27 สิงหาคม 2547 21:30 น.
พี่ดอกแก้ว
แรกหายใจใช้ชีวิตไม่คิดมาก
เติบโตจากมือผู้อื่นเขายื่นให้
มีพ่อแม่พี่น้องประคองใจ
เมื่อนานไปยืนได้เองไม่เกรงคน
แต่กลับเป็นชีวิตที่คิดมาก
การก้าวเดินยิ่งลำบากและสับสน
สร้างเงื่อนไขจอมปลอมน้อมสู่ตน
สร้างชีวิตอยู่บนความเสี่ยงภัย
ชอบทรัพย์สินกลิ่นสีมียศเสริญ
รุ่งเจริญอนาคตอันสดใส
กอบโกยความต้องการลงฐานใจ
ตอกเสาเข็มความคว้าไขว่ไม่เว้นวัน
ข่าวปรากฏหมดชีวิต..เพราะคิดน้อย
อีกใจลอยอุบัติเหตุ..เลศอาสัญ
ทั้งทวงหนี้ทวงถามตามฆ่าฟัน
มีทุกวัน..ไม่ใส่ใจ..เพราะไกลตน
หากวันนี้มีชีวิตที่คิดถูก
เพียรฝังปลูกกุศลกรรมนำบุญผล
รู้จักพอ..รู้จักใช้ให้เหมาะตน
รู้จักหนทางพักรักษ์ชีวี
ชีวิตหนึ่งจะถึงสุขสมควร
หากถี่ถ้วนในธรรมนำสุขศรี
เพียรละความต้องการจากฤดี
ก็จักมีชีวิตใหม่ไร้รอยมาร
27 สิงหาคม 2547 05:51 น.
พี่ดอกแก้ว
ที่รายทางข้างลาดบาทวิถี
หลายหลากสีไม้งามตามถนน
ขาวแดงส้มอมชมพูดูน่ายล
ประดับบนกระถางอย่างงามตา
คือเฟื่องฟ้าหน้าร้อนก่อนฝนริน
ดูคล้ายสิ้นชีพพรากจากพฤกษา
ถูกเปลวแดดแผดกรายหลายเพลา
หมดทีท่าชูช่อก่อภิรมย์
ซ้ำเขาให้งดน้ำยามแล้งร้อน
ดั่งตีฆ้อนย้ำแผลเดิมเติมผสม
ยิ่งทุกข์ยากยิ่งแกล้งให้ระทม
คล้ายถูกบีบให้จมทะเลภัย
แล้ววันหนึ่งถึงกาลผ่านอุปสรรค
เขาทายทักด้วยธาราที่เย็นใส
ราดรดรินชุ่มชื่นฟื้นจากไฟ
หล่อเลี้ยงให้ลืมเรื่องเศร้าคราวผ่านมา
ความเข้มแข็งอีกครั้งยังผลงาม
ผลิช่อตามกิ่งพุ่มกลุ่มพฤกษา
เป็นดอกสวยเบิกบานละลานตา
ช่อเฟื่องฟ้าประทับตรึงจนซึ้งใจ
การเคี่ยวกรำทำคนอดทนสร้าง
แรกอาจเจ็บปวดบ้างถึงหวนไห้
หากอดทนเพื่อเพิ่มพลังภายใน
หยุดดิ้นรนคว้าไขว่...ไม่สมวาร
เมื่อภัยร้ายไฟร้อนผ่อนพิษแล้ว
ความผ่องแผ้วจักพบสบสุขศานต์
อย่าเพิ่งด่วนร้อนใจกับเหตุการณ์
วิจารณญาณพร้อมอดทนจะพ้นภัย
26 สิงหาคม 2547 06:17 น.
พี่ดอกแก้ว
ร้อนอากาศกวาดใบพรูสู่ดินแล้ง
กลิ่นความแห้งครอบคลุมสุมผืนป่า
ระอุอ้าวร้าวหินสิ้นธารา
ฤดูพรากชีวาพาผลัดใบ
ไร้ความเขียวเรียวช่อก่อสดชื่น
ความร่มรื่นหายเงาเข้าหลับไหล
อีกหนึ่งหนบนทางที่กว้างไกล
ความหมองไหม้มาเยือนถึงเรือนตน
ลมพัดเกรียวเรียวไผ่ไหวเบียดเสียด
เสียงไผ่เอียดสีไฟไหม้อีกหน
ร้อนอากาศกวาดใบเก่าเข้าสุมชนม์
ร้อนไฟลนเผาทำลายไม่เหลือดี
ไฟภายนอกภายในไหม้ปะทุ
เพลิงโชนคุกายใจไร้ราศรี
มีเพียงซากที่เหลือจากอัคคี
ยืนต้นนี้ตายพรายคล้ายร่างมาร
ผ่านเวลารักษาดุลจนคุ้นเคย
คำเฉลยมาพร้อมฝนหล่นละหาร
ชุบเมล็ดใต้ต้นพ้นกันดาร
ให้แตกพานผลิใบใหม่เพิ่มพูน
ดังชีพนี้ที่เผชิญเนินทุกข์ยาก
อาจฉุดคร่าให้ลำบากแทบสิ้นสูญ
แต่ยังมีความหวังใหม่ให้ค้ำคูณ
เมล็ดพันธุ์สมบูรณ์อยู่ที่ใจ
ให้สายลมแห่งเป้าหมายมาคลายร้อน
สโมสรด้วยร่มมิตรชิดเคียงใกล้
สรงสนานธารความหวังตั้งฤทัย
ดำเนินไปด้วยความกล้าศรัทธากรรม
25 สิงหาคม 2547 17:45 น.
พี่ดอกแก้ว
ก้าวที่ผ่าน ยิ่งนาน ยิ่งเมื่อยล้า
แสงแดดกล้า แผดเผา เข้าขุมขน
เสียงของพ่อ ยังก้อง ในกมล
อยู่ที่ตน หาใช่ ใครทำลาย
ความเจ็บช้ำ ลวงหลอก และกลอกกลิ้ง
หาใช่สิ่ง สำคัญ ควรมั่นหมาย
ใจของตน นั่นแหละ ไม่สบาย
จึงแพ้พ่าย คิดไม่ทัน ตันปัญญา
ไม่มีใคร ทำร้าย ใจใครได้
อย่ากล่าวโทษ ผู้ใด สร้างปัญหา
ดูตนเอง และพิเคราะห็์ ให้เหมาะตา
เป็นเวรกรรม ทำมา พาถึงตัว
บางครั้งคำ พูดที่ มีความลวง
หาใช่หมาย ทำบ่วง แกล้งปั่นหัว
เพราะเขาอาจ เกรงใจ และเกรงกลัว
หรือเขาอาจ หวังดีทั่ว กลัวเกรงใจ
เหมือนกับพ่อ ล่อหลอก บอกลูกรัก
อย่าดื้อนัก เดี๋ยวคนบ้า จะหมั่นไส้
อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตุ๊กแก กินตับไต
อย่าออกไป เที่ยวเล่น ผีเห็นตัว
คำบางคำ เปี่ยมไซร้ น้ำใจจริง
อาจผิดพลาด บางสิ่ง อย่าหนักหัว
มองให้ถึง เจตนา อย่าเมามัว
ตัดดีชั่ว แค่คำพูด พิสูจน์คน
คำบางคำ พูดพล่อย ด้อยสติ
และดำริ แต่อธรรม ไม่นำผล
จงพินิจ พิจารณา ในคำคน
เพ้อเจ้อหรือ เปี่ยมล้น ด้วยน้ำใจ
จะหนีไป แห่งใด ก็ใจเจ้า
สุขและทุกข์ ยังเร่งเร้า ตามไปได้
เพราะรู้สึก นั้นเกิดขึ้น ที่จิตใจ
อย่าผลักไส เพราะโทโส และโกรธา
ไม่มีใคร รังแกใคร ให้เจ็บจิต
เจ้าจงจำ และขบคิด ให้ดีหนา
เมื่อจะจาก พ่อไป อยู่ไกลตา
จงรักษา ไมตรีจิต ในมิตรดี
อย่าใจเบา คลุกเคล้า แต่คำหวาน
เพราะยาพิษ เคลือบน้ำตาล มีมากสี
อย่าขมใจ ผลักไส คำพูดดี
แม้จะมี ไม่น่าฟัง จงตั้งใจ
ฝึกหัดตน ให้หลุดพ้น จากความโกรธ
ความมัวเมา เฉาโฉด และเหลวไหล
กตัญญู รู้ค่า ในน้ำใจ
ของผู้ให้ ทุกๆคน บนเส้นทาง
23 สิงหาคม 2547 23:52 น.
พี่ดอกแก้ว
วันที่เธอสุขกายสบายจิต
ฉันคือมิตรที่อยู่ไกลไม่เห็นหน้า
คอยฟังข่าวความสุขเธอเรื่อยมา
ยินดีกับชีวาที่เปรมปรีดิ์
วันใดที่เมฆหม่นบนท้องฟ้า
ความสุขที่มีมานั้นหลีกหนี
อย่ายอมแพ้แก่ฟ้านะคนดี
แสงต้องมีส่องฉายได้สักวัน
ฉันส่งใจมาให้พร้อมสายลม
ยามขื่นขมหมองหมางอย่าห่างฉัน
ฉันจะปัดเมฆหมอกและม่านควัน
ให้ฟ้านั้นแจ่มแสงแห่งทิวา
หากวันที่มีน้ำตาจนพร่าเลือน
ยังมีเพื่อนคนนี้ที่ห่วงหา
พร้อมจะกลับมาเคียงทุกเวลา
ซับน้ำตาปลอบใจให้เหมือนเดิม