28 มิถุนายน 2550 19:57 น.
พิมญดา
พิมญดาหยิบปากกาน้ำตานอง
ถึงคราวต้องจากลาบ้านเคหา
บ้านที่เคยซบอกอุ่นใจในอุรา
ที่เข้ามาด้วยใจช้ำระกำทรวง
มีน้องพี่บ้านกลอนมาช่วยปลอบ
ความช้ำชอกผ่อนคลายหายเหงา
เอากลอนลงมีเพื่อนปลอบใจเรา
คลายความเศร้ายิ้มได้ใจยินดี
เขียนกรวดน้ำลงหน้ากลอนวจีเศร้า
พิมได้ไล่ความปวดร้าวออกไปสิ้น
ลงขันไปไม่หวนกลับให้จมอาจิณ
ตราบสิ้นลมหายใจไม่หวนคืน
กราบขอบคุณบ้านกลอนที่ให้พัก
น้อยใจนักฝีมือขี้ไก่ไม่เอาไหน
คนตั้งกระทู้รู้สึกได้จากข้างใน
เป็นกูหรือไรที่เขียนกลอนไม่ผ่อนเลย
พี่จ๋าน้องจ๋าพิมญดาขอลาก่อน
กราบวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษา
พี่น้องบ้านกลอนที่พิมรักปักอุรา
ให้สดชื่นทุกข์คณาอย่ามาเยือน
28 มิถุนายน 2550 14:45 น.
พิมญดา
...ฉันทุ่มเท ใจ..กาย หมายปองรัก
เพิ่งประจักษ์ รักเขามาก ยากถ่ายถอน
เขาคือชาย หมายมั่นไว้ ได้กอดนอน
แต่ขั้นตอน ให้ต้องตาม ประเพณี
...เจอคนที่ ถูกใจ คงใช่เขา
เป็นเหมือนเงา อยู่ดูแล แคร์อย่างนี้
จะกินนอน โทรอ้อนออด หยอดวจี
ดีอย่างนี้ อยากให้อยู่ ดูแลเรา
...คิดว่าได้ คนดี มีสัจจะ
มีธรรมมะ แท้จริง ฉันโง่เขลา
ชายใจพระ กับกลิ้งกลอก ลวงหลอกเอา
ให้ฉันเศร้า ทำกันได้ ชายใจมาร
..ก่อนหน้านี้ มดยุงไต่ ไม่ให้ฆ่า
ภาพมายา หลอกจน มืดแปดด้าน
นักบุญที่ ฉันเชื่อใจ กลับประจาน
เป็นซาตาน โหดร้าย ไม่ปราณี.
...ต่อแต่นี้ จะสวดมนต์ ดลใจให้
เธอรับไป บุญกุศล ผลครั้งนี้
อุทิศให้ จงรับไป นะคนดี
จบกันที สิ้นเยื่อใย ไม่ต้องเจอ
...ฉันขอกรวด น้ำให้ ชายเคยรัก
ได้ประจักษ์ ชัดในใจ ไม่อยากเผลอ
แม้ชาติหน้า เป็นจริงได้ ไม่ขอเจอ
คนอย่างเธอ อย่าจ้อง จองล้างกัน..
สาธุ.บุญใด..หรือกุศลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำมา.ขออุทิศส่วนกุศลให้
นาย บ..บ้าใบ้....นามสกุล..จ..หลายใจ....จงหายไปจาก
ชีวิตข้าพเจ้าไม่ว่าชาตินี้..หรือภพหน้า........สาธุ...
?o.O (พิมญดา) O.o?
27 มิถุนายน 2550 20:21 น.
พิมญดา
...ฉันต้องนอน ระทม ตรมหมองไหม้
เจ็บปวดใจ เพราะชายชาญ มาหาญหัก
เขาทิ้งเรา เศร้าโศก วิโยคนัก
นี่หรือรัก หลอกทั้ง.เพ เล่ห์ผู้ชาย
...เอาคำหวาน มาหว่านไว้ มัดใจหญิง
บอกรักจริง ไม่ทิ้งน้อง ให้หมองไหม้
รักน้องนะ รักคนเดียว ยอดดวงใจ
ฉันหลงใน ลมลิ้น คนปลิ้นปลอก
...เธอพร่ำบอก คำหวาน หว่านหลอกหลอน
โทรมาอ้อน เช้าค่ำ จนช้ำชอก
รักมากมาย ใจ..ยากรู้ ดูไม่ออก
จนช้ำชอก ถึงได้ รู้ใจจริง
...ฉันหลงใน น้ำคำ ย้ำออกมา
ดูหน้าตา ไม่น่าใช่ พรานล่าหญิง
หลงรับรัก เขาหมดใจ ไม่ประวิง
มอบทุกสิ่ง พลีกาย ให้เชยชม
...ความสาวสด ที่มอบให้ ด้วยใจรัก
เขารีบตัก พิศวาส จนสุขสม
ไม่นานนัก ชักหน่าย คลายชื่นชม
เขาก็ข่ม เหงรังแก แท้ใจทราม
...ปล่อยฉันนอน แค้นใจ ไห้โศกศัลย์
ใจร้าวรวน ท้องใหญ่จน คนเหยียดหยาม
ไร้คนมา รับผิดชอบ ปลอบใจยาม
ที่ใจช้ำ ร้าวหทัย เธอไม่แล
..นี่น่ะหรือ น้ำใจชาย ที่หมายมั่น
ว่าสักวัน ได้พิงพัก เป็นหลักแน่
พอได้เชย เย้ยถากถาง ช่างรังแก
ทิ้งรอยแผล เป็นบทเรียน ...ราคาแพง...
?o.O (พิมญดา) O.o?
26 มิถุนายน 2550 20:17 น.
พิมญดา
เขากับเธอเดินผ่านฉัน
ใจมันสั่นโหยหาน้ำตาไหล
เธอคือเพื่อนที่ฉันรักเท่าดวงใจ
เธอคือเงาในใจฉันตลอดมา
แต่เธอมีเขาเดินเคียงข้าง
ฉันต้องเดินอ้างว้างอย่างคนเหงา
ความรักของฉันมันบางเบา
แอบรักเขาคนมีคู่รู้แก่ใจ
ขอแค่ได้แอบมองเธออยู่ห่างห่าง
ไม่ขัดขวางความรักของเธอกับเขา
หากรักของฉันทำให้เธอปวดร้าว
ฉันจะก้าวออกไปไม่รีรอ
อย่าห่วงฉันเลยนะคนดี
ฉันคนนี้รู้ดี ควรยืนอยู่จุดไหน
ไม่ก่อกวนให้เธอรำคาญใจ
ขอแค่ได้ มองห่างๆอย่างห่วงๆเท่านั้นพอ
ขอเธอ อย่าหวั่นไหว ใจคนดี
ขอจงมีความสุขกับเขาให้เต็มที่
ส่วนฉันคงทำได้ก็เท่านี้
ก็คนที่ไม่มีค่ากับใครเขา
จะขอก้มหน้ามีรักกับเงา
ที่คอยเฝ้าหลอกหลอนทุกวันคืน
26 มิถุนายน 2550 11:33 น.
พิมญดา
...ค่ำคืนนี้ แหงนมองจันทร์ บนฟากฟ้า
เหงาวิญญา น้ำตาอาบ รดแก้มสาว
จันทร์เจ้าขา ข้าขอโทษ ที่หูเบา
มอบให้เขา กายใจช้ำ จำฝืนทน
...มาวันนี้ รอยเจ็บยัง ไม่จางหาย
เขาเหยียบย่ำ ดวงใจ ไห้หมองหม่น
จันทร์เจ้าขา เขาผลักไส ไปให้พ้น
เจ็บเหลือทน แสนปวดร้าว เศร้าทรวงใน
...อยู่เดียวดาย ใจแทบขาด พลาดสิ่งหวัง
น้ำตาหลั่ง หม่นหมอง ต้องร้องไห้
เจ็บเหลือทน คร่ำครวญ หวลอาลัย
จันทร์เห็นใจ ข้าบ้าง อย่าชังกัน
...ข้าขอมา ปรึกษา คลายความเจ็บ
มันหนาวเหน็บ ใจสลาย มลายฝัน
ไม่มีเขา แสนหดหู่ อยู่วันวัน
ทั้งที่ฉัน ยังหายใจ ตายทั้งเป็น..
??o.O (พิมญาดา) O.o?