14 กันยายน 2550 20:55 น.

เวลาหลังถ้วยกาแฟ

พีรเดช นวลสาย

ฝนข้างนอกยังตกลงมาเป็นสายไหลอาบบนบานกระจกด้านหน้าร้านกาแฟ  คงอีกพักใหญ่กว่าฝนจะหยุด  เมฆสีดำทะมึนยังปักหลักอยู่บนฟ้าฟากตะวันตก ฉันนึกในใจอยากให้ฟ้าเปียกอย่างนี้ไปตลอดทั้งวัน  หรือจะชั่วกัป ชั่วกัลป์เลยก็ยังได้ ฝนไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฉัน ฉันเปียกปอนมาหลายฤดูกาลจนมาถึงวันนี้ ร้านกาแฟก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เหมือนกัน ฉันนั่งมาแล้วไม่รู้กี่ร้าน ดื่มกาแฟทั้งร้อนทั้งเย็นนับไม่ถ้วนถ้วย  แต่สายฝนโปรยปรายกับกลิ่นหอมกรุ่นในร้านกาแฟเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจนยากที่ใครจะอยากให้เวลาแห่งความสุขเล็กน้อยนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว
      ฉันว่าง...ใช่ ว่างซะจนนั่งนับนิ้วและตั้งคำถามกับตัวเองเล่นๆ ว่าจะมีเวลากี่นาทีที่ถูกใช้จ่ายไปหลังถ้วยกาแฟแต่ละถ้วย แน่นอนฉันไม่ได้คำตอบ  มันก็แค่คำถามโง่ๆ ของคนว่างจัดเท่านั้นเอง  ฉันมองถ้วยกาแฟว่างเปล่าตรงหน้า   
      - แกคงคิดว่าฉันบ้า ฉันพึมพำกับมัน ฉันไม่ได้บ้าหรอกเจ้าถ้วยกาแฟผู้น่าสงสาร ความจริงฉันกำลังรอบางสิ่งบางอย่างอยู่ต่างหาก อย่าเพิ่งรีบร้อนถามนะว่าบางสิ่งบางอย่างที่ว่านั่นมันคืออะไร? เรื่องอะไรฉันจะบอกล่ะ ฉันชอบแกล้งให้ใครต่อใครอยากรู้อยากเห็นอย่างนี้เสมอ  ความอยากรู้อยากเห็นช่วยสร้างความสำคัญให้กับฉัน  ถึงจะภูมิใจได้ไม่เต็มที่นัก  แต่..เถอะน่า ไม่มีคนอย่างฉันให้ใครได้อยากรู้อยากเห็นเยอะนักหรอก แล้วอีกอย่าง ใช่ว่าเราจะได้พบกันบ่อยๆ ซะเมื่อไหร่  ฉันอาจจะแวะมาที่ร้านนี้อีกทีในเดือนหน้า บางทีอาจจะปีหน้า โชคร้ายหน่อยฉันอาจจะไม่เยี่ยมหน้ามาที่นี่อีกเลยก็ได้  ถ้าฉันบังเอิญไปเจอร้านใหม่ที่ถูกใจกว่า  คนเราไม่จำเป็นต้องนั่งร้านกาแฟร้านเดียวไปตลอดนี่ ต่อให้ฉันแวะมาในคราวหน้าก็ใช่ว่าเราจะได้เจอกันเสมอไป เขาอาจจะยกถ้วยใหม่มาเสิร์ฟฉันก็ได้  ส่วนแกอาจจะยิ้มหน้าบานต้อนรับสาวๆ อยู่ที่โต๊ะอื่น ไม่ก็ถูกแขวนให้เหงาอยู่หลังร้าน  ทีนี้  เวลาหลังถ้วยกาแฟของเราสำคัญพอที่จะถูกพูดถึงหรือยัง? อย่าเพิ่งซีเรียส ฉันคงไม่ชวนคุยถึงเรื่องอะไรที่ชวนอึดอัดเกินไปหรอก ฉันเป็นพวกชอบเสพความสุข อะไรที่บ่อนทำลายความสุขฉันไม่เอามันมาพูดคุยในร้านกาแฟหรอก คนใจร้ายเท่านั้นแหละที่จะมานั่งปรับทุกข์ในร้านกาแฟ
	เจ้าถ้วยกาแฟอมทุกข์  คงไม่ใช่คำกล่าวหาที่รุนแรงเกินไปหรอกนะ ก็แกเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในสายตาฉัน แกอมทุกข์เหมือนคนอีกหลายร้อยหลายพันคนที่ฉันเคยพบเห็น ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าพวกเขามีเรื่องอะไรใหญ่โตหรือสำคัญมากมายที่จะต้องเอามาแบกไว้บนบ่ากันตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งในร้านกาแฟ  จะว่าไปแล้วฉันก็มีความทุกข์ แต่ฉันไม่เคยแบกมันเข้ามาในร้านกาแฟ  เวลาหลังถ้วยกาแฟของฉันสงวนไว้สำหรับความรู้สึกดีๆ เท่านั้น  จะถือเป็นการผิดมารยาทถ้าแกคิดจะไถ่ถามถึงความทุกข์ของฉัน ทีนี้  แกควรจะยิ้มได้แล้ว
	แกเห็นด้วยไหมถ้าฉันจะแสดงความเห็นว่า ทุกคนควรดื่มกาแฟ  และจะดีมากหากรัฐบาลจะกำหนดให้มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟอย่างเอาจริงเอาจัง  มีการกำหนดเวลาดื่มที่แน่นอน  เราจะได้ใช้จ่ายเวลาหลังถ้วยกาแฟอย่างมีความสุขร่วมกัน  เพราะฉันรู้สึกว่าเรากำลังใช้เวลากันอย่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน  ต่างคนต่างใช้โดยไม่คำนึงถึงเวลาที่เราจะมีความสุขร่วมกันเลยแม้แต่น้อย ฉันกลัวว่าอีกไม่นานเราคงจะหลงลืมเวลาหลังถ้วยกาแฟกันหมด  หรือแกมีความเห็นเป็นอย่างอื่น?
	เอาล่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนที่แกอุตส่าห์ทนฟังฉันบ่นมาพักหนึ่งแล้ว จะบอกให้ก็ได้ว่าฉันกำลังรออะไรอยู่ ..ฉันมีนัด เรียกว่านัดสำคัญก็ได้  เพราะคนที่ฉันนัดเจอนั้นเป็นคนสำคัญสำหรับฉัน เวลาตอนนี้ อืม...17.50 น. เลยเวลานัดมา 20 นาทีพอดิบพอดี แต่ก็ไม่น่าแปลกอะไรหรอก ฝนกำลังตกนี่  ฝนหยุด ฉันว่าเค้าคงจะมาถึงเองล่ะ ตอนนี้ก็แค่รอ อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายใจอะไร ดีซะอีก จะได้ยืดเวลาหลังถ้วยกาแฟออกไปนานๆ 
ความจริง  ฉันดื่มกาแฟมาแล้วหลายร้อยถ้วย แต่แกเป็นถ้วยกาแฟใบแรกที่ฉันคุยด้วย ไม่ใช่ว่าฉันหยิ่งหรอกนะ แต่ใครบ้างล่ะจะเที่ยวนั่งคุยกับถ้วยกาแฟไปทั่ว  ถ้าแกเป็นตู้โทรศัพท์ก็ว่าไปอย่าง จะว่าฉันถูกชะตากับแกก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าฉันรู้สึกถึงความพิเศษบางอย่างในตัวแกที่ถ้วยกาแฟอื่นไม่มีก็แล้วกัน     ..ฉันข้ามอะไรไปรึเปล่า?  ไม่หรอกฉันยังไม่ได้เล่าอะไรเลยต่างหาก  ฉันแค่บอกว่าฉันมีนัด  และเป็นนัดสำคัญ เท่านั้น
ฉันนัดกับผู้หญิงคนหนึ่ง  เธอเป็นคนดี เรายังรู้จักกันไม่มากมายหรอก แต่บางสิ่งบางอย่างทำให้ฉันเชื่ออย่างนั้น  นอกจากเป็นคนดีแล้วเธอยังเป็นคนสุดพิเศษ  เธอเป็นศิลปิน เป็นคนที่เข้าใจยากสำหรับใครต่อใคร  แต่เป็นคนเดียวที่เข้าใจฉันมากที่สุด  ฉันจะบอกความลับให้อย่างหนึ่ง  ..เธอให้ความสำคัญกับเวลาหลังถ้วยกาแฟเหมือนอย่างฉัน
แปลกใจล่ะสิ  ไม่บ่อยนักหรอกที่เราจะเจอคนที่ให้ความสำคัญกับเวลาหลังถ้วยกาแฟอย่างจริงจัง  แต่ฉันกล้ารับรองว่าเธอเป็นหนึ่งในนั้น  เธอไม่เคยหอบเอาความทุกข์เข้ามาในร้านกาแฟ  ไม่เคยนั่งพ่นทุกข์ใส่หน้าใครหลังถ้วยกาแฟ  เธอเอ็นดูต่อทุกๆ วินาทีที่กำลังขยับราวกับมันเป็นวินาทีสุดท้ายที่มีให้ใช้จ่าย
      เจ้าถ้วยกาแฟ  ..แกดูดีขึ้นเยอะแล้วนี่  ฉันไม่รู้ว่าเคยมีใครคุยกับแกมาก่อนหรือเปล่า  แต่ฉันยอมรับตามตรงว่าได้คุยกับแกแล้วฉันสนุก ถึงแกจะเอาแต่เงียบ ฉันก็รู้สึกว่าแกกำลังตั้งใจฟังและสนุกกับเรื่องที่ฉันเล่า  จริงไหม?
คนพิเศษของฉัน  มีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น  เธอจะนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ  งานของเธอจึงเป็นงานที่ทำเพื่อคนอื่น  แกคงนึกไม่ถึงว่าจะมีคนที่วิ่งไปห้ามเลือดให้คนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีแผลฉกรรจ์
      “ฉันอยากให้เธอเลิกใช้คำว่า ‘คนอื่น’  เพราะมันเป็นเครื่องมือแยกเขาแยกเราอย่างร้ายกาจ” เธอเคยพูดกับฉันอย่างนี้  ด้วยสีหน้าจริงจังจนฉันไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ อีก “ไหนคนอื่น?  ...มองไปรอบๆ ตัวเธอสิ เธอเห็นอะไร ‘เพื่อนมนุษย์’ ไม่ใช่หรือ แล้วคนไหนล่ะที่เป็นคนอื่น  คนไหนที่แตกต่างจากเธอ  ทุกคนล้วนเหมือนกันกับเธอทั้งนั้น แล้วมีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่ทำเพื่อพวกเขา”
ฉันไม่ค่อยได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นเท่าไหร่หรอก  คนแรกที่ฉันนึกถึงเสมอก็คือตัวเอง  ฉันหิว ฉันง่วง ฉันเหงา ฉันเศร้า  ความคิดฉันไม่เคยเดินออกไปพ้นจากเงาของตัวเอง  ..นี่ ฉันเริ่มซีเรียสรึยัง?

      เธอเป็นคนอย่างนั้น  ฉันอยากให้แกได้รู้จักเธอ  เจ้าถ้วยกาแฟผู้เงียบเชียบ 
ใครก็ตามที่ได้รู้จักคนอย่างเธอ จะรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในสถานีรถไฟเก่าแก่ อากาศในนั้นจะอบอุ่นอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าข้างนอกกำลังเกรี้ยวกราดด้วยพายุฝน  และแน่นอนมันเต็มด้วยรถไฟหลายสิบขบวนที่มีปลายทางแตกต่างกัน  ซึ่งเราไม่มีวันรู้ว่าขบวนไหนจะเดินทางไปสิ้นสุด ณ ที่แห่งใด  ฟังดูเหมือนเป็นความท้าทายที่ทำให้เราพร้อมก้าวเท้าขึ้นไปสักขบวน  แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อได้เดินเข้าไปยังด้านในสุดของสถานีแล้วเราจะไม่อยากออกไปที่ไหนอีกเลย  ปลายทางเหล่านั้นกลายเป็นความท้าทายที่เราไม่อยากรู้อีกต่อไป  
      เบื่อหรือยัง...เจ้าถ้วยกาแฟ?
      อันที่จริงฉันก็อยากให้แกเป็นฝ่ายเล่าให้ฟังบ้างหรอกนะ แต่แกเอาแต่นิ่งเงียบ ฉันก็เลยเหมาเอาว่าแกชอบที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่า ใช่ไหม?  หรือต่อให้แกไม่ชอบจริงๆ ฉันก็ยังรู้สึกผิดน้อยกว่ารบกวนคนอื่น  เพราะแกมีหูแค่ข้างเดียว
      ฉันกำลังมีความสุข ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง  และหนึ่งในหลายๆ อย่างนั้น คือการมีเวลาหลังถ้วยกาแฟยาวนานขึ้น  เทียบกับก่อนนี้ฉันแทบจะไม่มีเวลารอให้กาแฟอุ่นลงเลยด้วยซ้ำ  ทุกๆ วินาทีในชีวิตฉันเหมือนติดปีกให้ฉันต้องวิ่งตาม  ฉันมีชีวิตอย่างนี้ เต็มไปด้วยความเร่งด่วน  ตื่น กิน ทำงาน นอน  ไม่มีเวลาหยุดพักหรือหันมองผู้คนรอบข้าง  จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาในชีวิตฉันทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไป
      อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนที่น่าสนใจจนดึงดูดให้เธอเดินเข้ามาหา  ฉันเหมือนคนผู้ทุกขเวทนาทั่วไปที่เธอพร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วย เธอทำให้ฉันมองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวที่ฉันเคยมองข้าม ที่สำคัญเธอทำให้ฉันมองเห็นตัวเอง และรู้จักตัวเองมากขึ้น
      ตามทันไหม๊...เจ้าถ้วยกาแฟ?
      ตั้งแต่รู้จักเธอ ฉันยัง ตื่น กิน ทำงาน นอน ตามเดิม  แต่ทำมันอย่างมีความหมายมากขึ้น ตื่นอย่างมีความหมาย กินอย่างมีความหมาย ...ฉันทำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้มีความหมาย  แม้แต่เวลาว่างที่เริ่มมีมากขึ้นฉันก็ใช้จ่ายมันไปอย่างมีความหมาย  และนั่นแหละที่ทำให้ฉันมีความสุข
      ฉันเชื่อว่า  ไม่ว่าใครต่างก็อยากมีเวลาหลังถ้วยกาแฟนานขึ้น  แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วมันจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น  ทุกคนต่างเร่งรีบ  รีบดื่มและรีบผละจากไป  พวกเขาเย้ยหยันการนั่งหลังถ้วยกาแฟว่าเป็นความสูญเปล่า  ฉันสงสารพวกเขาเหลือเกิน  แกก็เห็นด้วยใช่ไหม เจ้าถ้วยกาแฟ?

      ............................................

      ...ฝนคงไม่หยุดง่ายๆ  นั่นคงเป็นเหตุผลที่เธอยังไม่ปรากฏตัว  ฉันกระวนกระวายไหม?  ไม่หรอก  ฉันบอกแล้วไงว่ามีเวลาว่างเหลือเฟือ  และยินดีที่จะจ่ายเพื่อแลกกับความสุขหลังถ้วยกาแฟ  ไม่ว่าเธอจะมาหรือไม่หลังฝนหยุดก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเป็นกังวล  ในเมื่อฉันรับรู้อยู่แล้วว่าเธอมีตัวตน...อยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
      ว่าแต่  แกจะว่าอะไรไหม  ถ้าฉันจะสั่งกาแฟอีกสักถ้วย?				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพีรเดช นวลสาย
Lovings  พีรเดช นวลสาย เลิฟ 0 คน
Lovers  0 คน เลิฟพีรเดช นวลสาย
Lovings  พีรเดช นวลสาย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพีรเดช นวลสาย
Lovings  พีรเดช นวลสาย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพีรเดช นวลสาย