31 พฤษภาคม 2552 23:26 น.
พิมญดา
ดอกไม้ไหว..ยามแรกมิแตกต่าง
รักนำทางหวานค่าน่าถนอม
แม้นว่า.นกเป็นไม้ .ยังยินยอม
ทุกหญ้าหย่อม..ระรื่นจิตมิผิดใด
ดอกไม้ไหว.หวามวาบราบหน้ากอง
เลยทำนองหวานลม.ขมโลมไล้
เหม็นกลิ่นรัก..ยากนักจักเข้าใจ
พูดคำใด.ใยผิด..นิดก็ติง
ดอกไม้ไหว.ไร้กลิ่นก็ผินหน้า
หาคุณค่าไม่มีขยี้ทิ้ง
โน้มกิ่งใหม่ดอกใสชื่นใจจริง
แค่แอบอิงตีจากสำรากคาย
ช่าง!น่าขำเจ้าดวงดอกไม้
เอะอะ!ก็ร่ำไห้ เป็นเส้นสาย
ถูกเขาดมแล้วทิ้ง..หล่นกระจาย
ร้องแทบตาย..ไร้ค่า.หาใครมอง
เห็นไหม.เส้นสายลายรุ้งสวย
อย่าทำป่วยหัวใจให้เศร้าหมอง
ดูสิ!แสงขอบฟ้าสาดสีทอง
ยังเรืองรอง..เจ้าดวงดอกไม้งาม.
........
29 พฤษภาคม 2552 13:34 น.
พิมญดา
ย่างเข้าฝนทนหนาวสาวไหวหวั่น
นอนมองจันทร์ลาลับกับเมฆฝน
ฟ้าสีหม่นคนคอยรักปักกมล
จะกี่ฝนกี่หนาว..เฝ้าวิวาห์
ก่อนเหมันต์จะเยือนเตือนใจพี่
จะให้รออีกกี่ปีเล่าพี่จ๋า
จะมาขอให้เร็วรี่อย่าลีลา
หนาวครั้งหน้าพี่ไม่มาน้องไม่รอ
นั่งเป็นแม่สายบัวแต่งตัวเก้อ
อายนะเออเพื่อนหยอกบอกรีบขอ
เรื่องสินสอดแม่น้องใช่รั้งรอ
เงินไม่พอใช่เรื่องใหญ่วัดใจเลย
แม่อยากอุ้มหลานน้อยคอยฟูมฟัก
เลยต้องหักใจน้องให้เอื้อนเอ่ย
น้องเป็นหญิงน่าจะรู้ยังไม่เคย
อายจังเลยพี่จ๋าอย่าว่ากัน
ในบ้านกลอนลือหนาหูรู้หรือเปล่า
บอกว่าสาวพิมญดานั่งโศกศัลย์
ด้วยว่าที่เจ้าบ่าวหายเงียบพลัน
เสียงโจษจันแล้วพี่....อย่ารอรี
28 พฤษภาคม 2552 18:03 น.
พิมญดา
รักของน้องปองชีวันมั่นเสมอ
ขออย่าเผลอใจน้อยคอยกล่าวหา
น้องรักพี่ล้นใจในอุรา
ขอสัญญารักเดียวมิเกี่ยวใคร
นอกจากพี่ชายใดไม่แลเหลียว
กอดแขนเกี่ยวพี่คนเดียวรู้บ้างไหม
นอกจากพี่ไม่เคยคิดสานเยื่อใย
เก็บรักไว้เป็นทุนหนุนรักเรา
พี่เงินน้อยน้องจะคอยเก็บรักษา
แค่เงินตราของนอกกายอย่าคิดเหมา
เรามีน้อยใช้น้อยค่อยแบ่งเบา
สร้างวิมานสองเราเฝ้าผูกพัน
จะปลูกผักพอเพียงเลี้ยงชีพอยู่
จะเลี้ยงหมูเลี้ยงปลาบ้านนาฉัน
จะเก็บเกี่ยวรวงข้าวขายร่วมกัน
ยามเย็นย่ำตะวันสาดสีทอง
เด็กดอกหญ้ามาฝากจากดงดอย
ขอพี่คอยฝนเคลื่อนเดือนสาดส่อง
น้องอยู่เหนือพี่อยู่ใต้แสงเรืองรอง
ระฆังทองลั่นวิวาห์..คราเหมันต์
27 พฤษภาคม 2552 14:11 น.
พิมญดา
คำหลายคำนำเราเข้าหาสุข
คำที่ปลุกจิตใจให้นอบน้อม
คำที่ทำให้เราต้องรอมซอม
คำที่หอมหวานนักยามทักทาย
ยามที่เรามีมิตรจิตเกื้อกูล
ต้องคอยตอบ"ขอบคุณ"อย่าห่างหาย
ปากเป็นเอกเลขเป็นโทอย่าเสียดาย
ดีมากมายพูดเอาไว้ใช้ทุกวัน
ยามที่เจอผัสสะคละแปรปรวน
ยอมทิ้งทวนความโกรธอย่าห้ำหั่น
ลองพูดว่า"ไม่เป็นไร"อภัยกัน
คำสร้างสรรค์หลอมรวมมิตรจิตดีงาม
ปิยมิตรมมากมายหลายระดับ
จงประคับสองมือพนมถาม
"สวัสดี"ไล่ตามอายุความ
ใครเห็นงามสรรเสริญเจริญโชติ
ยามพลั้งเผลอผิด-ถูกตามวาระ
จงชนะใจน้อมยอม"ขอโทษ"
อีกคนร้อนผ่อนเย็นไม่ถือโกรธ
จงลิงโลดชนะตนพ้นตรอมตรม
เมื่อความสุขหอมหวานต่างไขว่คว้า
เมื่อดวงตาเห็นธรรมนำสุขสม
เมื่อชีวิตตกหลุมความระทม
เมื่อสิ้นลมจะแก้ไขก็สายเกิน
สวัสดีค่ะ ..ขอโทษคะ..ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณคะ
แม้บางครั้งคำเหล่านี้
อาจทำให้เราเหมือนเป็นผู้แพ้
..แต่เราไม่ใช่ผู้แพ้..
เราคือผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่
เพราะเราชนะใจตนเองได้
อาจต้องเสียทั้งน้ำตา
และการได้มาด้วยรอยยิ้ม
จงภูมิใจเพราะเราคือบุตรของพระพุทธองค์
สุขเพราะให้ทาน
ดีกว่าพาลให้คนอื่นทุกข์
ชีวิตไม่ใช่สิ่งของที่สนุก
จงปลุกสติ..ให้มีศีล สมาธิ ปัญญา อยู่เสมอ
................
25 พฤษภาคม 2552 18:11 น.
พิมญดา
เมื่อรักแล้วขอให้จงรักเถิด
เมื่อรักเกิดจากใจในความว่าง
เมื่อดอกรักชูช่อระหว่างทาง
เก็บมาวางกลางทรวงห้วงหัวใจ
ยิ้มให้รักเข้ามาเวลาเหงา
โลกสีเทาคลายหมองท้องฟ้าใส
คำว่ารักไร้อายุไม่ว่าใคร
เด็ก-สตรี-ผู้ใหญ่..วัยชรา
ยามเมื่อรักเข้าตาอย่าสับสน
เกิดเป็นคนมีหัวใจเสน่หา
ลงทุนรักเก็บดอกเบี้ยเผื่อเวลา
หนี้แห่งความปรารถนาคุ้มค่าจริง
อย่ารอช้าปล่อยเวลาให้ผันผ่าน
นาฬิกาไขลานผ่านทุกสิ่ง
ชีวิตคนแสนสั้นอย่าประวิง
จงช่วงชิงความรักสลักทรวง
หากเป็นหนี้ความรักกับใครเขา
อย่าคิดแต่จะเอาเฝ้าแหนหวง
ชดใช้เถิดแม้นเกิดดอกรักลวง
เริ่มต้นทวงรักใหม่ใช้หนี้เอย
ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ นึงตลอดเวลา
เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้
และบางครั้ง ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา
โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน
บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว
มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราคิดทั้งหมด
มันคือความฝันของเราเองเพียงคนเดียว
ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่
เลือกที่จะจมกับความฝัน
มากกว่าการได้รับรู้ความจริง
การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเค้า
ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า...
เราอาจเป็นที่ 2
ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4...
และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า...
ก็ขอให้คิดไว้ว่า
ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย
แต่โปรดจำไว้เถอะว่า
หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ
พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า
...ชั้นเหนื่อยเหลือเกินแล้ว
โปรดห้ามใจเถอะ
ก่อนที่ชั้นจะอ่อนล้าไปกว่านี้...
ก็จงชอบต่อไปเถอะ
การรักใครซักคน
ไม่ต้องการความพยายาม
"การตัดใจ"ต่างหาก
ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย
ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า
ความสุขยาม ที่คุณได้สบตาเค้า
กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า
อันไหนมันหนักหนากว่ากัน
อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเค้าสายเกินไป...
อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้...
อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน
แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน
แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย
ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป
แต่ก็ยังได้พบ...
ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา
แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป...
ยิ้มให้กับโชคชะตา
ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน
คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง
คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้ม
ของเค้าไว้คนเดียว
คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง...
คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...
และร้องไห้ได้มากมาย...
คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า
ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...
ให้กลายเป็นวันที่สดใส
เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?
แค่การได้เห็นคนที่เรารัก
ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคน
ที่เค้ารักมากที่สุด
...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก
...อย่างจริงใจ