัญหา
ทุกคนดิ้นต่อสู้เพื่อชีวา
เพียงแต่ว่าบ้างประสบพบทางดี
แล้วใยเราต้องมาท้อแท้จิต
ใยต้องคิดติดลบจนหมองศรี
ใยต้องเศร้าเหงาใจให้ราคี
ใยต้องหนีความจริงสิ่งต้องเจอ
รีบลุกขึ้นค้นหาชีวิตใหม่
เตรียมจิตใจไว้สู่อย่ามัวเผลอ
ให้เข้าใจความจริงอย่าละเมอ
สิ่งที่เจอมีทางแก้แน่นอนจริง
17 สิงหาคม 2547 09:43 น.
พี่ดอกแก้ว
รัตติกาลม่านฟ้าพาใจผ่อง
เห็นแสงทองส่องประกายในสายฝัน
สีเหลื่อมพรายลวดลายสายสัมพันธ์
ให้บากบั่นก้าวไปในมรรคา
อาจเหนื่อยท้อรอร้าวคราวพบเข็ญ
ก็ดุจเป็นบททดสอบตอบปัญหา
ว่ากล้าแกร่งเท่าใดในชีวา
มีเป้าหมายหรือว่าเลิกล้มไป
ไม่มีใครไม่เคยล้มจมรอยก้าว
เพียงแต่ผู้ปวดร้าว..ไม่ก้าวใหม่
หากยังมีผู้ที่ก้าวต่อไป
ได้พบกับหลักชัยที่งดงาม
ดุจราตรีมีความยากลำบาก
และทุกข์ยากหนาวเหน็บเจ็บรอยหนาม
และทิวาคราสุขสนุกยาม
คือฉากงามของชีวีที่มีค่า
17 สิงหาคม 2547 09:31 น.
พี่ดอกแก้ว
ตะวันลาฟ้าหมองครองความหม่น
ผ่านเวลามาจนใกล้พลบค่ำ
กายที่แกร่งเริ่มอ่อนแรงแฝงความช้ำ
ใจที่ตรำตรากการงานถึงกาลโรย
มองลำแสงสุดท้ายที่ปลายฟ้า
เอ่ยคำลากับดวงใจที่แห้งโหย
อย่าสิ้นแรงพร้อมตะวันที่ร่วงโรย
เจ้าจงโปรยรัศมีที่งดงาม
ยังมีผู้มืดมิดไร้ทิศหลง
และบุกฝ่าป่าดงกลางพงหนาม
ในคืนค่ำราตรีที่คล้อยยาม
รอรับความช่วยหลือเกื้อชีวี
อย่าเสียดายมาลีที่กลีบท้อ
และพันห่อเกสรซ่อนลายสี
จงไปดอมบุปผาราชาวดี
ส่งกลิ่นหอมย้อมเสรีราตรีกาล
ตะวันเร้นเช่นหลบหน้าอย่าท้อทอด
จงโอบกอดบุหลันไว้ด้วยใจหาญ
ทุกนาทีมีค่าเอนกการณ์
ใช่ทุกสิ่งจะอวสานต์เพระตะวัน
จะขืนดวงจันทราอย่าปรากฏ
จะรั้งรถทินกรอย่าคลอนฝัน
ไม่อาจรั้งหรือขืนได้ดุจเดียวกัน
ต่างเส้นทาง..ต่างความฝัน...ถึงวันลา