25 มิถุนายน 2551 15:00 น.
พิมญดา
กอดตัวเองทุกครั้งยามหวนคิด
ถึงความผิดพลาดอดีตขีดใจช้ำ
โดนเล่ห์รักหลอกลวงบ่วงระกำ
จมถลำแผลร้าวลึกผนึกทรวง
อยู่อย่างคนไร้หัวใจไปวันวัน
ไม่มีฝันของเงารักให้ห่วงหวง
ไม่มีแสงเงาราตรีที่เด่นดวง
มองทุกช่วงมืดสนิทปิดฤทัย
เฝ้าแต่รอเมื่อไหร่หนอขอสิ้นเวร
จบเรื่องรักเหลือเดนอย่าหวั่นไหว
หรือต้องสิ้นลมจากโลกใบนี้ไป
อยู่อย่างไรให้มีหวังดั่งเคยมี
ฉันเคยยิ้มให้ตะวันยามเช้าตรู่
แต่ตอนนี้มุดรูอยู่กลัวแสงสี
เคยมองโลกสวยงามตามฤดี
แต่ตอนนี้สิ้นแสงสีมีแต่ตรม
กอดตัวเองพอประทังลมหายใจ
กอดเอาไว้บอกกับใจอย่าขื่นขม
รอวันหนึ่งหวังจะฟื้นคืนระทม
ถ้าไม่ล้ม.ดับชีวีพลีรักเอย.. ...
24 มิถุนายน 2551 17:55 น.
พิมญดา
แหงนมองดาวพร่างพราวบนราวฟ้า
ดวงจันทราแจ่มใสไร้หม่นหมอง
ยามพระพายโชยพริ้วแผ่วแว่วทำนอง
เพลงรักล่องลอยไกลใจรำพัน
โอ้ดาวเอ๋ย ช่วยเฉลยเอ่ยคำไข
ว่าคนไกลที่คอยรอต่อความฝัน
บอกด้วยว่าข้าคิดถึงเขาเหมือนกัน
ทุกคืนวันที่ปลายฟ้าข้ายังคอย
ดอกราตรีหอมหวลชวนคิดถึง
รักตราตรึงไม่มีลดเลยสักน้อย
เหม่อมองฟ้าเจ้าดวงแขแลตาปรอย
บอกคิดถึงเขาบ่อยบ่อยอย่าน้อยใจ
คืนราตรีประดับดาวสกาวพร่าง
ใจนวลนางเหงานักจักหวั่นไหว
เกรงจะลาลับร้างคราห่างไกล
ส่งเยื่อใยข้ามขอบฟ้าดารานำ
ดอกราตรีหอมแซมแก้มนวลน้อง
คอยประคองสองปรางมิให้ช้ำ
ค่ำคืนนี้ใจสาวร้าวระกำ
ส่งน้ำคำมาอ้อน...เมื่อค่อนคืน.......*-*
22 มิถุนายน 2551 20:03 น.
พิมญดา
เคยขีดคำ ว่ารัก จากใจฉัน
ปิดนานวัน แผลระบมจนกลัดหนอง
รักผ่านมา ทำให้น้อง น้ำตานอง
คอยประคอง ใจเก็บมิด ไม่คิดเชย
เพราะอดีตมันปวดร้าวเศร้าใจสุด
ฉันจึงหยุดปิดใจไว้ไม่อยากเผย
กลัวว่ารักมันออกมาผลอย่างเคย
ขีดหยุดเลยขังเอาไว้ใจร้าวราน
ขีดเส้นกั้นเอาไว้ใยเลือนลาง
ระหว่างทางกาลเวลาเธอมาสาน
คอยเกื้อหนุนกำลังใจให้นงคราญ
ลบริ้วรอยร้าวฉานจางจากใจ
เพราะเธอคือแสงสว่างในใจฉัน
นั่งนับวันคอยให้ฉันอย่าหวั่นไหว
โอบไออุ่นอุ่นไอรักถักเยื่อใย
นานแค่ไหน รอแผลหาย คลายเศร้าตรม
ฉันร้องไห้เธอช่วยซับรับน้ำตา
บอกฉันว่ามองดูฟ้าอย่าขื่นขม
โลกกว้างใหญ่ยังมีคนทุกข์ระทม
อย่าจ่อมจม กับอดีต กรีดฝังดิน
เป็นเพราะเธอใช่ไหมฉันยิ้มได้
เหลือเงาใจคอยแต่กลบลบถวิท
จะสู้ฟ้าท้าความเหงาให้ชาชิน
ติดปีกบินสู่ฟากฟ้าถ้ามีเธอ......
20 มิถุนายน 2551 22:36 น.
พิมญดา
ครอบครัวหนึ่งเคยพบความอบอุ่น
พ่อการุณย์ลูกรู้รักสมัครสมาน
พ่อเมตตาห่วงใยป้องภัยพาล
เพื่อลูกหลานสุขสมอยู่ร่มเย็น
เมื่อลูกหลานต่างแยกแตกหน่อเชื้อ
ความเอื้อเฝื้อสามัคคีที่เคยเห็น
กลับจืดจางเลยละแฝงประเด็น
สร้างลำเค็ญสุมไฟอยู่ในเรือน ..(พี่กุ้งก้ามกราม)
มีความคิดผิดแผกและแตกต่าง
ด้วยมีทางแห่งฝันอันกล่นเกลื่อน
หลงในรักแห่งตนจนแชเชือน
จึงบิดเบือนคำสอนคลายคลอนแคลน
คำพ่อเคยเอ่ยไว้ให้โอวาท
ดังคำปราชญ์โอบเอื้อดีเหลือแสน
แต่กลับหลงลืมมอบการตอบแทน
ทิ้งแม้แก่นสารหลัก สามัคคี..(คุณนิลวรรณ)
แสนสงสารพ่อหลวงจนจับใจ
ลูกหลานไทยทะเลาะกันน่าบัดสี
ต่างมองข้ามความผิดชอบแลชั่วดี
สิ้นอารีย์ด่างพล้อยด้วยถ้อยคำ
ต่างฮึกเหิมเกินห้ามความรุนแรง
ต่างยื้อแย่งด้วยกระหยิ่มมิอิ่มหนำ
พ่อนั่งมองยังอาจหาญการกระทำ
จงจดจำคำสอนพ่อพอแบ่งเบา..(พิมญดา)
ยิ่งทะเลาะเบาะแว้งพ่อยิ่งช้ำ
จะก่อกรรมทำเวรกันเสียเปล่า
ไฟภายนอกเข้าประชิดติดตัวเรา
ยังไฟในแผดเผาเร่าร้อนรน
มารู้รักสามัคคีกันดีกว่า
ค่อยหันหน้าพูดจากันอีกหน
เราพี่น้องคนไทยไทยทุกคน
ให้พ่อได้คลายกังวลกันเถิดเอย..(คุณรัมณีย์)
20 มิถุนายน 2551 13:58 น.
พิมญดา
ขอบคุณที่ทำให้ใจฉันเจ็บ
ขอบคุณคงหนาวเหน็บไปอีกนาน
ขอบคุณที่เธอใจเหมือนมาร
มาประหารอย่างเลือดเย็นเช่นของตาย
ขอบคุณที่ทำฉันนั้นร้องไห้
ขอบคุณที่ตัดสินใจจางห่างหาย
ขอบคุณทำให้หวังพังทลาย
ขอบคุณชายที่เคยรักและภักดี
ขอบคุณอีกคราครั้งสันดานโผล่
ขอบคุณจะมอบโล่ห์คนใจผี
ขอบคุณที่เผยสันดานผลาญชีวี
ขอบคุณที่หลอกสตรีจนตายใจ
ขอบคุณที่ทิ้งกันตายทั้งเป็น
ขอบคุณทำฉันเห็นคุณเหลวไหล
ขอบคุณที่ออกจากชีวิตไป
แม้ชาตินี้หรือชาติไหนอย่าได้เจอ
ขอบคุณความรู้สึกที่เคยดี
ขอบคุณที่มีไมตรีให้เสมอ
ขอบคุณที่หลอกได้ใจจริงนะเธอ
ขอบคุณที่เสนอเราแยกทาง
ขอบคุณที่ทิ้งฉันนั้นไปก่อน
ขอบคุณสอนฉันรู้จักรักอ้างว้าง
ขอบคุณที่รักเราสองต้องอัปปาง
สิ่งที่ค้างคาหัวใจ..ใยหลอกกัน.