13 มิถุนายน 2551 15:03 น.
พิมญดา
อยากให้รู้ว่าคิดถึงเธอที่สุด
ระยะทางไม่เคยฉุดหรือรั้งไว้
ความคิดถึงคณานับจับหัวใจ
ข้ามขอบฟ้าสุลาลัยส่งให้เธอ
อยากให้รู้แม้เวลายิ่งหมุนผ่าน
รักวันวานยังละมุนอุ่นเสมอ
ถ้อยบรรจงดำรงร้อยรักละเมอ
มอบให้เธอด้วยใจภักด์รักนิรันดร์
คิดถึงเธอทุกนาทีที่ไกลห่าง
สุดปลายทางแห่งรักถักทอฝัน
สื่อเดือนดาวพราวพร่างคิดถึงกัน
ขอเชื่อมั่นมองเงาจันทร์ฉันมั่นคง
เอารักร้อยร้อยเรียงเคียงคู่ฟ้า
พิมญดาร้อยดวงดาวพราวดั่งหงส์
จะบินไปคล้องใจรักถักจำนง
รักยืนยงชั่วดินฟ้าหาเสื่อมคลาย
ยื่นใจมาหาคนดีสักหน่อยไหม
คนที่ใช่ยังรักอยู่มิรู้หาย
คิดถึงมากอยากไปหาแต่ยังอาย
กลัวพี่ชายคิดรวบรัดจัดวิวาห์...
งุงิ..งุงิ..เค้าเขิลลลลล
นิ..
12 มิถุนายน 2551 16:58 น.
พิมญดา
ร้อยดวงใจครูบ้านกลอนสุนทรหวาน
วันไหว้ครูดลบันดาลสุขสมหวัง
ศิษย์พร้อมเพรียงเรียงร้อยร่วมพลัง
แต่อีกฝั่งครูมากมายในบ้านกลอน
คุณครูช่อ อักษราลี พจีสวย
ครูพิมด้วยช่วยอบรมบ่มงานสอน
ครูรพีงานงามทุกบทตอน
คุณครูคอนพูทนคนกวี
ครูน่ารักครูเอจิตรำพัน
ครูนิลวรรณคนงามสะคราญศรี
ครูกันนาเทวีครูคนดี
ครูมินนี่ชอบอ่านงานตามทุกคน
ครูฝากรักฟากฟ้าหน้าสวยใส
ครูไหมไทยชื่อน่ากินอย่าสับสน
ครูวชรการท์ครูดีที่อดทน
ครูหน้ามนครูนางฟ้าสลักพิณ
คุณครูกุ้งก้ามกรามนามเสนาะ
ครูพี่ธิปคนบนเกาะงานมีศิลป์
คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็กเด็กยลยิล
ครูโคลอนผู้ไม่สิ้นถิ่นคนงาม (งามแต้ๆเจ้า)
ครูกันเองคอยอ่านงานตามเรื่องเก่า
ครูฉันทะโสยินเสียงเล่าจึงเฝ้าถาม
ครูผู้ให้ในบ้านกลอนทุกผู้นาม
มาลัยงามมอบให้..วันไหว้ครู.....
11 มิถุนายน 2551 08:46 น.
พิมญดา
เสียงกังวานผ่านผู้คนที่ขวั่กไขว่
ปลุกพลังหัวใจจนเข้มแข็ง
ร้องเพลงเร่ขอทานผ่านการแสดง
มีเรี่ยวแรงจูงมือพ่อคลอใกล้ชิด
ร้องเพลงขอเศษสตางค์ข้างถนน
พ่อทุกข์ทนตาบอดทอดถอนจิต
พ่อจ๋าพ่อคือดวงใจให้ชีวิต
อย่าได้คิดต่ำต้อย น้อยใจ เลย
ลูกมาเร่ขายเสียงเพื่อเศษเงิน
จูงพ่อเดินก้าวต่อไปไม่นิ่งเฉย
ขอเพียงพ่อมีอาหารทานอย่างเคย
ไม่บ่นเอ่ยแม้ทุกข์ยากลำบากกาย
พ่อจงรู้ลูกขออยู่สู้เพื่อพ่อ
ลูกไม่รอสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ลิขิตหมาย
ลมหายใจยังอยู่สู้แค่ตาย
เ ฮือกสุดท้ายแทนคุณพ่อขอเลี้ยงดู
จุฬา คือ เด็กชายที่ขายเสียง
ไม่บ่ายเบี่ยงทิ้งพ่อไว้ให้อดสู
การศึกษาคืออะไรไม่รับรู้
แต่อุ้มชู พ่อตาบอดยอดคนดี....
ภาพของ จุฬา หรือ ฬา เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำผิวคล้ำวัย 14 คนหนึ่ง เดินจูงมือ บุญมี ชายวัยปลายกลางคนที่ตาบอด แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้น ก็สามารถสร้างความประทับใจของคนที่ได้พบเห็นเช่นกัน
หลายคนอาจสงสัยและอยากรู้ว่า ทำไมเด็กหนุ่มอย่างเขาไม่อายบ้างหรือ? ที่มาเดินร้องเพลงขอเงินแบบนี้ แถมยังจูงมือชายตาบอด มองไม่เห็นด้วย จุฬา บอกว่าเขาไม่อาย และเขาก็เต็มใจที่จะจูงมือคนตาบอดที่เป็นพ่อของเขาเดินไปพร้อมๆ กับเขา ... เขาแค่หวังว่าวันหนึ่งจะมีเงินเลี้ยงพ่อได้ และให้พ่อไม่ลำบากแค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
"ผมไม่เคยอายใคร ไม่เคยคิดจะอายเลยเพื่อนๆ ผมก็รู้ว่าผมมาทำอะไรที่นี่ ผมภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือพ่อ"
"ผมอยากเรียน ผมตั้งใจที่จะเรียน กศน. ยังอยากที่จะเรียนอยู่ เเต่ต้องดูเเลพ่อก่อน"
บุญมีถึงกับน้ำตาซึมเมื่อได้ยินในสิ่งที่ลูกชายเอ่ย ก่อนจะกล่าวว่า "พ่อภูมิใจที่เค้าเลี้ยงดูพ่อ พ่ออยากเก็บเงินได้ซักก้อน พ่อจะขายลอตเตอรี่ เค้าจะได้เรียน พ่อรักเค้ามาก เค้าเป็นเหมือนเเสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด มีอะไรหรือจะไปไหนก็ได้เค้าช่วยเหลือตลอด"
"พ่ออยากฝากถึงคนที่มีร่างกายปกติที่ท้อเเท้ใจหมดกำลังใจต่อสู้ ให้สู้ต่อเถอะครับ พ่อพิการพ่อยังสู้เลย โลกนี้ยังน่าอยู่เยอะ หาได้ไม่เคยเหลือก็สู้ ยังมีความสุขที่ได้ต่อสู้ ถ้ายังหาอยู่ อยากกินอะไรก็จะได้กิน ถ้าไม่หาเราก็อด ญาติพี่น้องไปพึ่งพาเค้ามากเค้าก็รำคาญ เราสู้ด้วยตัวเองดีกว่า" นี่เป็นคำพูดทิ้งท้ายเเบบซื่อๆ ของบุญมี
10 มิถุนายน 2551 17:03 น.
พิมญดา
คำว่ารักรักแบบไหนในบ้านกลอน
เอื้ออาทรแบบเพื่อนพี่ดีไหมหนา
ตั้งกระทู้ขอให้ดูสิ่งตามมา
ด้วยภาษาอาจทำลายในไมตรี
คำว่าชอบชอบแบบไหนในความคิด
ต่างลิขิตบทร้อยกรองผุดผ่องศรี
ทั้งอ้างอิงจากสื่อเขียนเพียรมากมี
คิดให้ดีก่อนกระทู้ดูให้งาม
คำว่าเกลียดเกลียดแบบไหนในภาษา
ยังไม่เคยเห็นหน้าตาถ้าถูกถาม
หลายเรื่องราวข่าวฉาวป่าวประนาม
เป็นนิยามคนอ่อนไหวในกลอนกานท์
คำว่าเพื่อนเพื่อนแค่ไหนความผูกพัน
เรียกเธอฉันพี่เพื่อนน้องปองประสาน
บางคนแอบอิจฉาคอยระราน
คนนอกบ้านชานเรือนเบือนสายตา
แต่เราคือคนหนึ่งซึ่งรักบ้าน
สมาชิกยิ้มเบิกบานคอยห่วงหา
ลงกลอนทีก็มีหยอดปลอบอุรา
คลายเหนื่อยล้าเข้าบ้านมาพารื่นรมย์
จึงขอวอนพี่น้องเหล่าสหาย
อย่าได้คล้ายการเมืองเรื่องขื่นขม
อยู่บ้านเรารักกันไว้อย่าจ่อมจม
เก็บเอาคมอักษรไว้ใช้ถูกทาง......